ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
รวม เตือนภัย "ปัญหาพระภิกษุ" เอ๊ย ไม่ใช่ ต้องเป็น "พระภิกษุที่มีปัญหา"
sithiphong:
ไม่ต้องให้สึกครับ
จับถอดผ้าเหลืองได้เลย
ปราชิก ต่อให้กล่าวคำสึก หรือ ไม่กล่าวคำสึก
มีค่าเท่ากัน เพราะปราชิก
---------------------------------------------------------------------------------------------
รวบแล้วพระข่มขืนด.ญ.วัย 14 ปี ต่อเนื่อง 3 ปี
-http://news.sanook.com/1815139/-
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนหญิง อายุ 16 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช เข้าร้องขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้ถูกพระภิกษุซึ่งอดีตเคยจำวัดที่วัดคันนาราม ต.นาสาร อ.พระพรหม ข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สาว 16 แฉถูกพระข่มขืน ซ้ำโดนลูกชายพระยิงข่มขู่)
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 มิ.ย.) สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าจับกุมตัว พระกฤษณ อายุ 44 ปี ที่เป็นพระสงฆ์อยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี พรากผู้เยาว์ และร่วมกันมีความผิดตามพรบ.อาวุธปืน พร้อมลูกชายของพระรูปนี้อีก 1 คน ในข้อหาตามฐานความผิด พรบ.อาวุธปืน
โดยหลังจากถูกจับกุม ได้มีชาวบ้านที่อยู่ละแวกสำนักสงฆ์ เดินทางมาที่ สภ.พระพรหม อย่างต่อเนื่องหลายสิบคน โดยแสดงท่าทีกดดันเจ้าหน้าที่ พร้อมระบุว่าห้ามสึกเด็ดขาด ทั้งยังแสดงท่าทีไม่เป็นมิตร ห้ามมีการบันทึกภาพ และพยายามโทรศัพท์ระดมคนมาที่โรงพัก ท่ามกลางความเอือมระอาของเจ้าหน้าที่ ด้าน พระกฤษไม่ยอมลาสิกขาและปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ต่อมา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาพร้อมผู้ปกครอง เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ทำให้ไม่สามารถประกันตัวได้ เจ้าหน้าที่คุมตัวส่งศาลเพื่อขออำนาจฝากขังในช่วงเวลา 10.00 น.ของวันนี้ โดยมีชาวบ้านที่ยังศรัทธา ไปติดตามอยู่ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
ด้าน พ.ต.ท.อธิวุฒิ ไวยกาญจน์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ในส่วนของพระรูปนี้แม้ว่าจะถูกออกหมายจับในข้อหาร้ายแรง แต่ยังคงไม่ยอมสึก โดยมีผู้ที่ศรัทธายังติดตามอยู่ตลอดเวลาหลายคน เจ้าหน้าที่จึงต้องขออำนาจศาลพิจารณาฝากขัง
ขณะที่ น.ส.เอ ผู้เสียหาย พร้อมผู้ปกครอง ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวพระกฤษณ หรือ นายกฤษณ ต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีเหตุที่สำคัญคือการคุกคามข่มขู่จากครอบครัว เครือญาติของพระกฤษณ รวมทั้งการคุกคามข่มขู่จากผู้ที่ติดตามพระกฤษณ ที่มากดดันเจ้าหน้าที่เมื่อคืนที่ผ่านมา
sithiphong:
บุกรวบเจ้าอาวาสวัดดังคากระท่อม พบมั่วสีกา-มีปืนในครอบครอง
-http://hilight.kapook.com/view/123307-
เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังรวบตัวเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.หนองบัวลำภู ลักลอบมั่วสีกาคากระท่อม พร้อมค้นกุฎิยึดปืนของกลาง ก่อนจับสึกและดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบกระท่อมนาท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังรับแจ้งจากสายลับว่ามีเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งหนึ่งใน ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ลักลอบไปหาสีกาตอนกลางคืนอยู่เป็นประจำ
จากการสะกดรอยตาม พบว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ไปรับเจ้าอาวาสจากวัดมายังกระท่อมท้ายหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากวัดประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เคาะประตูและเข้าตรวจสอบข้างในห้องพบ นางฤทัย (นามสมมติ) อายุ 47 ปี พร้อมกับเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า ใช้ผ้าห่มคลุมร่างกาย อยู่กันสองต่อสอง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พาตัวเจ้าอาวาสไปตรวจค้นที่กุฏิ พบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .22 มม. ยี่ห้อสมิทแอนเวสสัน สีบรอนซ์-เงิน จำนวน 1 กระบอก ลูกปืนขนาด .22 มม. จำนวน 30 นัด จึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนจะนำตัวไปให้เจ้าคณะตำบลสึกและส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองบัวลำภู ดำเนินคดี ภายหลังทราบชื่อคือ นายวิวัฒน์ ระฆังทอง อายุ 43 ปี
