ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

อาชญากรรม ศาสนาและการเมือง ที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

<< < (7/10) > >>

sithiphong:
ร่วมไว้อาลัยและส่งศพ 8 ทหารเหยื่อระเบิดกรงปินัง กลับมาตุภูมิ
-http://hilight.kapook.com/view/87943-
























เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, AFP

          จนท.ส่งศพทหารกล้า 8 นาย กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้ว   หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเมื่อวานนี้ (29 มิถุนายน 2556)
 
          หลังจากที่เมื่อวานนี้ (29 มิถุนายน 2556) เมื่อเวลา 06.27 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบนเส้นทางสายบ้านกูวา ตำบลห้วยกระทิง อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา-บ้านป่าหวัง อำเภอบันนังสตา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดร้อย ร.4012 ซึ่งกำลังสับเปลี่ยนกำลังพล ใช้รถยนต์โยนิม็อกลำเลียงเจ้าหน้าที่ทหารออกจากฐานปฏิบัติการที่บ้านแบหอ หมู่ 2 ตำบลห้วยกระทิง อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา แรงระเบิดส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 8 นาย และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย นั้น

          ล่าสุดวันนี้ บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา วันนี้ (30 มิถุนายน 2556) เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ก็ยังคงคุมเข้มในพื้นที่ และเข้าตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ หลังจากเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 13 ยะลา เสียชีวิตถึง 8 นาย และในเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ไปยังสนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อส่งศพทหารกล้า กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดของแต่ละคน ท่ามกลางความเสียใจของประชาชนที่เห็นขบวนส่งศพยาวเหยียด

สำหรับรายชื่อทหารทั้ง 8 นายที่เสียชีวิตและนำกลับบ้านเกิด มีรายชื่อดังนี้

          จ.ส.อ.วิโรจน์ คำเรือง จะบำเพ็ญกุศลที่วัดนครสวรรค์

          ส.ท.คมกริช เพตะกร บำเพ็ญกุศลที่วัดม่วงสุม จังหวัดน่าน

          ส.ท.อานนท์ บางศิริ บำเพ็ญกุศลที่ วัดนิยมธรรมมาราม จังหวัดราชบุรี

          พลฯธีรพงษ์ ดวงสุวรรณ์ บำเพ็ญกุศลที่วัดอุดมวัฒนา จังหวัดนครสวรรค์

          พลฯจีรพัฒนห์ บรรณสาร วัดบ่อสามแสน จังหวัดกำแพงเพชร

          พลฯพิษณุเดช หอยสังข์ วัดคลองลึก จังหวัดกำแพงเพชร

          พลฯศักดา วงษ์คำ วัดป่านาหล่ม จังหวัดกำแพงเพชร

          พลฯสว่าง นามไพร วัดโปร่งขาม จังหวัดกำแพงเพชร

          ทีมงานกระปุกดอทคอม ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารทั้ง 8 คน และขอให้ดวงวิญญาณทหารนี้จงไปสู่สุขคติค่ะ

INN



.

sithiphong:
ป่วน ! ปัตตานี พ่นสี 2 อำเภอ ขับไล่ทหาร
-http://hilight.kapook.com/view/88909-






ป่วน!ปัตตานี พ่นสี 2 อำเภอ ขับไล่ทหาร (ไอเอ็นเอ็น)

          มือดีป่วน! ปัตตานี ตระเวนพ่นสี 2 อำเภอ 20 จุด เพื่อขับไล่ทหารออกจากพื้นที่

          วันนี้ (22 กรกฎาคม 2556) เจ้าหน้าที่ของ จ.ปัตตานี เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายพ่นสีขับไล่ทหารออกจากพื้นที่ ล่าสุด พบข้อความดังกล่าวที่คนร้ายพ่นสีตามท้องถนน ใน 2 อำเภอของ จ.ปัตตานี คือ อ.เมือง พบ 3 ตำบล อ.ยะรัง 1 ตำบล ทั้งหมด 2 อำเภอ มีการพ่นสี มากกว่า 20 จุด ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุด EOD ได้ทำการตรวจสอบ และพ่นสีทับ เพื่อลบข้อความแล้ว

INN

sithiphong:
มือปืนยิงถล่มกำนันหนองแรต ปัตตานี ดับคารถ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    22 กรกฎาคม 2556 19:00 น.
-http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000090020-



ปัตตานี - มือปืนดักยิงถล่ม “กำนันแหนบทองคำหนองแรต” จังหวัดปัตตานีดับคารถ ขณะเดินทางกลับที่พัก เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดสาเหตุเรื่องการเมืองท้องถิ่น หรือสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
       
       วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส ม.3 ต.บานา จึงรีบรายงานให้ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก. ทราบแล้วนำกำลังไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู รุ่นดีแมคซ์สีดำ ทะเบียน กง 3259 ปัตตานี ตกลงคูน้ำเกาะกลางถนน และชนต้นไม้จนด้านหน้าพังเสียหาย
       
       ส่วนบริเวณตัวรถมีรูกระสุนหลายแห่งพรุนทั้งคัน ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด ทราบชื่อ นายมะดารี ลาแม็ง อายุ 49 ปี เป็นกำนันตำบลหนองแรต อยู่บ้านเลขที่ 10/2 ม.3 ต.หนองแรต อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเข้าศีรษะและลำตัวหลายนัด ภายในรถพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. และอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ของผู้ตาย ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกเกลื่อนกว่า 30 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       
       จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ผู้ตายขับรถยนต์ตามลำพังมาจากตัวเมืองปัตตานี และกำลังเดินทางกลับบ้านพัก ปรากฏว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คน ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ขับแซงด้านขวา คนร้ายซึ่งนั่งหลังกระบะถล่มยิงทันทีหลายสิบนัดจนเสียงดังสนั่น ทำให้รถประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนต้องเบรกกะทันหันด้วยความตกใจ คนร้ายยังลงมายิงซ้ำอีกหลายนัด โดยปฏิบัติการอุกอาจเพียง 3 นาที จึงเร่งเครื่องหลบหนีไป
       
       หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งระดมกำลังในพื้นที่ และเขตรอยต่อสกัดรถของคนร้ายทุกเส้นทาง พร้อมประสานพื้นที่รอยต่อ อ.ยะหริ่ง และ อ.หนองจิก ให้ออกไล่ล่าคนร้าย ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องการเมืองท้องถิ่น แต่ก็ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นสร้างสถานการณ์
       
       สำหรับผู้ตายเพิ่งจะได้รับเลือกให้ได้รับรางวัล “แหนบทองคำ” ประจำปี 2556 ซึ่งเตรียมที่จะเดินทางไปรับที่กรมการปกครอง โดยผู้ตายถือเป็นกำนันที่กว้างขวางเนื่องจากมีตำแหน่งเป็นกำนันหลายสมัย จนจังหวัดเลือกให้ตำบลหนองแรต เป็นตำบลโมเดลเรื่องปราบปรามยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ผู้ตายเคยถูกลอบยิงมาแล้ว 3 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ จนล่าสุด ถูกตามยิงอีกจนกระทั่งเสียชีวิต

sithiphong:
ยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามมัสยิดกลางปัตตานี ถูกยิงดับ
-http://hilight.kapook.com/view/89411-






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
 
            2 คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ประกบยิง ยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามคนสำคัญ ประจำมัสยิดกลางปัตตานี เสียชีวิตกลางตลาด ขณะเดินซื้อของ ด้านเลขานุการจุฬาราชมนตรี ระบุ สังหารอิหม่าม ส่งผลพูดคุยสันติภาพรอบต่อไป วอนหยุดฆ่าบุคคลสัญลักษณ์ทางศาสนา ขณะที่ ภราดร เผยได้คำตอบบางส่วนจาก BRN แล้ว รอชี้ชัด

            เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงอิหม่ามประจำมัสยิดกลางประจำ จ.ปัตตานี บริเวณบนถนนยะรัง ซอย 6 ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายยะโก๊บ หร่ายมณี อายุ 51 ปี ถูกยิงบริเวณลำตัวจำนวนหลายนัด เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ตายนับเป็นบุคคลสำคัญทางศาสนาเป็นผู้ที่มีผลงานดีเด่นด้านศาสนามากมาย

            จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดระหว่างที่ผู้ตายกำลังออกมาซื้อของที่ตลาดจะบังติกอ ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด อาศัยจังหวะที่ผู้ตายเผลอขับตามหลังมาแล้วชักอาวุธปืนจ่อยิง 1 นัดจนล้มลง ก่อนจะยิงซ้ำอีกเข้าที่ศีรษะอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าประชาชนจำนวนมากที่เดินซื้อของ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังติดตามไล่ล่าคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าอาจใช้หลบหนี ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป








ชาวมุสลิมร่วมพิธีละหมาดศพอิหม่าม-บรรยากาศเศร้าโศก


           สำหรับบรรยากาศพิธีละหมาดศพ อิหม่ามยะโก๊บ หร่ายมณี เมื่อเวลา 22.30 น. ของวานนี้ (5 สิงหาคม 2556)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชาวไทยมุสลิมทั่วทุกสารทิศกว่า 3,000 คน ได้เดินทางเข้าร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า เนื่องจากอิหม่ามยะโก๊บเป็นนักพัฒนาและคอยช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โดยไม่แบ่งว่าใครเป็นมุสลิมหรือไทยพุทธ ซึ่งทำให้เป็นที่รักใคร่ของประชาชนในพื้นที่ทุกศาสนา

           หลังจากนั้น ผู้เข้าร่วมพิธีละหมาดได้นำศพอิหม่ามยะโก๊บ ไปฝังที่กูโบร์โต๊ะอาเยาะ ตำบลจะบังติกอ อำเภอเมือง และร่วมขอดุอาอ์จากพระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้ดวงวิญญาณของอิหม่ามยะโก๊บไปสู่สรวงสวรรค์

           ด้าน นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวด้วยความเสียใจว่า ตลอดเวลาที่ทำงานกับอิหม่ามยะโก๊บนั้น คนได้ความร่วมมือและความรู้หลายอย่าง เพราะอิหม่ามเป็นคนที่มีศักยภาพสูงในการบริหารจัดการ และบรรยายเรื่องต่าง ๆ ให้สังคมเกิดความเข้าใจ โดยอิหม่ามมักนำพระราชดำรัสของในหลวง ในเรื่องการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาถ่ายทอดให้ฟังอยู่เสมอ

           นายแวดือราแม กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวนั้นตนกับอิหม่ามเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน ซึ่งการสูญเสียอิหม่ามในครั้งนี้ไป ก็เหมือนกับสูญเสียบุคคลสำคัญทางด้านสังคม  อย่างไรก็ตาม อิหม่ามยังได้รับรางวัลพระราชทานเป็นอิหม่ามดีเด่นประจำจังหวัดปัตตานี แต่ก็ยังไม่ทันได้รับรางวัลท่านก็จากไปเสียก่อน


เลขาจุฬาราชมนตรี ชี้ฆ่าอิหม่าม ส่งผลคุยสันติ

            วันที่ 6 สิงหาคม 2556 นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล เลขานุการจุฬาราชมนตรี และนักวิชาการสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวถึงการเสียชีวิตของ นายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี ว่า ลักษณะการก่อเหตุเช่นนี้จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่นั้นคงตอบไม่ได้ แต่ที่แน่นอนคือกระทบต่อการพูดคุยสันติภาพครั้งต่อไปแน่นอน เพราะการสังหารบุคคลสำคัญระดับอิหม่ามถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งผลพวงทำให้เกิดคำถามว่าในขณะที่รัฐกับกลุ่มขบวนการมีความประสงค์ร่วมกันในการลดความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน แต่กลับมีความรุนแรงเกิดขึ้นทุกวัน ลักษณะแบบนี้ ควรจะยุติการพูดคุยหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่ากระบวนการพูดคุยสันติภาพ ยังมีความจำเป็น เพราะน่าจะเป็นทางออกทางเดียวที่มีอยู่ ส่วนเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ ก็ดำเนินการต่อไปได้

            อย่างไรก็ตาม ตนอยากวิงวอนให้กลุ่มที่เห็นต่างอย่าใช้บุคคลที่เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอย่างอิหม่ามหรือพระ เป็นเหยื่อที่ต้องลงมือสังหารอีกต่อไป


ภราดร เผยได้คำตอบบางส่วน เหตุยิงอิหม่ามจาก BRN แล้ว-รอชี้ชัด

             ขณะที่  พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ในเบื้องต้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตามข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันก็จะส่งคำถึงไปยังขบวนการ BRN  ผ่านผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซียด้วย ซึ่งตนก็ได้รับคำตอบมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

