ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
เตือนใจ ให้ระมัดระวังและเป็นอุทาหรณ์ เพื่อป้องกันตนเองสำหรับผู้หญิง
sithiphong:
เตือนคนเช่าหอ...ระวังถูกติดกล้องแอบถ่าย ภัยร้ายรูปแบบใหม่ ที่มาเยือนถึงในห้อง
-http://hilight.kapook.com/view/119941-
อุทาหรณ์เตือนใจ เมื่อสาวคนหนึ่งย้ายมาอยู่ในหอพัก แต่กลับพบว่า กรอบรูปหนุมานที่อยู่ในห้อง มีกล้องแอบถ่ายและไมค์ดักเสียงติดอยู่ ด้านเจ้าของหออ้าง ติดตั้งเอาไว้ตอนหลานชายยังอยู่
ในสมัยนี้ หอพักและอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากในกรุงเทพมหานคร ทั้งคนที่เช่าอยู่อาจจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน และมีหลาย ๆ คนที่ตัดสินใจอยู่คนเดียว เพราะราคาค่าเช่าที่จ่ายไหวในแต่ละเดือน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฝงมากับหอพักเหล่านี้ คือความปลอดภัย ด้วยการที่หอพักมีคนมากหน้าหลายตาอาศัยร่วมกัน และมีคนเข้าออกเป็นประจำ จึงทำให้บางครั้งหอพักก็ไม่ปลอดภัย แต่ภัยรูปแบบใหม่ที่คุกคามหอพักในตอนนี้คือ กล้องแอบถ่าย ที่อาจถูกติดตั้งเอาไว้โดยที่เจ้าของห้องไม่รู้ และกว่าจะรู้ ก็สายเกินไปเสียแล้ว
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2558 คุณ Noifo สมาชิกเว็บไซต์พันทิพดอทคอม ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวการติดกล้องแอบถ่ายไว้ในห้องว่า เขาต้องการเช่าห้องในหอพักแห่งหนึ่ง 3 ห้อง ซึ่งเจ้าของหอพัก มีห้องว่างที่ชั้นบนและชั้นล่าง แต่เนื่องจากคุณ คุณ Noifo ชอบห้องชั้นบนมากกว่า จึงให้เพื่อนผู้หญิงอยู่ห้องชั้นล่างแทน ซึ่งสิ่งที่ผิดสังเกตในห้องชั้นล่างคือ รูปหนุมานที่แขวนเอาไว้บนเพดาน โดยที่เจ้าของหอบอกว่า รูปหนุมานนี้ มีไว้เพื่อแก้เคล็ด เนื่องจากที่หอพักมีถังสิ่งปฏิกูลอยู่ด้านหน้าหอ
ระยะเวลา 2 เดือนต่อมา เพื่อนผู้หญิงของคุณ Noifo ก็บอกว่า พบรูที่เห็นในโคมไฟ จึงลองแกะโคมไฟออกมา และไม่พบอะไร อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณ Noifo ได้ไปติวหนังสือที่ห้องของเพื่อนคนนี้ และเพื่อนก็บอกมาว่า รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องอยู่ในห้องนี้เลย โดยเฉพาะตั้งแต่เหตุการณ์พบรูในโคมไฟ
คุณ Noifo จึงลองสำรวจทุกซอกทุกมุมในห้อง และพบว่า ที่ภาพหนุมานนั้น มีกล้องวงจรปิดที่ต่อเข้ากับ DVR หลักของหอพักติดตั้งอยู่ และกล้องดังกล่าว ยังมีหลอดไฟอินฟราเรดรอบกรอบรูป หากลองปิดไฟในห้องให้มืดก็จะเห็นได้ชัด และถ้าไม่สังเกต ก็จะเห็นกล้องเป็นเหมือนเพชรประดับกรอบรูปเท่านั้น ซึ่งมุมกล้องจะส่องลงมาบนเตียง