ทั้งนี้นายวิวัฒน์ สารภาพว่า ตนบวชมา 20 กว่าพรรษาและมาเป็นเจ้าอาวาสที่ จ.หนองบัวลำภู จำวัดอยู่ที่นี่เป็นเวลา 12 ปี แต่เกิดชอบพอกับนางฤทัยมาระยะหนึ่ง โดยนางฤทัยจะเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์มารับตนในเวลากลางคืนไปกระท่อมหลังดังกล่าวประมาณ 6-7 ครั้ง ซึ่งตนยอมรับผิด สำหรับปืนที่พบนั้นเป็นของบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว
ภาพจาก ทวิตเตอร์ สำนักข่าวไทย อสมท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก -http://www.tnamcot.com/content/232513-
sithiphong:
เมียรู้ผัวมีกิ๊กสั่งให้บวช ยังแอบได้เสียคาผ้าเหลืองกว่า 3 ปี
-http://news.sanook.com/1863254/-
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (10 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่ห้องหมายเลข 10 หน้าห้องมีเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิคสีแดง ทะเบียน ฐบ 9460 กรุงเทพมหานคร และรถจยย.ฮอนด้า ซีบีอาร์ สีดำ ทะเบียน 1กฐ 9643 ขอนแก่น จอดอยู่หน้าห้อง ภายในห้องพบพระสงฆ์ 1 รูปและหญิงสาวอีก 2 คน กำลังมั่วสุมเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงยึดอุปกรณ์การเสพ และยาบ้าจำนวน 3 เม็ด นำไปตรวจปัสสาวะ พบว่ามีสีม่วงทั้ง 3 คน
จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุพระฤทธิ์รงค์ หรือ หลวงพ่อแก้ว อายุ 57 ปี พระวัดสว่างโนนงาม บ้านป่าหนองอีเหน ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น ได้ทำการนัดหมาย น.ส.นวพร อายุ 34 ปี และ น.ส.พรวิวาห์ อายุ 23 ปี ให้มาพบที่รีสอร์ท เพื่อทำการเสพยาเสพติด และทำกิจกรรมทางเพศ แต่ถูกจับกุมเสียก่อน เลยยังไม่มีอะไรกัน
จากการสอบสวน พระฤทธิ์รงค์ ให้การว่า ตนเองบวชเป็นพระมาได้ 3 ปี และมีภรรยาแล้ว สาเหตุที่มาบวชเพราะภรรยาจับได้ว่ามีกิ๊กคือ น.ส.นวพร จึงได้ให้บวช เพื่อให้ศาสนาขัดเกลากิเลส แต่ด้วยความคิดถึง น.ส.นวพร จึงได้แอบนัดหมายกันมาตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยนัดกันเสพเมถุนตลอด ซึ่งสามีของ น.ส.นวพร ก็ทราบเรื่องนี้ แต่ก็ยังแอบได้เสียกันเป็นประจำ จนถูกจับได้ในที่สุด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำตัว พระฤทธิ์รงค์ ไปทำการสึกที่วัดบ้านเสียว ต.วังชัย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดี โดยแจ้งข้อหาทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตามกฎหมายต่อไป
sithiphong:
สวดยับ พระขอเงินกลางห้างดัง โดนบอกปัด แช่งกลับขอให้ตาย
-http://hilight.kapook.com/view/126972-
พระขอเงินทำบุญกลางห้างดังแลกพระเครื่อง โดนบอกปัด ด่ากลับ แถมแช่งเผาพริกเผาเกลือขอให้ตาย
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2558 ในโลกโซเชียลกำลังมีการแชร์คลิป ซึ่งโพสต์จากเฟซบุ๊ก อุ๋ย ตองหนึ่ง ซอยตัน โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่พระสงฆ์รูปหนึ่ง เข้าร้านแห่งหนึ่งในอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง พร้อมกับขอเงินทำบุญต่อเจ้าของร้านและกับเอาพระเครื่องมาปล่อย ต่อมาพนักงานร้านบอกว่า ไม่ใช่เจ้าของร้าน จึงให้ไม่ได้ ทำให้พระสงฆ์รูปดังกล่าวไม่พอใจ จึงสาบแช่งเผาพริกเผาเกลือให้ตาย และด่าปัญญาอ่อน
แฉยับ!!! พระขอเงินทำบุญไม่ได้ ถึงกับไล่ชาวบ้านให้ไปตาย
https://www.youtube.com/watch?v=GGz397FwzdU#t=12
-https://www.youtube.com/watch?v=GGz397FwzdU#t=12-
เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ย. 2015
เครดิต เฟซบุ๊ก อุ๋ย ตองหนึ่ง ซอยตัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อุ๋ย ตองหนึ่ง ซอยตัน -https://www.facebook.com/Ouy.chakrit-
sithiphong:
แบบนี้ ไม่ต้องไปกล่าวคำสึก
ไม่มีประโยชน์ เพราะว่า...
