ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง
sithiphong:
เรื่องนี้ ตำรวจ ต้องจับตายอย่างเดียวครับ
---------------------------------------------------
โจรลักพาตัวพ่อค้าปลาเรียกค่าไถ่ โมโหญาติขอต่อรอง ตัด “นิ้ว“ ส่งมาขู่
-http://news.sanook.com/1669949/%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%96%E0%B9%88-%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2/-
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (18 ก.ย.) พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.วีระยุทธ ประสานนาม รองผกก.สส.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมชุดสืบสวนสภ.บางใหญ่ ได้รับการร้องเรียนจากชาวเวียดนามที่มาค้าขายอยู่ที่ตลาดบางใหญ่ ว่าญาติตนชื่อ นายบอล (THAI HUU HAI) อายุ 39 ปี พ่อค้าแผงปลา ชายชาวเวียดนามได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้กำลังบังคับลักพาตัวขึ้นรถแท๊กซี่หลบหนีไปที่หน้าตึกแมนชั่น 7 ชั้นภายในตลาดบางใหญ่ ตึ้งแต่เมื่อคืนวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา
หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่อง ได้ออกติดตามและประสานกับทางญาติชาวเวียดนาม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ก.ย. กลุ่มคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาทางญาติของนายบอล เพื่อให้นำเงินจำนวน 1,500,000 บาท มาไถ่ตัว แต่ทางญาติได้ขอต่อรองลงมาเหลือ 300,000 บาท ทำให้กลุ่มคนร้ายดังกล่าวไม่พอใจ จึงได้ตัดปลายข้อนิ้วก้อยของนาย บอล ส่งมาให้ทางนาง ตัน ตี คุก อายุ 43 ปี ที่เป็นภรรยาและญาติดู และได้บอกว่าถ้าหากนำเงินที่กลุ่มคนร้ายร้องขอมาให้ไม่ได้ ก็จะไม่รับรองชีวิตของนายบอล
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้สืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้นำตัวนายบอลไปไว้ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ที่ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเข้าไปช่วยเหลือตัวนายบอล ออกมาได้จากบ้านร้างดังกล่าว
โดยในที่เกิดเหตุนั้น พบนายบอลถูกขังอยู่ภายในห้องน้ำร้าง โดยมีโซ่มัดไว้และถูกล่ามโซ่กับขื่อเสาห้องน้ำ มีสภาพอิดโรย มีอาการบาดเจ็บและมีแผลตามร่างกายบวมเขียวช้ำตามหน้าและลำตัวหลายแห่ง ที่ปลายนิ้วก้อยมือขวา ถูกตัดขาดหายไป จึงรีบนำตัวส่งรพ.เพื่อรักษาอาการ
จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมซุ้มเฝ้าดูบ้านร้างดังกล่าว พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ไหวตัวหลบหนีไปได้
ด้านพ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร ผกก.สภ.บางใหญ่ ได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้รู้ตัวกลุ่มคนร้ายพร้อมทั้งได้ออกหมายจับ กลุ่มคนร้ายดังกล่าวมีจำนวน 5 คน เป็นชายชาวเวียตนาม คือ
1) นายบอยหรือลอง (Long) อายุ 25ปี
2)นายเหงียน เท ไฮ หรือเบิรด์ (Ngyen The Hai) อายุ 26ปี
3)นายทอง สินหรือศรรม (Thong Sinv) อายุ 30ปี
4)นายนิ่ม หรือเนียม อายุ 30ปี
5)นายเหงียน เตียน ล๊ายหรือหล๊อบ หรือต้น (Nguyen Tien Lap) อายุ 25ปี
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่ประจำด่านตามแนวชายแดนไว้หมดแล้ว หากผู้ใดพบเห็นหรือให้ที่หลบซ่อน หรือที่พักพิงกับกลุ่มคนร้ายดังกล่าว ให้รีบติดต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงโดยด่วน มิฉะนั้นจะมีความผิดฐานให้ที่พักพิงและมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
sithiphong:
สยอง ลิฟต์ขัดข้อง เลื่อนขึ้นเอง อัดร่าง น.ศ. ดับคาประตู
-http://hilight.kapook.com/view/108302-
ลิฟต์ขัดข้อง เลื่อนขึ้นเอง อัดร่าง น.ศ. ดับคาประตู
