ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

รวม เตือนภัย "ปัญหาพระภิกษุ" เอ๊ย ไม่ใช่ ต้องเป็น "พระภิกษุที่มีปัญหา"

<< < (9/27) > >>

sithiphong:
พระ 1,000ล้าน สังคมไทยไม่เคยจำ!
-http://news.sanook.com/1196011/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0-1000%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B3/-




จากซ้ายไปขวา  หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก(นายวิรพล สุขผล) ,พระครูใบฎีกานิกร ธรรมวาที(นายนิกร ยศคำจู) ,พระยันตระ อมโรภิกขุ (นายวินัย ละอองสุวรรณ) ,พระภาวนาพุทโธ (นายจำลอง คนซื่อ)



เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศมาได้ระยะหนึ่งแล้วกรณี เณรคำ หรือ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แห่งวัดป่าขันติธรรม ที่ถูกลากเบื้องหลังอันฉาวโฉ่ออกมาตีแผ่จนแทบจะหมดทุกมุม ไม่ต่างจากพระดังในอดีตอีกหลายคนที่สร้างภาพให้ผู้คนศรัทธา แต่เบื้องหลังตักตวงผลประโยชน์จากศรัทธานั้นจนร่ำรวยมหาศาล นอกจากนั้นเกือบทุกรายจะต้องมีเรื่องของผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง

ลองมาย้อนดูว่าพระฉาวชื่อดังก่อน เณรคำ มีใครบ้าง

พระครูใบฎีกานิกร ธรรมวาที (นายนิกร ยศคำจู)
พระนักเทศน์เสียงทองแห่งยุคนั้น มีสำนักปฏิบัติธรรมหลายสิบแห่งทั่วประเทศ แต่ต้องอื้อฉาวไปทั่วประเทศในปีพ.ศ.2533 เมื่อนางอรปวีณา บุตรขุนทอง ออกมาแฉว่ามีความสัมพันธ์ จนมีลูกด้วยกันกับพระนิกร แต่ในตอนนั้นพระชื่อดังตอบโต้ว่ามีผู้อิจฉาในชื่อเสียงของตนใส่ร้าย แต่ในที่สุดด้วยหลักฐานที่แน่นหนาทั้งจดหมายรักที่ส่งถึงกัน ภาพถ่าย ทำให้ศาลสงฆ์ มีมติระบุความผิดพระนิกรว่าเป็น "ปฐมปาราชิก" คือการเสพเมถุนกับอิสตรี ขาดจากความเป็นพระ

พระยันตระ อมโรภิกขุ (นายวินัย ละอองสุวรรณ)
พระยันตระ อมโรภิกขุ (พระวินัย อมโร) อดีตพระดังที่เคยได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์นักปฏิบัติธรรม มีผู้เคารพศรัทธาทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เรื่องราวของพระยันตระก็ไม่ต่างจาก เณรคำ หลังจากบวชได้สักระยะก็เป็นที่รู้จักดีทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย มีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายหลายแห่ง โดยทุกวัดที่สร้างในสำนักเขาจะใช้คำว่า "สุญญตาราม" ประกอบด้วยเสมอ สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของเขาในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น

ด้วยวัตรปฏิบัติรวมถึงคำสอนของเขา ทำให้เป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น จนในปี พ.ศ. 2537 เขาได้ถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ อันเป็นหนึ่งในจตุตถปาราชิกาบัติที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมายตามสื่อต่าง ๆ เป็นข่าวโด่งดังในสมัยนั้น จนในที่สุดเขาได้ถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้เขาพ้นจากความเป็นพระภิกษุ เพราะพิจารณาได้ความว่าเขาต้องอาบัติหนักดังที่ถูกฟ้องร้อง แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่าง ๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น ก่อนที่นายวินัยจะลักลอบทำหนังสือเดินทางปลอมเพื่อหลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำให้นายวินัยสามารถหลบหนีคดีความอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จนถึงปัจจุบัน

