สลด สาว 17 ถูกข่มขืนมาราธอนตั้งแต่ 9 ขวบ จนตั้งครรภ์
-http://hilight.kapook.com/view/95948-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
แม่โร่แจ้งความ ลูกสาว วัย 17 ปี ถูกข่มขืนมาราธอนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนตั้งครรภ์และคลอดลูก โดยคนร้ายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับยายของเด็ก
เมื่อเวลา 07.30 น. ของวันนี้ (9 มกราคม 2557) พ.ต.ท.อัมรินทร์ ถ่ายสูงเนิน พนักงานสอบสวน สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้ควบคุมตัว นายสมัย พุฒบุรี อายุ 57 ปี ชาว จ.นครราชสีมา มาสอบสวน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มกราคม เวลา 16.30 น. นางสงวน อายุ 45 ปี ได้นำ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องลูกสาวถูกนายสมัยบังคับข่มขืนจนตั้งครรภ์และคลอดลูกได้ 1 เดือนแล้ว ภายหลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปควบคุมตัวนายสมัยที่บ้านพัก
ทั้งนี้ นางสงวน เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ส่วนสามีเสียชีวิตตั้งแต่ลูกสาว อายุ 4 ขวบ หลังจากสามีเสียชีวิต ตนได้เดินทางไปทำงานอยู่ที่ จ.ปทุมธานี โดยปล่อยให้ลูกทั้ง 2 คน อาศัยอยู่กับปู่และย่า ส่วนตนก็จะส่งเงินมาให้ทุกเดือน และกลับมาเยี่ยมลูกในช่วงเทศกาลต่าง ๆ
สำหรับลูกชายคนโตได้ไปเป็นทหารเกณฑ์ ส่วนลูกสาวซึ่งมีลักษณะนิสัยคล้ายทอม เมื่อเรียนจบชั้น ม.3 ก็ไม่ได้เรียนต่อ จนเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2556 ลูกสาวได้เดินทางไปหาตนที่ จ.ปทุมธานี และบอกว่า อยากจะมาหางานทำอยู่กับแม่ ตนจึงนำไปฝากให้ทำงานในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยระหว่างที่ลูกพักอาศัยอยู่ด้วย ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะลูกเป็นคนที่มีรูปร่างอวบ
กระทั่งวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 ลูกสาวของตนเกิดมีอาการปวดท้องอย่างหนัก ตนจึงพาไปโรงพยาบาล ปรากฏว่า ลูกสาวของตนได้คลอดลูกออกมาเป็นเพศชาย ตนจึงพยายามสอบถามความจริง จนทราบว่า ลูกสาวถูกนายสมัยซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับยายลงมือข่มขืน ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.3 ซึ่งขณะนั้นลูกสาวมีอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น และนายสมัยได้ลงมือข่มขืนอย่าง ต่อเนื่อง พร้อมทั้งขู่ว่า ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะทำร้ายร่างกาย และไม่ให้เงินใช้จ่าย กระทั่งลูกสาวตนตั้งท้องดังกล่าว
จากการสอบสวน นายสมัย ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาวอายุไม่เกิน 18 ปี และจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนเด็กสาวอายุไม่เกิน 13 ปีต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก INN
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1389241480&grpid=00&catid=&subcatid=-
--------------------------------------------------------
ฆ่าโหด 3 ศพ สยองวันเด็ก!! หนุ่มหื่นจะข่มขืนสาว 19 น้องชายตื่นมาเจอ ถูกปาดคอตายหมู่
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE9UUXlNamM1Tmc9PQ==§ionid=-
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 13 ม.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.อ.ธีทัต ดรุณจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย 3 ศพ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 245/194 หมู่บ้านพาราไดซ์ฮิล 2 ซอยบุญสัมพันธ์ หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก. พ.ต.ต.สิริบัญชา ขอบใจ สว.สส. ร.ต.อ.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง สว.สส. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร ร.พ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 2 (ชลบุรี) และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว 3 ห้องนอน พื้นที่กว่า 60 ตร.ว. ภายในบ้านบริเวณห้องโถงพบศพ เด็กชาย อายุ 2 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงในสภาพสวมเสื้อและกางเกงสีเขียวลายการ์ตูน ลำคอถูกรัดด้วยผ้าขนหนูสีขาว ส่วนในห้องนอนบริเวณปลายเตียงพบศพ เด็กชาย อายุ 7 ปี ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนมารีวิทย์ สภาพสวมชุดสไปรเดอร์แมน ลำคอและชายโครงขวา ถูกของมีคมแทงจนเป็นแผลฉกรรจ์ ศีรษะด้านขวามีร่องรอยถูกทุบจนกะโหลกแตก