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ hao feige สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
สยอง ลิฟต์ขัดข้อง เลื่อนขึ้นกะทันหันโดยประตูยังไม่ปิด ดึงร่างนักศึกษาชายไปบีบอัดคาประตู ค่อย ๆ ขาดใจตาย กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2557 มีรายงานจากเว็บไซต์ chinadaily ว่า เกิดเหตุลิฟต์หนีบนักศึกษาเสียชีวิต ที่อาคารเรียนของมหาวิทยาลัยหัวเฉียว ในเมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดระบุเวลาเกิดเหตุตอน 17.47 น. นักศึกษาชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาในลิฟต์ แต่ในขณะที่ก้าวขาเข้ามาได้เพียงข้างเดียว ลิฟต์ก็เกิดเลื่อนขึ้นกะทันหัน ดึงร่างของนักศึกษาคนดังกล่าวขึ้นไปถูกบีบอัดอยู่ระหว่างพื้นลิฟต์และปากประตูลิฟต์ด้านบน ในสภาพศีรษะ อก แขน และขาอย่างละข้างอยู่ด้านในลิฟต์ ร่างของเขายังกระดุกกระดิกอยู่เป็นนาทีก่อนจะนิ่งไป
ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุและมาถึงที่ในเกิดเหตุเมื่อช่วง 18.00 น. แต่นักศึกษาคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว ในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการเสียชีวิตมาจากอวัยวะภายในฉีกขาด
ทั้งนี้หลังมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป ทำให้เป็นที่หวาดวิตกสำหรับผู้ที่ใช้ลิฟต์ในการขึ้นลงอาคารเป็นประจำ จึงมีการเตือนกันว่าให้รอดูลิฟต์ดี ๆ ก่อนที่จะก้าวเข้าไปด้วย
“現實版死神來了”華僑大學壹名學生被卡教學樓電梯窒息死亡,事發廈門校區
-http://www.youtube.com/watch?v=RhcswqkqcGs-
คลิป “現實版死神來了”華僑大學壹名學生被卡教學樓電梯窒息死亡,事發廈門校區 โพสต์โดยคุณ hao feige สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
.
sithiphong:
ปัญหาร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ไม่สะอาด ทางร้านรับผิดชอบไม่เต็มที่ ผู้บริโภคสามารถทำอะไรได้บ้าง?
วันอังคาร 7 ตุลาคม 2557 เวลา 05:00 น.
-http://www.dailynews.co.th/Content/Article/271940/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%94+%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%3F-
ปัจจุบันการทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในห้างสรรพสินค้า กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนเมือง เนื่องด้วยความสะดวกสบายที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารเอง และสามารถมั่นใจในเรื่องความสดใหม่และความสะอาดของวัตถุดิบอีกด้วย แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น มีกรณีศึกษาที่พูดถึงความสะอาดของร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ตามห้างสรรพสินค้าอยู่มากมาย พบแมลงตามโต๊ะอาหาร หรือตามถาดอาหารบ้าง
ล่าสุดเกิดกรณีพบตัวอ่อนแมลงสาบอยู่ตามถาดอาหารและที่นั่งในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พบว่าในหม้อน้ำซุปที่รับประทาน มีตัวอ่อนแมลงสาบถูกต้มจนเปื่อยแล้ว ซึ่งมาจากอาหารหรือของสดที่ตักมาจากถาดอาหาร นอกจากนี้ยังพบบนโต๊ะอาหาร และกล่องทิชชู่ด้วย ผู้ใช้บริการจึงรีบแจ้งผู้จัดการร้านทันที แต่ได้รับเพียงคำขอโทษและข้อเสนอโปรโมชั่นลดราคา เมื่อนำเรื่องไปแจ้งผ่านแฟนเพจของร้านดังกล่าว ก็ได้รับการติดต่อจากผู้ดูแลว่ารับทราบเรื่องแล้ว ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะหามาตรการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทมีนโยบายในการควบคุมดูแลคุณภาพ รักษามาตรฐานอาหารและความสะอาดทุกสาขา
หลายคนตั้งคำถามว่า ในฐานะผู้บริโภคแล้ว เราสามารถทำอะไรกับเหตุการณ์แบบนี้ได้บ้าง นอกจากรอทางร้านรับผิดชอบด้วยการยื่นข้อเสนอเป็นโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ บัตรกำนัลส่วนลดไว้ทานในครั้งต่อไป โดยที่ไม่รู้ว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน วันนี้ 'เดลินิวส์ออนไลน์' มีโอกาสสอบถาม ผ.อ. ทรงศิริ จุมพล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลากสินค้า ถึงการรับมือเมื่อผู้บริโภคเจอเหตุการณ์ดังกล่าว
