ริมระเบียงรับลมโชย > รับสายลมเย็นหน้าระเบียง

ยกย่อง , ชมเชย , ให้กำลังใจ กับผู้ที่ทำดีให้กับสังคม

<< < (3/9) > >>

sithiphong:
เรื่องนี้ไม่ใช่คน แต่เป็นสุนัขครับ


-----------------------------------------------------

สุนัขผลักเด็ก 4 ขวบห่างทางรถ แม้ตัวเองโดนชนปางตาย
-http://hilight.kapook.com/view/91719-






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dogheirs.com , dbv.vn

          เจ้าไซม่อน สุนัขนำทางผู้เป็นฮีโร่ ผลักเจ้านายน้อยออกจากถนน แม้ตัวโดนรถชนเจ็บสาหัส และสิ้นใจในภายหลัง

          เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2556 เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์รายงานถึงเหตุการณ์เศร้าสลดที่สร้างวีรบุรุษสี่ขาขึ้นมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา บนถนนสายบราวน์วูด ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ ขณะที่นายเดฟ ฟุรุคาวะ คุณพ่อซึ่งมองอะไรไม่ค่อยเห็นนัก ได้พาลูกชายวัย 4 ขวบ เดินไปส่งที่โรงเรียน พร้อมกับเจ้าไซม่อน สุนัขนำทางพันธุ์บ็อกเซอร์คู่ใจ แต่จู่ ๆ ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับฝ่าไฟแดงมา และพุ่งใส่นายเดฟ และเจ้าไซม่อนล้มลง

          ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า หลังจากเจ้าไซม่อนถูกรถชนไปแล้ว มันก็ลุกขึ้นมาและผลักเจ้านายน้อยของตนออกไปให้พ้นจากทางที่รถได้พุ่งเข้ามาหา ทั้ง ๆ ที่ตัวของมันเองก็เดินกะเผลกและมีบาดแผลที่ตัว จากนั้นคนแถวนั้นก็ได้อุ้มเด็กชายไปส่งให้กับคุณแม่ที่บ้าน โดยที่ตัวมันเองก็เดินลากขาตามไปด้วย และเมื่อเห็นว่าเจ้านายน้อยของมันปลอดภัยดีแล้ว มันก็ทรุดลงนอนกับพื้น

          อย่างไรก็ดี เดฟที่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในตอนนี้อาการปลอดภัยดีแล้ว ส่วนเจ้าไซม่อนที่บาดเจ็บทั้งภายนอก มีอาการบอบช้ำภายใน และขาหัก ก็ถูกนำตัวส่งแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลสัตว์ทันที แต่น่าเสียดายที่เจ้าวีรบุรุษสี่ขาผู้ภักดีตัวนี้ตายลงระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

          ทั้งนี้ เดฟกล่าวถึงความสูญเสียในครั้งนี้ว่า ไซม่อนเป็นสุนัขนำทางให้กับเขามาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มันเป็นทั้งดวงตาและเป็นเพื่อนคู่หูที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ และมันก็รักลูกชายของเขามาก ๆ ด้วย แม้เขากำลังจะได้รับการจัดหาสุนัขนำทางตัวใหม่มาให้ในไม่นานนี้ แต่ความกล้าหาญของไซม่อนจะถูกจดจำไว้ในจิตใจของเขาตลอดไป ทั้งในฐานะสัตว์เลี้ยงคู่ใจ สหาย และวีรบุรุษของครอบครัว ส่วนผู้ขับรถคันก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้ว และจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป


Simon the guide dog dies after saving boy
คลิป Simon the guide dog dies after saving boy โพสต์โดยคุณ Klink11 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

Simon the guide dog dies after saving boy
-http://www.youtube.com/watch?v=PPtFL_gzGqI-

sithiphong:
อีกเช่นกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องหมา  ที่เลี้ยงลูกเสือ  เป็นสิ่งที่ดีๆครับ

----------------------------------------------------------------


(ภาพน่ารัก) ไปสวนสัตว์หนานชาง ชมแม่หมา เลี้ยงลูกเสือโคร่ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    3 ตุลาคม 2556 17:29 น
-http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000124355-




สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ เพศเมีย ขณะให้นมกับลูกแฝดเสือโคร่ง แทนแม่แท้ๆ ที่พลาดทำลูกตัวเองตายมาก่อน (ภาพไชน่านิวส์)