พระอิสรมุนี สำนักสงฆ์ป่าละอู จังหวัดเพชรบุรี
พระอิสระมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมวิหารี (วัดร่วมใจพัฒนา-วัดป่าละอู) อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระสงฆ์สายวิปัสสนาที่เป็นที่เคารพนับถือกับนักการเมืองดังหลายคน อดีตคือพระพระนักเทศน์ชื่อดัง แต่จากการสืบสวนของทีมงานรายการถอดรหัส ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวีในขณะนั้น ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พบหลักฐานเป็นจดหมายเขียนถึงสีกาสาว 10 หน้ากระดาษและเทปสนทนาทางโทรศัพท์ ซึ่งพระอิสระมุนีก็ได้สึกจากสมณเพศในทันที ข่าวพระอิสระมุนีนี้ทำให้ไอทีวีได้รับรางวัลสารคดีเชิงข่าวยอดเยี่ยม รางวัล "แสงชัย สุนทรวัฒน์" จากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ประจำพ.ศ.2544

พระภาวนาพุทโธ (นายจำลอง คนซื่อ)
ข่าวของอดีตพระรูปนี้เป็นอีกบันทึกหน้าหนึ่งของสังคมไทย โดยในปี พ.ศ.2538 พระภาวนาพุทโธ พระวิปัสสนาดาวรุุ่ง กลับถูกข้อกล่าวหาว่านข่มขืนกระทำชำเรา เด็กชาวเขาจากจ.แม่ฮ่องสอน และจากจ.เชียงใหม่ ที่อุปการะไว้ โดยมีการแฉว่าพระภาวนาพุทโธมีพฤติกรรมชัวช้าตั้งแต่ปี 2531-2538 แต่เรื่องมาปรากฏเป็นข่าวในพ.ศ.2538 จากพระลูกวัดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติของเด็กหญิงชาวเขานั่นเอง คดีนี้สู้กันถึงศาลฎีกา ซึ่งสุดท้าย ศาลฎีกมีคำพิพากษาวว่ามีความผิดจริง

ทุกกรณีที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงยิ่งทั้งสิ้น มีญาติโยมบริจาคเงินทองให้มากมาย แต่สุดท้ายเบื้องหลังก็ประพฤติตัวชั่วช้าไม่ต่างจากโจรในคราบผ้าเหลือง แต่แม้ว่าจะผ่านมาหลายครั้งหลายคราว สังคมไทยก็ยังไม่จดจำ ยังคงหน้ามืดตามัว หลงศรัทธาโดยไม่ใช้สติ จนสุดท้ายก็ต้องตกเป็นเหยื่อของพระเหล่านี้ รวมถึงกรณีของ เณรคำ ที่กำลังโด่งดังในปัจจุบัน


เรื่องโดย ทีมข่าว Sanook! News

--------------------------------------------------------------



-http://www.oknation.net/blog/buddhacore/2012/04/04/entry-1-
http://www.oknation.net/blog/buddhacore/2012/04/04/entry-1

.

sithiphong:
ฉาวอีก ! เณรตุ๊ดโพสต์เฟซบุ๊ก อยากโดนเปิดซิง
-http://hilight.kapook.com/view/88595-










เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          วงการผ้าเหลืองฉาวอีก เณรตุ๊ดโพสต์เฟซบุ๊ก รำพึงรำพันความรัก พร้อมระบุข้อความ อยากโดนเปิดซิง ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ

          เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์และส่งต่อภาพสุดอื้อฉาวของสามเณรรูปหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะตุ้งติ้งเหมือนเพศที่สาม ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

          โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวใช้ชื่อว่า "ผิดไหม ที่รักอ๊อฟข้างเดียว" ซึ่งได้โพสต์ข้อความรำพึงรำพันและตัดพ้อต่าง ๆ นานาถึงพระที่ชื่อ อ๊อฟ และข้อความที่ไม่เหมาะสมอื่น ๆ เช่น อยากโดนเปิดซิง, วันที่ 25 ก.ค. จะได้เงิน 400,000 ละจะเอาไปไหนดี, เบื่อจังเลยไปไหนก็เงิน ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ที่ไหนดีคิดทางออกก่อน เป็นต้น

