ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง
sithiphong:
.
ควรติดตามดูครับว่า บริษัทจะดำเนินการอย่างไร
แล้วพนักงานที่่ทำงานไม่เป็น จะพิจารณาอย่างไร
ง่ายๆ ตัดสินใจเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ให้รีบติดต่อกับผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
แค่นี้คิดไม่ได้ ต้องพิจารณาคนที่รับเข้ามาทำงาน ต้องปลดออก ในฐานะพิจารณาคนทำงานไม่เป็นเข้ามาทำงาน
ถ้าบริษัทไม่ดำเนินการ ให้ใช้บริการกับบริษัทอื่น ดีที่สุดครับ
-----------------------------------------------------------------
แชร์สนั่น เฟอร์รี่เกาะสมุยปฏิเสธผู้ป่วยหนัก ไล่ให้ไปจองคิว
-http://hilight.kapook.com/view/105007-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Pichet Klowtanom, ข่าวสด
เฟอร์รี่เกาะสมุย ปฏิเสธผู้ป่วยหนักที่ต้องผ่าตัดด่วน อ้างให้จองคิวก่อน แชร์กันสนั่นเน็ต
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 มีรายงานว่า จากหน้าเฟซบุ๊กของ Pichet Klowtanom ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า "น้องคนนี้เป็นลูกของคุณน้ำผึ้ง อยู่เกาะสมุย ได้เกิดอุบัติเหตุต้องรีบไปรักษาด่วนที่สุราษฎร์ธานีไปกับรถพยาบาล เมื่อมาถึงท่าเรือ....แม่ของน้องได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอไปก่อน เพราะต้องนำน้องไปรักษาด่วนที่สุราษฎร์ฯ แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้ ต้องจองคิวก่อนถึงจะได้ไป สุดท้ายน้องเขาไปที่ทางเรืออีกแห่งหนึ่ง ขอพนักงานลงก่อน ซึ่งก็ได้ลัดคิวให้เลย ตอนนี้น้องเขาอยู่ในมือหมอแล้ว" ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และส่งต่อกันไปเป็นจำนวนมากในโลกออนไลน์
จากการตรวจสอบพบว่า นางกระกร ไกรวงศ์ แม่ของนายอัฐชัย ไกรวงศ์ คือผู้ที่แชร์เรื่องดังกล่าว โดยที่ นายอัฐชัย ไกรวงศ์ อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.3 วิทยาลัยบริหารธุรกิจเกาะสมุย ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทักษิณ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายอัฐชัยมีอาการกระดูกต้นคอเคลื่อน และเตรียมเข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้
จากการสอบถาม นางกระกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 นายอัฐชัยได้กลับบ้านมาพร้อมกับรถรับส่งนักเรียน ระหว่างทางรถนักเรียนเกิดอุบัติเหตุชนกับรถกระบะ ทำให้นายอัฐชัยได้รับบาดเจ็บต้องถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์สมุย แต่ทางแพทย์เผยว่านายอัฐชัยอาการหนัก ทางโรงพยาบาลไม่มีแพทย์ผ่าตัด ต้องส่งตัวไปให้ที่โรงพยาบาลทักษิณ ทางรถพยาบาลจึงจองคิวเรือเฟอร์รี่แห่งหนึ่งให้ในเวลา 13.00 น. แต่เนื่องจากว่ากลัวจะช้าเกินไป เพราะนายอัฐชัยต้องเจาะกะโหลก และถ่วงเหล็กถึง 15 กิโลกรัม นางกระกรจึงโทรไปบริษัทเรือเพื่อขอเลื่อนเที่ยวเรือให้เร็วขึ้น แต่พนักงานรับโทรศัพท์กลับปฏิเสธและบอกว่าต้องจองคิวเรือก่อนเท่านั้น นางกระกรจึงเดินทางไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่อีกแห่งเพื่อขอคิวลงเรือ และได้คิวทันที
ล่าสุด บริษัทเรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าว ได้ติดต่อมาที่นางกระกร และขอตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพนักงานรับโทรศัพท์ ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05URTJOalUzT1E9PQ==&subcatid=-
.
sithiphong:
ค่ายประจักษ์ศิลปาคม เมืองอุดรธานีออกประกาศเตือนประชาชน ระวังแก๊งมิจฉาชีพ สวมรอยทหารเข้าตรวจค้นบ้านประชาชนก่อนฉกทรัพย์ แนะมีปัญหาโทรฯ 042-930121”
วันเสาร์ 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 20:58 น.
-http://www.dailynews.co.th/Content/regional/253429/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-
กรณีมีผู้โพสต์ข้อความในโลกโซเซียลแจ้งเตือนประชาชน ใจความว่า “ประกาศสำหรับหมู่บ้านไหนที่มีทหารเข้าไปตรวจค้นบ้าน อย่าเพิ่งให้เข้าตรวจค้น ขั้นต้นขอดูบัตร และกรุณาถ่ายรูปทหารคนนั้นไว้ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพราะในตอนนี้ไม่มีทหารจากหน่วยไหนทำการตรวจค้นบ้านประชาชน ถ้าหากพบเจอในลักษณะเช่นนี้ให้แจ้งมาทางนี้ได้เลยครับ 042-930121”และมีการแชร์ต่อ ๆ กันไป จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ล่าสุดทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ตรวจสอบพบว่า หมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของมณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า ประกาศดังกล่าวเป็นของจริง แต่ได้ประกาศก่อนการจัดตั้ง คสช. เนื่องจากเป็นช่วงที่เกิดเหตุแก๊งมิจฉาชีพแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารเข้าขอตรวจค้นบ้านประชาชนและฉวยโอกาสลักทรัพย์สินหลบหนีบ่อยครั้งในพื้นที่ภาคอีสาน ทางมณฑลทหารบกฯ ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จึงออกประกาศเพื่อเตือนประชาชน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับให้ประชาชนสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์
สำหรับเหตุการณ์ปัจจุบัน คสช.มีอำนาจในการสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นบ้านของบุคคลต้องสงสัยได้โดยถูกต้องตามกฎหมายเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยของประเทศชาติ โดยทุกครั้งเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นจะสวมเครื่องแบบที่ถูกต้อง ครบถ้วน และมียานพาหนะของกองทัพไปด้วยทุกครั้ง หากประชาชนมีข้อสังสัยสามารถขอดูบัตประจำตัวเจ้าหน้าที่ได้ทันที หรือสอบถามโดยตรงได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ คสช. 094-128-6273-9
sithiphong:
คนผวาสัตว์ต่างถิ่นมีพิษกัดคนอาการโคม่า
-http://club.sanook.com/44739/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4/-
ข่าว 7 สี
แมงมุมสีน้ำตาล ที่กัดหนุ่มชาวแพร่อาการโคม่า เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภัยร้ายเข้ามาใกล้ตัวมากขึ้น ติดตามเรื่องนี้กับ คุณฐิตาภัสร์ ศิริธัญญะวงศ์
ภาพซากแมงมุมที่มีขนาดเล็กมาก ไม่ถึง 10 มิลลิเมตรที่เห็นอยู่นี้ คือ แมงมุมสีน้ำตาล เป็นสัตว์มีพิษต่างถิ่น จากสหรัฐอเมริกา และเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่แพทย์นำมาวินิจฉัย อาการของ นายอุทัย เวียงคำ หนุ่มชาวจังหวัดแพร่ ที่ถูกเจ้า แมงมุมตัวนี้กัด จนอาการโคม่า
ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการนำซากแมงมุม มาใช้ร่วมวินิจฉัยรักษาผู้ป่วย จากเดิมจะวินิจฉัยจาก ร่องรอยกัดในตัวผู้ป่วยเท่านั้น
ทุกวันนี้ สัตว์ต่างถิ่นทั้งที่มีพิษและไม่มีพิษ ถูกนำเข้ามาในไทยมากขึ้น ทั้งการลักลอบนำเข้ามาเลี้ยง มาขาย และติดมากับเรือสินค้า ยิ่งพวกแมลง หรือสัตว์ตัวเล็ก จะหลบสายตาเจ้าหน้าที่ได้ง่าย
ความนิยมของพวกชอบเลี้ยงสัตว์แปลก ที่มากขึ้น ทำให้ผู้ค้าสัตว์หายาก เริ่มเพาะพันธุ์ขายกันเองก็มี เช่น งูหลายสายพันธุ์ ทำให้การแพร่กระจายของสัตว์ต่างถิ่นมีมากจนเกินควบคุม