จากนั้น เมื่อพูดถึงเรื่องรูบนโคมไฟ คุณ Noifo จึงลองแกะโคมไฟออกมาอีกครั้ง ก็ไม่พบอะไร คุณ Noifo สงสัยว่าห้องนี้จะถูกติดตั้งอุปกรณ์อื่น ๆ เอาไว้ จึงขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ แล้วเอามือไปแตะรอบ ๆ ฝ้าเพดาน พร้อมกับเจอทั้งไมค์ดูดเสียง ที่มีสายไฟเลี้ยงและมีสายส่งสัญญาณข้อมูล
จากนั้น คุณ Noifo จึงแจ้งตำรวจ เพื่อให้มาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยที่ในตอนแรกเจ้าของหอพักกลับปัดความรับผิดชอบด้วยการบอกว่า เขาได้ถอดกล้องออกนานแล้ว และสาเหตุที่เคยติดกล้องนั้น ก็เพราะต้องการเฝ้าสังเกตหลานชาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เจ้าของหอเคยบอกว่า ห้องนี้เคยเป็นของชายหญิง 2 คนที่อยู่ด้วยกัน แต่ย้ายหอออกไปเพราะได้ห้องที่ใหญ่กว่า จนเมื่อเจ้าหน้าที่เค้นหนักขึ้น เจ้าของหอพักก็ยอมรับว่า ห้องนั้นได้ติดตั้งกล้องเอาไว้จริง แต่ยังพยายามบอกว่า จะไม่ให้เช่าห้องนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จบลงด้วยการเป็นคดีลหุโทษ มีการจ่ายค่าเสียหาย 15,000 บาท และสั่งให้ทำลาย DVR ในฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด และเจ้าของหอได้เซ็นสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ว่า หากเกิดคลิปหลุด จะสามารถให้ผู้เสียหายดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ภาพจาก คุณ Noifo สมาชิกเว็บไซต์พันทิพดอทคอม
ภาพจาก คุณ Noifo สมาชิกเว็บไซต์พันทิพดอทคอม
.
sithiphong:
ระทึก!ซื้อคอนโดหรู10ล.ใจกลางกรุงฯ สาวเกือบซวยยามไขห้องเข้าหาตอนตีห้า[ชมคลิป]
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
22 พฤษภาคม 2558 02:41 น. (แก้ไขล่าสุด 22 พฤษภาคม 2558 03:41 น.)
-http://www.manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058104-
ยามคอนโดหรู อาศัยช่วงสาวอยู่คนเดียวไขห้องเข้าหาตอนตีห้า โชคดีเจ้าตัวได้ยินเสียงชิงวิ่งหนีออกมาทัน พิลึกอ้างกล้องวงจรปิดเสีย แต่พอบุกเข้าไปห้องมอนิเตอร์กลับเจอหัวหน้า รปภ. ช่าง นิติ กำลังดูวีดีโอตอนเกิดเหตุอยู่แต่ไม่มีใครออกมารับเรื่อง คอนโดโยนบริษัทยามรับผิดชอบแค่ไล่คนก่อเหตุออก ปล่อยคนร้ายลอยนวล เผยมีสายจากผจก.คอนโดโทรขู่ต่อว่าจะโวยวายทำไมอีก เป็นทหารเก่านะ
เมื่อวันที่21พ.ค.มีการเผยแพร่เรื่องราวลงเว็บไซต์พันทิป ซื้อคอนโดหรูย่านใจกลางกรุงราคา 10 ล้าน อยู่อาศัย แต่กลับถูกยามรักษาความปลอดภัยของคอนโดไขกุญแจบุกเข้าห้องยามวิกาล เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ สำหรับผู้หญิงที่อยู่ห้องคนเดียว และคอนโดหรูราคาแพงไม่ใช่ว่าระบบการรักษาความปลอดภัยจะดีตามเสมอไป