           ภายหลังจากที่ชาวเน็ตได้นำภาพดังกล่าวมาแชร์ในโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กจำนวนไม่น้อยตำหนิถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการโดยด่วน

แชร์สนั่นเน็ต! เณรตุ๊ดรำพึงรักอยากถูกเปิดซิง
แชร์สนั่นเน็ต! เณรตุ๊ดรำพึงรักอยากถูกเปิดซิง

แชร์สนั่นเน็ต! เณรตุ๊ดรำพึงรักอยากถูกเปิดซิง
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=PKfbTRTjP5c-

sithiphong:
เสื่อมอีก ! พระสันติภาพ สกุลรักอรุโณทัย อ้างเป็นพระไสยเวท มีรูปหวิวคู่สาว
-http://hilight.kapook.com/view/88655-

















เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย

            พระสันติภาพ สกุลรักอรุโณทัย ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก "รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย" อ้างตัวเองเป็นพระไสยเวท โพสต์รูปเสื่อมมีหญิงสาวซุกไซ้ซอกคอ และรูปถืออาวุธ พร้อมประกาศขายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปลุกเสกเอง โดยยังไม่มีข้อสรุปว่า พระสันติภาพ สกุลรักอรุโณทัย ใช่พระจริงหรือไม่

            วันที่ 16 กรกฎาคม 2556 มีภาพสะเทือนวงการศาสนาโผล่ว่อนเน็ตอีกครั้ง เมื่อมี เฟซบุ๊ก รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย อ้างตัวเป็น พระสันติภาพ สกุลรักอรุโณทัย โดยภาพที่ปรากฎในเฟซบุ๊กเป็นชายวัยรุ่น ลักษณะเหมือนพระ ห่มจีวรสีแดงเลือดหมู และในอัลบั้มภาพมีการโพสต์รูปลักษณะอิงไสยเวท เช่น คาบมีด ถือดาบ พร้อมรอยสักหรือรอยเพนท์เป็นรูปยันต์ ทั้งยังขายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยอ้างว่าเป็นผู้ปลุกเสกเองด้วย



   นอกจากนี้ พระสันติภาพ สกุลรักอรุโณทัย ยังโพสต์ภาพคู่กับหญิงสาวในชุดนักศึกษา ลักษณะถูกซุกไซบริเวณซอกคอด้วย และมีญาติโยมบางส่วนเคยนิมนต์ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พระสันติภาพ สกุลรักอรุโณทัย ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวกดถูกใจเพจไม่เหมาะสม เช่น สมาคมคนขี้เหงาและเปล่าเปลี่ยวและเร่าร้อนแห่งประเทศไทย หรือ สมาคมนิยมสาวมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เป็นต้น และยังมีการแสดงสถานะความสัมพันธ์กับ เฟซบุ๊ก อิ๊ณ๊อง’น๊ามหวาน ลั๊ลลา พร้อมทั้งมีรูปคู่กันปรากฏอยู่ด้วย ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าเฟซบุ๊กดังกล่าว ผู้เล่นเป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่

            อย่างไรก็ตาม มีข้อความบางส่วนที่ถูกโพสต์ใน เฟซบุ๊ก รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย ดังนี้

            "บวชครั้งแรก ที่ไชยสถานวิทยา…ณ เชียงแสน"

            "ออกงานอีกแล้ว…ตะกี้นิ ธรรมไม่ใด้หัดเรียบให้เทศ พ่องมัน !"

            "ไปรับกิจ ที่วัดบ้านกล้วยฝาย และ หนองห้า มาพระบาทนี่ร้อนเป็นบ้าเลย ดีน๊ะที่รถเรามีแอร์ไม่งั้น ซี้แง๋แก๋ !"



