ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง

<< < (3/48) > >>

sithiphong:
อุทาหรณ์ หญิงตื่นงัวเงียคว้า“ซูเปอร์กลู“ทาปากติดหนึ่บ “นึกว่าเป็น“ลิปมัน“!

-http://news.sanook.com/1194509/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%9A-%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B4/-





สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ว่า หญิงสูงวัยอายุ 64 ปี ชาวนิวซีแลนด์ มีอันต้องเคราะห์ร้ายสุด ๆ หลังปากต้องติดหนึ่บและต้องพึ่งแพทย์ หลังจากเธอได้คว้ากาวซูเปอร์กลูทาปาก เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็น"ลิปมัน"ทาปากแห้ง ขณะที่เหตุการณ์นี้ยังสร้างความระทึกขวัญให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าใจผิดว่า หญิงรายนี้กำลังเผชิญเหตุร้ายอยู่

รายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หญิงสูงวัยรายนี้ต้องโทรศัพท์หาตำรวจ ขณะที่ตำรวจตกใจคิดว่าเธอกำลังถูกจับเป็นตัวประกัน เพราะเธอส่งเสียงงึมงำเหมือนคนถูกบังคับไม่ให้พูด หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพูดอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุและช่วยเหลือเธอ และเจ้าตัวได้เล่าความจริงว่า เธอได้คว้าซูเปอร์กลูซึ่งอยู่ในถ้วยแก้ว โดยเข้าใจคิดว่าเป็นลิปมันทาปากแห้ง โดยเธอไม่ได้กลิ่นของกาวดังกล่าวเพราะเธอกำลังอยู่ในสภาพงัวเงีย ก่อนจะรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอแล้ว

นอกจากนี้ หญิงสูงวัยยังเล่าว่า เธอได้โทรศัพท์ถึงตำรวจ โดยไม่สามารถบอกที่อยู่ได้หรือหมายเลขโทรศัพท์ของเธอได้ ทำให้ตำรวจถามเธอว่า อยู่ที่เมืองดันดินใช่หรือไม่ ซึ่งเธอได้ตอบว่า "อืมม" และต้องใช้วิธีใช้สัญลักษณ์เคาะนิ้วหนึ่งทีแทนคำว่า "ไม่" และ "สองที" แทนคำว่าใช่ ตลอดการสื่อสารกับตำรวจ

ด้านตำรวจบอกว่า เจ้าหน้าที่ได้ส่งทีมพร้อมสุนัข ตร.ออกมา เพราะเชื่อว่า หญิงรายนี้กำลังถูกจับเป็นตัวประกันในบ้านของตัวเอง ก่อนที่ ตร.จะพบบ้านของเธอ และได้ส่งตัวเธอไปยังโรงพยาบาลเพื่อล้างซูเปอร์กลูออก

.


sithiphong:
ชาวเน็ตเตือนภัย ! ระวังแก๊งมือถือหล่น หลอกเรียกค่าเสียหาย


แก๊งมือถือหล่น


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Safe House

            ชาวเน็ตแห่แชร์ข้อความเตือนภัย ! ระวังแก๊งแกล้งทำมือถือหล่น หลอกเรียกค่าเสียหาย พบระบาดหนักแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

            วันนี้ (1 กรกฎาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์ข้อความเตือนภัยเกี่ยวกับแก๊งมือถือหล่น หลอกเรียกค่าเสียหาย ที่กำลังอาละวาดหนักแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยข้อความที่มีการแชร์ มีดังนี้

            "ฝากเตือนภัย ระวังแก๊งมือถือหล่น หลอกเรียกค่าเสียหาย โดยกลุ่มมิจฉาชีพนี้จะแกล้งเดินชนกับเรา และจะแกล้งทำมือถือหล่น หลังจากนั้นก็เข้ามาต่อว่า และหาว่าเราเดินไม่ดูทาง พร้อมเรียกขอค่าเสียหาย ซึ่งตอนนี้ พบว่า แก๊งมือถือหล่น กำลังระบาดหนักแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ"



.

sithiphong:
พ่อเลี้ยงคลั่ง! กรอกเหล้า-เทแป้งใส่ปากเด็ก 2 เดือน
-http://news.sanook.com/1194629/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81-2-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99/-


พ่อเลี้ยงสุดโหด! โมโหลูกเลี้ยงวัย 2 เดือน ร้องไห้หิวนม จับกรอกเหล้า-เทแป้งใส่ปาก-จมูก อาการโคม่า ล่าสุดจับตัวได้แล้ว อ้างเป็นลูกชายตำรวจ

(1 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมประชาสงเคราะห์จังหวัดปทุมธานี ซึ่งพา น.ส.หญิง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากสามีเกิดคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุทำร้ายลูกสาวทารกแรกเกิด อายุแค่ 2 เดือน

จากการสอบสวน น.ส.หญิง ให้การว่า ปัจจุบันได้อาศัยอยู่กินกับ นายจอช (นามสมมติ) อายุ 30 ปี โดยตนเพิ่งคลอดลูกสาวออกมาได้ประมาณ 2 เดือน นายจอช เป็นสามีใหม่ หรือมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงของลูกสาววัยแบเบาะ

ขณะเกิดเหตุ นายจอช เกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะความรำคาญใจ เนื่องจากลูกสาวตนร้องไห้งอแงหิวนม นายจอช จึงโมโห ทำร้ายร่างกายลูกสาววัย 2 เดือนของตน จับกรอกเหล้าใส่ปากและเทแป้งสวนเข้าไปทางปากและจมูก ก่อนจะเหวี่ยงทุ่มร่างลูกสาวไปมาและเทน้ำราดใส่ตัว จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ภายหลังจากเกิดเหตุ ตนจึงรีบนำตัวลูกสาวส่งรักษาที่โรงพยาบาลปทุมธานี ล่าสุดยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู อาการยังโคม่าค่อนข้างสาหัส ก่อนจะเดินทางเข้าร้องทุกข์กับกรมประชาสงเคราะห์จังหวัด และแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังเปิดเผยอีกว่า หลังจากได้รับแจ้งความร้องทุกข์ได้ประสานขออนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุและจับกุมตัวได้แล้ว เบื้องต้นทราบว่าเป็นลูกชายของตำรวจนายหนึ่ง



sithiphong:
ลูกค้ามึน ! ร้านอาหารขึ้นป้ายอร่อย 35.- เช็กบิลจริงจานละเกือบร้อย
-http://hilight.kapook.com/view/88116-







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ ตั๋วแลกเงิน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          ถึงกับมึน ! ร้านอาหารขึ้นป้ายอร่อยชัดเจน 35.- ลูกค้าเรียกเช็กบิลจานละเกือบร้อย แถมแจง 35.- เป็นชื่อร้านภาษาจีน ไม่ใช่ราคา ชาวเน็ตสับเละตั้งใจหลอกลวง แนะฟ้อง สคบ.

          มีประเด็นให้ชาวไซเบอร์ได้วิจารณ์กันในเว็บไซต์พันทิปอีกแล้ว เมื่อ คุณ ตั๋วแลกเงิน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ตั้งกระทู้ชื่อ "ไปกินออส่วนข้างถนนเขียนว่า "35.-" แต่คิดราคา 90 บาท พอถามเค้าบอก 35.- คือชื่อร้านภาษาจีน !!!!!" ในห้องก้นครัว เล่าว่า ตนเองได้ไปนั่งทานอาหารร้านที่ตั้งอยู่ข้างถนน ซึ่งร้านนี้มีป้ายผ้าเขียนว่า "อร่อยชัดเจน 35.-" จึงได้สั่งออส่วน และน้ำเปล่ามาทาน เมื่อทานอิ่มแล้วได้เรียกเก็บเงิน เจ้าของร้านกลับคิดราคา 100 บาท คือเป็นค่าออส่วน 90 บาท ค่าน้ำอีก 10 บาท ทำให้ผู้ตั้งกระทู้รู้สึกงงไม่น้อย เพราะการที่ร้านเขียนตัวเลข 35 และสัญลักษณ์ .- เป็น "35.-" ย่อมหมายถึงราคา 35 บาท จึงได้สอบถามกับทางร้าน แต่กลับได้รับคำตอบว่า ตัวเลข 35 เป็นชื่อร้านภาษาจีน อ่านว่า "ซาจั๊บโหงว" ต่างหาก ไม่ได้หมายถึงอาหารจานละ 35 บาทอย่างที่เข้าใจ

          เมื่อได้ฟังดังนั้น ผู้ตั้งกระทู้ก็ย้อนถามทางร้านว่ามีคนเข้าใจผิดบ้างไหม ซึ่งทางร้านก็ยอมรับว่า มีลูกค้าที่ต่อว่าเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว ราคาอาหารก็เขียนบอกในเมนูไปแล้ว ซึ่งทางเจ้าของกระทู้ก็ไม่ทราบ เพราะเมนูอาหารไม่ได้วางอยู่ที่โต๊ะ แต่วางอยู่ในครัว จึงได้ถ่ายรูปร้านนี้มาให้ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกัน

 แน่นอนว่า เมื่อเรื่องนี้ถูกแชร์ในโลกไซเบอร์ไม่นาน ก็มีคนเข้ามาวิจารณ์กันเพียบว่า ร้านนี้หลอกลวงผู้บริโภค และตั้งใจโกงเห็น ๆ พร้อมกับแนะนำให้แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มาจัดการเสียเลย เนื่องจากมีเจตนาหลอกลวงอย่างชัดเจน

.

sithiphong:
เผยคลิปเด็กอัสสัมชัญ วิวาทกับ รร.วัดสุทธิฯ ที่ BTS บางรัก
-http://education.kapook.com/view65788.html-









เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  เฟซบุ๊ก Nanthisa Thongphian

            เผยคลิปเด็กอัสสัมชัญ วิวาทกับ รร.วัดสุทธิฯ ที่ BTS บางรัก คาดเป็นคลิปเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ด้าน อัสสัมชัญ แจง กรณีนักเรียนก่อเหตุวิวาท เป็นแค่กลุ่มที่เขม่นกัน ไม่ใช่เรื่องระหว่างสถาบัน โดยขณะนี้ได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 ราย ลงพื้นที่เพื่อช่วยเฝ้าระวังเหตุการณ์ตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ  ด้วย

            สืบเนื่องจากกรณีที่มีการแชร์ข่าวทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2556 ว่า นักเรียนโรงเรียนวัดสุทธิวรารามมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญ และจะยกพวกรวมกับช่างกลกรุงเทพฯ ไปทำร้ายนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญ เนื่องจากมีปัญหากันเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา จนมีข่าวอีกว่า โรงเรียนอัสสัมชัญแจ้งให้ผู้ปกครองรีบมารับนักเรียนกลับบ้านด้วยตนเองและไม่ให้กลับบ้านทางรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนนั้น

            ล่าสุด เมื่อวานนี้ (2 กรกฎาคม 2556) อาจารย์โรงเรียนอัสสัมชัญ ได้ชี้แจงว่า ทางโรงเรียนไม่มีการห้ามเด็กนักเรียนเดินทางกลับโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนเรื่องทะเลาะวิวาททางโรงเรียนอัสสัมชัญได้ดำเนินการกับนักเรียนที่ก่อเหตุแล้ว และมีการประสานไปยังโรงเรียนวัดสุทธิวราราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์บานปลายเป็นที่เรียบร้อย

            ขณะที่ มาสเตอร์บรรลือ จินดาศรี ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก กล่าวว่า ภราดาวิริยะ ฉันนทวโรดม อธิการโรงเรียนอัสสัมชัญ ได้เชิญผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญประมาณ 10 คน ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทเข้ามาพบเพื่อกล่าวตักเตือนและลงโทษตามกฎปฏิบัติของโรงเรียน เช่น ตัดคะแนนความประพฤติ ทำทัณฑ์บน เป็นต้น

            ทั้งนี้ เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทดังกล่าว ไม่ได้เป็นเรื่องระหว่างสถาบัน แต่เป็นการทะเลาะวิวาทของนักเรียนในโรงเรียนอัสสัมชัญที่ไปดึงเพื่อนและรุ่นพี่ซึ่งอยู่ต่างโรงเรียนมาเข้าร่วมด้วย เบื้องต้นจึงมีการพูดคุยกันระหว่างอาจารย์ฝ่ายกิจการนักเรียนของโรงเรียนอัสสัมชัญและโรงเรียนวัดสุทธิวรารามแล้ว ต่างฝ่ายต่างจัดครูเวรลงพื้นที่ตรวจตราความเรียบร้อย ดูแลนักเรียนของตนไม่ให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท รวมทั้งมีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยดูแลความปลอดภัยด้วย

            อย่าไงก็ตาม พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม ผกก.สน.ยานนาวา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ได้รับแจ้งจากอาจารย์โรงเรียนอัสสัมชัญให้ช่วยเฝ้าระวังเหตุนักเรียนทั้ง 2 โรงเรียน อาจทะเลาะวิวาทกัน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 30 นาย เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม โรงเรียนอัสสัมชัญ และตลอดเส้นทางระหว่างทั้ง 2 โรงเรียน

            โดยเฉพาะสถานที่ใกล้เคียงต่าง ๆ ที่เป็นจุดเสี่ยง เช่น ห้างสรรพสินค้าโรบินสันบางรัก สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และท่าเรือ ซึ่งตนยังกำชับเจ้าหน้าที่ว่า หากพบเห็นเด็กนักเรียนจับกลุ่มกัน ให้เข้าไปตรวจสอบประวัติ ค้นอาวุธ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นด้วย

-http://world.kapook.com/pin/51d4040738217aa434000000-
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=0I4d964VouA-
This video has been removed because its content violated YouTube's Terms of Service.


http://education.kapook.com/view65788.html



.------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ตำรวจไม่เคยปฎิบัติตามกฎหมาย  พวกนี้ต้องจับกุมดำเนินคดี 
และทางโรงเรียนต้องให้นักเรียน(และนักเลง)ออกจากโรงเรียน  เนื่องจากไม่สนใจการเรียน ไปยกพวกตีกัน 

แถมไอ้พวกนี้  ถ้าเก่งกันจริงๆ  ต้องนำเชือกยาว 1 เมตร ผูกที่แขนซ้ายคนละข้าง  แล้วให้ต่อยกัน  หากทั้งคู่ไม่ต่อยต้องให้ผู้ควบคุมการต่อยกันใช้ไม้ตีจนกว่าจะต่อยกัน  และให้ต่อยกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสลบ

และคนพวกนี้  ไม่ได้รับการอบรมที่ดีจากครอบคร้ว และ สถาบันการศึกษา  หากได้รับการอบรม  คงไม่เกิดลักษณะแบบนี้ขึ้นมา

.

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version