ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

เตือนใจ ให้ระมัดระวังและเป็นอุทาหรณ์ เพื่อป้องกันตนเองสำหรับผู้หญิง

<< < (18/36) > >>

sithiphong:
.

ไม่รู้ว่า จะเก็บไว้แบบเป็นๆทำไม 

น่าจะจับตาย  อยู่ไปรกแผ่นดินเปล่าๆ

---------------------------------------------------------------------------------------

ข่าวน้องแก้ม ล่าสุด พบศพแล้ว นายวันชัย แสงขาว สารภาพข่มขืน


-http://hilight.kapook.com/view/104774-



โฉมหน้า "วันชัย แสงขาว" พนง.ปูเตียง รฟท.หื่นข่มขืนฆ่าน้องแก้ม (เสื้อดำ) : ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @Palm_RescueClub


เรื่องเล่าเช้านี้ จับแล้วลูกจ้างรฟท.ฆ่า-ข่มขืนด.ญ.วัย 13 ขณะโดยสารมากับครอบครัว (8ก.ค.57)
-http://www.youtube.com/watch?v=x36g2exkmfA-
เรื่องเล่าเช้านี้ จับแล้วลูกจ้างรฟท.ฆ่า-ข่มขืนด.ญ.วัย 13 ขณะโดยสารมากับครอบครัว (8ก.ค.57)



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก จส 100

          ข่าวน้องแก้ม หายตัวไปบนรถไฟสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ล่าสุด พบศพแล้ว ลูกจ้างการรถไฟ รับสารภาพข่มขืนแล้วฆ่า น้องแก้ม ก่อนโยนร่างที่ยังไม่เสียชีวิตทิ้งหน้าต่างรถไฟ

          วันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ น้องแก้ม อายุ 13 ปี ขณะที่เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยสารมากับขบวนรถไฟ (ตู้นอนที่ 3) เที่ยวที่ 174 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด มีรายงานว่า น้องแก้ม ได้ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ทราบชื่อ นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี พนักงานปูเตียงที่เข้ามาทำงานได้ไม่นาน
         
          จากการสอบสวน นายวันชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้เฝ้ามองน้องแก้มมาตลอด ตั้งแต่ขึ้นรถไฟที่ จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งสบโอกาสที่น้องแก้มตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก จึงลากตัวไปข่มขืนที่ห้องพักพนักงานบนรถไฟ 2 ครั้ง จากนั้นได้ลงมือฆ่าปิดปาก โดยผลักน้องแก้มตกจากรถไฟ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิต ช่วงระหว่างสถานีวังก์พง อ.ปราณบุรี กับสถานีหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับนำปลอกหมอนและเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของน้องแก้มโยนทิ้งข้างทางด้วย

          โดยภายหลังที่คนร้ายรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังพร้อมญาติ ได้ลงพื้นที่ อ.หัวหิน เพื่อค้นหาร่างและเสื้อผ้าน้องแก้มทันที ซึ่งได้พบหลักฐานเป็นผ้าปูที่นอนของรถไฟ และเสื้อยืดเปื้อนเลือด ที่บริเวณริมทางรถไฟสถานีหนองแก และพี่สาวยืนยันว่า เสื้อตัวดังกล่าวเป็นของน้องแก้มจริง เจ้าหน้าที่จึงเร่งดำเนินการค้นหาร่างน้องแก้มอีกครั้ง จนกระทั่งเวลา 03.50 น. ก็พบร่างไร้วิญญาณของน้องแก้ม ใกล้สถานีวังก์พง พื้นที่ อ.ปราณบุรี ผลชันสูตรเบื้องต้นพบกะโหลกศีรษะแตก

          ขณะที่ นางลักขณา อายุ 48 ปี มารดาน้องแก้ม เมื่อทราบข่าวถึงกับเป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้เข้าปฐมพยาบาลทันที
 
          อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวนได้นำตัว นายวันชัย แสงขาว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุในวันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) เวลา 09.00 น.

          ด้าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จะมีการแถลงคดีน้องแก้ม วันนี้ (8 กรกฎาคม) เวลา 11.00 น. ที่ สภ.ปราณบุรี


------------------------------------------------------------------------------


ผลชันสูตร น้องแก้ม เผยขาดอากาศหายใจ ตายก่อนถูกโยน

-http://hilight.kapook.com/view/104820-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

        ข่าวน้องแก้ม ผลชันสูตรศพน้องแก้ม เผยขาดอากาศหายใจตาย ก่อนถูกโยนร่างออกนอกหน้าต่าง พบปลายนิ้วมีสีเขียว ไม่แน่ใจว่าโดนหมอนกดทับหรือบีบคอจนตาย

          ช่วงบ่ายวันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ นายวันชัย แสงขาว พนักงานการรถไฟข่มขืนแล้วฆ่า น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ขณะหลับอยู่ในรถไฟตู้นอน ก่อนโยนร่างเหยื่อออกทางหน้าต่างรถไฟนั้น [อ่านข่าว น้องแก้ม ถูกลูกจ้างรถไฟสารภาพ ข่มขืน-โยนทิ้งข้างทาง]

          ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้แถลงผลการชันสูตรพลิกศพของน้องแก้ม ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของน้องแก้ม เนื่องจากขาดอากาศหายใจ บริเวณลำตัวมีแผลฟกช้ำและถลอกจำนวนมาก เชื่อว่าเกิดจากการต่อสู้ เนื่องจากศพเปลี่ยนแปลงสภาพจากการเสียชีวิตมานานกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้การตรวจสอบค่อนข้างยาก

          นอกจากนี้ พล.ต.ต.พรชัย ยังตรวจพบร่องรอยการข่มขืน ส่วนที่ปลายนิ้วมือเขียวคล้ำ ทำให้สันนิษฐานว่า ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ก่อนที่ถูกนำร่างออกจากตู้รถไฟ จึงเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการถูกทำให้ตายตั้งแต่อยู่บนรถไฟ แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าตายโดยวิธีไหน อาจจะใช้หมอนกดหรือมือบีบคอก็ได้ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

          ทั้งนี้ ทางแพทย์ได้เก็บเนื้อเยื่อแฝงที่เล็บไปตรวจดีเอ็นเอ รวมทั้งตรวจหาคราบอสุจิว่ามีมากกว่า 1 คนหรือไม่ ซึ่งคาดว่าภายใน 2 วัน น่าจะทราบผลตรวจ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404806745&grpid=&catid=19&subcatid=1905-


----------------------------------------------------------------------------------


โทษคดีข่มขืน เบาไป ชาวเน็ตจี้แก้กฎหมายเพิ่มโทษ หลังมีข่าวน้องแก้ม

-http://hilight.kapook.com/view/104800-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก  พวกเราต้องการเปลี่ยนกฏหมาย คดีข่มขืนให้ลงโทษประหารชีวิตเท่านั้น

           ชาวเน็ตร้องเพิ่มโทษคดีข่มขืน ป้องกันปัญหาคุกคามทางเพศ หลังมีข่าวน้องแก้มถูกข่มขืนบนรถไฟ ด้านผลสำรวจเผยปี 2556 พบข่าวข่มขืนมีแนวโน้มสูงขึ้น เฉลี่ยสูงถึงวันละ 87 ราย !

           จากข่าวสุดสะเทือนขวัญของน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี เสียชีวิตเนื่องจากถูกพนักงานปูเตียงบนรถไฟข่มขืนและฆ่าน้องแก้ม พร้อมโยนร่างที่ยังไม่เสียชีวิตทิ้งหน้าต่างรถไฟบนขบวนรถไฟที่ 174 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

           ล่าสุด วันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กยังคงถกเถียงประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เรียกร้องให้มีการเพิ่มโทษคดีข่มขืนมากขึ้น รวมถึงการประหารชีวิตผู้ต้องหา เพื่อจะได้เป็นเยี่ยงอย่างและลดปัญหาอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต

           ทั้งนี้ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ได้เปิดเผยสถานการณ์ความรุนแรงทางเพศปี 2556 ว่า จากการรวบรวมสถิติข่าวความรุนแรงทางเพศปี 2556 จากหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ ได้แก่ ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด คมชัดลึก และมติชน พบว่า ข่าวการกระทำความรุนแรงทางเพศ มีทั้งหมด 169 ข่าว ประเภทข่าวที่พบมากที่สุด คือ

              ข่าวข่มขืน 51.5%

              ข่าวอนาจาร 17.1%

              ข่าวพยายามข่มขืน 13.6%

              ข่าวรุมโทรม 7.1%

              ข่าวพรากผู้เยาว์ 2.4%

           และจากสถิติการให้บริการของศูนย์พึ่งได้ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า การกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก มีแนวโน้มสูงขึ้น ปี 2556 มีจำนวน 31,866 ราย เฉลี่ยวันละ 87 ราย หรือทุก ๆ 15 นาที มีผู้หญิงและเด็กถูกทำร้าย 1 คน ซึ่งผู้ที่กระทำส่วนใหญ่เป็นบุคคลใกล้ชิดที่เด็กไว้วางใจ


สำหรับบทลงโทษคดีข่มขืน มีดังนี้

              ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท

              ถ้าข่มขืนโดยมีอาวุธ หรือใช้อาวุธ เช่น ปืน หรือวัตถุระเบิด หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิง ต้องรับโทษหนักขึ้น คือ จำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 30,000-40,000 บาท ข่มขืนเด็กหญิงต้องรับโทษหนักขึ้นและหากได้ข่มขืนโดยมีหรือใช้อาวุธ หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิงต่อเด็กหญิงที่อายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ยินยอม ผู้ข่มขืนต้องรับโทษหนัก คือ จำคุกตลอดชีวิต

              ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ใช่ภริยาของผู้กระทำ แม้เด็กนั้นยินยอม ก็ยังถือว่าเป็นความผิด ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท

              ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ต้องรับโทษหนักกว่าข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี คือ ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 7-20 ปี และปรับตั้งแต่ 14,000-40,000 บาท หรืออาจต้องรับโทษหนักถึงขนาดถูกจำคุกตลอดชีวิต

              ผลของการข่มขืนทำให้หญิงผู้ถูกข่มขืนบาดเจ็บสาหัสหรือตาย ต้องรับโทษหนักขึ้นอาจถึงขั้นถูกประหารชีวิต