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.tnews.co.th/html/news/63332/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1!!%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7!!-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C.html-

.



sithiphong:
ตะลึง! สมีคำ ใช้ฉัตร 3 ชั้นเป็นตราส่วนตัว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    19 กรกฎาคม 2556 17:11 น.
-http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000088879-









สำนักเลขาฯสังฆราช อึ้ง “สมีคำ” ใช้ฉัตร 3 ชั้นเป็นตราส่วนตัว แจง ไม่ใช่ “สมเด็จพระสังฆราช-พระองค์เจ้า” ไม่เหมาะสม ด้าน สำนักพุทธฯเตรียมนำคลิปดอกไม้พระราชทานเข้ามหาเถรฯ 9 สิงหาคมนี้
       
       วันนี้ (19 ก.ค.) พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า สำนักเลขาฯได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างพระแก้วมรกตจำลอง ที่สำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม และอ้างว่า เป็นพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก พบว่าบริเวณผ้าทิพซึ่งพาดอยู่ตรงฐานขององค์พระแก้วมรกตจำลอง ได้ปรากฏตราสัญลักษณ์ประจำตัวของหลวงปู่เณรคำ ประกอบด้วย ฉัตร 3 ชั้น มีตราธรรมจักร รองด้วยฐานดอกบัว ใต้ฐานบัวมีชื่อสลักว่า หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก วัดป่าขันติธรรม เมื่อพิจารณาแล้ว ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทั้งนี้ การใช้ฉัตร 3 ชั้นมาประกอบสัญลักษณ์ ส่วนใหญ่แล้วฉัตรดังกล่าวจะใช้ได้เฉพาะระดับ สมเด็จพระสังฆราช และพระราชวงศ์ระดับพระองค์เจ้า หากสมีคำนำมาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ของตนเอง ถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม สำนักเลขาฯ จะสอบถามไปยัง สำนักราชเลขาธิการ ว่า การแอบอ้างประเภทนี้จะมีโทษหรือความผิดมากน้อยแค่ไหนต่อไป
       
       สำหรับกรณีคลิปดอกไม้พระราชทาน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากการที่ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองประธานคนที่สาม คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ได้พบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับความประพฤติของอดีตหลวงปู่เณรคำ อีกเรื่องคือ คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่อ้างว่าเป็นดอกไม้พระราชทาน ในสมัยที่ยังไม่ถูกปรับอาบัติปาราชิก โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเพื่อนำถวายที่วัดป่าขันติบารมี สาขา 101 บ้านหัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2555 นั้น ขณะนี้พศ.ได้รับข้อมูลและคลิปดังกล่าวมาแล้ว โดยจะตรวจสอบคลิป แล้วจะนำคลิปและข้อมูลรายงานให้กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ได้รับทราบ วันที่ 9 สิงหาคม ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เนื่องจากการประชุม มส.ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ จะต้องเลื่อนออกไป เพราะคณะสงฆ์ติดภารกิจเนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา


sithiphong:
ศาสนาเสื่อมอีกแล้ว ตร.บุกจับสึก 2 พระคู่หู เมาปลิ้นคากุฎิ
-http://world.kapook.com/pin/51e8c74b38217a7752000000-

ตำรวจด่านซ้ายจับสึกสองพระคู่หูเมาคากุฎิ
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=3U576pBkRCg-

ตำรวจด่านซ้ายจับสึกสองพระคู่หูเมาคากุฎิ
ตำรวจด่านซ้ายจับสึกสองพระคู่หูเมาคากุฎิ



คลิป ศาสนาเสื่อมอีกแล้ว ตร.บุกจับสึก 2 พระคู่หู เมาปลิ้นคากุฎิ เฮ้อ.. ดูแล้วอย่างเพลีย พระฉาวทำศาสนาเสื่อม คลิปนี้เป็นนาที ตำรวจด่านซ้าย บุกจับสึก 2 พระคู่หู ดวดเหล้าบนกุฏิซะเมาปลิ้น ตอนตำรวจไปตรวจค้น เจอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียบ ฮา.. มันอาตรงพระแกเมาเนี่ยแหละ เมาซะตำรวจมึนไปด้วยเลย ฮา ลองไปดูกัน


http://world.kapook.com/pin/51e8c74b38217a7752000000

.

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version