ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
เตือนใจ ให้ระมัดระวังและเป็นอุทาหรณ์ เพื่อป้องกันตนเองสำหรับผู้หญิง
sithiphong:
.
สมควรตาย เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์
เทียบกับหญ้าข้างทาง ไอ้ระยำตัวนี้ มีประโยชน์น้อยกว่าหญ้าที่ขึ้นอยู่ข้างทาง
--- อ้างจาก: sithiphong ที่ กรกฎาคม 10, 2014, 06:07:59 am ---แจ้งจับพ่อเลี้ยงขืนใจลูกเลี้ยงวัย 7 ขวบ ในที่พักกลางสวนยางเมืองตรัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2557 18:50 น.
-http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000077637-
ตรัง - พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศลูกเลี้ยงวัย 7 ขวบคาที่พักในสวนยาง ก่อนที่เหยื่อจะบอกครูที่โรงเรียนให้รับรู้ แล้วประสานผู้เป็นแม่เข้าแจ้งความ ขณะที่ผู้ต้องหาปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้ลงมือกระทำ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (9 ก.ค.) พ.ต.ต.สมยศ สมบัติมาก หัวหน้า สภ.บ้านหนองตรุด อ.เมืองตรัง พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กลอนสม พนักงานสอบสวน สภ.บ้านหนองตรุด ได้นำกำลังเข้าควบคุมตัว นายประสิน หรือสิน นุ่นแก้ว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ที่ 1 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.แพ็ค อายุ 7 ปี มาทำการสอบสวน หลังจากได้ถูก น.ส.เจริญ จันดำ อายุ 40 ปี ผู้เป็นภรรยาแจ้งความร้องทุกข์ว่า สามีได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.แพ็ค ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง เหตุเกิดภายในกงสีที่พักในสวนยางพารา หมู่ที่ 6 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากในวันเวลาดังกล่าว นายประสิน หรือสิน ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ได้บังคับให้ ด.ญ.แพ็ค ดูดหัวนม และอวัยวะเพศของตัวเอง ก่อนที่ต่อมาจะนำอวัยวะเพศของตนเองสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของ ด.ญ.แพ็ค จนสำเร็จความใคร่ จำนวน 1 ครั้ง กระทั่งต่อมาหนูน้อยได้นำเรื่องดังกล่าวไปบอกให้ครูที่โรงเรียนรับทราบ แล้วประสานแม่ของ ด.ญ.แพ็ค เพื่อนำตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในชั้นสอบสวน นายประสิน หรือสิน ยังคงให้การปฏิเสธ ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหนองตรุด ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นไม่ยินยอม แล้วควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
--- End quote ---
พ่อเลี้ยงขืนใจลูก 7 ขวบ ถูกนักโทษกระทืบดับคาเรือนจำตรัง
-http://hilight.kapook.com/view/104918-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้, ข่าวสด
พ่อเลี้ยงตรังข่มขืนลูกสาว 7 ขวบ ถูกนักโทษกระทืบดับคาเรือนจำตรัง หลังถูกส่งเข้าเรือนจำได้เพียงคืนเดียว เหตุ ไปนั่งทับที่เจ้าถิ่นเลยชกต่อยกัน สุดท้ายสู้ไม่ได้
จากกรณีหญิงคนหนึ่งในอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พาลูกสาว อายุ 7 ขวบ เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ลูกสาวถูก นายประสิน หรือ สิน นุ่นแก้ว มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง ล่วงละเมิดทางเพศในที่พักกลางสวนยางพารา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัว นายประสิน เอาไว้ได้เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม แล้วนำตัวส่งฝากขังเรือนจำจังหวัดตรังในวันเดียวกันนั้น
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 กรกฎาคม 2557) ร.ต.อ.เมธี ภิญโญประการ ร้อยเวร สภ.เมืองตรัง รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุ นายประสิน ถูกผู้ต้องหาด้วยกันทำร้ายร่างกายกลางดึกจนเสียชีวิตภายในเรือนนอนผู้ต้องหาแดน 1 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบห้อง 1/1 ที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายวรพงษ์ สุวรรณวิจิตร ผู้ต้องหาคดีวางเพลิง ได้ลงมือกระทืบนายประสินจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ นายเกรียงศักดิ์ ตุลปันโต ผอ.ส่วนควบคุมเรือนจำจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึก หลังรับตัวนายประสินเข้ามาฝากขังที่ห้อง 1/1 แต่นายประสินเข้าไปนั่งในที่นั่งของนายวรพงษ์ จนมีปากเสียงและชกต่อยกัน สุดท้าย นายประสินสู้ไม่ได้ จึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ได้นำศพนายประสินออกจากเรือนจำเพื่อส่งชันสูตรตามขั้นตอนแล้ว
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 14.53 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2557
เรื่องเล่าเช้านี้ จับพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดลูกเลี้ยงวัย7ขวบ กลางสวนยางเมืองตรัง( 10 ก.ค.57)
-http://www.youtube.com/watch?v=huG7ezdehM0-
เรื่องเล่าเช้านี้ จับพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดลูกเลี้ยงวัย7ขวบ กลางสวนยางเมืองตรัง( 10 ก.ค.57)
sithiphong:
นักโทษเตรียมจัดหนัก"ไอ้เกม"รุมตุ๋ยให้สาสมกับความผิด
ชี้ช่วงแรกอยู่ในสายตาผู้คุมรอดไปก่อน ผ่านไปสักพักเผลอเมื่อไหร่ถูกรับน้องชุดใหญ่แน่นอน เหตุคนคุกถือว่าฆ่าข่มขืนเด็กเป็นเรื่องน่ารังเกียจ จำเป็นต้องถูกสั่งสอนด้วยการรุมตุ๋ยให้เข็ดหลาบ
วันพฤหัสบดี 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 21:28 น.
เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 10 ก.ค. พ.ต.ท.เจิญ ชลประเสริฐพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ควบคุมตัว นายวันชัย หรือเกมแสงขาว ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ไปขออำนาจศาลจังหวัดหัวหินฝากขังเป็นผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน หลังยื่นฟ้องนายวันชัยคดีฆ่าข่มขืนกระทำชำเราอำพรางซ่อนเร้นศพ คดีเสพยาเสพติดและคดีลักทรัพย์ ซึ่งไม่ปรากฎว่ามีญาติหรือทนายความของผู้ต้องหามาติดต่อขอประกันตัวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหา ถูกควบคุมอยู่ในห้องขังใต้ถุนศาลจังหวัดหัวหิน เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคำร้องขอฝากขัง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราณบุรี ได้ดูแลนายวันชัยซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างใกล้ชิด โดยศาลได้พิจารณาคำร้องประกอบพยานหลักฐานแล้วมีคำสั่งให้นำตัวนายวันชัยไปฝากขังเป็นผัดแรก
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ราชฑัณฑ์จากเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ควบคุมผู้ต้องหาออกจากศาลจังหวัดหัวหินเดินทางไปเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งเวลา 12.20 น. รถควบคุมผู้ต้องขังเดินทางถึงบริเวณด้านหน้าเรือนจำ จ.ประจวบคีรขันธ์ ผู้คุมเรือนจำได้เปิดประตู 1 ด้านหน้า โดยพนักงานขับรถได้นำรถเข้าไปภายใน และปิดประตูทันทีพร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันรอบบริเวณ โดยไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพทำข่าวแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันบรรดาญาติผู้ต้องขังจำนวนมาก ที่มารอเยี่ยมนักโทษด้านหน้าเรือนจำเนื่องจากตรงกับวันเยี่ยมญาติ หลังจากทราบข่าวว่ามีการคุมตัวนายวันชัยมาคุมขังต่างกรูเข้ามามุงดูอยู่บริเวณภายนอก ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนายวันชัยเข้าควบคุมตัวเข้าห้องควบคุมที่จัดไว้เป็นกรณีพิเศษ ร่วมกับผู้ต้องหาสูงอายุ อีก 4 คน ซึ่งจากเดิมรถขนส่งผู้ต้องขังจะเดินทางมาศาลจังหวัดหัวหินหลัง 16.30 น. แต่กรณัของนายวันชัยหลังจากศาลพิจาณาให้ฝากขัง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวขึ้นรถควบคุมมาทันที
โดยนายสุทิน ชิตชอบ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสนใจผู้ต้องหาคดีนี้เป็นอย่างมากและมีคำสั่งให้ตนรายงานแผนคุมขังให้กรมราชทัณฑ์ทราบ โดยเน้นย้ำในการรักษาความปลอดภัยและหลังจากนำผู้ต้องหาเข้าคุมขังภายในเรือนจำ เนื่องจากเป็นคดีที่มีสำคัญจึงต้องมีการตีตรวนขณะคุมขัง และมีการปฎิบัติเช่นเดียวกับนักโทษทั่วไปโดยอยู่ในการดูแลเป็นกรณีพิเศษ
ขณะที่อดีตผู้ต้องหาขังรายหนึ่งในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า หลังนายวันชัยเข้าไปควบคุมตัวสิ่งแรกคือจะมีการนำตัวไปตัดผมสั้น และสวมชุดนักโทษส่วนกรณีที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกกันว่าจะมีการรุมทำร้าย แม้ว่าจะมีมาตรการป้องกันอย่างดีนั้น ต้องบอกว่าในเรือนมีผู้ต้องขังชายกว่า 2,200 คน มากกว่าผู้คุมหลายเท่า โดยขณะที่นำตัวไปตัดผม ไปรับประทานอาหารหรือ ไปอาบน้ำรวมอาจจะถูกเพื่อนนักโทษที่ไม่พอใจเข้ามาประชิดตัวเพื่อรุมทำร้าย ช่วงแรกน่าจะยังไม่มีใครกล้าทำอะไรเพราะเป้าหมายอยู่ในความดูแลของผู้คุมเป็นพิเศษ แต่เชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์ผ่านไประยะหนึ่งแล้ว นายวันชัยต้องโดนรับน้องใหม่อย่างแน่นอน ประเด็นอยู่ที่ว่าจะโดนยำของหนักหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าคงจะโดนหนักแน่นอนเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลยโดยเฉพาะประตูหลังถูกลวงละเมิดแน่ สาเหตุใหญ่เพราะไปฆ่าข่มขืนเด็ก ถือเป็นสิ่งที่คนในคุกแสดงความรังเกียจอย่างรุนแรง.