ฆ่าแล้วข่มขืน กับ ข่มขืนแล้วฆ่า แตกต่างกันอย่างไร

           การข่มขืนแล้วฆ่า คือ การข่มขืนตอนที่เหยื่อยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่ได้ทำการข่มขืน พอกระทำการข่มขืนเสร็จแล้วจึงจะทำการฆ่าเหยื่อ แต่การฆ่าแล้วข่มขืน คือการที่เหยื่อผู้ถูกกระทำได้เสียชีวิตไปแล้ว จึงได้มีการกระทำทางเพศทีหลัง ซึ่งความผิดก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน

กรณีข่มขืนแล้วฆ่า

              ถือว่าผู้กระทำมี 2 เจตนา คือ เจตนาข่มขืนกระทำชำเรา กับ เจตนาฆ่า (ฆ่าเพื่อปกปิดการกระทำของตน ป.อ.ม.289(7))

              เป็นเรื่องความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องเรียงกระทงลงโทษ ป.อ.ม.91

กรณีฆ่าแล้วข่มขืน

              ถือว่าผู้กระทำมีเจตนาฆ่า (ป.อ.ม.289(6))

              ผู้กระทำมีเจตนาข่มขืนกระทำชำเรา แต่ไม่ต้องรับผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา เพราะผู้ถูกกระทำไม่มีสภาพบุคคล (เป็นเรื่องขององค์ประกอบภายนอก)


โทษคดีข่มขืนในต่างประเทศ

           หากเปรียบเทียบบทลงโทษคดีข่มขืนในต่างประเทศ จะเห็นได้ว่ามีความรุนแรงกว่าในประเทศไทย อาทิ

               ประเทศลาว คาดโทษคดีกระทำชำเราเด็กต่ำกว่า 15 ปี เป็นจำคุก 7-15 ปี ปรับเป็นเงินประมาณ 20,000-60,000 บาท แต่กรณีฆ่าข่มขืน จะต้องรับโทษหนักโดยมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

               ประเทศบรูไน มีบทลงโทษสูงสุดในคดีข่มขืน คือประหารชีวิต

              เกาหลีใต้ลงโทษผู้กระทำชำเราเด็ก ด้วยสารเคมีลดฮอร์โมนและความต้องการทางเพศ ซึ่งถือเป็นชาติแรกในเอเชีย เช่นเดียวกับกฎหมายในสหรัฐอเมริกา (บางรัฐ) เยอรมนี สวีเดน และนอร์เวย์

              ประเทศส่วนใหญ่ในตะวันออกกลาง ลงโทษโดยยึดเจ้าโลกของกลางและตัดทิ้งแบบไม่ต้องรอศาลลงอาญา

              ประเทศจีน ยื่นคำขาดโทษประหารชีวิตสถานเดียวให้แก่ผู้ก่อคดีข่มขืน

              ประเทศรัสเซีย คาดโทษข่มขืนเด็กต่ำกว่า 18 ปี เป็นจำคุก 8-15 ปี ส่วนการข่มขืนเด็กต่ำกว่า 14 ปี ระวางโทษตั้งแต่ 12-20 ปี

              ประเทศฝรั่งเศส คาดโทษคดีกระทำชำเราเด็กต่ำกว่า 15 ปี เป็นจำคุก 20 ปี และในกรณีฆ่าข่มขืน หรือทำให้เหยื่อถึงแก่ความตายมีโทษจำคุก 30 ปี

           ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ จึงเป็นที่มาให้มีการลุกฮือทุกครั้งที่มีข่าวคดีข่มขืนสะเทือนขวัญในบ้านเรา แต่ดูเหมือนเสียงเล็ก ๆ จากโลกไซเบอร์จะยังคงไม่ดังพอ ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันมาสนใจกับเรื่องนี้มากนัก เช่นเดียวกันกับครั้งนี้ ข่าวน้องแก้ม ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางสังคมต่อบทลงโทษของคดีข่มขืนขึ้นอีกครั้ง โดยล่าสุด (8 กรกฎาคม 2557) มีการนัดรวมตัวเพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนกฎหมายลงโทษคดีฆ่าข่มขืน ผ่านเฟซบุ๊ก  พวกเราต้องการเปลี่ยนกฏหมาย คดีข่มขืนให้ลงโทษประหารชีวิตเท่านั้น โดยนัดรวมตัวกันในวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่ลานพาร์ค พารากอน ซึ่งข้อความระบุว่า...