ทั้งนี้ผู้โพสต์ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า "พ่อผมได้ซื้อคอนโด The Address Asoke จำนวน 1 ห้อง ชั้น 42 ราคา 10 ล้าน เพื่อจุดประสงค์ให้ลูกๆรวมตัวกันเนื่องจากทำเลที่ดี และ มั่นใจในความปลอดภัย แต่ที่อาศัยอยู่ส่วนมากแค่พี่สาว 2 คน เนื่องจาก พี่ชายของผมพักอยู่หอพักที่มหิดล ส่วนผมอยู่หอพักที่เอแบคบางนาครับ ในวันเกิดเหตุพี่สาวคนโตสุดของผมได้เดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนผมและ พี่ชายอยุ่หอเนื่องจากอยู่ในช่วงสอบ Final พี่สาวคนรองเลยอยู่คอนโดแค่คนเดียว
เรื่องมีอยู่ว่า ประมาณตีห้า รปภ.ประจำคอนโดได้ไขกุญแจเข้ามาในห้องของผมที่คอนโด The Address Asoke พี่สาวผมได้ยินเสียงคนเดินเลยสะดุ้งตื่นเห็นร่างผู้ชายหลบอยู่ในห้องนอนใส่เสื้อ รปภ.ของG4S พี่สาวผมตกใจกรี๊ดไม่ทันเห็นหน้าจึงกระชากโคมไฟออกมาป้องกันตัว ไฟดับมืดมากคนร้ายหนีไปซ่อนที่อื่นในห้อง เลยวิ่งออกประตูห้องนอนได้แล้วออกไปทางเดินตะโกนร้องให้คนช่วยแต่กลับไม่มีคนออกมาช่วย พี่สาวผมเลยตัดสินใจลงไปที่ lobby เพื่อร้องให้คนช่วย ส่วน รปภ.คนร้ายที่บุกเข้าห้องมานั้นได้อาศัยตอนที่พี่สาวผมวิ่งหนีออกไปกดลิฟท์ วิ่งไปหลบตรงบันไดหนีไฟ และ รอจังหวะที่พี่สาวผมลงไป เขาจึงเดินไปลงลิฟท์ด้านหลังคอนโด และทำเป็นวิ่งมาหาพี่สาวผมที่หน้า lobby เพื่อจะขึ้นห้องไปช่วยเหลือ ขณะที่ รปภ. ที่ล็อบบี๊ไม่ยอมขึ้นไปดูห้องเพราะต้องเฝ้าด้านล่าง รปภ. คนอื่นไม่มีใครคิดจะขึ้นไปช่วยเช็คห้องเป็นเพื่อนพี่สาวผมเลยซักคน ยกเว้นคนร้ายที่แสร้งทำมาช่วยเหลือ หลังจากเช็คห้องคนร้ายบอกไม่มีอะไรและพยายามพูดไม่ให้พี่ผมเอาเรื่อง พอพี่สาวผมลงมาข้างล่าง Lobby รปภ. รวมตัวกันดูกล้องวงจรปิดในห้อง Monitor และกีดกันไม่ให้พี่สาวผมเข้าไปดู คนร้ายบอกกล้องวงจรปิดเสีย ตั้งแต่ชั้น40 ถึง ชั้น44 พี่สาวผมรุ้สึกแปลกๆ จึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปในห้องmonitor ถึงเห็นว่ามีหัวหน้า รปภ. ช่าง นิติ ดูวีดีโอตอนเกิดเหตุ แต่ไม่มีใครออกมารับเรื่องเลย พี่สาวผมบอกให้ รปภ. คนอื่นและนิติให้ช่วยก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็น รปภ.ที่เข้ามา นี่หรือคือความปลอดภัยของคอนโดแนวหน้าของเมืองไทย?
คำถามคือ แล้ว รปภ.ที่เหลือที่ ควรจะเฝ้าดูจออยู่ ทำไรกันอยู่ ทำไมไม่ขึ้นมาช่วยพี่สาวผม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งหลายนาที! และระบบรปภ.ภาษาอะไร ปล่อยให้ยามมีกุญแจห้องของลูกบ้านที่ซื้อคอนโด!!
ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ? จ่ายเงินเป็น สิบๆล้านเพื่อซื้อคอนโดที่ให้ยามเข้าห้องมายามวิกาล?
