ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง
sithiphong:
วิธีป้องกัน ′ลืมเด็กไว้ในรถ′!
รายงานพิเศษ
มติชนรายวัน 25 กรกฎาคม 2557
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1406299009-
เหตุการณ์เศร้าสลดกรณีลืมเด็กไว้ในรถในบ้านเราถือว่าเกิดขึ้นบ่อยมาก คำถามคือ ทำไมถึงเกิดเหตุเช่นนี้บ่อยครั้ง และเราจะมีวิธีป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
บีบีซีมีรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ผู้อ่านหลายคนอาจคิดว่าพ่อแม่ผู้ปกครองที่ลืมลูกไว้ในรถได้นั้นสมควรถูกประณามและไม่ควรมีข้อแก้ตัวใดๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่าง เคท คารร์ (Kate Carr) ประธานองค์กร เซฟ คิดส์ เวิลด์ไวด์ (Safe Kids Worldwide) ชี้ว่าการลืมเด็กไว้ในรถเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยมี 3 สาเหตุ
สาเหตุหลักเกิดขึ้นเมื่อผู้ขับขี่เข้าสู่โหมด "ออโตไพล็อต" หรือ "ความเคยชิน" เป็นเรื่องสุดวิสัยอย่างแท้จริง
"ดิฉันได้พบกับหลายครอบครัวที่ประสบเหตุการณ์นี้ พวกเขาไม่ใช่คนเลวร้ายเลย พวกเขาเป็นประชาชนธรรมดาทั่วไป ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเอง" คารร์กล่าว พร้อมกับชี้ว่า วิถีชีวิตที่วุ่นวาย และเทคโนโลยีที่เข้ามาครอบงำทำให้ผู้คนขาดสมาธินำไปสู่การลืมเด็กไว้ในรถในที่สุด
สาเหตุที่สองที่อาจเกิดขึ้นคือ เด็กเดินเตาะแตะเข้าไปในรถด้วยตนเองเพราะสามารถกดรีโมตได้อย่างง่ายดาย รถบางรุ่นแค่ถือรีโมตไว้ใกล้ประตูโดยไม่ต้องกดก็สามารถเปิดประตูรถได้ ทำให้ผู้ปกครองไม่รู้ว่าลูกของตนเองอยู่ในรถ สาเหตุนี้คิดเป็นสัดส่วน 30% ของเหตุการณ์ลืมทิ้งลูกในรถที่เกิดขึ้นในอเมริกา
ส่วนสาเหตุสุดท้ายก็คือ ผู้ปกครองทิ้งลูกไว้ในรถอย่างตั้งใจเพื่อลงไปทำธุระโดยคิดว่าใช้เวลาไม่นานนัก จึงไม่น่าจะมีอันตรายกับลูกได้ อีกทั้งยังมีความเชื่อที่ผิดว่าการแง้มหน้าต่างไว้เล็กน้อยจะช่วยให้เด็กไม่ร้อนมากเกินไป แท้จริงแล้วอันตรายอย่างมาก
เหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถเกิดขึ้นบ่อยครั้งไม่เฉพาะในเมืองไทย แต่รวมถึงอีกหลายประเทศทั่วโลก เฉลี่ยแล้วมีเด็กเสียชีวิตจากการถูกทิ้งไว้ในรถราว 38 รายต่อปีในอเมริกา แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตัวเลขอาจมีมากกว่านั้น
พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนควรตระหนักว่าอุณหภูมิภายในรถอาจพุ่งสูงเกินกว่า 10 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียง 10 นาทีที่จอดรถกลางแจ้ง และเมื่ออุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ขึ้นสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียสจะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่ออวัยวะภายในร่างกาย ขณะที่เด็กวัยแบเบาะจนถึง 5 ปี มีความเสี่ยงมากกว่าเพราะอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นเร็วกว่าผู้ใหญ่สามถึงห้าเท่าตัว
หลายรัฐในอเมริกาจึงออกกฎหมายลงโทษพ่อแม่ผู้ปกครองที่ลืมทิ้งลูกไว้ในรถเพื่อป้องกันเหตุการณ์นี้ เช่น รัฐฟลอริดาจำกัดเวลาไม่ให้ทิ้งลูกไว้ในรถเกินกว่า 15 นาที มิฉะนั้นจะมีความผิดทางกฎหมาย, การทิ้งเด็กอายุ 6 ปีหรือต่ำกว่าไว้ในรถอย่างไม่ปลอดภัยถือเป็นการละเมิดกฎหมายจราจรของรัฐแคลิฟอร์เนีย, การทิ้งเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีไว้ในรถที่ติดเครื่องยนต์ถือเป็นความผิดอาญาในเทนเนสซีและเนวาดา
ที่ผ่านมา มีการคิดค้นวิธีการเตือนความจำผู้ขับขี่ไม่ให้ลืมเด็กไว้ในรถ ทั้งสายคล้องประตูที่คิดโดยเด็กอายุ 12 ปี และแอพพลิเคชั่น ในสมาร์ทโฟน แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือสมาธิของตัวผู้ขับขี่เอง
"ไม่มีเคล็ดลับใดๆ จะป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถได้ แต่เราควรมุ่งเน้นที่พฤติกรรมมากกว่า เราไม่ควรทิ้งเด็กไว้ในรถไม่ว่าจะกี่นาทีก็ตาม ควรเก็บกุญแจรถให้ห่างจากมือเด็กและควรมีอุปกรณ์สำหรับเตือนความจำไว้ที่เบาะหลัง" คารร์กล่าว
อุปกรณ์เตือนความจำดังกล่าวอาจเป็นทั้งโทรศัพท์มือถือ รองเท้าที่จะใส่ กระเป๋าถือหรือเอกสารสำคัญที่ควรเก็บไว้ที่เบาะหลังข้างตัวเด็กเพราะทำให้เราต้องหันไปหยิบก่อนลงจากรถ
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการเตือนความจำอื่นๆ อาทิ ควรใส่ตุ๊กตาไว้ในเบาะที่นั่งเด็ก เมื่ออุ้มเด็กมานั่งที่เบาะแล้วให้นำตุ๊กตามาไว้ที่เบาะหน้าแทนเพื่อเตือนก่อนลงจากรถ ติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กไว้ที่ด้านหลังฝั่งซ้ายเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ง่ายกว่า ตรวจดูเบาะหน้าและเบาะหลังทุกครั้งก่อนล็อกรถ
sithiphong:
เบอร์ถูกขโมยด้วยการเปลี่ยนชื่อ
-http://hitech.sanook.com/1390713/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-dtac-%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD/-
ถูกขโมยด้วยการเปลี่ยนชื่อ, ได้รับเบอร์ใหม่ใกล้เคียงเบอร์เดิมแทน
เมื่อวานนี้มีรายงานจากคุณ udonza ผู้ดูแลเว็บ udon108 ลูกค้าของค่ายหมายเลข 6683xxx7373 เป็นหมายเลขเติมเงินที่ได้ลงทะเบียนชื่อเจ้าของเลขหมายไว้แล้ว แต่ปรากฎว่าหมายเลขกลับถูกเปลี่ยนชื่อเจ้าของและโอนไปให้ผู้ใช้คนอื่นในที่สุด
ทางค่ายแจ้งว่าได้ชดเชยให้กับคุณ udonza แล้วโดยยังเป็นหมายเลข 6683xxx7373 ใกล้เคียงหมายเลขเดิม และได้ปรับมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้อีก
ปัญหาความปลอดภัยของหมายเลขในกรณีนี้คงเป็นประเด็นมูลค่าของตัวเลขที่ มูลค่าสูงเพราะหมายเลขสวยมาก แต่หากผู้ให้บริการหละหลวมแม้แต่หมายเลขที่ลงทะเบียนไว้แล้วนับเป็นปัญหา ความปลอดภัย เพราะหมายเลขโทรศัพท์ทุกวันนี้ใช้เพื่อยืนยันบริการจำนวนมากเป็นปัจจัยที่ สอง ทั้งบัญชีธนาคาร, เฟซบุ๊ก, กูเกิล, หรือบริการสำคัญอื่นๆ
การที่หมายเลขสามารถถูกโอนไปยังคนอื่นโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ ระบบยืนยันตัวตนที่อาศัยหมายเลขโทรศัพท์ก็อาจจะมีปัญหาทำให้เข้าบัญชีตัวเอง ไม่ได้ หรือกระทั่งคนร้ายอาจจะยึดหมายเลขอย่างเจาะจงเพื่อขโมยเงินในบัญชี
งานนี้คงต้องรอดูกสทช. ที่สนับสนุนให้ผู้ใช้ช่วยกันลงทะเบียนเลขหมายเพื่อความปลอดภัยว่าหากลงทะเบียนแล้วยังไม่ปลอดภัยจะมีมาตรการอย่างไร
ที่มา - Pantip.com, udon108
sithiphong:
นักกีฏวิทยาเตือนอย่าใช้สารเคมีพ่นฆ่าแมงมุม/ยันไม่ได้ผล
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 สิงหาคม 2557 08:45 น.
-http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000087863-
ลำปาง – นักกีฏวิทยาด้านแมงมุม แนะอย่าใช้สารเคมีฆ่าแมงมุม บอกไม่ได้ผล แต่ควรให้วิธีนำตัว – รังไข่มาทำลายด้วยมือ หรือเผาทิ้งแทน
นายประสิทธิ์ วงษ์พรม นักวิจัยด้านกีฏวิทยา ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้วิจัยด้านแมงมุม ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว หลังที่เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง นำสารเคมีเข้าพ่นทั่วบริเวณวัดบ้านสามัคคี ม.5 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เพื่อกำจัดแมงมุมแม่หม้ายสีน้ำตาล ว่า ตนไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีฆ่าแมงมุม
เพราะสารเคมีไม่สามารถฆ่าแมงมุมได้ นอกจากจะฉีดโดนตัวจริงๆเท่านั้น รวมทั้งไม่สามารถฆ่าไข่ของแมงมุมได้เช่นกัน เนื่องจากไข่ของแมงมุมอยู่ในถุงไข่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยใยแมงมุม
“วิธีเดียวที่จะกำจัดแมงมุมได้ก็คือ การทำร้ายตัว และทำลายรังไข่แมงมุม เพื่อไม่ให้มีการแพร่กระจายของตัวอ่อนเท่านั้น”
นายประสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า การใช้สารเคมีจำนวนมาก ในการฉีดพ่นบริเวณที่อยู่อาศัยหรือในพื้นที่อื่นๆ นอกจากจะทำให้ระบบนิเวศน์ของแมงและแมลงที่มีอยู่ตามธรรมชาติถูกทำลายแล้ว ยังมีอันตรายต่อคนอีกด้วย ดังนั้นตนจึงไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีในการฆ่าแมงมุม
นายประสิทธิ์ ยืนยันอีกว่า และที่สำคัญแมงมุมไม่ได้อันตรายขนาดที่กัดคนแล้วตาย ดังนั้นจึงไม่ต้องหวาดกลัว การทำลายควรใช้วิธีแบบบ้านๆ คือ การใช้มือ หากกลัวก็ใส่อุปกรณ์ป้องกัน หรือไม้กวาดทั่วไป กวาดรังไข่ที่เป็นถุงไข่ของแมงมุมออกมาแล้วทำลายจะด้วยการทุบ หรือเผาก็ได้ ทำติดต่อกัน ทุกสัปดาห์ประมาณ1 เดือน แมงมุมก็จะหมดไป และ 2 สัปดาห์ หรือเดือนถัดไป ควรกลับมาดูใหม่อีกครั้ง พร้อมกับทำความสะอาดบ้านเรือนเป็นประจำไม่ควรปล่อยให้มีพื้นที่ที่รกหรือสกปรก
sithiphong:
ถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็ให้นำไซยาไนด์ ใส่ในลูกชิ้นเนื้อ โรยไว้ใกล้ๆบ้านที่หมาอยู่
จะได้หมดปัญหาครับ
------------------------------------------------------
พิตบูลโหด ขย้ำหญิงวัย 58 กัดท้องเหวอะ-กระดูกแตก
-http://hilight.kapook.com/view/106100-
พิตบูล ขย้ำสาวใหญ่หวิดตายร้องทหารช่วย (ไอเอ็นเอ็น)
พิตบูล ขย้ำหญิงวัย 58 หวิดตาย โชคดีคนงานชาวพม่าเข้าช่วย คนเจ็บร้องขอความเป็นธรรมทหารแล้ว
วานนี้ (2 สิงหาคม 2557) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกสุนัขพันธุ์พิตบูล กัดบาดเจ็บสาหัส นอนพักรักษาตัวที่โรง พยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นางวารินทร์ พลสงคราม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ 5 ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี สภาพร่างกายมีบาดแผลจากการถูกเขี้ยวสุนัขกัดที่หน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์ หลายแผล ที่ฝ่ามือซ้ายถูกกัดจนกระดูกแตก นิ้วก้อยหัก ท้องแขนมีบาดแผลเป็นรูเขี้ยว 9 แห่ง ที่ฝ่ามือขวาและแขน มีบาดแผลถูกกัดเป็นแผลเหวอะหวะเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอาการระบบอักเสบ เพราะพิษบาดแผล ปวดกล้ามเนื้อ และไข้ขึ้นสูง
สอบถาม นางวารินทร์ เล่าว่า สุนัขตัวดังกล่าวได้กัดกระชากตนนานกว่า 3 นาที ขณะนั้นตนล้มลงและเริ่มต่อสู้ไม่ไหวกระทั่งมีชายชาวพม่า ซึ่งเป็นคนงานในโรงงานละแวกใกล้เคียงผ่านมาพบเห็นและพยายามช่วย สุนัขจึงหันไปกัดชายคนดังกล่าวเข้าที่แขนซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์และยื้อยุดกระชากกัน ตนร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงได้เปิดประตูรั้วออกมาพยุงตนเข้าไปในบ้าน และช่วยกันขับไล่หมาตัวดังกล่าว กระทั่งเจ้าของสุนัขมาพบเห็น และรีบไล่สุนัขกลับบ้านไป และตนจึงได้นำเรื่องไปร้องขอความเป็นธรรมจาก เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.15 แล้ว
sithiphong:
เหล็กยังปลอม ดูกันชัดๆ เหล็กเส้นปลอมมันเป็นแบบนี้
http://www.youtube.com/watch?v=H0jgsRBq0wc#t=39
-http://www.youtube.com/watch?v=H0jgsRBq0wc#t=39-
.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version