           มารวมตัวกันเป็นพลังเสียง ร่วมเปลี่ยนกฎหมายคดีโทษข่มขืนกันเถอะค่ะ อย่าให้มีเหยื่อสังเวยความกามมากกว่านี้ ทุกกระบอกเสียงสำคัญ ร่วมกันแชร์รวมตัวกันค่ะ ตัวแอดมินเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายมากนัก แต่อยากให้มีอะไรมาเปลี่ยนให้มันดีขึ้น ไม่งั้นก็เกิดเหตุแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราจะรวมตัวกันที่ ลานพาร์คพารากอน เวลา 11.00 อยากให้ทุกคนใส่ชุดสีดำ เพื่อไว้ทุกข์ให้แก่เหยื่อ แอดมินไม่ทราบหรอกนะคะว่าทำแบบนี้จะเปลี่ยนได้ไหมแต่คิดว่าดีกว่าเรานิ่งดูดายกัน ทุกเสียงสำคัญร่วมกันแก้ไข

sithiphong:
ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย 

ถ้าใครจะเดินทางโดยทางรถไฟ  ต้องระมัดระวังกันให้มาก  เพราะการรถไฟไม่มีการรับผิดชอบใดๆเลย

--------------------------------------------------------




ย้อนคดีลูกจ้างการรถไฟข่มขืนนักศึกษา ป.โท บนตู้นอน

-http://hilight.kapook.com/view/104822-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          เหตุการณ์ผู้โดยสารถูกข่มขืนบนรถไฟอย่างกรณีข่าวน้องแก้ม วัย 13 ปี ไม่ใช่รายแรกที่เคยเกิดขึ้น ย้อนรอยคดีดังเมื่อปี 2544 ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนแล้ว

          สืบเนื่องจากคดีสะเทือนขวัญของน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกพนักงานปูเตียงบนรถไฟข่มขืนและฆ่า ก่อนโยนร่างของเธอทิ้งหน้าต่างรถไฟขณะเดินทางจากสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น ก็ทำให้ชาวเน็ตต่างตั้งคำถามถึงมาตรการความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะว่ามีเพียงพอหรือยัง และที่สำคัญคดีน้องแก้ม ก็ไม่ใช่คดีข่มขืนคดีแรกที่เกิดขึ้นบนรถไฟ เหตุใดการรถไฟจึงปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุซ้ำรอยแบบนี้ได้

          สำหรับคดีลูกจ้างการรถไฟข่มขืนผู้โดยสารบนรถไฟนั้น ก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2544 ลูกจ้างการรถไฟข่มขืนนักศึกษา ป.โท เกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2544 ซึ่งในคืนเกิดเหตุนั้น นักศึกษาสาวปริญญาโท ได้ใช้บริการตู้นอนรถไฟชั้นสอง สายใต้ สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ แต่กลับถูกลูกจ้างการรถไฟข่มขืนกระทำชำเรา และยังกักขังหน่วงเหนี่ยวนักศึกษาสาวปริญญาโทซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ให้ลงจากขบวนรถไฟดังกล่าว จนกระทั่งเวลาต่อมา เมื่อผู้เสียหายสามารถลงจากขบวนรถไฟได้ ก็เข้าแจ้งความและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด แต่ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี โดยอ้างว่าผู้เสียหายยินยอมหลับนอนกับเขาเอง

          ต่อมา ศาลฎีกาได้มีคำตัดสินว่า ผู้ต้องหาในคดีมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา สั่งจำคุกเป็นเวลา 9 ปี ขณะที่ผู้เสียหายได้ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางการรถไฟ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยทางการรถไฟให้เหตุว่า คดีความดังกล่าว "เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยและผู้เสียหาย" ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการรถไฟ

          หลังจากนี้ สังคมคงจับตาดูว่า ทางการรถไฟ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะออกมาตรการอะไรเพื่อป้องกันมิให้เกิดคดีสะเทือนขวัญเช่นนี้อีก เพราะแม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ดูช้าจนเกินไป แต่ก็คงดีว่าการปล่อยให้มีเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศบนรถไฟอีกเป็นรายต่อ ๆ ไป




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404802626-

sithiphong:
.

ไหนครับ  พวกองค์กรสิทธิมนุษยชน 

หายหัวไปไหนหมด  ทำไมไม่ออกมาดำเนินการอะไรเลย  ส่วนใหญ่ออกมาให้เป็นข่าว เพื่อจะได้ดัง 






--- อ้างจาก: sithiphong ที่ กรกฎาคม 08, 2014, 08:54:10 pm ---.

ไม่รู้ว่า จะเก็บไว้แบบเป็นๆทำไม 

น่าจะจับตาย  อยู่ไปรกแผ่นดินเปล่าๆ

---------------------------------------------------------------------------------------

ข่าวน้องแก้ม ล่าสุด พบศพแล้ว นายวันชัย แสงขาว สารภาพข่มขืน


-http://hilight.kapook.com/view/104774-



โฉมหน้า "วันชัย แสงขาว" พนง.ปูเตียง รฟท.หื่นข่มขืนฆ่าน้องแก้ม (เสื้อดำ) : ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @Palm_RescueClub


เรื่องเล่าเช้านี้ จับแล้วลูกจ้างรฟท.ฆ่า-ข่มขืนด.ญ.วัย 13 ขณะโดยสารมากับครอบครัว (8ก.ค.57)
-http://www.youtube.com/watch?v=x36g2exkmfA-
เรื่องเล่าเช้านี้ จับแล้วลูกจ้างรฟท.ฆ่า-ข่มขืนด.ญ.วัย 13 ขณะโดยสารมากับครอบครัว (8ก.ค.57)



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก จส 100

          ข่าวน้องแก้ม หายตัวไปบนรถไฟสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ล่าสุด พบศพแล้ว ลูกจ้างการรถไฟ รับสารภาพข่มขืนแล้วฆ่า น้องแก้ม ก่อนโยนร่างที่ยังไม่เสียชีวิตทิ้งหน้าต่างรถไฟ

          วันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ น้องแก้ม อายุ 13 ปี ขณะที่เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยสารมากับขบวนรถไฟ (ตู้นอนที่ 3) เที่ยวที่ 174 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด มีรายงานว่า น้องแก้ม ได้ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ทราบชื่อ นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี พนักงานปูเตียงที่เข้ามาทำงานได้ไม่นาน
         
          จากการสอบสวน นายวันชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้เฝ้ามองน้องแก้มมาตลอด ตั้งแต่ขึ้นรถไฟที่ จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งสบโอกาสที่น้องแก้มตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก จึงลากตัวไปข่มขืนที่ห้องพักพนักงานบนรถไฟ 2 ครั้ง จากนั้นได้ลงมือฆ่าปิดปาก โดยผลักน้องแก้มตกจากรถไฟ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิต ช่วงระหว่างสถานีวังก์พง อ.ปราณบุรี กับสถานีหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับนำปลอกหมอนและเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของน้องแก้มโยนทิ้งข้างทางด้วย

          โดยภายหลังที่คนร้ายรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังพร้อมญาติ ได้ลงพื้นที่ อ.หัวหิน เพื่อค้นหาร่างและเสื้อผ้าน้องแก้มทันที ซึ่งได้พบหลักฐานเป็นผ้าปูที่นอนของรถไฟ และเสื้อยืดเปื้อนเลือด ที่บริเวณริมทางรถไฟสถานีหนองแก และพี่สาวยืนยันว่า เสื้อตัวดังกล่าวเป็นของน้องแก้มจริง เจ้าหน้าที่จึงเร่งดำเนินการค้นหาร่างน้องแก้มอีกครั้ง จนกระทั่งเวลา 03.50 น. ก็พบร่างไร้วิญญาณของน้องแก้ม ใกล้สถานีวังก์พง พื้นที่ อ.ปราณบุรี ผลชันสูตรเบื้องต้นพบกะโหลกศีรษะแตก

          ขณะที่ นางลักขณา อายุ 48 ปี มารดาน้องแก้ม เมื่อทราบข่าวถึงกับเป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้เข้าปฐมพยาบาลทันที
 
          อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวนได้นำตัว นายวันชัย แสงขาว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุในวันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) เวลา 09.00 น.

          ด้าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จะมีการแถลงคดีน้องแก้ม วันนี้ (8 กรกฎาคม) เวลา 11.00 น. ที่ สภ.ปราณบุรี


------------------------------------------------------------------------------


ผลชันสูตร น้องแก้ม เผยขาดอากาศหายใจ ตายก่อนถูกโยน

-http://hilight.kapook.com/view/104820-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

        ข่าวน้องแก้ม ผลชันสูตรศพน้องแก้ม เผยขาดอากาศหายใจตาย ก่อนถูกโยนร่างออกนอกหน้าต่าง พบปลายนิ้วมีสีเขียว ไม่แน่ใจว่าโดนหมอนกดทับหรือบีบคอจนตาย

          ช่วงบ่ายวันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ นายวันชัย แสงขาว พนักงานการรถไฟข่มขืนแล้วฆ่า น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ขณะหลับอยู่ในรถไฟตู้นอน ก่อนโยนร่างเหยื่อออกทางหน้าต่างรถไฟนั้น [อ่านข่าว น้องแก้ม ถูกลูกจ้างรถไฟสารภาพ ข่มขืน-โยนทิ้งข้างทาง]

          ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้แถลงผลการชันสูตรพลิกศพของน้องแก้ม ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของน้องแก้ม เนื่องจากขาดอากาศหายใจ บริเวณลำตัวมีแผลฟกช้ำและถลอกจำนวนมาก เชื่อว่าเกิดจากการต่อสู้ เนื่องจากศพเปลี่ยนแปลงสภาพจากการเสียชีวิตมานานกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้การตรวจสอบค่อนข้างยาก

          นอกจากนี้ พล.ต.ต.พรชัย ยังตรวจพบร่องรอยการข่มขืน ส่วนที่ปลายนิ้วมือเขียวคล้ำ ทำให้สันนิษฐานว่า ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ก่อนที่ถูกนำร่างออกจากตู้รถไฟ จึงเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการถูกทำให้ตายตั้งแต่อยู่บนรถไฟ แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าตายโดยวิธีไหน อาจจะใช้หมอนกดหรือมือบีบคอก็ได้ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

          ทั้งนี้ ทางแพทย์ได้เก็บเนื้อเยื่อแฝงที่เล็บไปตรวจดีเอ็นเอ รวมทั้งตรวจหาคราบอสุจิว่ามีมากกว่า 1 คนหรือไม่ ซึ่งคาดว่าภายใน 2 วัน น่าจะทราบผลตรวจ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404806745&grpid=&catid=19&subcatid=1905-


----------------------------------------------------------------------------------


โทษคดีข่มขืน เบาไป ชาวเน็ตจี้แก้กฎหมายเพิ่มโทษ หลังมีข่าวน้องแก้ม

-http://hilight.kapook.com/view/104800-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก  พวกเราต้องการเปลี่ยนกฏหมาย คดีข่มขืนให้ลงโทษประหารชีวิตเท่านั้น

           ชาวเน็ตร้องเพิ่มโทษคดีข่มขืน ป้องกันปัญหาคุกคามทางเพศ หลังมีข่าวน้องแก้มถูกข่มขืนบนรถไฟ ด้านผลสำรวจเผยปี 2556 พบข่าวข่มขืนมีแนวโน้มสูงขึ้น เฉลี่ยสูงถึงวันละ 87 ราย !