ทีมข่าว 7 สีได้เข้าไปสำรวจ ย่านค้าสัตว์แปลกใน ตลาดนัดจตุจักรเดินดูหลายร้าน ไม่มีเจ้าแมงมุมมีพิษ วางขายอยู่แล้ว สอบถามผู้ค้า ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงนำสัตว์เหล่านี้มาขายหากถูกจับได้ ผู้ที่ชอบเลี้ยงสัตว์ต่างก็หวาดกลัว อยากให้ควบุคมการลักลอบนำเข้าสัตว์เหล่านี้
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยอมรับแต่ละปีจับผู้ลักลอบในสัตว์เข้ามานับพันคดี แค่ 10 เดือนที่ผ่านมา จับกุมแล้ว 372 คดี โดยเฉพาะเต่าและตะพาบน้ำ มีมากสุดถึงกว่า 2,000 ตัว
ปัญหานี้คงอาศัยทางการตามจับ สกัดการลักลอบนำเข้าสัตว์มีพิษอย่างเดียวไม่ได้ ผู้ชอบเลี้ยง ผู้ค้า ต้องตระหนักถึงพิษภัย หากสัตว์ที่คุณเลี้ยง คุณค่าสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ที่อาจถึงชีวิต
http://club.sanook.com/44739/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4/
.
sithiphong:
แมงมุมพิษกัด ห้ามนวด-ประคบร้อน หวั่นพิษกระจาย
-http://health.kapook.com/view93576.html-
สาธารณสุขแพร่เตือน หากโดนแมงมุมพิษกัด ห้ามประคบร้อน ห้ามนวด เพราะจะทำให้พิษกระจาย แนะนำให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด แล้วรีบพบแพทย์โดยด่วน (สสจ.แพร่)
แมงมุมพิษกัด ห้ามประคบร้อน ห้ามนวดเด็ดขาด เพราะจะทำให้พิษกระจาย แนะรีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด แล้วรีบพบแพทย์โดยด่วน
จากกรณีที่ประชาชน 4 รายในอำเภอเด่นชัยโดนแมงมุมพิษกัด รายแรกอาการสาหัส ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.แพร่ ส่วนอีก 3 ราย หลังโดนแมงมุมพิษกัดได้รีบมาพบแพทย์ทันที ขณะนี้อาการไม่น่าเป็นห่วง แต่มีบาดแผลจากการถูกแมงมุมพิษกัด ได้มาทำแผลทุกวัน ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้วนั้น
นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า แมงมุมทุกชนิดมีพิษเพื่อล่าเหยื่อ หากถูกแมงมุมทั่วไปกัดอาการก็จะคล้ายแมลงกัดต่อย จะมีอาการปวดบวมร้อน แต่ถ้าถูกแมงมุมพิษกัดจะเป็นอันตรายได้
ทั้งนี้ แมงมุมมีพิษที่มีความสำคัญทางการแพทย์ ได้แก่ แมงมุมแม่ม่ายดำ และแมงมุมพิษสีน้ำตาลซึ่งคนมักเรียกชื่อผิดว่า แมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล หากโดนแมงมุมแม่ม่ายดำกัด พิษของมันจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง มีเลือดออกตามอวัยวะภายใน ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ขาหนีบ มีการอักเสบกดรู้สึกเจ็บได้ มีเหงื่อออก ความดันโลหิตสูง รอยกัดเขียวช้ำ มีจุดแดง อาการที่เฉพาะของพิษคือ อ่อนแรง สั่น ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเกร็ง ท้องแข็ง เป็นอัมพาต ซึมและชักในรายที่แพ้พิษรุนแรง
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวต่อว่า หากโดนแมงมุมพิษสีน้ำตาลกัด จะไม่มีอาการในระยะแรก แต่หลังจากนั้น 3-8 ชั่วโมง จะเริ่มรู้สึกเจ็บ บวมแดง อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการอักเสบ เป็นผื่น แผลเริ่มมีสีดำไหม้ เป็นหนอง ขนาดแผลเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2.5 เซนติเมตร ขอบแผลยกขึ้น ผิวหนังบริเวณที่ถูกกัด เป็นเนื้อตายเกิดเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ ใช้เวลาประมาณหลายเดือนแผลจึงหายสนิท บางรายที่พิษเข้าสู่กระแสโลหิต ผู้ป่วยอาจมีอาการปัสสาวะขัด โลหิตจาง เป็นไข้ ตัวเขียว และอาจเสียชีวิต