ผ.อ. ทรงศิริ กล่าวว่า ในด้านผู้บริโภค ขณะรัประทานอาหารอยู่แล้วพบสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งอันตรายในอาหาร ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะไม่จ่ายค่าอาหารในมื้อนั้นได้ จากนั้นสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ผ่านสายด่วน 1166 ผ่านทางเว็บไซต์ของสคบ. หรือกรอกแบบฟอร์มคุ้มครองผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่นได้ เพื่อให้ชดเชยค่าเสียหาย โดยทางสคบ. จะเชิญผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้บริโภค มาพูดคุยเจรจาไกล่เกลี้ยปัญหา และชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้
สำหรับการเรียกร้องให้ตรวจสอบความสะอาดของร้านอาหารรวมทั้งคุณภาพของอาหาร ผู้บริโภคสามารถแจ้งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สายด่วน 1556 หรือ สำนักงานเขตหรือเทศบาลของพื้นที่ตั้งร้านอาหารนั้นๆ เพื่อให้อนามัยของแต่ละพื้นที่สามารถเข้าตรวจสอบร้านอาหารได้ หรือในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร ก็สามารถส่งเรื่องไปยังสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร โทร. 02-245-3933, 02-245-3845ได้เช่นกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารควรหมั่นตรวจสอบคุณภาพอาหาร และทำความสะอาดพื้นที่ร้านอาหารรวมทั้งภาชนะที่ใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะต่อให้ผู้บริโภคได้รับเงินค่าชดเชยมากเพียงใด แต่ถ้าปัญหาด้านความสะอาดส่งผลต่อสุขภาพจนอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต มีเงินมากเพียงใดก็ซื้อกลับมาไม่ได้
@ArnonNunn
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
sithiphong:
สาวโพสต์เตือนภัย โดนทำร้ายในที่จอดรถห้างดังย่านบางนา
-http://hilight.kapook.com/view/109961-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สาวโพสต์เตือนภัย การจอดรถในห้างดังย่านบางนา ระบุ เกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังโดนคนร้ายทำร้าย แถมทางห้างยังรับผิดชอบแค่ค่ารักษาพยาบาลครั้งแรก ตำรวจนิ่งกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2557 ในโลกอินเทอร์เน็ต ได้มีการแชร์กระทู้หนึ่งของคุณ chimerism สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งเป็นกระทู้เตือนภัยการจอดรถในห้าง มีรายละเอียดคร่าว ๆ ว่า เจ้าของกระทู้ถูกคนร้ายทำร้ายที่ห้างดังแห่งหนึ่งย่านบางนา เมื่อเย็นวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพยายามบีบแตรขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่ห้างไม่มีใครมาช่วย แถมคิดว่าเป็นวัยรุ่นตีกันเสียอีก อย่างไรก็ดี โชคดีที่เจ้าของกระทู้สามารถรอดชีวิตมาได้ เพราะคนร้ายหนีไปก่อน
ทั้งนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าของกระทู้ระบุว่า ทางห้างพาผู้เสียหายไปปฐมพยาบาล พร้อมระบุว่า จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแค่ครั้งแรกเท่านั้น ส่วนที่เหลือผู้เสียหายรับผิดชอบเอง และได้แจ้งความเรื่องนี้ต่อ สภ.บางแก้ว แล้ว กระทั่งจนถึงวันนี้ ก็ไร้การติดต่อจากทางตำรวจและทางห้าง เจ้าของกระทู้จึงตัดสินใจตั้งกระทู้ขึ้นมา เพื่อไม่ให้เรื่องราวเงียบหายไป
สำหรับข้อความทั้งหมดของคุณ คุณ chimerism มีดังนี้
เรื่องที่กำลังจะพิมพ์ทั้งหมดนี้อาจจะยาวสักหน่อย แต่ที่ต้องการพิมพ์เพื่อแจ้งเตือนให้ทุกคนระมัดระวังตัว และอยากทราบว่า เราทำอะไรได้บ้างนอกจากรอ...
**เราต้องการให้ตำรวจจับคนร้ายคนดังกล่าวได้โดยเร็ว**
**เราต้องการให้ทางห้างดังแห่งหนึ่งย่านบางนาออกมา**
1. แสดงความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางห้าง
2. แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณห้าง ของท่าน **มากกว่าการไปส่งที่ รพ. และออกค่ารักษาพยาบาลเพียงครั้งแรกครั้งเดียว** เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าท่านอื่น ๆ ด้วย
3. การมีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ บีบแตร ที่เกิดขึ้นในลานจอดรถ และมีพนักงานของท่านได้ยิน แต่ไม่สนใจ "เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้างของท่านเป็นปกติหรือถึงไม่มีใครจะเข้ามาดูหรือให้ความช่วยเหลือในทันที ??"
=========================
เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2557 (เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา)
เราได้ขับรถเข้าไปจอดรถในลานจอดรถใต้ตึกในห้างฝั่ง Big C ช่อง S17 สีเขียว ซึ่งช่องดังกล่าวห่างจากทางเข้าประตูห้างเพียง 2 ล็อก
เราขับรถเข้าไปจอดในช่องดังกล่าวตามปกติ พอดับเครื่องเตรียมลงจากรถ ก็มีผู้ชายคนหนึ่ง เดินมาจากด้านหลังรถอย่างรวดเร็ว และเปิดประตูรถฝั่งคนขับทันที
ผู้ชายคนดังกล่าว พูดว่า "คุณครับ"
ด้วยความตกใจ เราก็พูดไปว่า "เปิดประตูทำไม"
หลังสิ้นเสียงที่เราถาม ผู้ชายคนดังกล่าวก็เอาตัวมาขวางประตูไม่ให้ปิด และก็กระหน่ำหมัดลงบนหน้าเราอย่างไม่ยั้ง (เราเป็นผู้หญิงไปคนเดียว อายุประมาณ 40 ปี) ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก
เราสู้ ทั้งถีบ ทั้งตะโกน ทั้งบีบแตรรถ ทั้งขอความช่วยเหลือ ไม่มีใครเดินเข้ามา ไม่มีใครเข้ามาช่วย จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 นาที ผู้ชายคนดังกล่าวเห็นว่า ท่าไม่ดี และเราก็สู้ไม่ถอย จึงรีบวิ่งหนีไป
หลังเกิดเหตุเราก็รีบปิดประตูรถ + ล็อครถ เพื่อเช็คหน้าตัวเอง มีเลือดไหลทั้งปาก จมูก และหน้าบวม และรอในรถสักพักจนแน่ใจว่า ผู้ชายคนดังกล่าวไม่อยู่แถวนั้นแล้ว จึงลงมาจากรถ
และเห็นแม่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้น จึงถามแม่บ้านว่า "หนูโดนทำร้าย พี่ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือเสียงบีบแตรเลยหรอคะ
แม่บ้านตอบว่า "ได้ยิน แต่คิดว่าวัยรุ่นทะเลาะกันเลยไม่ได้สนใจ"
เราจึงบอกให้แม่บ้านพาไปหาหัวหน้า รปภ. เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด
หัวหน้า รปภ. จึงพาไปที่ information เพื่อแจ้งเรื่องไว้ และขอข้อมูลต่าง ๆ ไป ทั้งชื่อ นามสกุล จุดที่เกิดเหตุ เบอร์ติดต่อกลับ และเลขบัตรประชาชน
หลังจากนั้นก็พาไปที่ห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ภายในห้าง ระหว่างที่ปฐมพยาบาลอยู่นั้น ก็มี รองผู้กำกับ จากสน.บางแก้ว เข้ามาดู และสอบถามกับเราว่า "คุณมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า" และ "คุณรู้จักกับคนที่ทำร้ายคุณมาก่อนหรือเปล่า"
เราจึงบอกว่าไม่เคย และไม่มีศัตรูที่ไหน (ขอให้ทุกคนคิดภาพตาม เราอยู่ในสภาพหน้าบวม เลือดเต็มหน้า และได้รับคำถามแบบนั้น)
หลังจากปฐมพยาบาลเสร็จ ก็มีรถของทางห้าง ขับรถไปส่งเพื่อทำการรักษาต่อที่ รพ.ปิยะมินทร์ ซึ่งก่อนขึ้นรถก็มีรปภ. แจ้งว่า "ทางห้าง ของเราจะจ่ายค่ารักษาให้กับคุณครั้งนี้เท่านั้น หากมีค่าใช้จ่าย หรือค่ารักษาเกิดขึ้นหลังจากครั้งนี้ คุณจะต้องเป็นผู้ออกเองไม่เกี่ยวกับทางห้าง"
เราก็เริ่มเจ็บและปวดแล้ว จึงไม่ได้โต้ตอบอะไร ระหว่างทางที่ไป รพ. คนขับรถที่พาไปก็ยื่นรูปในโทรศัพท์มาให้ดู เพื่อให้เรายืนยันว่า "ใช่คนที่มาทำร้ายหรือไม่" ซึ่งเรายืนยันว่า "ใช่ คนนี้แหละ" (ขอไม่เปิดเผยรูปถ่าย เพราะอาจทำให้เสียรูปคดี)
พอไปถึง รพ. คนขับรถจากห้าง ก็มาส่งจริง ๆ ค่ะ มาส่งเสร็จ แล้วก็ไปเลย ให้ญาติเราดำเนินชีวิตต่อไปในสภาพเจ็บทั้งตัว และขวัญเสียมาก ซึ่งจากการตรวจที่ รพ. พบว่า
1. กรามฝั่งขวาบวมมาก และเบี้ยวจนเห็นได้ชัด จะต้องเข้าพบศัลยแพทย์ เพื่อดูฟิล์ม และปรึกษาอีกทีว่าต้องผ่าตัดกรามที่เบี้ยวหรือไม่
2. เย็บในปากจำนวน 4 เข็ม เนื่องจาก ถูกต่อยจนฉีกขาด
3. ปากแตก
4. เลือดกำเดาไหล
5. หน้าบวม
หลังจากเสร็จที่ รพ. ประมาณ 20.00 น. ก็เดินทางไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางแก้ว พบร้อยเวรประจำวัน ร้อยตำรวจโท นเรศ (ขอสงวนนามสกุล)
ทางร้อยเวรแจ้งกับเราว่า "หากคนร้ายมุ่งจะชิงทรัพย์ จะต้องเปิดประตูรถฝั่งซ้ายเพื่อทำร้ายและชิงทรัพย์ แต่ในกรณีของคุณ คนร้ายเปิดที่ฝั่งขวา นั่นแปลว่า คนร้ายมุ่งมาทำรายคุณ ไม่ใช่มุ่งมาที่สิ่งของ ๆ คุณ"
เราจึง บอกตำรวจว่า "เป็นไปได้มั้ยที่คนร้ายจะเข้ามาทำร้าย ที่ฝั่งคนขับเพื่อประชิดตัว ทำร้ายให้สลบ เพื่อจะชิงทั้งทรัพย์ และชิงทั้งรถ"
(ซึ่งเราเองไม่ได้มีแพลนที่จะไปล่วงหน้า แต่ที่ไปเพราะว่าเรามีต้องส่งของ เราจึงคิดว่า เราจะวนเข้าไปเพื่อส่งของภายในห้าง เป็นเพียงทางผ่านเข้าไปทำธุระเท่านั้น)
ร้อยเวรท่านนั้นก็ตอบว่า "ก็อาจจะเป็นไปได้" และลงบันทึกประจำไว้ พร้อมบอกว่า จะขอไปดูกล้องวงจรปิดที่ห้าง เพื่อขอภาพเคลื่อนไหว หากได้เรื่องอย่างไรจะติดต่อไป
##ความคืบหน้า วันที่ 17/10/57##
เวลาประมาณ 14.00 น.
- พยาบาลของทางห้าง โทรศัพท์มาเพื่อสอบถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราก็เล่าอาการ และบอกว่า วันเสาร์ที่ (18/10/57) ศัลยแพทย์นัดอีกครั้งเพื่อดูว่าจะต้องทำอย่างไรกับกรามที่บวมอย่างเห็นชัดได้บ้าง
ทางพยาบาล สอบถามทันทีว่า "มีคนแจ้งหรือยังคะว่า ทางห้างจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้เพียงครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น หากมีการพบแพทย์หรือมีการรักษาในครั้งต่อ ๆ ไป ทางห้างจะไม่รับผิดชอบ คุณต้องเป็นผู้จ่ายเอง"
เวลาประมาณ 14.30 น.
- ทางห้าง ก็โทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ เพิ่ม พร้อมแจ้งว่า "ได้ดูกล้องวงจรปิดแล้ว แต่จุดที่เกิดเหตุไกลจากจุดที่กล้องสามารถเห็นได้ จึงไม่สามารถเห็นตอนที่คุณโดนทำร้าย แต่เห็นภาพตอนคนร้ายวิ่งหนี" และจะประสานงานกับทางห้าง และทาง สน.บางแก้ว และร้อยเวรที่รับผิดชอบต่อไป (นี่คือคำตอบของห้างขนาดใหญ่ มี รปภ. กว่า 100 คน กล้องวงจรปิดทั่วทั้งห้าง)
เวลาประมาณ 15.00 น.
- ร้อยเวรที่รับเรื่อง ก็โทรมาสอบถามรายละเอียดแบบเดียวกับที่ รองผู้กำกับเพิ่งสอบถามไป และแจ้งว่า จะเข้าไปดูกล้องวงจรปิดและดำเนินการต่อ
เวลาประมาณ 17.30 น.
- ทางญาติของเราได้โพสข้อความทั้งหมดขึ้นเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อเตือนภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้มีคนเข้ามาอ่าน และ แชร์ข้อความออกไปหลายคน
เวลาประมาณ 19.00 น.
- มีคนรู้จักกับญาติของเราติดต่อเข้ามาว่า เค้ารู้จักกับผู้กำกับ สน. บางแก้ว ที่ทำคดีนี้อยู่ และกำลังอยากจะสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่ม พร้อมให้เบอร์ติดต่อ ผกก. มา
เวลาประมาณ 19.30 น.
- เราจึงโทรไปตามเบอร์ที่ให้ คำถามแรกที่ ผกก. ถามคืออะไร ขอไม่บอกละกันคะ และทาง ผกก. ได้นัดหมายเพื่อสอบปากคำเพิ่มในวันที่ 18/10/57
##ความคืบหน้า ณ วันที่ 18/10/57##
เวลาประมาณ 9.00 น.
- ญาติของเราได้รับข้อความจากเพื่อนผ่านทาง Line ซึ่งเป็นข้อความที่ ผกก. ได้โพสผ่านเฟสบุ๊ก (หากใครอยากทราบข้อความดังกล่าวสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ)
เวลาประมาณ 11.00 น.