           จากข่าวสุดสะเทือนขวัญของน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี เสียชีวิตเนื่องจากถูกพนักงานปูเตียงบนรถไฟข่มขืนและฆ่าน้องแก้ม พร้อมโยนร่างที่ยังไม่เสียชีวิตทิ้งหน้าต่างรถไฟบนขบวนรถไฟที่ 174 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

           ล่าสุด วันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กยังคงถกเถียงประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เรียกร้องให้มีการเพิ่มโทษคดีข่มขืนมากขึ้น รวมถึงการประหารชีวิตผู้ต้องหา เพื่อจะได้เป็นเยี่ยงอย่างและลดปัญหาอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต

           ทั้งนี้ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ได้เปิดเผยสถานการณ์ความรุนแรงทางเพศปี 2556 ว่า จากการรวบรวมสถิติข่าวความรุนแรงทางเพศปี 2556 จากหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ ได้แก่ ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด คมชัดลึก และมติชน พบว่า ข่าวการกระทำความรุนแรงทางเพศ มีทั้งหมด 169 ข่าว ประเภทข่าวที่พบมากที่สุด คือ

              ข่าวข่มขืน 51.5%

              ข่าวอนาจาร 17.1%

              ข่าวพยายามข่มขืน 13.6%

              ข่าวรุมโทรม 7.1%

              ข่าวพรากผู้เยาว์ 2.4%

           และจากสถิติการให้บริการของศูนย์พึ่งได้ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า การกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก มีแนวโน้มสูงขึ้น ปี 2556 มีจำนวน 31,866 ราย เฉลี่ยวันละ 87 ราย หรือทุก ๆ 15 นาที มีผู้หญิงและเด็กถูกทำร้าย 1 คน ซึ่งผู้ที่กระทำส่วนใหญ่เป็นบุคคลใกล้ชิดที่เด็กไว้วางใจ


สำหรับบทลงโทษคดีข่มขืน มีดังนี้

              ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท

              ถ้าข่มขืนโดยมีอาวุธ หรือใช้อาวุธ เช่น ปืน หรือวัตถุระเบิด หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิง ต้องรับโทษหนักขึ้น คือ จำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 30,000-40,000 บาท ข่มขืนเด็กหญิงต้องรับโทษหนักขึ้นและหากได้ข่มขืนโดยมีหรือใช้อาวุธ หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิงต่อเด็กหญิงที่อายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ยินยอม ผู้ข่มขืนต้องรับโทษหนัก คือ จำคุกตลอดชีวิต

              ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ใช่ภริยาของผู้กระทำ แม้เด็กนั้นยินยอม ก็ยังถือว่าเป็นความผิด ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท

              ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ต้องรับโทษหนักกว่าข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี คือ ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 7-20 ปี และปรับตั้งแต่ 14,000-40,000 บาท หรืออาจต้องรับโทษหนักถึงขนาดถูกจำคุกตลอดชีวิต

              ผลของการข่มขืนทำให้หญิงผู้ถูกข่มขืนบาดเจ็บสาหัสหรือตาย ต้องรับโทษหนักขึ้นอาจถึงขั้นถูกประหารชีวิต


ฆ่าแล้วข่มขืน กับ ข่มขืนแล้วฆ่า แตกต่างกันอย่างไร

           การข่มขืนแล้วฆ่า คือ การข่มขืนตอนที่เหยื่อยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่ได้ทำการข่มขืน พอกระทำการข่มขืนเสร็จแล้วจึงจะทำการฆ่าเหยื่อ แต่การฆ่าแล้วข่มขืน คือการที่เหยื่อผู้ถูกกระทำได้เสียชีวิตไปแล้ว จึงได้มีการกระทำทางเพศทีหลัง ซึ่งความผิดก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน

กรณีข่มขืนแล้วฆ่า

              ถือว่าผู้กระทำมี 2 เจตนา คือ เจตนาข่มขืนกระทำชำเรา กับ เจตนาฆ่า (ฆ่าเพื่อปกปิดการกระทำของตน ป.อ.ม.289(7))

              เป็นเรื่องความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องเรียงกระทงลงโทษ ป.อ.ม.91

กรณีฆ่าแล้วข่มขืน

              ถือว่าผู้กระทำมีเจตนาฆ่า (ป.อ.ม.289(6))

              ผู้กระทำมีเจตนาข่มขืนกระทำชำเรา แต่ไม่ต้องรับผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา เพราะผู้ถูกกระทำไม่มีสภาพบุคคล (เป็นเรื่องขององค์ประกอบภายนอก)