       โกลบอลไทม์ส - สื่อจีนเผย ภาพสุนัขพันธ์ลาบราดอร์ เพศเมีย เป็นแม่นมให้กับลูกเสือโคร่งฝาแฝด 2 ตัว ในสวนสัตว์ หนานชาง มณฑลเจียงซี หลังแม่เสือของตัวเองเลี้ยงลูกไม่รอด
       
       รายงานข่าว อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์หนานชาง ที่บอกว่า แม่เสือของลูกแฝดคู่นี้ ไม่มีประสบการณ์ในการดูแลลูกอ่อนเกิดใหม่ของตน ก่อนหน้านี้ ลูกครอกแรกของเธอ ก็เสียชีวิตไป 3 ตัว แล้วเช่นกัน ดังนั้น ทางสวนสัตว์จึงตัดสินใจแยกลูกครอกใหม่นี้ ออกมาโดยให้สุนัขลาบราดอร์รับเป็นแม่นมให้แทน โดยหลังจากทดลองให้อยู่ร่วมกับแม่ใหม่ได้สักพักหนึ่ง พบว่าทั้งแม่นม และลูกเลี้ยงเข้ากันได้ดีมาก และรอดชีวิตทั้งสองตัว



sithiphong:
สื่อออสซี่ยกย่อง หนุ่มไทยสวมบทฮีโร่ ปกป้องสาวถูกคนร้ายไล่ฟัน
-http://hilight.kapook.com/view/91936-





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก cztv.com

         ณัฐพัฒน์ พันธ์พานุศักดิ์ หนุ่มไทยฮีโร่ ช่วยนักท่องเที่ยวสาวจากการถูกฟัน หลังจากที่มีคนร้ายไล่ทำร้ายนักท่องเที่ยวหน้าโรงแรมในออสเตรเลีย

         เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 เว็บไซต์เดลิเทเลกราฟ รายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยวัย 29 ปีคนหนึ่ง ได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ หลังจากที่เขาออกโรงปกป้องหญิงสาวคนหนึ่งจากการถูกทำร้ายที่ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ในกรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

         ทั้งนี้ นายณัฐพัฒน์ พันธ์พานุศักดิ์ ชายหนุ่มจากประเทศไทย ได้เอาตัวมาปกป้องเพื่อนนักท่องเที่ยวด้วยกัน ในตอนที่ชายวัย 36 ปีคนหนึ่ง เข้ามาทำร้ายนักท่องเที่ยวด้วยการใช้ของมีคมฟันและทุบตีนักท่องเที่ยว บริเวณด้านหน้าโรงแรม West End backpackers ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จนทำให้นายณัฐพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกมีดฟันบริเวณมือ แขน และลำตัว

         ด้านนายณัฐพัฒน์ เผยว่า ผมค่อนข้างโชคดี เพราะคนร้ายต้องการที่จะฆ่าผม เขาเอามีดมาฟันมือและลำตัวของผม มันเจ็บมาก เขาเหมือนกับคนบ้า ผมเองไม่ได้เห็นเขาชัด ๆ สักเท่าไหร่ แต่รู้ว่าเขามีมีดเล็ก ๆ ที่ซ่อนไว้ตรงหว่างนิ้ว และผม ในฐานะที่เป็นสุภาพบุรุษ ผมก็ต้องช่วยปกป้องหญิงสาวด้วยเช่นกัน

         ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษคนหนึ่ง กล่าวว่า ความกล้าหาญของนายณัฐพัฒน์นั้นได้ช่วยชีวิตหญิงสาววัย 26 ปีคนหนึ่งไว้ เขาเป็นฮีโร่ตัวจริง หากเขาไม่ลงมาช่วย ผู้หญิงคนนั้นอาจตายไปแล้วก็ได้

          นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวรายที่ 3 ที่ถูกทำร้ายนั้น คือ นักท่องเที่ยวผมบลอนด์วัย 19 ปีอีกคนที่พักอยู่ในโรงแรมแห่งนั้น ถูกคนร้ายฟันเข้าที่คอหลายครั้ง ซึ่งทำให้หน่วยกู้ภัย ต้องพาเขาออกจากที่เกิดเหตุ และนำตัวเขาไปส่งโรงพยาบาลในช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. โดยที่ตัวเขามีเลือดออกจำนวนมากและเขาก็เอาผ้าขนหนูซับเลือดเอาไว้

           ส่วนเหยื่อรายที่ 4 นั้น คือชายวัย 19 ปีเช่นกัน เขาถูกฟันแขนเช่นกัน จนทำให้เลือดกระจายไปทั่วล็อบบี้โรงแรมตรงด้านหน้าในจุดที่เขายืนอยู่ นอกจากนี้ ยังมีคราบเลือดเป็นทางยาวหลายเมตรห่างออกมาตรงนอกโรงแรมอีกด้วย

         ด้านนางสาวแอนนามาเรีย นาวา นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้อธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า คนร้ายน่าจะอยู่ในอาการมึนเมาหรือเสพยาเสพติดมา หลังจากนั้นแวบเดียวเขาก็เริ่มไล่ฟันนักท่องเที่ยวในบริเวณนั้น ตนมาถึงที่นี่ก่อนประมาณ 10 นาทีพร้อมเพื่อนชาวอิตาลี และจากนั้นความวุ่นวายก็ตามมา

         ด้านนายโจเซฟ ไอร่า นักท่องเที่ยวชาวเอสโตเนีย เผยว่า เราได้ยินเสียงคนกรีดร้อง แล้วก็มีเลือดนองตามพื้นเต็มไปหมด คนร้ายแทงนักท่องเที่ยวที่อยู่ในโรงแรมแล้วก็เริ่มไปทำร้ายผู้หญิงที่อยู่ข้างนอก ซึ่งเขาเข้าใจว่า ตอนนั้นผู้หญิงกำลังสูบบุหรี่อยู่

         ขณะที่ตำรวจเองได้มาถึงที่เกิดเหตุตอนประมาณ 02.15 น. และจับกุมคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายเป็นฝรั่ง ตัวเล็ก ผมสั้นสีน้ำตาล และใส่เสื้อฟ้าสีเข้ม ตำรวจได้ใส่กุญแจมือคนร้ายเอาไว้ก่อนที่จะนำตัวไปใส่รถตำรวจ ซึ่งเชื่อกันว่า ชายคนนั้นเอาเศษแก้วมาใช้เป็นอาวุธด้วย


-------------------------------------------------


หนุ่มไอร์แลนด์ซึ้ง คนไทยเสี่ยงตายช่วยชีวิต วอนตำรวจช่วยตามหาตัว
-http://hilight.kapook.com/view/91938-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หนุ่มไอร์แลนด์ บุกโรงพักพัทยา วอนตำรวจช่วยตามหาคนช่วยชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ระบุ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ แม้วันนี้หน้าตาจะเสียโฉม

          เมื่อวานนี้ (4 ตุลาคม 2556) ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายโรแนน แบรดลี นักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์ วัย 35 ปี ได้เข้าแจ้งความเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหาคนที่ช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในวันที่ 2 มกราคม 2547 โดยเหตุการณ์ในวันนั้น นายแบรดลี เล่าให้ฟังว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ ชนกับรถจิ๊บ หน้าปากซอย 13/1 บริเวณพัทยาใต้ ส่งผลให้หมดสติอยู่ใต้ท้องรถจิ๊บ ที่ในขณะนั้นกำลังถูกไฟไหม้ อย่างไรก็ดี มีพลเมืองดีชาวไทยได้ช่วยนำร่างตนออกจากรถได้ทันทีทันใด รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด

          พร้อมกันนี้ นายแบรดลี เล่าอีกว่า ผลพวงจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้ตนมีบาดแผลจากการถูกไฟคลอกหลายแห่ง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จำนวน 8 วัน ก่อนที่จะกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดต่อไป นอกจากนี้ยังต้องมีการผ่าตัดศัลยกรรมตามใบหน้าและร่างกายกว่า 12 ครั้ง จนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องผ่าตัดอยู่ ส่วนสาเหตุที่กลับมาประเทศไทยครั้งนี้ ตั้งใจจะมาตอบแทนบุญคุณคนที่ช่วยเหลือตน และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือตน ที่เหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่ แม้ว่าใบหน้าของตนจะอัปลักษณ์ก็ตามที สุดท้าย ตนก็อยากบอกว่า รักคนไทยและรักประเทศไทย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1EZzVOemsxTWc9PQ==&utm_source=KhaosodOnline&utm_medium=KhaosodOnline-

sithiphong:
ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน ตำรวจน้ำดี เก็บกระเป๋าเงินคืนเจ้าของ ชาวเน็ตชื่นชม
-http://hilight.kapook.com/view/91954-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02

          ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน สน.พหลโยธิน ตำรวจน้ำดี เก็บกระเป๋าเงินได้และพยายามติดต่อคืนเจ้าของ บอก วันนี้ผมสบายใจแล้วที่ได้ทำความดี ชาวเน็ตร่วมชื่นชม

          เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2556 มีรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของ ดาบตำรวจอานนท์ หมื่นแสน ตำรวจ สน.พหลโยธิน ซึ่งประจำอยู่ที่ตู้ตำรวจ ภาวนา โดย ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน ได้เก็บกระเป๋าเงินของชายคนหนึ่งได้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จึงเพียรพยายามโทรศัพท์ติดต่อหาเจ้าของกระเป๋าเงินใบนี้ จนกระทั่งสามารถติดต่อพูดคุยกันได้ และเจ้าของได้ไปรับกระเป๋าเงินคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ก็ได้กล่าวว่า "วันนี้ผมสบายใจแล้วที่ได้ทำความดี" สร้างความประทับใจให้ผู้ที่ได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าว และก่อให้เกิดกระแสชื่นชมอย่างล้นหลามจากชาวเน็ต

สำหรับเรื่องราวของ ดต. อานนท์ หมื่นแสน ตำรวจน้ำดีแห่ง สน.พหลโยธิน ซึ่งถูกแชร์ในโลกออนไลน์ มีดังนี้

          "แชร์ครับ นี่แหละจราจรไทย  ดต. อานนท์ หมื่นแสน สน.พหลโยธิน หมายเลข 6651 ตู้ภาวนา

          ผมเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานครับ และมักจะมีปัญหากับตำรวจจราจรเป็นประจำ (เพราะทำผิดกฎบ่อย 555) วันนี้หลังจากกลับจากที่ทำงานย่านสุขุมวิท ใช้เส้นทาง สุขุมวิท รัชดา ลาดพร้าว พอถึงบ้านย่านโชคชัย 4 ประมาณ 18.30 น. เพิ่งจะเปิดประตูเข้าบ้าน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา ผมเห็นเป็นเบอร์แปลกก็เลยยังไม่รับ เพราะเพิ่งจะถึงบ้านและรู้สึกเหนื่อย ๆ ด้วย ก็เลยช่าง ๆ มันเหอะ ปลายสายก็โทรนานมาก จนระบบมันตัดสายไปเอง

          หลังจากเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จ เปิดตู้เย็นกำลังจะเปิดเบียร์จิบเบา ๆ ให้หายเหนื่อย ก็มีโทรศัพท์เบอร์เดิมโทรเข้ามาอีกครั้ง ในใจคิด อะไรมันนักหนาวะ

          วันศุกร์แล้วนะเฟ้ย เลิกงานแล้วด้วย ใครยังจะมาจิกอีกวะ ไม่รับหรอก 555 ยังงัยก็จะโซ้ยเบียร์ให้จบก่อน แต่สังเกตอีกครั้งเห็นปลายสายกดโทรนานมาก ก็เลยเอาวะ รับก็รับ

          "สวัสดีครับ" แบบเสียงเข้ม ๆ ปลายสาย... "สวัสดีครับ คุณ..." (เสียงแก่ ๆ มาเลย) "ผมดาบตำรวจ อานนท์" (เสียงแบบอีสาน ๆ พูดไทยไม่ชัด) "ผมเป็นจราจรจาก สน.พหลโยธิน จะโทรมาแจ้งว่า" ...ในใจคิด เป๊ะเลย ตรงตามที่เคยได้ยินได้ฟังมา เบอร์แปลก รู้จักชื่อ อ้างตัวแบบนี้ สำเนียงแบบนี้ ไอ้พวก แก๊งคอลเซ็นเตอร์แน่ แต่แหม หามุกมาเล่นใหม่ ปลอมตัวเป็นตำรวจจราจรซะด้วย เข้าใจเลือกเวลาโทรอีกต่างหาก เอาสิ ผมก็ลองดูจะมามุกไหน

          "คุณได้ทำกระเป๋าตังหล่นหาย" ...(เสียงอารมณ์แบบพูดรัว ๆ ไม่ค่อยชัด) ความคิดผมสวนขึ้นมาทันที จะบอกใช่ไหมว่า แล้วมีคนเอาบัตรเครดิตกูไปรูด เป็นหนี้ อยู่เท่านั้นเท่านี้ บลา ๆ ผมชักมีอารมณ์แล้วเสียงเข้มไปว่า "แล้วไงครับ" ปลายสาย "ผมจะรอที่ป้อมจราจร ปากซอยลาดพร้าว 41 นะครับ" ด้วยอารมณ์ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับพวกนี้ผมก็เลยได้แต่พูดตอบ "เออเดี๋ยวไป" แบบส่ง ๆ แล้วกดวางทันที