- เราได้เข้าไปที่ สน.บางแก้ว เพื่อให้สอบปากคำเพิ่ม (ขอไม่แจ้งในรายละเอียดนะคะ เพราะอาจมีผลต่อรูปคดี) ซึ่งทางตำรวจเองแจ้งว่า ได้รายละเอียดของคดีนี้มากแล้ว และจะติดตามจับกุมคนร้ายมาได้อย่างแน่นอนซึ่งหลังจากสอบปากคำเพิ่มเสร็จ เราได้โทรแจ้งญาติเราที่เป็นคนโพสข้อความว่า ทาง ตร. อยากให้ลบรูปของคนร้ายที่โพสในเฟสบุ๊กออกก่อน เพราะจะมีผลต่อรูปคดี และอาจทำให้คนร้ายรู้ตัวและหลบหนีไป
ญาติเราจึงตัดสินใจลบโพสที่โพสข้อความ+รูปคนร้ายที่ลงไว้เมื่อวันที่ 17/10/57 ออก
##พร้อมทั้ง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวใหม่อีกครั้งในวันที่ 19/10/57 เวลาประมาณ 01.00 น.##
โดยตัดเนื้อหาบางส่วน บางตอน และรูปคนร้ายออก ที่อาจทำให้มีส่วนทำให้รูปคดีเสีย หรือทำให้คนร้ายรู้ตัวและหลบหนีไป
- และเราได้เข้าพบศัลยแพทย์ตามนัดเพิ่มดูแนวทางการรักษากรามที่เบี้ยวเพิ่ม แต่ยังโชคดีที่กรามที่เบี้ยวนั้น เกิดจากการบวม และอักเสบ จึงรับยามากินเพื่อรักษาอาการต่อไป แต่ก็ต้องหยุดงานหลายวันค่ะ
- ในวันนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากทางห้างเลย
##ความคืบหน้า ณ วันที่ 19/10/57##
- ไม่มีการติดต่อจากทางตำรวจ
- ไม่มีการติดต่อจากทางห้าง
##ความคืบหน้า ณ วันนี้ 20/10/57 ##
เวลาประมาณ 13.50 น.
- ไม่มีการติดต่อจากทางตำรวจ ซึ่งทางตำรวจมีรายละเอียด และเบอร์ติดต่อของเรา
- ไม่มีการติดต่อจากทางห้าง ซึ่งทางห้างมีรายละเอียด และเบอร์ติดต่อของเราอย่างครบถ้วน
**ซึ่งแปลว่า ไม่มีการติดต่อใด ๆ ทั้งจากทางตำรวจ และจากทางห้างมาเกิน 24 ชม. แล้ว
เราจึงตัดสินใจโพสข้อความนี้ เพราะไม่อยากให้เรื่องราวเหล่านี้จะค่อย ๆ ถูกลืมไป โดยที่ยังไม่ได้ตัวคนร้าย และไม่ได้รับความชัดเจนเรื่องมาตรการความปลอดภัย และการแสดงความรับผิดชอบชองทางห้างแม้แต่น้อย
@@ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 16/10/15 เวลาประมาณ 18.30 น. จนถึงวันนี้ 20/10/15 เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นเวลากว่า 4 วัน@@
- ทางห้างเอง ก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบใด ๆ นอกจากการรักษาพยายาลในครั้งแรก
- ทางห้างเอง ก็ยังไม่ออกมาแสดงความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ห้างของคุณเพื่อสร้างความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย
-ทางห้างเองก็ยังไม่ติดต่อเรามาเลยแม้แต่น้อย
===========================
นี่คือเหตุการณ์จริง เรื่องจริง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตัวของเราเอง เราจึงขอให้พื้นที่ตรงนี้ เตือนภัยทุกคนนะคะ และขอให้ตำรวจจับตัวคนร้ายได้ไว ๆ และทางห้างออกมาแสดงความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัย และรับผิดชอบต่อลูกค้าค่ะ
ไม่ได้มีเจตนาเพื่อทำลายชื่อเสียง หรือแอบอ้างชื่อ แอบอ้างองค์กร ใด ๆ เพื่อให้เกิดการเสื่อมเสีย
แต่เรื่องทั้งหมด มีการลงบันทึกประจำวัน มีผลการตรวจจาก รพ. มีใบรับรองแพทย์ และที่สำคัญ มีคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการดังกล่าวจริง
ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวทั้งหมดนะคะ
sithiphong:
มนุษย์ลุงอันลือลั่น! สู่อุทาหรณ์ “เหยื่อทาสอารมณ์“
-http://news.sanook.com/1687061/%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B9%8C/-
มนุษย์ลุงอันลือลั่น! สู่อุทาหรณ์ “เหยื่อทาสอารมณ์“
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ช่วงนี้เสพข่าวในรอบสัปดาห์ จนสัมผัสได้ถึงจิตใจของมนุษย์บางจำพวกที่ทำเสมือนดั่งว่า ตูเจ๋ง ตูเปรี้ยวมาก บนโลกใบนี้
เอาแค่ในประเทศเรา หลายต่อหลายข่าว บ่งบอกว่าเวลานี้ คำว่า "มนุษย์เจ้าอารมณ์" มันได้เขี่ยคำว่า "เหตุผล" ทิ้งลงถังขยะซะอย่างนั้น
จากข่าวฮอตฮิตติดโลกโซเชียลตลอด 2-3 วัน กับชายที่แสดงอารมณ์เกี้ยวกราด บนเครื่องบินของสายการชื่อดัง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เราเห็นได้จากข่าวว่าคำว่า "การใช้อารมณ์เหนือเหตุผล" มันเกิดอะไรกับชีวิตเขา?