ตอนที่ผมรู้เรื่องเป็นเวลา 6โมงเช้า ได้ขับรถจากเอแบคไปยังคอนโด ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง ตอนไปถึงยามคนอื่นปล่อยคนร้ายกลับบ้านไปแล้ว ซึ่งปล่อยกลับไปได้ยังไง? ผมยอมรับครับตอนไปถึงโกรธมากๆ พี่สาวใคร ใครก็รักแล้วถ้าพี่สาวผมไม่สะดุ้งตื่นละอะไรจะเกิดขึ้น? แล้วหลังจากนี้เราจะอยู่คอนโดกันได้ยังไง ใครจะกล้าปล่อยให้พี่สาวไปอยู่คอนโดที่ตรวจคนนอกแต่ไม่ตรวจคนใน ตอนนี้พี่สาวผมต้องไปนอนที่อื่นซึ่งไกลจากที่ทำงานมาก สิ่งที่เขาเสนอมาว่าจะรับผิดชอบคือ โยนความผิดกันไปมาให้บริษัทยาม (ยามบ. G4S) และ จะไล่ยามคนนี้ออก และไม่ให้รปภคนไหนขึ้นไปบนคอนโดอีก? แค่นี้หรอครับ?
คุณไม่ได้โชว์ความรับผิดชอบที่เหมาะสมกับชื่อเสียงของบริษัทนิติและบริษัทยาม ที่ทางครอบครัวผมควรได้รับ และ ตอนนี้ต้องทิ้งคอนโดราคาสิบล้านกว่าซึ่งไม่มีใครกล้าเข้าไปอยู่ปล่อยว่างไว้ เพราะคนร้ายยังลอยนวลและไม่รู้เขาจะพาเพื่อนมาทำร้ายพวกผมอีกไหม
หลังจากเกิดเหตุ พี่สาวผมคนโตผมรู้เรื่องได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับทาง เอพี (ไทยแลนด์) APproperty เนื่องจาก Condominium นี้เป็นโครงการของ AP หลังจากนั้นไม่นานแฟนพี่สาวซึ่งอยู่กับผมได้รับสายโทรศัพท์จากผู้จัดการคอนโด (อันนี้ไม่แน่ใจนะครับว่าเขาตำแหน่งอะไร) โทรมาบอกว่าเขาเคยเป็นทหารเก่านะ แล้วพูดประมาณว่าจะโวยวายทำไมอีก?
อยากเตือนชาวPantipที่เป็นผู้หญิงนะครับอยู่ไหนก็ต้องระวังตัวมากๆนะครับ ทุกคน ไม่มีใครดูแลความปลอดภัยให้เราได้ตลอดแม้แต่รปภ. (ยามบ. G4S)
อยากรบกวนทุกคนช่วยแชร์เรื่องนี้กันหน่อยนะครับ ไม่อยากให้คนผิดใช้อำนาจมาข่มขู่กันแบบนี้ พี่สาวผมปัจจุบันกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเหตุการณ์นี้ใจผมมันเจ็บจี้ดจริงๆ ได้แต่โทษตัวเองที่ไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งตัวคนร้ายไม่มีท่าทีจะมาคุยใดๆ แจ้งความไปแล้วแต่รอหมายจับอยู่ครับ"
https://youtu.be/qHflEsi6ndc
-https://youtu.be/qHflEsi6ndc-
.
sithiphong:
พบพิรุธประวัติอาชญากร รปภ.บุกคอนโดหรู
-http://news.sanook.com/1800506/-
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
จากกรณีโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปกล้องวงจรปิด เหตุการณ์รปภ.คอนโดมีเนียมหรู ย่านอโศก บุกเข้าห้องพักของหญิงสาว ผู้อยู่อาศัยบนชั้น 42 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลา 05.00 น.