             ส่วนการยิงอิหม่ามถือว่าการเจรจาล้มเหลว หรือไม่ ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้เช่นนั้น ต้องรอดูจากข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา อิหม่ามยะโก๊บก็ถูกลอบยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้สอนศาสนาอิสลามอย่างถูกต้อง จึงตกเป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุรุนแรง ส่วนผลกระทบในการเสียชีวิตของอิหม่ามครั้งนี้ ตนคิดว่าอาจจะเกิดความไม่แน่ใจที่จะเข้าร่วมแก้ปัญหาไฟใต้ของประชาชนใน พื้นที่พอสมควร

             สำหรับข้อคำถามที่ว่า เพราะเหตุใดทาง สมช. เหมือนเดินตามเกมประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาไฟใต้ทั้ง ๆ ที่เป็นปัญหาภายในของประเทศไทย ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ขณะนี้เราก็ปฏิบัติตามหลักนโยบายของรัฐบาลไทย โดยเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่าง 3 ฝ่าย คือ ไทย, ขบวนการบีอาร์เอ็น และมาเลเซีย ที่ได้ทำไว้ อย่างไรก็ตาม มาตรการต่าง ๆ ยังคงปฏิบัติภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐไทย

             พล.ท.ภราดร กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์รุนแรงขึ้นในช่วงปลายเดือนรอมฎอน ซึ่งทางเราก็ได้เร่งปรับมาตรการต่าง ๆ แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่ากลุ่มเห็นต่างพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นความก้าวหน้าในการเจรจาดังกล่าว ส่วนกลุ่มเห็นต่างนั้นมีประมาณ 2 กลุ่ม และได้มีการติดต่อมาทางไทยแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องสื่อสารผ่านขบวนการ BRN อยู่ ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่มีส่วนก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่หรือไม่ กำลังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์


จ่อยิง ยะโก๊บ หร่ายมณี เสียชีวิตในตลาด
จ่อยิง ยะโก๊บ หร่ายมณี เสียชีวิตในตลาด

จ่อยิง ยะโก๊บ หร่ายมณี เสียชีวิตในตลาด
-http://www.youtube.com/watch?v=lbgcJhu7HyE-
คลิป จ่อยิง ยะโก๊บ หร่ายมณี เสียชีวิตในตลาด : เครดิต รายการข่าววันใหม่ โพสต์โดย คุณ DuangAestheticII



INN

sithiphong:
ไม่น่าจับเป็น  น่าจะจับตายให้หมด อยู่ไปรกแผ่นดินไทย

ประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ไม่เห็นด้วยก้บพวกนี้เยอะ ทำให้เสียภาพพจน์ไปทั้งหมด[/color[/b]]



--------------------------------------------------------------------------

กำลังผสมนราธิวาสปิดล้อม ดับโจรใต้ 4 รวบอีก 7 -ตร.ถูกยิงดับ 2 เจ็บ 1 "พ.ต.ท.อติพัฒน์"พลีชีพ
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380980741&grpid=00&catid=&subcatid=-



เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ศชต. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ท.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 และ พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กรมทหารพรานที่ 41 ร่วมสนธิกำลังกว่า 50 นายใช้กฎอัยการศึก ปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยในหมู่บ้านสะแนะ หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

หลังสืบทราบว่ากองกำลังติดอาวุธกลุ่มนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ ฉายา "เปเล่ดำ" แกนนำอาร์เคเค ผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง และเป็นผู้ต้องสงสัย นำกำลังก่อเหตุลอบวางระเบิดและยิงถล่มเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส เหตุเกิดบนถนนสายทางลัดบนเทือกเขายือราแป บ้านบลูกาสนอ ม.4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมพวกหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านเพื่อเตรียมประชุมก่อเหตุ

เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อมกระทั่งถึงบ้านพักไม่มีเลขที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคในบ้านดังกล่าวได้เปิดการยิงทันทีทำให้เจ้าหน้าที่ยิงปะทะกันนานกว่า 15 นาที สิ้นเสียงปืน พบเจ้าหน้าที่ถูกกระสุนปืนของคนร้ายเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ พ.ต.ท.อติพัฒน์ สุพรรณวิวัฒน์ สว.กก.สส.ศชต. หรือสารวัตรโส นรต.รุ่น 55 และ จ.ส.ต.วิชิต อดทน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.อ.โยธิน จันทรเดช

จากนั้นเจ้าหน้าที่ประกาศให้คนร้ายออกมามอบตัว ทั้งหมดจำนวน 7 คน จึงยอมเดินออกจากบ้านมามอบตัว จากการตรวจสอบภายในบ้านพบศพคนร้าย 3 ราย ทราบชื่อคือ นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือเปเล่ดำ, นายมะสุเพียน สาและ และนายอุสมาน เด็งสาแม นอกจากนี้ภายในสวนยางหลังบ้านพักพบศพคนร้ายอีก 1 คน เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ พร้อมอาวุธปืนสงครามอาก้า 1 กระบอก

------------------------------------------------------------------------------

ประวัติ"เปเล่ดำ"คนร้ายที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะ ก่อเหตุสุดโชกโชน
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381027310&grpid=&catid=19&subcatid=1906-

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม เวลา 09.00 น. หน่วยงานด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รายงานพฤติกรรมของนายอับดุรอฮิง ดาอีซอ หรืออุสตาซรอฮิง อาซ่อง  หรือเปเล่ดำ ระบุว่าที่ผ่านมา นายอับดุลรอฮิงได้เคยก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 สังกัด ตชด.ที่ 44 ค่ายพระเจ้าตากสินเสียชีวิต 2 นาย ที่ตลาดนัดบ้าน บาลอ ม.2 ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อ 12 ธันวาคม 2551 ซุ่มยิงเข้าไปในบ้านเลขที่ 94 ม1 ต.อาซ่อง อ.รามัน ทำให้ราษฏรเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 3 คน เนื่องจากเป็นการแก้แค้นให้กับสมาชิกกลุ่มที่ถูกนายยะโก๊ะ ยาโง๊ะ ลูกจ้างโครงการ 4500 ชุดรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านอูเปาะ ยิงตอบโต้ขณะถูกลอบยิงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ทำให้กลุ่มสมาชิกได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 คน  เหตุเกิดเมื่อ 1 ธันวาคม 2551


นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่านายอับดุลรอฮิงยังเคยลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิต 5 นาย บนถนนวังพญา-ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เคยลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ เสียชีวิต 4 นาย เหตุเกิดบนถนนสายรือเสาะ-ศรีสาคร บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ ล่าสุดปฎิบัติการซุ่มยิงขบวนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด EOD ของนราธิวาส ขณะกลับปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้ระเบิดในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ เหตุเกิดบนเขาบ้านยือลาแป ต.สุวารี อ.รือเสาะ รอยต่อจ๊ะกว๊ะ-บ้านปาลูกาสือนอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย ชาวบ้านถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเหตุการณ์นั้นมีการบันทึกภาพแล้วเปิดเผยผ่านยูทูบโดยในคลิปมีการประกาศจะทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ


สำหรับนายอุสมาน เด็งสาแม หน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า เป็นแกนนำในระดับสั่งการ มีตำแหน่งเป็น ผบ.กองร้อยที่ 3 (Kompi 3) รับผิดชอบในการปฎิบัติการในพื้นที่ ต.บาลอ ต.กาลอ อ.รามัน จ.ยะลา และ ต.โคกสะตอ ต.บาตง ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส  โดยมี นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ เป็น ผู้บังคับหมวดที่ 1 (Platong 1) นายสาหูดิน โต๊ะเจ๊ะมะ ผู้บังคับหมวดที่ 2 (Platong 2) และนายซอฟวัน สามะ เป็น ผู้บังคับหมวดที่ 3  (Platong 3)


ทั้งนี้ นายอุสมาน เด็งสาแมร่วมก่อเหตุในพื้นที่หลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะเป็นผู้ใช้อาวุธปืนร่วมกับพวกยิง ด.ต.อับดุลการิม ปะตะลู เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จ๊ะกว๊ะ อ.รามัน เสียชีวิตภายในมัสยิด ที่ ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา ขณะทำพิธีละหมาดในเดือนรอมฏอน


นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version