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า หากถูกแมงมุมพิษสีน้ำตาลกัด ห้ามนวด ห้ามประคบร้อนบริเวณที่ถูกแมงมุมกัดโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้พิษกระจาย ให้รีบล้างทำความสะอาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด และรีบไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านทันที หลังจากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน ผู้ป่วยจะต้องไปติดตามอาการทุกวัน อย่างน้อยเป็นเวลา 4 วันหลังถูกแมงมุมพิษสีน้ำตาลกัด และการป้องกันที่ดีที่สุด ควรจัดบ้านเรือนให้สะอาด ปัดหยากไย่ ไม่ให้มีในบ้าน ควรปัดที่นอน หมอน ผ้าห่ม และตรวจสอบที่นอนก่อนนอนทุกครั้ง
sithiphong:
เก๋งชนสิบล้อไฟลุกวอดทั้งคัน! คลอกหนุ่มดับสยองคารถ
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qTXpPRFF4T0E9PQ==&subcatid=-
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุรถชนและเกิดเพลิงลุกไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสาย 36 กระทิงลาย-ระยอง หมู่ 5 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา และรถดับเพลิงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ อยู่ฝั่งขาเข้าระยอง ตรงข้ามสนามแข่งรถพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต (พัทยา) โดยพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้รถยนต์เก๋ง โยโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน กน 830 ชลบุรี ชนอัดท้ายรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน 83-0844 นนทบุรี พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย คาซากรถยนต์เก๋ง เป็นชายไทย อายุ 30-35 ปี อยู่ที่เบาะนั่งคนขับ เจ้าหน้าที่จึงเร่งฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิง โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที
จากการสอบสวน นายบุญชิน ทรัพย์มูล อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุก ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้บรรทุกเศษเหล็กกว่า 12 ตัน จากตัวเมืองนนทบุรี เพื่อจะมาส่งขายให้กับ บริษัทสยามยาโมโต้ จ.ระยอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังคล้ายยางระเบิด โดยไม่รู้ว่ามีรถยนต์เสียหลักมาพุ่งชนท้าย จึงไม่ได้เอะใจ จากนั้นขับมาประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงจอดรถวิ่งลงดู พบรถยนต์เก๋งติดคาอยู่ท้ายรถ
จากนั้นได้พยายามช่วยคนเจ็บออกจากตัวรถยนต์เก๋ง แต่เนื่องจากประตูรถยนต์เก๋งเปิดออกไม่ได้ และผู้เสียชีวิตรูปร่างอ้วนท้วม นอนหายใจรวยรินอยู่คาเบาะคนขับ โดยมีไฟลุกไหม้อยู่ด้วย จึงรีบนำน้ำในรถบรรทุกมาช่วยดับ แต่ไฟโหมเร็วมาก ทำให้ผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกตายคารถยนต์เก๋งดังกล่าว
ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถ่ายรูปจุดเกิดเหตุ พร้อมทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัว นายบุญชิน คนขับรถบรรทุกสิบล้อไปดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามจะได้เร่งหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจะติดต่อญาติผู้เสียชีวิตมารับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version