ผู้เขียน หัวข้อ: รวบแล้ว! หลานทรพีฆ่าโหด สองตา-ยาย ชิงทรัพย์จ่ายหนี้พนันบอล  (อ่าน 1439 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
รวบแล้ว! หลานทรพีฆ่าโหด สองตา-ยาย ชิงทรัพย์จ่ายหนี้พนันบอล
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    29 มิถุนายน 2556 17:39 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000079145-




เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายธิพันธ์ธร มากสมบูรณ์ หรือโต๊ด อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาทำแผนฯ



ตร.สน.บางเขน รวบหลานทรพีปาดคอ 2 ตา - ยาย ชิงทรัพย์ อ้างติดหนี้พนันฟุตบอล
       
       วันนี้(29มิ.ย.)เมื่อเวลา 13.00น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายธิพันธ์ธร มากสมบูรณ์ หรือโต๊ด อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง มีดปลายแหลมจำนวน 1เล่ม เงินสด 2,400 บาท และพระเครื่องกว่า 100 องค์
       
       พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาเกิดเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธมีดก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ ส.ท.สมหมาย บุญโต อายุ 81ปี และนางมาลัย บุญโต อายุ76ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 49/133 หมู่บ้านไปรษณีย์ ซ.พหลโยธิน 48 แยก 56 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องและเงินสดจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกองเลือดและมีหยดเลือดหยดอยู่ตามทางหลังบ้านซึ่งคาดว่าเป็นทางที่คนร้ายปีนกำแพงหลังบ้านหลบหนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายธิพันธ์ธร ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของผู้ตายมีพฤติกรรมน่าสงสัย หลังเกิดเหตุได้หายไปจากบ้านและเคยมีประวัติเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวเพื่อมาสอบสวน จนสามารถจับกุมตัวนายธิพันธ์ธรได้ที่สน.พหลโยธิน หลังเจ้าตัวทำทีเข้าไปแจ้งความเพื่อปิดบังอำพรางว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่ทำร้าย ซึ่งที่จริงแล้ว แผลที่ฝ่ามือขวานั้นมาจากการต่อสู้ขัดขืนของผู้ตาย
       
       ด้านพ.ต.อ.เจริญ กล่าวต่อว่า นายธิพันธ์ธรไม่ได้ทำงานอะไร แต่หลอกคนในบ้านว่ามีงานทำแล้ว และจะออกจากบ้านไปข้างนอกตั้งแต่เช้ากลับเข้ามาตอนเย็น แต่ไม่ได้ไปทำงาน ซึ่งสาเหตุที่ได้ก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจาก นายธิพันธ์ธร ได้ไปติดพนันบอลในเว็บไซต์รับพนันบอล และกำลังถูกติดตามทวงหนี้ จึงแอบลักลอบเข้าไปในบ้านของตากับยายทั้งสองคน ซึ่งเป็นตายายแท้ๆของนายธิพันธ์ธร ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของตนเอง ในขณะนั้นคนในครอบครัวออกไปข้างนอกกันหมด โดยขณะที่นายธิพันธ์ธร กำลังเดินเข้าไปในบ้านนั้น ก็พบกับนางมาลัยนอนดูโทรทัศน์อยู่ นางมาลัยได้สังเกตเห็นนายธิพันธ์ธร สะพายกระเป๋าท่าทางแปลกๆ จึงขอดูว่าในกระเป๋ามีอะไรอยู่ เนื่องจากเกรงว่านายธิพันธ์ธรจะเข้ามาขโมยของในบ้านอีกแต่นายธิพันธ์ธรไม่ยอมจึงมีการยื้อยุดฉุดกระชากและนางมาลัยเรียกให้ส.ท.สมหมาย มาช่วย จนนายธิพันธ์ธร เกิดความโมโหและใช้มีดปลายแหลมแทงทั้งสองคนจนเสียชีวิต
       
       จากการสอบสวนนายธิพันธ์ธร ให้การว่า ตนติดหนี้เว็บไซต์พนันบอลจำนวน 20,000 บาท และต้องหาเงินมาจ่ายก่อนวันจันทร์ที่1ก.ค.นี้ แต่ไม่รู้ว่าจะหามาจากที่ไหน จึงคิดว่าจะเข้าไปแอบขโมยสร้อยคอทองคำ ของตากับยายในบ้าน โดยเลือกลงมือในวันศุกร์ซึ่งไม่มีใครอยู่บ้าน แต่เมื่อเดินเข้าไปยายกลับมาขอค้นดูในกระเป๋าตน ซึ่งในนั้นมีเสื้อ หนังสือ และมีดปลายแหลม ซึ่งตนได้เอาเสื้อกับหนังสือให้ยายดู แต่ยายไม่เชื่อ บอกว่าอยากจะดูให้หมด พร้อมทั้งกับดุด่าว่าตนจะต้องเข้ามาลักขโมยของในบ้านอีกแน่ เนื่องจากตนเคยเข้าไปขโมยของในบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง
       
       "นอกจากนี้ยายยังด่าว่าจะไม่สนใจอีกแล้ว เพราะเตือนอะไรก็ไม่เคยฟัง ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจว่ายายไม่สนใจ ต้องอยู่ตัวคนเดียว และเกิดความโมโห เมื่อสบโอกาสตอนที่ยายเมินหนีชักมีดปลายแหลมในกระเป๋าสะพายออกมา แต่ยายหันหน้ามาเจอพอดี จึงเกิดการแย่งมีด ระหว่างนั้นยายเรียกตาให้มาช่วย ผมจึงสะบัดมีดไปทางตา ขณะที่ตาวิ่งเข้ามา มีดก็โดนตาจนทรุดลงและเสียชีวิต จากนั้นผมก็หันมาใช้มีดแทงยายอีกคน" นายธิพันธ์ธร กล่าว
       
       นายธิพันธ์ธร กล่าวว่า จากนั้นตนได้หยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ตามีอยู่ประมาณ 200 บาท และพระเครื่องจำนวนหนึ่งในกระเป่าถือก่อนปีนกำแพงด้านหลังบ้านหนีออกไป แล้วเดินลุยป่าหลังบ้านไปโผล่ซอยถัดไป แต่คิดว่าคงไปไม่รอดเพราะไม่มีเงิน จึงทำทีไปแจ้งความหลอกว่าถูกแท็กซี่ทำร้าย เพื่ออำพรางคดี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายธิพันธ์ธร ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนละแวกใกล้เคียงมามุงดูการทำแผนฯ เป็นจำนวนมาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
รวบแล้ว! หลานทรพีฆ่าโหด สองตา-ยาย ชิงทรัพย์จ่ายหนี้พนันบอล
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    29 มิถุนายน 2556 17:39 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000079145-




เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายธิพันธ์ธร มากสมบูรณ์ หรือโต๊ด อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาทำแผนฯ



ตร.สน.บางเขน รวบหลานทรพีปาดคอ 2 ตา - ยาย ชิงทรัพย์ อ้างติดหนี้พนันฟุตบอล
       
       วันนี้(29มิ.ย.)เมื่อเวลา 13.00น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายธิพันธ์ธร มากสมบูรณ์ หรือโต๊ด อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง มีดปลายแหลมจำนวน 1เล่ม เงินสด 2,400 บาท และพระเครื่องกว่า 100 องค์
       
       พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาเกิดเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธมีดก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ ส.ท.สมหมาย บุญโต อายุ 81ปี และนางมาลัย บุญโต อายุ76ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 49/133 หมู่บ้านไปรษณีย์ ซ.พหลโยธิน 48 แยก 56 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องและเงินสดจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกองเลือดและมีหยดเลือดหยดอยู่ตามทางหลังบ้านซึ่งคาดว่าเป็นทางที่คนร้ายปีนกำแพงหลังบ้านหลบหนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายธิพันธ์ธร ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของผู้ตายมีพฤติกรรมน่าสงสัย หลังเกิดเหตุได้หายไปจากบ้านและเคยมีประวัติเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวเพื่อมาสอบสวน จนสามารถจับกุมตัวนายธิพันธ์ธรได้ที่สน.พหลโยธิน หลังเจ้าตัวทำทีเข้าไปแจ้งความเพื่อปิดบังอำพรางว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่ทำร้าย ซึ่งที่จริงแล้ว แผลที่ฝ่ามือขวานั้นมาจากการต่อสู้ขัดขืนของผู้ตาย
       
       ด้านพ.ต.อ.เจริญ กล่าวต่อว่า นายธิพันธ์ธรไม่ได้ทำงานอะไร แต่หลอกคนในบ้านว่ามีงานทำแล้ว และจะออกจากบ้านไปข้างนอกตั้งแต่เช้ากลับเข้ามาตอนเย็น แต่ไม่ได้ไปทำงาน ซึ่งสาเหตุที่ได้ก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจาก นายธิพันธ์ธร ได้ไปติดพนันบอลในเว็บไซต์รับพนันบอล และกำลังถูกติดตามทวงหนี้ จึงแอบลักลอบเข้าไปในบ้านของตากับยายทั้งสองคน ซึ่งเป็นตายายแท้ๆของนายธิพันธ์ธร ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของตนเอง ในขณะนั้นคนในครอบครัวออกไปข้างนอกกันหมด โดยขณะที่นายธิพันธ์ธร กำลังเดินเข้าไปในบ้านนั้น ก็พบกับนางมาลัยนอนดูโทรทัศน์อยู่ นางมาลัยได้สังเกตเห็นนายธิพันธ์ธร สะพายกระเป๋าท่าทางแปลกๆ จึงขอดูว่าในกระเป๋ามีอะไรอยู่ เนื่องจากเกรงว่านายธิพันธ์ธรจะเข้ามาขโมยของในบ้านอีกแต่นายธิพันธ์ธรไม่ยอมจึงมีการยื้อยุดฉุดกระชากและนางมาลัยเรียกให้ส.ท.สมหมาย มาช่วย จนนายธิพันธ์ธร เกิดความโมโหและใช้มีดปลายแหลมแทงทั้งสองคนจนเสียชีวิต
       
       จากการสอบสวนนายธิพันธ์ธร ให้การว่า ตนติดหนี้เว็บไซต์พนันบอลจำนวน 20,000 บาท และต้องหาเงินมาจ่ายก่อนวันจันทร์ที่1ก.ค.นี้ แต่ไม่รู้ว่าจะหามาจากที่ไหน จึงคิดว่าจะเข้าไปแอบขโมยสร้อยคอทองคำ ของตากับยายในบ้าน โดยเลือกลงมือในวันศุกร์ซึ่งไม่มีใครอยู่บ้าน แต่เมื่อเดินเข้าไปยายกลับมาขอค้นดูในกระเป๋าตน ซึ่งในนั้นมีเสื้อ หนังสือ และมีดปลายแหลม ซึ่งตนได้เอาเสื้อกับหนังสือให้ยายดู แต่ยายไม่เชื่อ บอกว่าอยากจะดูให้หมด พร้อมทั้งกับดุด่าว่าตนจะต้องเข้ามาลักขโมยของในบ้านอีกแน่ เนื่องจากตนเคยเข้าไปขโมยของในบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง
       
       "นอกจากนี้ยายยังด่าว่าจะไม่สนใจอีกแล้ว เพราะเตือนอะไรก็ไม่เคยฟัง ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจว่ายายไม่สนใจ ต้องอยู่ตัวคนเดียว และเกิดความโมโห เมื่อสบโอกาสตอนที่ยายเมินหนีชักมีดปลายแหลมในกระเป๋าสะพายออกมา แต่ยายหันหน้ามาเจอพอดี จึงเกิดการแย่งมีด ระหว่างนั้นยายเรียกตาให้มาช่วย ผมจึงสะบัดมีดไปทางตา ขณะที่ตาวิ่งเข้ามา มีดก็โดนตาจนทรุดลงและเสียชีวิต จากนั้นผมก็หันมาใช้มีดแทงยายอีกคน" นายธิพันธ์ธร กล่าว
       
       นายธิพันธ์ธร กล่าวว่า จากนั้นตนได้หยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ตามีอยู่ประมาณ 200 บาท และพระเครื่องจำนวนหนึ่งในกระเป่าถือก่อนปีนกำแพงด้านหลังบ้านหนีออกไป แล้วเดินลุยป่าหลังบ้านไปโผล่ซอยถัดไป แต่คิดว่าคงไปไม่รอดเพราะไม่มีเงิน จึงทำทีไปแจ้งความหลอกว่าถูกแท็กซี่ทำร้าย เพื่ออำพรางคดี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายธิพันธ์ธร ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนละแวกใกล้เคียงมามุงดูการทำแผนฯ เป็นจำนวนมาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




คนร้ายฆ่าโหดสองตายายหมกบ้านพักชิงพระเครื่องดังเย้ยตะวัน!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    28 มิถุนายน 2556 23:40 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000078921-

ตำรวจบางเขน รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าในบ้านพักภายในหมู่บ้านไปรษณีย์นิเวศกลางวันแสกๆ ตรวจสอบพบเป็นอดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามรุ่น 1 พร้อมเมียถูกกระหน่ำแทงดับอนาถ คาดคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์
       
       วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.45 น. พ.ต.ท.แบ๊งค์ บัวนวล พงส.ผนพ.สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 49/133 หมู่ 4 หมู่บ้านไปรษณีย์นิเวศน์ซอย 1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน แพทย์รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
       
       ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีร่องรอยหยดเลือดปรากฏรอบบ้าน ภายในบ้านพบร่องรอยรื้อค้นกระจุยกระจาย ที่หน้าห้องนอน พบศพนางมาลัย บุญโต อายุ 76 ปี สภาพศพสวมเสื้อลายดอกใส่ผ้าถุง นอนตะแคงเสียชีวิตโดยถูกแทงด้วยของมีคมจำนวน 12 แผล มีแผลฉกรรจ์ถูกปาดคอ ภายในห้องนอน พบศพ ส.ท.สมหมาย บุญโต อายุ 81 ปี อดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามรุ่น 1 ข้าราชการบำนาญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นอนคว่ำ หัวหันไปทางเตียงนอน ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ลิ้นปี่และหน้าอกเสียชีวิตจมกองเลือด บริเวณหิ้งบูชาพระในห้อง มีรอยรื้อค้นทรัพย์สินกระจุยกระจายและคราบเลือด ตรวจสอบบริเวณใกล้ยเคียงพบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาดำต้องสงสัยว่าเป็นของคนร้าย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       จากการสอบสวนนางสุภาพร บุญโต อายุ 56 ปีลูกสาวคนตายให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่กัน 6 คน แบ่งกันอยู่โดยมีบ้านอีกหลังอยู่ในรั้วเดียวกัน ปกติพ่อกับแม่จะอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ ตนจะดูแลพ่อกับแม่ โดยพ่อจะดูโทรทัศน์ในห้อง ส่วนแม่ก็จะเย็บผ้ากับจักรอยู่ในบ้าน ก่อนเกิดเหตุตนออกจากบ้านตอน 11.30 น. เพื่อไปทำธุรกรรมที่ธนาคารในห้างแฟชั่นส์ ไอส์แลนด์ เมื่อกลับมาตอนเวลา 14.00 น. เห็นสุนัขที่พ่อเลี้ยงไว้ อยู่นอกตัวบ้าน ทั้งที่ปกติสุนัขจะอยู่แต่ในตัวบ้านไม่ได้ออกมาก็เกิดสงสัย จึงตะโกนเรียกพ่ออยู่นาน พ่อก็ไม่ได้ออกมา เมื่อดูที่ประตูบ้านพบว่าล็อกกุญแจบ้านปิดมิดชิดผิดปกติ จึงเดินอ้อมไปทางหลังบ้านซึ่งมีบ้านอีกหลังติดกันภายในรั้วเดียวกัน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ถึงกับตกใจ เพราะเห็นคราบเลือดเป็นทางยาว ก่อนจะเห็นศพพ่อกับแม่ของตนจึงรีบเรียกคนแถวนั้นมาช่วยคิดว่าอาจจะยังไม่ตายแต่เห็นบาดแผลกับเลือดออกมาแยะคิดว่าเสียชีวิตแน่นอนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
       พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คน เข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงสองตายายร่วมกว่า 10 แผลทำให้เสียเลือดมากเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีการรื้อค้นทรัพย์สิน เพื่อหาทรัพย์สินบางอย่าง แต่ไม่ได้ไป ทั้งนี้คนร้ายได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมบาด ซึ่งจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรพ.ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเผื่อคนร้ายมารักษาตัว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง ส่วนประเด็นการฆาตกรรมนั้น ยังไม่มุ่งไปทางใดทางหนึ่ง ขอสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาข้อเท็จจริงและไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
       มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุ ประมาณ 2-3 วันมีผู้ชาย 2 คนเดินทางมาสอบถามบ้านของผู้เสียชีวิต และวันนี้ในช่วงเที่ยง มีชาย 2 คน คนแรกสูง 170 เซนติเมตร สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำสภาพเก่า ทั้งสองคนรูปร่างสันทัด เดินทางมาถามหาบ้านผู้ตายที่ร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอย ส่วนปมเหตุฆาตกรรมนั้น เจ้าหน้าที่มุ่งที่ประเด็นชิงทรัพย์ เพราะผู้ตายสะสมพระเครื่องรุ่นเก่า มีพระใส่กรอบเลี่ยมทองเก็บไว้ แต่ตอนเกิดเหตุ ทางลูกหลานผู้ตายได้ค้นหาพบว่าสร้อยพระเลี่ยมทองหายไปเป็นพวงยังไม่ทราบมูลค่า อย่างไรก็ดีทางญาติจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดอีกครั้งว่ามีทรัพย์สินใดหายไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้หลังก่อเหตุคนร้ายได้รับบาดเจ็บไปล้างมือที่หลังบ้านแล้วหลบหนีไป มีพยานเห็นคนสภาพตัวเปียกน้ำเดินไปทางหลังของหมู่บ้านซึ่งเป็นบึงน้ำหญ้ารกร้างดังกล่าว

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)