เอาละ แม้หลายคนจะมองว่า เฮ้ย! เรื่องนี้มันไกลตัว เราไม่มีทาง ที่จะทำให้สภาวะที่เรียกว่า "อารมณ์หลุด" แบบในข่าวเป็นแน่
อย่าเพิ่งชะล่าใจ.... ข่าวที่มากมายในทำนองนี้ ที่นับวันยิ่งมากขึ้น และมากขึ้นในทุกวี่วัน คือสิ่งที่กำลังบอกว่า "สังคมไทยเราในเวลานี้" มันตัดสินกันด้วย "อารมณ์" แทบทั้งสิ้น
เหตุการณ์จากข่าว หลายคนที่ได้ดูคลิป ทั้งคลิปเหตุการณ์บนเครื่องบิน ทั้งคลิปของชายคนนี้มาออกรายการดังทางช่อง3 แล้วได้แต่ส่ายหัวว่า "หมอนี่เป็นเอามาก"!
ไหนจะเหตุการณ์ที่ "เมกะบางนา" ที่อยู่ดี ๆ สาวคนหนึ่ง ถูกชายจากที่ไหนก็ไม่รู้ มาสาวหมัดใส่ โชะ ๆ ๆ ในรถยนต์ของตัวเอง
โดยหนุ่มคนดังกล่าวสารภาพหน้าตาเฉยว่า "เขาโมโหจนเกินจะควบคุมสติ" เมื่อคิดว่า สาวคนนี้ มาเฉี่ยวชนตัวเอง ย้ำนะครับว่าเขา "คิดว่า"!!!
สภาวะ "อารมณ์หลุด" เช่นนี้ มีให้เห็นมากมายในโลกของข่าว และ โลกของโซเชียล ที่เวลานี้ไวปานจรวด
นับวัน มันกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย และ ทุกอาชีพ ของทุกประเทศ
จุดจบของเรื่องทางอารมณ์ มักลงเอยด้วยเรื่องร้าย ๆ เสมอ แน่นอนว่าจุดจบสุดท้ายนี่ถึงขั้น "เสียชีวิต" ซึ่งปลายทางนำมาซึ่งความเศร้าสลดของญาติมิตร
ในทางกลับกัน หากเราลองมองย้อนกลับไป ถึงเรื่องราวที่ทำให้ มนุษย์ กลายเป็น "ทาสอารมณ์" สิ่งที่ต้องพานพบคือ เขาตกเป็นผู้ต้องหา หรือโดนสังคมตราหน้าว่าเลว ว่าชั่ว โดนต้นตอมันก็มาจาก "อารมณ์" ล้วนๆ
ใน 2 เรื่องที่ยกตัวอย่างมา หากย้อนกลับไปได้ แล้วชาย 2 กรณีนี้ ฉุดคิดถึงเหตุและผลที่ตามมา ก่อนที่จะลงมือกระทำในสิ่งที่สังคมรังเกียจเช่นนี้ เชื่อว่า "เขาก็คงไม่ทำเช่นนี้แน่"
แต่ในเมื่อ ตัวเองดันพลาดพลั้ง และ ได้กระทำในสิ่งที่ตนเองได้ตกเป็น "เหยื่อของทาสอารมณ์"
ทางออกในเรื่องนี้ มันคงยากที่จะบอกว่าต้องทำเช่นไร และเพราะสุดท้ายแล้ว หากสภาวะจิตใจของคุณเป็นคนขี้โมโห ก้าวร้าว ไร้ซึ่งความยั้งคิด ให้รู้ไว้เลยว่า "คุณอาจเป็นเหยื่อของทาสอารมณ์" รายต่อไปก็เป็นได้
เรื่องโดย : บ.ส้มซิ่ง
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version