ต่อมา นายณัฐวุฒิ ผ่องเมืองปัก อายุ 32 ปี รปภ.คนดังกล่าว ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน โดยอ้างว่า จะขึ้นไปที่ห้องเพื่อนที่พักในคอนโดดังกล่าว เพื่อขอยืมเงิน 500 บาท แต่เข้าห้องผิดนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รปภ.คอนโดหรูบุกห้องสาวมอบตัว อ้างเข้าห้องผิด)
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (23 พ.ค.) พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า หลังจาก บริษัทต้นสังกัดของรปภ.คนดังกล่าว ได้นำเอกสารการตรวจสอบประวัติอาชญากร มาแสดงนั้น พบว่าไม่ได้เป็นเอกสารที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจหรือผู้รักษาราชการแทน ลงลายมือรับรองตามแนวทางกฎหมายข้อบังคับ
แต่เอกสารดังกล่าวได้ลงลายมือนายตำรวจยศนายดาบท่านหนึ่ง เมื่อปี 2557 ซึ่งคาดว่าตอนที่พนักงานรักษาความปลอดภัยคอนโดมิเนียมดังกล่าวมาตรวจสอบ ไม่ได้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า ขณะนั้นนายดาบได้ตรวจสอบรายละเอียดจากเพียงฐานข้อมูลของสถานีตำรวจเท่านั้น โดยนายดาบคนดังกล่าว ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่แผนกธุรการของ สน.ทุ่งสองห้อง และได้มีการให้ทำรายงานชี้แจงแล้ว
ส่วนทางบริษัทต้นสังกัดของรปภ. จะดำเนินการอย่างไรกับนายดาบคนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร เพราะเป็นการออกเอกสารหลอกบริษัทฯ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก INN
---------------------------------------------------------------------------------------
รปภ. คอนโดหรู อ้างเข้าห้องผิด ไม่มีเจตนาทำร้ายคนในห้อง
-http://hilight.kapook.com/view/120807-
รปภ. คอนโดหรูย่านอโศก เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนที่ สน.มักกะสัน อ้างเข้าห้องผิด ไม่มีเจตนาทำร้ายคนในห้อง ด้านเพจดังชี้ รปภ. เคยมีคดีติดตัว ขณะที่ทางคอนโดประกาศไล่ออกแล้ว
สืบเนื่องจากกรณี รปภ. ของคอนโดแห่งหนึ่งย่านอโศก ได้แอบไขประตูเข้าห้องพักของลูกบ้าน ในเวลาประมาณตี 5 วันที่ 20 พฤษภาคม 2558 และเมื่อเธอลงมาขอความช่วยเหลือจาก รปภ. ด้านล่าง กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่นั่งดูกล้องวงจรปิด จนทำให้เรื่องนี้ถูกแชร์สนั่นโลกออนไลน์ พร้อมถามหาความปลอดภัยในชีวิต เพราะแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับทำตัวเป็นคนร้ายเสียเอง ! [อ่านข่าว : ความปลอดภัยอยู่ตรงไหน !? คลิปเตือนภัย ถูก รปภ. ไขเข้าห้องตอนตี 5 คลิก]
ล่าสุดวานนี้ (22 พฤษภาคม 2558) นายณัฐวุฒิ ผ่องเมืองปัก อายุ 32 ปี รปภ. ของคอนโดมิเนียมหรู ย่านถนนอโศก ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน แล้ว โดยนายณัฐวุฒิอ้างว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้โทรศัพท์หาเพื่อนที่พักอยู่บนอาคารเดียวกันเพื่อขอยืนเงิน 500 บาท ซึ่งเพื่อนให้ขึ้นไปรับเงินบนห้องพัก แต่ตัวเองกลับเข้าห้องผิดจึงเกิดเรื่องขึ้น
โดยตนเข้าไปได้เพราะไม่มีการล็อคประตูห้องไว้ แต่เมื่อพบว่าเข้าผิดห้อง ตนก็วิ่งออกมานอกห้องและไม่ได้บอกเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ผู้ใดฟัง จากนั้นก็ได้พยายามติดต่อนายนัดเพื่อนของตน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งออกเวร หัวหน้า รปภ. ก็มาตามตนไปพูดคุยเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนยอมรับว่าทำจริงแต่ไม่มีเจตนาที่จะเข้าไปประทุษร้ายต่อทรัพย์สินหรือบุคคลภายในห้องพัก และยอมรับว่าตนผิดระเบียบของบริษัทที่เข้าไปในห้องพักอาศัยโดยพลการ ซึ่งโดยปกติจะมีกฎระเบียบห้ามรปภ. เข้าไปในห้องผู้พักอาศัย