สึกอัตโนมัติ อยู่แล้ว
มันพ้นสภาพพระภิกษุ ด้วย "ปาราชิก"
-------------------------------------------------------------------------
รวบ เสี่ยหลวงพี่ เปิดโรงแรมมั่วสีกา ควักตังค์เลี้ยงสาวเป็นหมื่น
-http://hilight.kapook.com/view/128520-
ผ้าเหลืองฉาว ! ตำรวจสุรินทร์จับเจ้าอาวาสเปิดโรงแรมกกสาวอาบอบนวด แฉ มาเที่ยว 2 วัน ใช้เงินไปกว่า 4 หมื่น สุดอึ้ง บวชเรียนมา 18 พรรษาไม่ช่วยอะไร ส่งรองเจ้าคณะจับสึกแล้ว
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 ศูนย์วิทยุศรีไผท สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีพระภิกษุปลอมตัวเป็นฆราวาส เปิดห้องพักโรงแรม ดื่มสุรามั่วสีกา ร.ต.ต. อิสรพงษ์ พรอมตระกูล ร้อยเวร สภ.สุรินทร์ พร้อมตำรวจสายตรวจ จึงรุดเข้าตรวจสอบ
โดยภายในห้อง 208 ที่ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่พบ นายเปลื้อง อายุ 64 ปี อยู่ภายในห้อง พร้อมขวดยาบำรุงร่างกายที่ดื่มไปแล้วจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบสบง จีวร ภายในกระเป๋าภายในห้อง ซึ่ง นายเปลื้อง อ้างว่าเพิ่งสึกจากวัด เมื่อวันออกพรรษาที่ผ่านมา หลังบวชได้ 5 พรรษา จึงเก็บสบง จีวร ไว้เป็นที่ระลึก
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงประสานไปยัง อ.กาบเชิง และได้รับการยืนยันว่า ไม่มีชื่อวัดดังกล่าว จึงพยายามสอบถามต่อนานกว่า 15 นาที ทำให้นายเปลื้องยอมรับสารภาพว่า เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน ต.อาโพน อ.บัวเชด และเป็นเจ้าคณะตำบลอาโพน บวชมาแล้ว 18 พรรษา
โดยเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเปลื้อง ได้แจ้งต่อเจ้าคณะอำเภอบัวเชด ว่า จะเดินทางไปอบรมศีล 5 ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และได้มาจอดรถในซอยโรงเรียนสุรินทร์ศึกษา ก่อนเปลี่ยนชุดเป็นฆราวาส เพื่อเปิดห้องพักโรงแรม ก่อนที่พนักงานหลายคนเกิดข้อสงสัยในพฤติกรรม เพราะไม่ชอบสวมรองเท้า และปกติจะเรียกแทนตัวเองว่า "ป๋า" แต่บางครั้งก็แทนตัวเองว่า "อาตมา" จนพนักงานทุกคนต่างเรียกกันว่า "เสี่ยหลวงพี่" กระทั่งมาถูกจับกุม
ด้านพนักงานของโรงแรมให้การว่า พบนายเปลื้องมาใช้บริการเดือนละ 1 ครั้ง และมักเรียกพนักงานอาบ อบ นวด มาครั้งละ 2 คน พร้อมสั่งอาหารมาเลี้ยงอย่างเต็มที่ บางครั้งชวนสาวเสิร์ฟ 3-4 คนมาร่วมดื่มสุราให้ห้องพักด้วย โดย 2 วันที่ผ่านมาใช้เงินไปถึง 40,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปพบ พระครูอนุวัฒน์ปัญญาภรณ์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุรินทร์ เจ้าอาวาสวัดหนองบัว เพื่อดำเนินการสึกพร้อมทำบันทึกพฤติกรรมปาราชิกขั้นรุนแรง พร้อมประสานไปยัง อำเภอบัวเชด อายัดทรัพย์สินของทางวัดบ้านอาโพน ตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ภาพจาก สปริงนิวส์
ข้อมูลจากสำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.springnews.co.th/local/northeast/249881-
.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version