-http://www.dailynews.co.th/Content/regional/251346/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81_%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1_%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94-
--- อ้างจาก: sithiphong ที่ กรกฎาคม 10, 2014, 10:31:01 pm ---ถูกใจมาก
ตอนที่มันมองหน้า
น่าจะต่ออีกชุดใหญ่
:25: :25: :25: :25: :25:
-----------------------------------------------
วันชัย แสงขาว โดนโบก คลิปตำรวจตบกะโหลกสั่งสอน
-http://hilight.kapook.com/view/104890-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ poy oa สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
วันชัย แสงขาว โดนโบก คลิปชอตเด็ด ตำรวจตบกะโหลกคนร้ายฆ่าน้องแก้ม ชาวเน็ตแห่กดไลค์และแชร์เป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในแฟนเพจ "Princessof Rain" ได้แชร์คลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตบกะโหลก นายวันชัย แสงขาว หรือเกม ผู้ต้องหาข่มขืนแล้วฆ่าน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี จนเสียชีวิต ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ จุดเกิดเหตุที่สถานีรถไฟวังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการโพสต์คลิปดังกล่าวปรากฏว่าชาวเน็ตเข้าไปกดไลค์และร่วมแสดงความคิดเห็นถูกอกถูกใจกันอย่างมากมายทีเดียว
จนท.สอบสวน เม้งแตก ตบกะโหลก "ไอ้เกม" ผู้ต้องหาข่มขื่น "น้องแก้ม"
-http://www.youtube.com/watch?v=3ohw071zLYE-
คลิป จนท.สอบสวน เม้งแตก ตบกะโหลก "ไอ้เกม" ผู้ต้องหาข่มขื่น "น้องแก้ม" โพสต์โดยคุณ poy oa
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ทีนิวส์
--- End quote ---
sithiphong:
พ่อ"ไอ้เกม"ยันลูกมีพฤติกรรมหมกมุ่นเรื่องเพศ
-http://www.dailynews.co.th/Content/crime/251495/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD_%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1_%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8-
ตำรวจคุมเพื่อน "ไอ้เกม" สอบเพิ่ม กันเป็นพยาน ด้าน พ่อผู้ต้องหาให้ปากคำเพิ่ม ชี้ก่อนเกิดเหตุ หนึ่งอาทิตย์เกี้ยวสาวเข้าบ้านเสพสมนับสิบราย
วันพฤหัสบดี 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 20:40 น.
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่ สน.นพวงษ์ บิดาของนายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนและฆ่าน้องแก้ม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประเทือง สุภารัตน์ พงส.ผนพ.สภ.สามกระทาย จ.ประขวบคีรีขันธ์ ในฐานะชุดพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม โดย พ.ต.ท.ประเทือง เปิดเผยว่า ทางพ่อและแม่ของนายวันชัยได้เข้าให้ปากคำถึงพฤติกรรมนิสัยของนายวันชัย ทำนองว่า บุตรชาย มีนิสัยเงียบ ไม่ค่อยพูดหรือสุงสิงกับใคร หลังเกิดเหตุนั้น ได้นำโทรศัพท์ไอโฟนมาใช้ จึงได้ถามว่าไปได้โทรศัพท์มาอย่างไร ผู้ต้องหาเล่าเพียงว่า "ไปเจอมา"
พ.ต.ท.ประเทือง กล่าวอีกว่า ในส่วนของพยานหลักฐานอื่น ๆ จำพวกผลการตรวจรอยนิ้วมือแฝง ผลเลือด ดีเอ็นเอที่พบที่เกิดเหตุรวมทั้งผลการตรวจนิติเวชจะออกมาในวันนี้ ในส่วนของแท็บเล็ตนั้น จากการสอบถามทราบว่า เป็นของ"น้องแก้ม" และหลังเกิดเหตุ นายวันชัยได้ฝากไว้ที่เพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งวานนี้ได้นำมามอบคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เป็นที่น่าตกใจ เมื่อทางพ่อของผู้ต้องหา เปิดเผยข้อมูลว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ นายวันชัย ได้พาผู้หญิงเข้าบ้านกว่าสิบสองคนไม่ซ้ำหน้ากัน รวมทั้งนายวันชัยมีพฤติกรรมเก็บตัวเงียบหมกมุ่นชอบดูหนังลามกอีกด้วย
ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้นำตัว "นายหนึ่ง" นามสมมุติ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ของพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวน 174 ในวันเกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งนำหลักฐานที่ค้นได้ที่บ้านพักของนายวันชัย อาทิ รองเท้า เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว มาส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน เบื้องต้นนายหนึ่งให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้กินเบียร์กับพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวนดังกล่าวร่วมกัน โดยหนึ่งในนั้นมีนายเกมหรือ นายวันชัยร่วมด้วย โดยนายวันชัยเล่าให้ฟังว่าแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่บนรถไฟ และได้แอบมองมาตั้งแต่ขึ้นขบวนจากจังหวัดสุราษฎธานี
จากนั้นนายวันชัยได้เดินไปที่โบกี้ที่ 3 ก่อนจะหายไป หลังจากนั้นไม่นานนายเกมก็ได้เดินกลับมาหาตน ตนถามว่าเด็กซึ่งคือน้องแก้มหายไปไหน นายเกม ตอบว่าโยนน้องแก้มทิ้งไประหว่างสถานีวังก์พงกับเขาเต่า จากนั้นตนก็ได้สังเกตเห็นว่านายเกมมีโทรศัพท์ไอโฟน จึงถามว่าของใคร นายเกมบอกเพียงว่าเก็บมาได้ และเมื่อถึงกรุงเทพก็จะนำไปขายเอาเงินมาแบ่งให้ตน จนกระทั้งถึงกรุงเทพนายเกมก็ได้นำโทรศัพท์ไปขาย และก็ไม่ได้นำเงินให้ตน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ฐิติราข หนองหารพิทักษ์ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ ได้เดินทางมาสอบปากคำนายหนึ่ง อายุ 19 ปี นามสมมุติ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้นำตัวนายหนึ่งมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยนายหนึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กันตัวนายหนึ่งไว้เป็นพยาน
ทั้งนี้ในตอนแรกนายหนึ่งยังไม่กล้าพูดเนื่องจากกลัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้มาพูดคุยปรับความเข้าใจกับนายหนึ่ง ซึ่งก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และถือเป็น พยานชั้นดีเพราะเป็นเพื่อนร่วมงานและให้การเป็นประโยชน์ที่จะทำให้ศาลเชื่อและมีน้ำหนัก อย่างไรก็ตามสำหรับคดีนี้ เจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน รวมทั้งการสืบสวนต้องมีความรัดกุมที่จะนำไปสู่ชั้นอัยการในชั้นศาลได้ ซึ่งหากจะจับใครเพิ่มต้องมีพยานหลักฐานให้เพียงพอเพื่อที่จะไปขอหมายจับจากศาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่า นายวันชัยก่อเหตุเพียงลำพัง สำหรับผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมฝักใฝ่หมกมุ่นกับเรื่องเพศ รวมทั้งมีประวัติในการเสพยา เจ้าหน้าที่จะได้กันตัวนานหนึ่งกันไว้เป็นพยาน ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปให้พนักงานสอบสวนสภ.ปราณบุรีสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป.
---------------------------------------------------------------------
ตำรวจคุมเพื่อนไอ้หื่นข่มขืนน้องแก้มสอบเครียด ส่อรู้เห็นเป็นใจ อีกรายโผล่มอบ “แท็บเล็ต” ให้ ตร.
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 10 กรกฎาคม 2557 17:58 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000078119
ตำรวจควบคุมตัวเพื่อน “ไอ้เกม” ผู้ต้องหาข่มขืน “น้องแก้ม” บนรถไฟสอบเครียด เผยไอ้หื่นวางแผนก่อเหตุระหว่างทางบนรถไฟ เล็งน้องแก้มตั้งแต่ขึ้นรถไฟ ปัดไม่มีส่วนรู้เห็น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ด้านเพื่อนอีกรายโผล่มอบหลักฐาน “แท็บเล็ต” น้องแก้มให้ตำรวจอ้างไอ้หื่นนำมาฝากไว้แต่ไม่มีส่วนรู้เห็น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ สน.นพวงษ์ นายสุวัฒน์ แสงขาว บิดาของ นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องแก้มได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประเทือง สุภารัตน์ พงส.ผนพ.สภ.สามกระทาย จ.ประขวบคีรีขันธ์ ในฐานะชุดพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม
พ.ต.ท.ประเทือง กล่าวว่า โดยทางพ่อของนายวันชัยได้ เล่าว่า นายวันชัยเป็นคนที่เงียบ ไม่ค่อยพูดหรือสุงสิงกับใครทั้งนี้ หลังเกิดเหตุนั้น ทางนายวันชัยได้นำโทรศัพท์ไอโฟนมาใช้ ซึ่งก็ได้ถามว่าไปได้โทรศัพท์มาได้อย่างไร ซึ่งนายวันชัย เล่าเพียงว่าเก็บได้ นอกจากนี้ นายวันชัย ยังเล่าอีกว่า ในวันนั้นมีผู้โดยสารหายไปจากรถไฟ แต่ตนไม่เอะใจอะไร ในส่วนของพยานหลักฐานอื่นๆ นั้น จำพวกผลการตรวจรอยนิ้วมือแฝง ผลเลือดดีเอ็นเอที่พบที่เกิดเหตุรวมทั้งผลการตรวจนิติเวชจะออกมาในวันนี้ ในส่วนของแท็บเล็ตนั้นจากการสอบถามทราบว่าเป็นของน้องแก้ม และหลังเกิดเหตุนายวันชัยได้ฝากไว้ที่เพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งวานนี้ได้นำมามอบคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้นำตรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวอีกว่า ทางพ่อและแม่ เล่าว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อเกิดเหตุ นายวันชัยได้มีพาผู้หญิงเข้าบ้านกว่าสิบสองคนไม่ซ้ำหน้ากัน รวมทั้งนายวันชัยมีพฤติกรรมเก็บตัวเงียบหมกมุ่นชอบดูหนังลามก
จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้นำตัวนายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ของพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวน 174 ในวันเกิดเหตุ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมรวมทั้งนำหลักฐานที่ค้นได้ที่บ้านพักของนายวันชัย อาทิ รองเท้า เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว มาส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน
เบื้องต้นนายสมชาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้กินเบียร์กับพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวนดังกล่าวร่วมกัน โดยหนึ่งในนั้นมีนายวันชัยร่วมด้วย ซึ่งนายวันชัยได้เล่าให้ฟังว่าได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่บนรถไฟโบกีที่ 3 เตียงที่ 28 และได้แอบมองมาตั้งแต่ขึ้นขบวนจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้วางแผนว่าจะไปข่มขืน จากนั้นนายวันชัยก็ได้เดินไปที่โบกีที่ 3 ก่อนจะหายไป หลังจากนั้นไม่นาน นายวันชัยก็ได้เดินกลับมาหาตน ตนก็เลยถามว่าเด็กซึ่งคือน้องแก้มได้หายไปไหน นายเกมก็ได้ตอบไปว่าได้โยนน้องแก้มทิ้งไประหว่างสถานีวังก์พงกับเขาเต่าแล้ว จากนั้นตนก็ได้สังเกตเห็นว่านายวันชัยมีโทรศัพท์ไอโฟน ก็ได้ถามว่าของใคร นายวันชัย บอกเพียงว่าเก็บมาได้ และเมื่อถึงกรุงเทพฯก็จะนำไปขายเอาเงินมาแบ่งให้ตนจนกระทั่งถึงกรุงเทพฯนายวันชัยก็ได้นำโทรศัพท์ไปขาย แต่ก็ไม่ได้นำเงินให้ตน
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. กล่าวเพิ่มเติมคดีของ “แก้ม” ว่า ขณะนี้ได้วัตถุพยานสำคัญเพิ่มเติม คือ แท็บเล็ต ของ “น้องแก้ม” โดยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายวันชัย โทรศัพท์หานายมาร์ค บอกว่าจะมาหา เช้าวันรุ่งขึ้นนายวันชัย มาหานายมาร์คที่บ้าน ย่านซอยระนอง และถือแท็บเล็ตกับไอโฟน 5 มาด้วย แล้วบอกว่าทะเลาะกับแฟน ไม่อยากให้แฟนรู้ว่าซื้อแท็บเล็ตใหม่ จึงขอฝากไว้ ส่วนนายวันชัยเก็บไอโฟนไว้ที่ตัว ซึ่งนายมาร์คไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่นายวันชัย ก่อเหตุฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม”
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า จากการตรวจสอบแท็บเล็ต เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นของ “น้องแก้ม” เพราะด้านหลังแท็บเล็ตมีข้อความเขียนว่า โครงการเพื่อการศึกษา ตัวย่อ น.บ. คงย่อมาจาก “สตรีนนทบุรี” ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อสอบปากคำอาจารย์โรงเรียนสตรีนนทบุรี เพื่อเป็นพยานและหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหา ว่า ทรัพย์สินของผู้ตายมาอยู่ที่ผู้ต้องหาได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวนติดตามไอโฟน 5 ของผู้ตายได้ หลังจากนายวันชัย นำไปขายที่ร้านโทรศัพท์ย่านศรีย่าน โดยเจ้าของร้านมีหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนของนายวันชัย ที่เป็นผู้นำมาขาย พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด
ส่วนเพื่อนอีก 3 คน ที่นั่งกินเบียร์ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวน แต่ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงนายมาร์ค ที่นำแท็บเล็ตมาคืน ได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยอ้างว่า ทราบข่าว จึงเกิดความกลัว แล้วไปปรึกษาลุงที่รู้จักกับตำรวจ และนำแท็บเล็ตไปคืนตำรวจรถไฟนพวงศ์
ทั้งนี้ นายวันชัย ให้การว่า เคยก่อคดีข่มขืนผู้เสียหายพนักงานรถไฟในห้องน้ำบนรถไฟมาแล้ว 2 ราย พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า อยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายอยู่ขณะนี้ยังไม่พบและไม่มีการแจ้งความ
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า นายวันชัย ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียวหรือไม่ พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าว ขณะนี้จากการสืบสวนสอบสวนจากหลักฐานเบื้องต้นนั้น นายวันชัย ก่อเหตุเพียงคนเดียว พร้อมทั้งรับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้าจากสถานีต้นทาง 2 เม็ด จนถึง จ.สุราษฎร์ธานี ได้กินยาบ้าอีก 1 เม็ด จากนั้นก็กินเบียร์ โดยแอบมองจ้องเหยื่ออยู่ก่อนแล้ว ก่อนลงมือฆ่าข่มขืนเหยื่อเนื่องจากเกิดอารมณ์ เพราะเห็น “น้องแก้ม” ยืนเอื้อมหยิบเอาของก่อนจะเข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำ
sithiphong:
สหรัฐประหารนักโทษข่มขืน-ฆ่าเด็ก
-http://www.dailynews.co.th/Content/foreign/251532/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%99-%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81+%28%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%29-
นายเอ็ดดี เวย์น เดวิส ผู้ต้องหาคดีข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงอายุ 11 ปี เมื่อ 20 ปีที่แล้วในรัฐฟลอริดา รับโทษประหารชีวิตแล้วด้วยการฉีดสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด
วันศุกร์ 11 กรกฎาคม 2557 เวลา 09:06 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางรัฐฟลอริดาทำการประหารชีวิตนายเอ็ดดี เวย์น เดวิส วัย 45 ปี ด้วยการฉีดสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด หลังศาลฎีกาพิพากษายืนโทษประหาร จากความผิดฐานก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศและฆาตกรรมด.ญ.คิมเบอร์ลีย์ วอเทอร์ส วัย 11 ปี เมื่อปี 2537
สำนวนคดีของอัยการระบุ คิมเบอร์ลีย์เป็นบุตรสาวของหญิงที่เดวิสคบหาด้วยไม่นาน ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาบุกรุกเข้าไปในรถเทรลเลอร์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเด็กหญิงกับมารดาในช่วงกลางดึก โดยเดิมทีเดวิสต้องการเพียงปล้นทรัพย์สิน แต่เมื่อพบเด็กหญิงจึงลงมือข่มขืนด้วย ก่อนลักพาตัวเธอไปยังกระท่อมร้างแห่งหนึ่ง แล้วทำร้ายร่างกายเหยื่อด้วยการตบตีก่อนสังหารเธอ ด้วยการใช้ถุงพลาสติกครอบรัดศีรษะจนขาดอากาศหายใจ
เดวิสถือเป็นนักโทษคนที่ 6 ของรัฐฟลอริดาตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งรับโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต และเป็นคนที่ 13 ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา
Convicted murderer prepares for execution
-http://www.youtube.com/watch?v=wMcXUYx2s7U-
Convicted murderer prepares for execution
sithiphong:
สุดหดหู่! คดีสลดใจบน ‘ตู้นอน’ รถไฟ วอนไม่ให้ลดโทษประหารคดีข่มขืนฆ่า
-http://www.dailynews.co.th/Content/Article/251054/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B9%88!+%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%9A%E0%B8%99+%E2%80%98%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E2%80%99+%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F+%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2-
นับเป็นคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญสังคมและสลดหดหู่ใจเป็นอย่างมาก กับเรื่องราวสุดรันทดของเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสงสาร ขณะโดยสารมากับรถไฟ!
นับเป็นคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญสังคมและสลดหดหู่ใจเป็นอย่างมาก กับเรื่องราวสุดรันทดของเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสงสาร ขณะโดยสารมากับรถไฟ!
ไม่มีใครคาดคิดว่าการเดินทางกลับไปเยี่ยมคุณยายใน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ ธานี ของเด็กสาวจะกลายเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายที่ไม่มีโอกาสได้กลับมาพบหน้ากับครอบครัวอีกตลอดกาล เมื่อเธอต้องมาพบกับเรื่องราวเลวร้ายแบบไม่คาดฝันบนตู้นอนรถไฟที่โดยสารกลับบ้าน
หากย้อนกลับไปช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 5 ก.ค. เด็กหญิงวัย 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 ได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร มากับพี่สาว, น้องสาว วัย 10 ขวบ และมีเพื่อนชายของพี่มาด้วยอีกคน รวมทั้งหมด 4 คน ออกเดินทางจากสถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เวลา 17.00 น. (วันที่ 5 ก.ค.) รถไฟขบวนที่ 174 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพมหานคร ตู้นอนชั้น 2 แบบพัดลม ที่นั่ง 28 โบกี้ที่ 3โดยมีกำหนดถึงปลายทางช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ค.
สภาพรถไฟแบบตู้นอน ชั้น 2 ซึ่งเป็นพัดลม ไม่มีประตูกั้นระหว่างโบกี้ ส่วนที่นอนเป็นแบบ 2 ชั้น มีเพียงแค่ม่านรูดกั้นไว้เฉย ๆ เด็กสาวนอนอยู่ที่ชั้นล่าง โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับเธอแต่อย่างใด
ช่วงประมาณ ตี 2 (วันที่ 6 ก.ค.) ระหว่างถึงสถานีหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พี่สาวได้งีบหลับไปสักพักใหญ่ กระทั่งราวตี 4 ตื่นขึ้นมา รถไฟวิ่งถึงสถานีจังหวัดนครปฐม พลันก็ต้องตกใจเมื่อไม่เห็นน้องนอนอยู่ที่เตียง พยายามออกเดินตามหาตามโบกี้ต่างๆก็ไม่เจอ เมื่อรถวิ่งถึงสถานีบางซื่อ มารดามารอรับที่นัดหมาย เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวก็ไม่นิ่งนอนใจ รีบพากันไปแจ้งความตำรวจรถไฟ ที่สถานีนพวงศ์ ช่วงเช้าวันที่ 6 ก.ค.
การตรวจสอบบริเวณเตียงนอนของเด็ก พบว่ามีร่องรอยคล้ายการต่อสู้ ผ้าปูเตียงไม่มี นอกจากนี้กระเป๋าเสื้อผ้าและโทรศัพท์มือถือ “ไอโฟน 5 เอส” ก็ได้สูญหายไป
แต่เรื่องราวทั้งหมดสื่อมวลชนมาทราบในช่วงเช้าของวันที่ 7 ก.ค. เมื่อข้อมูลเรื่องเด็กหญิงหายไปจากตู้นอนรถไฟ อย่างเป็นปริศนากระจายออกไปทางโลกโซเชียลมีเดีย สื่อหลากหลายแขนงจึงได้เริ่มเกาะติดข้อมูล ขณะที่ พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ. ได้รีบประสานงานกับ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อเร่งตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเป็นการด่วนทันที รวมทั้งมีการประสานงานไปยัง พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่อง จากเป็นจุดที่พี่สาวยืนยันว่างีบหลับไปตอนที่ถึงสถานีหัวหิน ช่วงนั้นเด็กยังอยู่ จึงเป็นไปได้ว่าเด็กน่าจะหายตัวไปเมื่อผ่านสถานีหัวหินมาแล้ว ทำให้ทั้งทางตำรวจและทางเจ้าหน้าที่รถไฟต่างช่วยกันระดมออกค้นหาตั้งแต่สถานีหัวหิน-เพชรบุรี มีการประสานข้อมูลกันทั้งส่งรูปภาพออกติดตามหาตัว
คดีนี้นอก จากตำรวจรถไฟแล้ว พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก รอง ผบช.ภ.7 ยังได้ส่งทีมสืบสวน บช.ภ.7 ร่วมกันเข้าไปช่วยตรวจสอบแล้ว ขณะที่ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. มอบหมายให้ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. นำกำลังตำรวจ ดส. เข้าไปร่วมตรวจสอบด้วยอีกทางหนึ่ง เนื่องจากค่อนข้างมีความเชี่ยวชาญสืบสวนเกี่ยวกับคดีเด็กและสตรี ทำให้มีการควานหาตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบ
โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานและลูกจ้างบนรถไฟประจำขบวนรถไฟดังกล่าวมีใครบ้าง?