ขณะที่ น.ส.ธัญยธรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เจ้าของห้องพักที่ถูกบุกรุก เล่าว่า วันนั้นตนสะดุ้งตื่นหลังได้ยินเสียงคล้ายคนวิ่งเข้ามาในห้องพัก ก่อนพบว่าเป็นชาย แต่งชุด รปภ. จึงรีบคว้าโคมไฟเพื่อป้องกันตัว แล้ววิ่งออกมาขอความช่วยเหลือด้านล่างโดยมีการเรียก รปภ.ในโครงการมาช่วยตรวจสอบ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ จนเมื่อไปตรวจสอบภาพที่ห้องควบคุม กลับพบหัวหน้า รปภ. และช่างซ่อมบำรุงประจำตึก กำลังดูภาพเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ จึงขอให้เก็บภาพไว้เพื่อมาแจ้งความ
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ น.ส.ธัญยธรณ์ ได้ออกมาพักที่บ้านเพื่อนชั่วคราวเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยและกังวลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจมีคนอื่นร่วมรู้เห็น เพราะแต่ละชั้นต้องมีคีย์การ์ดผ่านเข้าออก โดยมั่นใจว่าล็อคประตูห้องเรียบร้อยก่อนเข้านอน เปิดประตูจะเปิดได้ คน ๆ นั้นต้องมีกุญแจแน่นอน
ทางด้านเพจ Drama-addict ได้มีรายงานว่า ทางบริษัท The Address Asoke ได้นำป้ายประกาศมาติดไว้ที่คอนโดเพื่อเผยให้เห็นว่า ทางบริษัทได้ไล่ รปภ. คนดังกล่าวออกแล้วหลังเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมกันนี้ทางเพจยังระบุด้วยว่า
"ลองเอาชื่อไปหาข้อมูลในเน็ต จะพบว่าคน ๆ นี้มีคดีติดตัว เป็นคดียาเสพติดและลักรถจักยานยนต์ จะรับใครมาเป็นยาม คงต้องเช็คประวัติกันให้ดี ๆ เห็นว่าล่าสุดทาง จนท. ตำรวจรวบตัวไว้ได้แล้วครับ คำถามคือมีคนสมรู้ร่วมคิดรึเปล่า ไม่น่าทำคนเดียวนะ"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Drama-addict, ทวิตเตอร์ @TNAMCOT
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.tnamcot.com/content/191109-
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1432306084-
.
sithiphong:
รวบหนุ่มหื่นถีบรถสาวลากข่มขืน แม่เหยื่อโมโห ปรี่เข้าตบกะโหลก
-http://hilight.kapook.com/view/121478-
ตำรวจกาญจนบุรี แถลงจับกุมตัวโจรหื่น ก่อคดีไล่จี้ถีบรถจักรยานยนต์สาวแล้วลากตัวไปข่มขืน แม่เหยื่อปรี๊ด ตรงเข้าทำร้ายกลางงานแถลงข่าว
วันที่ 5 มิถุนายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต. กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี นำทีมแถลงการณ์การจับกุม นายวรวุฒิ เข็มทอง อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีพยายามข่มขืนหญิงสาว 2 รายซ้อน รายแรกเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม และล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
รวบหนุ่มหื่นถีบรถสาวลากข่มขืน แม่เหยื่อโมโห ปรี่เข้าตบกะโหลก
การจับกุมคนร้ายได้ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากคนร้ายได้ก่อเหตุจี้พยายามข่มขืนหญิงสาว วัย 17 ปี ที่บริเวณ ซ.ข้างวัดหัวนา ม.6 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แต่ผู้เสียหายสามารถจดจำเลขทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุได้ จึงเข้าแจ้งความ และตามจับตัวได้ในเวลาต่อมา เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาผลปรากฏว่าผู้ต้องรายนี้เป็นคนเดียวกับที่ลงมือข่มขืนหญิงสาวรายก่อนหน้านี้ ทางตำรวจจึงเชิญผู้เสียหายเข้าเข้าชี้ตัว ซึ่งก็ชี้ตัวได้ถูกต้อง และนายวรวุฒิเองก็ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุในทั้ง 2 เหตุการณ์จริง
จากการตรวจสอบประวัตินายวรวุฒิ พบว่าเจ้าตัวมีคดีติดตัวหลายคดีและเคยต้องโทษในคดีพยายามฆ่าในพื้นที่ จ.ราชบุรี และถูกจำคุกมา 9 ปี ก่อนจะมาก่อเหตุพยายามข่มขืนและชิงทรัพย์ผู้เสียหายทั้ง 2 รายดังกล่าว