          กำลังจะจิบเบียร์ พลันในใจคิด จราจรอยู่ปากซอยลาดพร้าว 41 นี่มันทางที่กูใช้สัญจรประจำนี่หว่า รีบล้วงกระเป๋าสตางค์ ตรงกระเป๋าหลังกางเกง ยิ้มแล้ว...กระเป๋าตังค์กู อยู่ไหน ยังไม่ทันที่จะอะไร สายเดิมก็โทรเข้ามา...ผมรีบรับทันที "คุณวัชเรศครับ บ้านอยู่ไกลจากป้อมไหมครับ จะมารับเอง หรือจะอย่างไรดีครับ ไม่ต้องสาธยายอะไรมาก ผมบอก คุณตำรวจรอผมสักครู่ เดี๋ยวผมไป

          ณ ป้อมตำรวจ ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นคือ รอยยิ้ม ^^ บนใบหน้าของคุณตำรวจ ผมรีบสวัสดี พร้อมกับแนะนำตัว ผมวัชเรศครับ ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง คุณตำรวจรีบหยิบกระเป๋าตังค์ให้ทันที พร้อมบอกว่า... ยังไงตรวจทรัพย์สินดูก่อนนะครับว่ายังอยู่ครบหรือเปล่า ทั้งเงินเงินสด บัตรเครดิต เอทีเอ็ม บัตรประชาชน เอกสารและทุกอย่างยังอยู่ครบ

          "พอดีผมกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แล้วสังเกตเห็นอะไรดำ ๆ หล่นอยู่ริมถนน" (จำได้ตรงที่ผมติดไฟแดงพอดี) เห็นเป็นกระเป๋าผมก็รีบไปหยิบมาเพราะกลัวจะโดนรถเหยียบ หรือใครจะหยิบไป ตอนแรกก็กังวลว่าจะทำอย่างไร แต่พอเห็นนามบัตรคุณ...(ข้อนี้แหละที่ทำให้ได้กระเป๋าคืนโดยเร็ว) มันตรงกับชื่อบัตรประชาชนก็เลยรีบโทรหา ยิ่งเห็นเป็นคนนครพนมผมยิ่งเข้าใจความรู้สึกเพราะผมก็เป็นคนอีสานเหมือนกัน อยู่ขอนแก่น (มิน่าล่ะ สำเนียงอีสานมาเลย) ผมไม่ได้เลือกปฏิบัติเพราะเห็นว่าเป็นคนอีสานเหมือนนะครับ ผมเป็นคนของประชาชน ก็ปฏิบัติแบบนี้กับทุกคน ตบท้ายด้วยว่า "วันนี้ผมสบายใจแล้วที่ได้ทำความดี"

          คำพูดนี้ มันทำให้ผมถึงกับขอจับมือกับคุณตำรวจและขอถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อที่ผมจะได้แชร์ประสบการณ์ดี ๆ เผื่อแผ่ให้กับเพื่อนในเฟซบุ๊กผม ซึ่งคุณตำรวจเองก็ยินดี ก่อนกลับ ผมแวะเซเว่นแถวนั้น ซื้อขนม น้ำดื่ม เพื่อเป็นน้ำใจให้คุณตำรวจ คุณตำรวจเองก็รับด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับฝากให้ผมดูแลทรัพย์สินให้ดี เพราะครั้งหน้าไม่แน่จะโชคดีแบบนี้หรือเปล่า

          ผมขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านด้วยรอยยิ้มครับ ยังจำคำพูดคำนี้ของคุณตำรวจประโยคที่ว่า "วันนี้ผมสบายใจแล้ว ที่ได้ทำความดี" แม้คุณตำรวจจะบอกว่าผมโชคดีมาก ๆ แต่ผมเองกลับคิดว่ามันไม่ได้เกิดจาดโชคอะไรเลย กระเป๋าตังค์หล่นกลางถนน เงินสดก็มี บัตรเครดิต บัตรเอทีอ็ม ที่สำคัญ เจ้าของไม่ได้รู้ตัวอะไรเลย แต่วันนี้ผมได้ทุกอย่างกลับคืนมาอย่างครบถ้วน สำหรับผมไม่มีคำว่าโชคดีอย่างที่คุณตำรวจพูด แต่นั่นเป็นเพราะผมได้มาเจอตำรวจไทยดี ๆ มากกว่าครับ ด.ต. อานนท์ หมื่นแสน ขอบคุณครับ ^^"


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.naewna.com/local/71446-

sithiphong:
คลิปตำรวจจราจร ช่วยชีวิตชาวต่างชาติ ที่น็อกล้มกลางถนน
-http://hilight.kapook.com/view/92200-






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ SpringNews TV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          น่าชื่นชม ! คลิปตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ช่วยชีวิตชาวต่างชาติที่น็อกฟุบล้มจากจักรยานยนต์กลางถนน จนฟื้นคืนสติ

          วานนี้ (11 ตุลาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่า มีชาวต่างชาติพลัดตกรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส บริเวณถนนพัทยาใต้สาย 3 หน้าฟิตเนสโทนี่ ยิม จึงรุดไปตรวจสอบ

          ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากแยกไฟแดงพัทยาใต้ ประมาณ 50 เมตร พบ ดต.ยศ อารีวงษ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา กำลังทำการปั๊มหัวใจและใช้ฝาถังขยะพัดโบกลมให้ชายผู้บาดเจ็บที่หายใจรวยรินอยู่บนทางเท้า โดยมี นางสาวนิภากร วงศ์นุกูล อายุ 53 ปี ภรรยานั่งกุมมือสามีอย่างลุ้นระทึก

          จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ Mr.Veli Matti Helin อายุ 78 ปี สัญชาติฟินแลนด์ อยู่ในอาการแน่นิ่งไม่ได้สติ ซึ่ง ดต.ยศ ก็พยายามปั๊มหัวใจและพัดโบกฝาถังขยะอยู่นานกว่า 10 นาที จนผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวกลับฟื้นคืนสติอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ยังอยู่ในอาการไม่สู้ดีนัก ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงก็รีบน้ำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน เพื่อทำการรักษาต่อไป

          ขณะที่ นางสาวนิภากร ภรรยา เล่าว่า ตนกับสามีเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล หลังไปเจาะเลือดตรวจอาการความดัน และเมื่อตรวจเสร็จก็เดินทางกลับบ้าน โดยตนเป็นคนขับ ต่อมาเมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุ สามีก็บอกให้ตนหยุดรถ เพราะเกิดอาการหน้ามืด ตนก็เลยหยุดแต่ยังไม่ทันจะลงจากรถ สามีตนก็ล้มฟุบไปบนถนนทันที ซึ่งวินจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่แถวนั้น ได้ช่วยกันนำร่างของสามีตนขึ้นมาบนทางเท้า และสักพัก ดต.ยศ ที่กำลังทำหน้าที่อยู่แยกไฟแดง ก็วิ่งเข้ามาช่วยจนสามีตนฟื้นคืนสติอีกครั้ง

          ด้าน ดต.ยศ เผยว่า ตนเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็รีบรายงานไปยังศูนย์วิทยุฯ และวิ่งไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งพอไปถึงตนก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็พยายามรวบรวมสติ ตรวจชีพจร และเห็นว่าผู้บาดเจ็บชีพจรเต้นแผ่วแล้ว อีกทั้งบริเวณฝีปาก เล็บ เริ่มเขียว จึงทำการปั๊มหัวใจและปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ด้วยการนำฝาถังขยะมาพัด จนผู้บาดเจ็บฟื้นคืนสติขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ตนดีใจมากที่ช่วยผู้ชีวิตผู้บาดเจ็บไว้ได้


ดต.ยศ อารีวงษ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา

          สำหรับ ดต.ยศ จบนักเรียนพลตำรวจ รุ่น 34 ชลบุรี เป็นคน จ.ชัยภูมิ รับราชการอยู่ที่ สภ.เมืองพัทยา ตั้งแต่ปี 2544 ในตำแหน่งรถจักรยานยนต์นำขบวน รับผิดชอบงานจราจร และการนำขบวนเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่เสด็จมาประทับยังเมืองพัทยาและเส้นทางเสด็จผ่าน รวมไปถึงคณะผู้บังคับบัญชา และอื่น ๆ อีกหลายขบวน

ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน
คลิป ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน เครดิต สปริงนิวส์
โพสต์โดยคุณ SpringNews TV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน
-http://www.youtube.com/watch?v=qrRKj9JUmws&feature=player_embedded-
ชาวพัทยาชื่นชม! ตร.จราจรช่วยยื้อชีวิตชาวต่างชาติกลางถนน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://news.springnewstv.tv/36993/%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A1-%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B-

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version