การสอบปากคำเบื้องต้นทำให้ตำรวจ ได้เป้าหมาย กลุ่มผู้ต้องสงสัยชุดแรก 4 คนเป็นชายฉกรรจ์ ที่น่าสนใจคือมีผู้โดยสารเห็น พฤติกรรมทั้งหมดจับกลุ่มกินเบียร์อยู่บริเวณทางเดินระหว่างโบกี้ช่วงกลางดึก ทางพนักงานสอบสวนจึงรีบประสานกับทางการรถไฟติดตามตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ ตรวจร่างกายอย่างละเอียดทันที พบ 1 ใน 4 มีร่องรอยเหมือนถูกขีดข่วนร่างกาย แต่ทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใดทั้งสิ้น ส่วนร่องรอยถูกขีดข่วนก็อ้างว่ามาจากการขนของ
อย่างไรก็ดีเมื่อนำผลตรวจปัสสาวะส่งไปตรวจ พบว่าบางคนมีสีม่วง ทำให้ตำรวจยังไม่ค่อยปักใจเชื่อในคำให้การเท่าไรนักจึงได้แยกตัวไปสอบคนละห้องเพื่อจับพิรุธคำให้การของแต่ละบุคคล ขณะที่การทำงานของตำรวจหลายหน่วยทั้ง บช.ก., บช.ภ.7 และบช.น. ที่แยกย้ายกันไปทำงานมีทั้งลงไปในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี โดยเฉพาะตามสถานีรถไฟฯ นอกจากนี้ทางนายประภัสร์ ผู้ว่าการการรถไฟฯก็ตั้งรางวัล 5 หมื่นบาท ในการชี้เบาะแสหาตัว
ตลอดทั้งวันที่ 7 ก.ค. เมื่อมีการเผยแพร่ภาพเด็กไปทางโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กหรือไลน์ จึงมีข้อมูลเข้ามามากมาย บ้างก็ว่ามีแม่ค้าที่ชะอำ พบเด็กรูปร่างใกล้เคียงกันมากินข้าวกับชายหนุ่ม แต่เมื่อตำรวจ ภ.จว.เพชรบุรี กระจายกำลังไปตรวจสอบก็ไม่พบ
รายละเอียดแต่อย่างใด
คดีนี้ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็มีความสำคัญต่อการสืบสวนขยายผล เมื่อทีม ตร.สืบสวนนครบาล ตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิคจากโทรศัพท์มือถือที่สูญหาย ก็ทำให้สามารถช่วย “ไขกุญแจปริศนา” ช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 7 ก.ค. ตำรวจสามารถแกะรอยติดตามไปจนเจอมือถือถูกนำไปขายเอาไว้ที่ร้านมือถือแห่งหนึ่ง ย่านตลาดศรีย่าน
ที่สำคัญทางร้านได้บันทึกภาพผู้ที่นำมือถือมาขายเอาไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องสงสัย คือ นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี หรือ เกม พนักงานปูเตียงบนขบวนรถไฟดังกล่าว เมื่อจนมุมต่อพยานหลักฐานสุดท้ายยอมเปิดปากสารภาพว่าได้ลงมือข่มขืนฆ่าเด็กจริง ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าไป 3 เม็ด และดื่มเบียร์จนมึนเมา จึงฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุในช่วงรถไฟวิ่งผ่านสถานีหัวหิน บุกเข้าไปก่อเหตุบีบคอเหยื่อจนสลบแล้วลงมือข่มขืน จากนั้นโยนร่างทิ้งออกมาทางหน้าต่างขณะรถไฟกำลังวิ่งผ่านสถานีวังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ แล้วรีบทำความสะอาด เก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว รวมถึงผ้าปูที่นอนที่เปรอะคราบเลือด โยนทิ้งออกนอกหน้าต่างพร้อมหยิบมือถือเหยื่อเอาไปขายในวันรุ่งขึ้น
ภายหลังนายวันชัย เปิดปากสารภาพตำรวจจึงระดมกำลังพร้อมหน่วยกู้ภัยฯ ช่วยกันออกค้นหาร่างทันที ประมาณเวลา ตี 4 (วันที่ 8 ก.ค.) จึงพบร่างเด็กเสียชีวิตไปแล้วอย่างน่าสงสาร ร่างอยู่ในพงหญ้าห่างจากรางรถไฟเพียงแค่ 2 เมตร บรรดาคนในครอบครัวญาติพี่น้องที่ทราบข่าวพบศพแทบหัวใจสลายร่ำไห้ปานจะขาดใจ รวมไปถึงผู้คนที่ติดตามข่าวต่างก็เสียใจไม่แพ้กัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้บนรถไฟ จะเรียกว่ากลายเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้าง ’ช็อกสังคม“ อย่างมาก ทำให้มีกระแสสังคมติดมามากมายหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะมาตรการรักษาความปลอดภัยบนขบวนรถไฟในช่วงดึกสงัด รวมไปถึงประเด็นสำคัญ การเสนอไม่อยากให้มีการลดโทษประหาร “คดีข่มขืนฆ่า” ให้กับผู้กระทำความผิด ถึงขั้นมีการเตรียมออกมารณรงค์ให้เพิ่มโทษอีก ดังนั้นต้องจับตาดูจากบทเรียนนี้ทางหน่วยงานเกี่ยวข้องต่าง ๆ จะออกมาดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมเช่นไรบ้าง!!.
ทีมข่าวเฉพาะกิจ : รายงาน
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version