โทษคดีข่มขืนในต่างประเทศ

           หากเปรียบเทียบบทลงโทษคดีข่มขืนในต่างประเทศ จะเห็นได้ว่ามีความรุนแรงกว่าในประเทศไทย อาทิ

               ประเทศลาว คาดโทษคดีกระทำชำเราเด็กต่ำกว่า 15 ปี เป็นจำคุก 7-15 ปี ปรับเป็นเงินประมาณ 20,000-60,000 บาท แต่กรณีฆ่าข่มขืน จะต้องรับโทษหนักโดยมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

               ประเทศบรูไน มีบทลงโทษสูงสุดในคดีข่มขืน คือประหารชีวิต

              เกาหลีใต้ลงโทษผู้กระทำชำเราเด็ก ด้วยสารเคมีลดฮอร์โมนและความต้องการทางเพศ ซึ่งถือเป็นชาติแรกในเอเชีย เช่นเดียวกับกฎหมายในสหรัฐอเมริกา (บางรัฐ) เยอรมนี สวีเดน และนอร์เวย์

              ประเทศส่วนใหญ่ในตะวันออกกลาง ลงโทษโดยยึดเจ้าโลกของกลางและตัดทิ้งแบบไม่ต้องรอศาลลงอาญา

              ประเทศจีน ยื่นคำขาดโทษประหารชีวิตสถานเดียวให้แก่ผู้ก่อคดีข่มขืน

              ประเทศรัสเซีย คาดโทษข่มขืนเด็กต่ำกว่า 18 ปี เป็นจำคุก 8-15 ปี ส่วนการข่มขืนเด็กต่ำกว่า 14 ปี ระวางโทษตั้งแต่ 12-20 ปี

              ประเทศฝรั่งเศส คาดโทษคดีกระทำชำเราเด็กต่ำกว่า 15 ปี เป็นจำคุก 20 ปี และในกรณีฆ่าข่มขืน หรือทำให้เหยื่อถึงแก่ความตายมีโทษจำคุก 30 ปี

           ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ จึงเป็นที่มาให้มีการลุกฮือทุกครั้งที่มีข่าวคดีข่มขืนสะเทือนขวัญในบ้านเรา แต่ดูเหมือนเสียงเล็ก ๆ จากโลกไซเบอร์จะยังคงไม่ดังพอ ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันมาสนใจกับเรื่องนี้มากนัก เช่นเดียวกันกับครั้งนี้ ข่าวน้องแก้ม ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางสังคมต่อบทลงโทษของคดีข่มขืนขึ้นอีกครั้ง โดยล่าสุด (8 กรกฎาคม 2557) มีการนัดรวมตัวเพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนกฎหมายลงโทษคดีฆ่าข่มขืน ผ่านเฟซบุ๊ก  พวกเราต้องการเปลี่ยนกฏหมาย คดีข่มขืนให้ลงโทษประหารชีวิตเท่านั้น โดยนัดรวมตัวกันในวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่ลานพาร์ค พารากอน ซึ่งข้อความระบุว่า...

           มารวมตัวกันเป็นพลังเสียง ร่วมเปลี่ยนกฎหมายคดีโทษข่มขืนกันเถอะค่ะ อย่าให้มีเหยื่อสังเวยความกามมากกว่านี้ ทุกกระบอกเสียงสำคัญ ร่วมกันแชร์รวมตัวกันค่ะ ตัวแอดมินเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายมากนัก แต่อยากให้มีอะไรมาเปลี่ยนให้มันดีขึ้น ไม่งั้นก็เกิดเหตุแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราจะรวมตัวกันที่ ลานพาร์คพารากอน เวลา 11.00 อยากให้ทุกคนใส่ชุดสีดำ เพื่อไว้ทุกข์ให้แก่เหยื่อ แอดมินไม่ทราบหรอกนะคะว่าทำแบบนี้จะเปลี่ยนได้ไหมแต่คิดว่าดีกว่าเรานิ่งดูดายกัน ทุกเสียงสำคัญร่วมกันแก้ไข

--- End quote ---

sithiphong:
.

สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย 
มันไม่เคยทำอะไรเลย  ทุกๆท่านที่จะใช้บริการกับการรถไฟ ให้ระมัดระวังตนเองกันให้มากๆ
หากเกิดอะไรขึ้น  การรถไฟฯ  ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย




--- อ้างจาก: sithiphong ที่ กรกฎาคม 08, 2014, 09:01:00 pm ---ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย 

ถ้าใครจะเดินทางโดยทางรถไฟ  ต้องระมัดระวังกันให้มาก  เพราะการรถไฟไม่มีการรับผิดชอบใดๆเลย

--------------------------------------------------------




ย้อนคดีลูกจ้างการรถไฟข่มขืนนักศึกษา ป.โท บนตู้นอน

-http://hilight.kapook.com/view/104822-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          เหตุการณ์ผู้โดยสารถูกข่มขืนบนรถไฟอย่างกรณีข่าวน้องแก้ม วัย 13 ปี ไม่ใช่รายแรกที่เคยเกิดขึ้น ย้อนรอยคดีดังเมื่อปี 2544 ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนแล้ว