บนเตียงพบศพ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นอนหงายอยู่ในสภาพเปลือยกาย ถูกของมีคมปาดเข้าที่ลำคอ 4 แผล และแทงเข้าที่หน้าท้อง 3 แผล จนเหวอะหวะเลือดไหลอาบร่างเป็นที่น่าสยดสยอง โดยมีนางวิไลวรรณ ลิเบอร์แมน อายุ 32 ปี มารดาของ 2 เด็กชาย และน้าสาวของ น.ส.บี นั่งร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเสียใจ
ตรวจสอบภายในบ้านพบมีร่องรอยการรื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจาย และคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ทั่วบริเวณ นอกจากนี้ที่หน้าบ้านพบขวดสุรายี่ห้อหนึ่งตกแตกอยู่ที่พื้น ใกล้กันมีสร้อยคอทองเค ตกอยู่ 1 เส้น ส่วนข้างกำแพงตรงข้ามบ้าน พบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กวางอยู่ในป่า 1 เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบปากคำนางวิไลวรรณ ให้การว่า ตนมีสามีเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน และปัจจุบันสามีทำงานอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ ตนจึงไปรับ น.ส.บี หลานสาว มาจาก จ.สกลนคร เพื่อให้ช่วยดูแลลูก ก่อนหน้านี้ น.ส.บวรรัตน์ หรือ มิ้ล สุขศรี อายุ 17 ปี ที่พักอยู่บ้านหลังติดกัน ได้พา น.ส.ป๊อบ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) อายุประมาณ 17 ปี เพื่อนสาว กับแฟนหนุ่มชื่อนายนายออฟ อายุประมาณ 30 ปี ชาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มาทำความรู้จักและให้ช่วยหางานทำ ตนจึงฝาก น.ส.ป๊อบ ให้เข้าทำงานเป็นพนักงานโคโยตี้ที่บาร์แห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้
โดยก่อนเกิดเหตุตอนเวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 11 ม.ค. ตนได้พา น.ส.ป๊อบ นั่งรถยนต์ไปทำงาน กระทั่งกลับมาบ้าน ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 11 ม.ค. พบนายออฟ นั่งคร่อมรถ จยย. รอรับแฟนสาวอยู่หน้าบ้านของตน แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งเข้ามาในบ้านหัวใจแทบสลาย เมื่อพบศพลูกชายทั้ง 2 คน และหลานสาว ถูกฆ่าตายอย่างสยดสยอง ส่วนสร้อยทองเคกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กที่คนร้ายทิ้งไว้นั้นเป็นของตน
ด้านนายประสิทธิ์ สิทธิ์ อายุ 36 ปี รปภ.ของหมู่บ้าน ให้การว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.45 น. นายออฟ ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ได้ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน ขมม-251 สุพรรณบุรี เข้ามาในหมู่บ้านแล้วกลับออกไป จนเวลาประมาณ 03.00 น. นายออฟ ขับ จยย.เข้ามาอีกครั้งพร้อมกับถือขวดสุราติดมือมาด้วย ตนพยายามขอให้แลกบัตรแต่นายออฟ ไม่ยอมให้ จึงเกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้เข้ามา จากนั้นนายออฟ จึงมาจอดรถนั่งรออยู่ที่หน้าบ้านเกิดเหตุ กระทั่งแฟนสาวกลับมาพร้อมกับนางวิไลวรรณ จึงซ้อนท้ายพากันขับออกไปอย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภจว.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องจรปิดที่อยู่บริเวณป้อมยาม สามารถจับภาพของผู้ต้องสงสัยไว้ได้อย่างชัดเจน เช็คประวัติพบว่ามีหมายจับในคดีพยายามฆ่าและลักทรัพย์รวม 2 หมาย และเพิ่งเดินทางมาพัทยาได้เพียง 3 วัน ส่วนสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้ คาดว่าคนร้ายน่าจะโกรธแค้นนางวิไลวรรณ ที่พาแฟนสาวไปทำงานเป็นสาวโคโยตี้แล้วกลับผิดเวลา จึงไปซื้อสุรามานั่งดื่มย้อมใจและรออยู่หน้าบ้านเกิดเหตุ
ก่อนบุกเข้าไปพยายามจะปลุกปล้ำข่มขืน น.ส.บี แต่เด็กตื่นขึ้นมาเลยถูกฆ่าตายทั้ง 3 คน จากนั้นจึงรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นได้ส่งชุดสืบสวนติดตามไปที่บ้านเพื่อนของผู้ต้องสงสัยในซอยหนองไม้แก่น 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง พบว่านายณัฐวุฒิ กับแฟนสาว ขนเสื้อผ้าหลบหนีไปแล้ว อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน เพราะคนร้ายลงมือฆ่าเด็กอย่างโหดเหี้ยม ทั้งๆ ที่วันนี้ตรงกับวันเด็กแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว