ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง
sithiphong:
เถื่อน!! กลุ่มตุ๊ดกระหาย ลาก ผู้ชายรุมโทรมเละ
-http://news.sanook.com/1556436/%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%9C%E0%B8%8A.%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B0/-
เถื่อน!! กลุ่มตุ๊ดกระหาย ลาก ผช.รุมโทรมก่อนลากเข้าห้อง
-http://www.youtube.com/watch?v=j5yL-ghoQgY-
เถื่อน!! กลุ่มตุ๊ดกระหาย ลาก ผช.รุมโทรมก่อนลากเข้าห้อง
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ "คลิปกะเทยรุมโทรมผู้ชายกลางถนน" ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำเกินกว่าเหตุ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำให้ภาพลักษณ์ชาวสีม่วงดูแย่ลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียลอีกครั้งเมื่อเฟซบุ๊กชื่อ "บีทาเก้น นมเปรี้ยว" ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดิโอ "กะเทยรุมโทรมผู้ชายกลางถนน" ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีกลุ่มชายชาวสีม่วงจำนวนมากต่างรุมกันจับตัวชายคนหนึ่ง ก่อนจะเข้าไปกอด จูบ ลูบ คลำ ส่วนต่างๆของร่างกายโดยที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งภาพเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นที่ต่อว่าต่อขานกัน เพราะทำให้บรรยากาศการเล่นสงกรานต์นับวันจะยิ่งดูรุนแรงไป
ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่ก็แสดงความคิดเห็นไปในทางลบ บางคนแสดงความเป็นห่วงกับชาวสีม่วง ว่าจะมีคนมองในด้านไม่ดีมากขึ้น
http://news.sanook.com/1556436/%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%9C%E0%B8%8A.%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B0/
sithiphong:
.
ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก ต้องมีข้อความที่ตรงต่อความเป็นจริง ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสาระสำคัญของสินค้านั้น ระบุชื่อหรือเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบธุรกิจ
วันเสาร์ 10 พฤษภาคม 2557 เวลา 00:00 น.
-http://www.dailynews.co.th/Content/economic/236204/%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87++-+%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%84-
ฉลากสินค้ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ผู้บริโภคควรให้ความสำคัญและใส่ใจอ่านรายละเอียดก่อน ซื้อเพื่อรักษาสิทธิของตัวท่านเอง การอ่านฉลากสินค้าจะช่วยให้ทราบถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของส่วนประกอบ ปริมาณ สามารถเปรียบเทียบราคาระหว่างผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันแต่ต่างยี่ห้อก็สามารถช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อย นอกจากนี้รายละเอียดของฉลากยังบอกให้ทราบถึงวิธีการเก็บรักษา การใช้งานได้อย่างถูกต้อง หากผู้บริโภคมีความเสี่ยงที่จะแพ้ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ก็จะสามารถทราบได้จากการอ่านฉลากและหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเสีย แต่หากเกิดปัญหาในการบริโภคผลิตภัณฑ์ ก็สามารถร้องเรียนให้มีการดำเนินการต่อผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ได้ตามชื่อและที่อยู่ที่ปรากฏในฉลากด้วย และเพื่อเป็นการควบคุมให้ผู้ประกอบการ จัดทำฉลากได้อย่างถูกต้อง สคบ. จึงได้ออกประกาศเรื่องลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. 2541 ซึ่งสินค้าที่ควบคุมฉลากก็ได้แก่ สินค้าที่ผลิตเพื่อขายโดยโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและสินค้าที่สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย
ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก ต้องมีข้อความที่ตรงต่อความเป็นจริง ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสาระสำคัญของสินค้านั้น ระบุชื่อหรือเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบธุรกิจ สถานที่ผลิต หรือสถานที่ประกอบธุรกิจนำเข้าประเภทสินค้า ประเทศที่ผลิตกรณีนำเข้า ข้อความอันจำเป็น ได้แก่ ราคา ปริมาณ วิธีใช้ ข้อแนะนำ คำเตือน วันเดือนปีหมดอายุ หรือกรณีอื่นตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนด ต้องเป็นภาษาไทยหรือภาษาไทยกำกับภาษาต่างประเทศสามารถเห็นและอ่านได้ชัดเจน
ลักษณะของฉลากที่ควบคุมต้องระบุข้อความดังนี้ ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้า กรณีสั่ง/นำเข้าให้ระบุประเทศที่ผลิต ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศ ไทยของผู้ผลิตเพื่อขาย ชื่อหรือเครื่องหมาย การค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้สั่งหรือนำเข้ามาเพื่อขาย สถานที่ตั้งที่สามารถติดต่อได้จริง ขนาด มิติ ปริมาณ ปริมาตร น้ำหนัก วิธีใช้ ข้อแนะนำในการใช้หรือห้ามใช้ คำเตือน (ถ้ามี) วันเดือนปีที่ผลิต หรือ หมดอายุ หรือที่ควรใช้ก่อน ราคาพร้อมระบุหน่วยบาท โดยการแสดงฉลากสินค้าต้องแสดงไว้ที่ตัวสินค้า ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อ สอดแทรกหรือรวมไว้กับสินค้า เอกสารหรือคู่มือ ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่สินค้าหรือภาชนะบรรจุ และหากผู้ประกอบการขายสินค้าที่ควบคุมฉลากแต่ไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่การแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
sithiphong:
เตือนภัย!ยัดตะกั่วใส่หัวกุ้งโกงน้ำหนัก กินอาจตาย
-http://webboard.money.sanook.com/forum/index.php?topic=3818772.new#-
"เรื่องจริง ที่มันมีอยู่ ระวังกันนะครับ"
เดินชมตลาด เจอพี่คนนึงถือเครื่องสแกน ตกใจนึกว่าอยู่สนามบิน
มีเสียง ตี๊ด ติ๊ด ออกมาในช่วงแกว่งสแกนบนหัวกุ้ง ไม่รอช้า ปรี่เข้าไปดูทันที แล้วก็พบ ภาพอย่างที่เห็น
พวกนี้ ทรยศ ต่อวิชาชีพ ของตัวเอง คิดแต่จะกอบโกย ไม่คำนึงถึง
ความถูกต้อง และ อันตราย ที่จะเกิดแก่ผู้บริโภค ตะกั่วฝังอยู่ในหัวกุ้ง ที่มีมันกุ้ง หากเป็นเด็กเผลอทานเข้าไป ตะกั่วฝังอยู่ในท้อง
มันอันตรายมากๆครับ เรื่องสารตะกั่วที่อาจปนเปื้อน ผมคงไม่พูดถึง เพราะมันไกลไป เอาเรื่องใกล้ๆตัวดีกว่า ผมนึกถึงภาพ คนธรรมดา ที่ไปซื้อกุ้งมาให้คนที่รัก เช่น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ทาน
หลังจากเผา หรือต้มยำเสร็จ ส่วนที่ตักก่อนคือ มันกุ้ง
ถ้าเอาช้อนตักลงไป แล้วไม่ทันเคี้ยว เผลอกลืน
หรือ อาจจะเข้าปากไปแล้ว ตกใจว่ามีอะไรติดมา ไม่ทันได้คาย กลับกลืนลงท้อง อะไรจะเกิดขึ้น กับผู้สูงวัย เหล่านั้น
ไม่ต้องตกใจนะครับ ที่ผมเอารูปมาให้ดู เพราะถ้าจะซื้อกุ้งชนิดนี้ ก็ควรเลือกร้านที่ไว้ใจ มีเครื่องสแกน หรือ เลือกบริโภค กุ้งที่มีชีวิตว่ายน้ำ ซึ่งมีทั้งก้ามกรามและแม่น้ำที่ตกได้
กุ้งที่มีตะกั่ว เคยไปข่าวมาแล้วช่วงนึง เงียบไปสกพัก กลับมาอีกแล้วคงต้องเป็นหน้าที่ ของนายหน้า ผู้ค้ากุ้ง ที่นำเข้ามาจากพม่า จัดการแบบจริงจังอย่าปล่อยให้มันมีข่าว พาดหน้าหนึ่ง แล้วถึงคิดแก้ไข เลยครับ ขอร้องถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ ก็ช่วยแชร์หน่อยครับ ผู้บริโภคอย่างเราๆ คงต้องระวังมากขึ้นจากเดิม
https://www.facebook.com/VoiceOfHealthy
.
sithiphong:
ร้อง ป.ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรตหลอกทำเสน่ห์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 16 พฤษภาคม 2557 16:39 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000054460-
ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้องกองปราบฯ ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรต ย่านรามคำแหง หลอกผู้หญิงทำเสน่ห์
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสำนักทำไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ของอาจารย์พรต หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผู้หญิงกว่า 20 รายว่าได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล โดยนายสงกานต์ได้นำภาพถ่ายของ อาจารย์พรตขณะกำลังทำพิธีเสริมเสน่ห์ให้แก่หญิงสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมามอบไว้เป็นหลักฐาน
นายสงกานต์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับข้อมูลว่าอาจารย์พรตเป็นหมอทำพิธีทางไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ โดยมีการจำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ ในหน้าเฟซบุ๊ก ชื่อ “ศูนย์พระเครื่อง พรปู่เจ้า” เช่น รูปปั้นแม่ (อี)เป๋อ ไอ้งั่ง น้ำมันพราย กระดูกผีตายโหง เป็นต้น ซึ่งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,000-40,000 บาท ส่วนค่าทำพิธีมหาเสน่ห์นั้น ราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ ว่าอาจารย์พรตได้ไปตั้งสำนักและรับทำพิธีดังกล่าวในต่างประเทศ พร้อมทั้งได้ส่งภาพขณะที่กำลังทำพิธีมาให้เป็นข้อมูล เนื่องจากในการทำพิธีนั้นมีการนำเครื่องรางที่เรียกกันว่าไอ้งั่งมาวางบนหน้าอกและอวัยวะเพศหญิง เพื่อทำพิธี ถือว่าเป็นการทำอนาจาร
นายสงกานต์กล่าวต่อว่า สำนักของอาจารย์พรตมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นเปิดอยู่ย่านรามคำแหง อีกทั้งยังมีร้านที่ขายเครื่องรางตั้งอยู่ในห้างดังย่านลาดพร้าวอีกด้วย ทั้งนี้ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหายประมาณ 20 คน ทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล แสดงให้เห็นว่าอาจารย์พรตมีการหลอกลวงผู้ซื้อ อย่างไรก็ดี ทางผู้เสียหายจะเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินคดีต่ออาจารย์พรตในวันข้างหน้านี้
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า หลังจากนนี้จะนำหลักฐานที่ได้มาส่งไปให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นหากตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงประชาชน ส่วนหากมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมก็จะเพิ่มข้อหาต่อไป
sithiphong:
รวบอีก 1 ! แก๊งปล้นตู้เอทีเอ็มพัทยา พบเงินสดนับล้าน
-http://hilight.kapook.com/view/102426-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
ตำรวจรวบแก๊งปล้นเงินตู้เอทีเอ็มไทยพาณิชย์ที่พัทยาได้อีก 1 ราย พร้อมเงินสดร่วม 1 ล้านบาท เร่งหาคนร้ายอีก 2 คนที่เหลือต่อ
จากกรณีที่มีคนร้าย 4 คนใช้แก๊สเป่าตัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณหน้าบริษัท เอส.คอน. คอนกรีต ริมถนนสุขุมวิทขาเข้า อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนขโมยเงินสดไปได้ 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะสามารถจับกุมตัว นายอาทิตย์ แสงประเสริฐ หัวหน้าแก๊งวัย 32 ปีได้ ขณะที่ผู้ต้องหาคนอื่นก็ยังหลบหนีต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (21 พฤษภาคม 2557) เวลา 00.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชลบุรี ได้นำกำลังบุกค้นห้องพักเลขที่ 405 ชั้น 4 ในตึกแถว 2 คูหา บริเวณพัทยาใต้ เพื่อจำกุมตัวนายทนงศักดิ์ บุญเกตุ วัย 24 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมทั้งยึดเงินสดได้จำนวน 1,150,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า เงินจำนวนนี้น่าจะมาจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าว และหลังจากนี้ก็จะเร่งหาคนร้าย 2 คนที่เหลือต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd01EWXpPVFk1TlE9PQ==&subcatid=-
.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version