ทั้งนี้หลังการแถลงการจับกุม แม่ของผู้เสียหายได้เข้ามอบดอกไม้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมพุ่งตรงเข้าทำร้ายร่างกาย ผู้ต้องหาโดยใช้มือทุบตีเข้าที่ศีรษะหลายครั้ง ด้วยความโมโห และแค้นใจ
ภาพจาก brighttv.co.th
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
brighttv.co.th
sithiphong:
สลด พ่อเลี้ยงข่มขืนด.ญ.วัย 12 ปี แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ
-http://news.sanook.com/1803954/-
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งจาก นายแก้ว (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ได้นำตัวบุตรสาว ด.ญ.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า ด.ญ.น้ำ (นามสมมุติ) ถูกนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี พ่อเลี้ยง และนางฝน (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี อดีตภรรยา ทำร้ายร่างกาย ตี น้ำร้อนลวก บังคับให้กินเหล้าเบียร์ก่อนที่จะให้พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศ
จากการสอบถาม นายแก้ว ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็ก ทราบว่า นายแก้วได้แยกทางกับนางฝน แม่ของเด็กหญิงดังกล่าวตั้งแต่ลูกมีอายุ 3 ขวบ และนางฝนไปได้สามีใหม่ชื่อนายบอย อายุ 26 ปี โดยที่ผ่านมา ด.ญ.น้ำ จะอยู่กับนายแก้ว และบางครั้งก็จะไปนอนกับแม่บ้าง
ต่อมานายแก้วได้ถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด ถูกดำเนินคดีและบำบัดเป็นผู้ป่วย จำนวน 10 เดือน ที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย ระหว่างนั้น ด.ญ.น้ำ ได้ไปอยู่กับนางฝนผู้เป็นแม่ กับนายบอย อยู่ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ม.2 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย และมีอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไปในเกาะสมุย
ด.ญ.น้ำ ได้ถูกนายบอย พ่อเลี้ยง บุกปลุกปล้ำข่มขืนมาโดยตลอด และมีนางฝน แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ โดยนายบอยข่มขู่ว่าหากนำเรื่องนี้ไปบอกใครจะฆ่าให้ตาย ล่าสุด ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ นายบอย ได้พยายามจะข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.น้ำ อีก แต่ ด.ญ.น้ำ ไม่ยอม ทำให้นายบอยและนางฝนไม่พอใจ ใช้น้ำร้อนลวกไปกลางแผ่นหลังของ ด.ญ.น้ำ จนเป็นแผลผุพองไปทั้งตัว
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ทราบว่า นายบอย และ นางฝน ได้หลบหนีไปแล้ว โดยเพื่อนบ้านทุกคนพูดตรงกันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งจากการตรวจค้นภายในห้องพักของพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็ก พบหลักฐานหลายชิ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทางด้าน ร.ต.ท.ปิยะวัฒน์ จีนอ่วม พนักงานสอบสวน ได้นำตัว ด.ญ.น้ำ ส่งตัวไปให้แพทย์ รพ.เกาะสมุย ทำการตรวจร่างกาย และพบว่ามีร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ และได้นำตัว นายแก้ว และ ด.ญ.น้ำ ไปทำการสอบปากคำต่อหน้าอัยการจังหวัดเกาะสมุยแล้ว
โดยมีนักจิตวิทยา ร่วมกันรับฟังและบันทึกถ้อยคำ และประสานไปที่บ้านพักเด็กศรีสุราษฎร์ธานี เพื่อให้เดินทางมารับตัวเพื่อไปทำการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจแล้ว คาดว่าในวันที่ 30 พ.ค.จะมีเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กศรีสุราษฎร์ธานี มารับตัว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทำหนังสือเพื่อขอนุมัติหมายศาลจังหวัดเกาะสมุย ออกหมายจับนายบอย พ่อเลี้ยง และนางฝน แม่แท้ๆ แล้ว และคาดว่าทั้งสองหลบหนีไปได้ไม่ไกล และยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่เกาะสมุย
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version