          สืบเนื่องจากคดีสะเทือนขวัญของน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกพนักงานปูเตียงบนรถไฟข่มขืนและฆ่า ก่อนโยนร่างของเธอทิ้งหน้าต่างรถไฟขณะเดินทางจากสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น ก็ทำให้ชาวเน็ตต่างตั้งคำถามถึงมาตรการความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะว่ามีเพียงพอหรือยัง และที่สำคัญคดีน้องแก้ม ก็ไม่ใช่คดีข่มขืนคดีแรกที่เกิดขึ้นบนรถไฟ เหตุใดการรถไฟจึงปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุซ้ำรอยแบบนี้ได้

          สำหรับคดีลูกจ้างการรถไฟข่มขืนผู้โดยสารบนรถไฟนั้น ก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2544 ลูกจ้างการรถไฟข่มขืนนักศึกษา ป.โท เกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2544 ซึ่งในคืนเกิดเหตุนั้น นักศึกษาสาวปริญญาโท ได้ใช้บริการตู้นอนรถไฟชั้นสอง สายใต้ สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ แต่กลับถูกลูกจ้างการรถไฟข่มขืนกระทำชำเรา และยังกักขังหน่วงเหนี่ยวนักศึกษาสาวปริญญาโทซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ให้ลงจากขบวนรถไฟดังกล่าว จนกระทั่งเวลาต่อมา เมื่อผู้เสียหายสามารถลงจากขบวนรถไฟได้ ก็เข้าแจ้งความและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด แต่ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี โดยอ้างว่าผู้เสียหายยินยอมหลับนอนกับเขาเอง

          ต่อมา ศาลฎีกาได้มีคำตัดสินว่า ผู้ต้องหาในคดีมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา สั่งจำคุกเป็นเวลา 9 ปี ขณะที่ผู้เสียหายได้ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางการรถไฟ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยทางการรถไฟให้เหตุว่า คดีความดังกล่าว "เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยและผู้เสียหาย" ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการรถไฟ

          หลังจากนี้ สังคมคงจับตาดูว่า ทางการรถไฟ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะออกมาตรการอะไรเพื่อป้องกันมิให้เกิดคดีสะเทือนขวัญเช่นนี้อีก เพราะแม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ดูช้าจนเกินไป แต่ก็คงดีว่าการปล่อยให้มีเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศบนรถไฟอีกเป็นรายต่อ ๆ ไป




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404802626-

--- End quote ---

sithiphong:
.

เดนสังคม   





-------------------------------------------------------------------

เตรียมฝากขัง "ไอ้เกม" ฆ่าข่มขืน "น้องแก้ม" พรุ่งนี้

-http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000077678-





 ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจเตรียมฝากขังผลัดแรก "ไอ้เกม" มาตกรโหดฆ่าข่มขืน "น้องแก้ม" ที่ศาลจังหวัดหัวหินพรุ่งนี้ " ผบก.ประจวบฯ" เผยตั้งแต่รับราชการตำรวจมาจนถึงปัจจุบันไม่เคยพบผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโหดเหี้ยมเช่นนี้
       
       วันนี้ (9 ก.ค.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนนายวันชัย แสงขาว หรือ "ไอ้เกม" อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนฆ่า ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนงค์ หรือน้องแก้ม อายุ 13 ปี บนรถไฟสายสุราษฏร์ธานี-กรุงเทพ ขบวน 174 ว่า วันนี้ผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.ปราณบุรี ผลการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่า ลงมือฆ่าข่มขืนจริง และไม่ได้มีทีท่าแสดงอาการวิตกกังวลแต่ยังใด
       
       "วันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) ก็จะมีการนำต้องหาฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดหัวหิน ก่อนควบคุมตัวไปเข้าเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผมไม่ได้เป็นห่วงว่าเมื่อผู้ต้องหาเข้าสู่เรือนจำแล้วจะปฏิกิริยาจากผู้ต้องขังภายในเรือนจำหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เรือนจำประจวบฯต่อไป" พล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าว
       
       พล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการสอบสวนจะให้เสร็จภายในวันอังคารที่ 15 กรกฏาคมนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี ได้ทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและพยานไปแล้วหลายปาก ซึ่งผู้ต้องหาในคดีนี้จำนนต่อหลักฐานถึงยอมรับสารภาพ แต่ก็ยังพบว่าในการสอบสวนนั้นยังพบว่า ผู้ต้องหายังให้การโกหกบางส่วน นอกจากนั้นในเรื่องไอแพดก็มีเพื่อนของผู้ต้องหานำมาให้
       
       ส่วนคดีก่อนหน้านี้ที่มีการก่อเหตุบนรถไฟแต่ไม่ได้ลงมือฆ่านั้น ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติม และขณะที่ในเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าข่มขืนน้องแก้ม
       
       "ผมยอมรับว่า ตั้งแต่ผมรับราชการตำรวจมาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่เคยพบผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโหดเหี้ยมเช่นนี้"
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการประชุมร่วมกับทีมอัยการของศาลจังหวัดหัวหินถึงการสอบสวนผู้ต้องหา และเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรปราณบุรี เพื่อทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติมและต้องหาทนายให้กับผู้ต้องหาด้วยตามกฎหมาย



นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version