อิ่มกาย อิ่มใจ > ร้านดีร้านเด่น

รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา

<< < (22/23) > >>

sithiphong:
“ลูกชิ้นปลานายฉุ่ย” ลูกชิ้นปลาเคี้ยวเด้ง อร่อยเด็ดย่านอารีย์

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068108-

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
   
21 มิถุนายน 2558 13:37 น.



บรรยากาศด้านหน้าร้าน
        มีหลายคนบอกว่า ย่านอารีย์นั้นเป็นแหล่งของกินอร่อยๆ ของเมืองกรุงอีกหนึ่งแห่ง โดยเฉพาะช่วงปากซอยอารีย์ (ซอยพหลโยธิน 7) เพราะมีร้านอาหารอร่อยอยู่หลากหลายร้าน แถมยังมีตลาดนัดย่อยๆ ที่เปิดให้คนมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าและอาหารอร่อยๆ กัน
       
       ได้ยินชื่อเสียงกันขนาดนี้แล้ว มีหรือที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะพลาดย่านของอร่อย เลยต้องขอแวะไปลองชิมกันสักหน่อย โดยมื้อนี้เราของเลือกมาที่ร้าน “ลูกชิ้นปลานายฉุ่ย” ที่อยู่ตรงข้ามกับปากซอยอารีย์ 2 ซึ่งร้านนี้เขามีดีตรงที่ลูกชิ้นปลา และเปิดขายกันมายาวนานกว่า 50 ปีแล้ว


ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสามรส
        ลูกชิ้นอร่อยของที่นี่ เป็นลูกชิ้นปลาที่ทางร้านทำเอง มีทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา และฮือก้วย โดยที่นี่จะมีเส้นให้เลือกคือ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ วุ้นเส้น เกี้ยมอี๋ และเส้นปลา
       
       เมนูแรกที่เลือกสั่งมาลองชิมคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสามรส (35 บาท พิเศษ 45 บาท) ชามนี้เลือกเส้นตามชอบแล้ว ทางร้านจะปรุงรสชาติก๋วยเตี๋ยวต้มยำมาให้เสร็จสรรพ โดยใช้น้ำส้มพริกตำทำเองสดๆ และถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ เน้นรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม ใส่ลูกชิ้นต่างๆ และมีเกี๊ยวกรอบมาให้กินคู่กัน


ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแห้ง
        หรือจะลองชิม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแห้ง (35 บาท พิเศษ 45 บาท) ก็ปรุงมาให้แล้วเช่นกัน รสชาติอร่อยถูกปาก ลูกชิ้นปลาเคี้ยวเด้งไม่คาว หอมกลิ่นถั่วลิสง แต่ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกินแห้งหรือน้ำ แนะนำเป็น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำขลุกขลิก (35 บาท พิเศษ 45 บาท) ที่ใส่น้ำซุปมานิดหน่อย ทำให้ได้รสชาติต้มยำแบบเข้มข้นกลมกล่อมแต่คล่องคอ


ก๋วยเตี๋ยวต้มยำขลุกขลิก
        เปลี่ยนมาชิม ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (45 บาท พิเศษ 50 บาท) กันบ้างดีกว่า โดยซอสเย็นตาโฟที่ใส่มานี้ทางร้านก็ปรุงเอง ใส่ผักบุ้งลวก ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา ฮือก้วย และเลือดหมู ชิมรสชาติเย็นตาโฟที่ปรุงมาแบบเปรี้ยวอมหวานนิดๆ หอมซอสเย็นตาโฟ
       
       แต่ถ้าใครไม่อยากกินเส้นก๋วยเตี๋ยว แนะนำให้เปลี่ยนมาสั่งเป็นเส้นปลาแทน ไม่ว่าจะเป็น เส้นปลาต้มยำ (60 บาท) หรือ เส้นปลาเย็นตาโฟ (60 บาท) ก็อร่อยเหมือนกัน เพราะเส้นปลานั้นเนื้อนุ่ม เคี้ยวเด้ง ไม่คาว


ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ
        แล้วก็ยังมีเครื่องเคียงให้เลือกสั่งมากินคู่กับก๋วยเตี๋ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็น หนังปลาทอด (20 บาท) ที่ทอดแบบสดๆ ใหม่ๆ เคี้ยวกรอบเพลินปาก เกี๊ยวทอด (10 บาท) ที่ใช้แผ่นเกี๊ยวสั่งทำให้แป้งหนาเป็นพิเศษ เผือกทอด (20 บาท) ที่ใช้เผือกอย่างดีนำมาปรุงรส นำไปห่อฟองเต้าหู้แล้วทอดให้กรอบ กินแล้วกรอบเพลินหอมเผือก


เส้นปลาต้มยำ และ เส้นปลาเย็นตาโฟ
        ถ้ากินก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้วคอแห้ง แนะนำให้สั่งน้ำเย็นชื่นใจที่ทางร้านทำเองมาดื่ม มีให้เลือกทั้ง น้ำลำไย โอเลี้ยง ชาดำเย็น (แก้วละ 15 บาท) หรือจะเป็น น้ำวุ้นใบเตย และน้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน (ขวดละ 25 บาท) ก็หวานหอมอร่อยชื่นใจ
       
       คราวหน้าคราวหลังหากใครแวะเวียนไปแถวๆ ซอยอารีย์ อย่าลืมแวะเวียนไปชิมความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน “ลูกชิ้นปลานายฉุ่ย” แล้วกัน


หนังปลาทอด เกี๊ยวทอด และเผือกทอด


        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       ร้าน “ลูกชิ้นปลานายฉุ่ย” ตั้งอยู่ที่ ซอยอารีย์ (ซอยพหลโยธิน 7) สามเสนใน พญาไท กทม. การเดินทางจากถนนพหลโยธิน ให้มุ่งหน้ามาที่ซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) แล้วตรงเข้ามาประมาณ 100 เมตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนนทางขวามือ ตรงข้ามปากซอยอารีย์ 2 ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.30-21.30 น. (วันอาทิตย์ ปิดเวลา 16.00 น.) โทร. 08-1847-6070, 08-1456-3030 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสาขา ตั้งอยู่ที่ ถนนนวมินทร์ 68 แยก 8 เปิดทุกวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) เวลา 10.00-15.00 น. โทร. 08-1847-6070




.




sithiphong:
สุดยอดเตี๋ยวมือเดียว!หญิงแกร่งอัมฤกษ์ครึ่งร่างสู้ชีวิต-ขายก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บส่งหลานเรียน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
-http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000103492-
13 กันยายน 2558 06:51 น.

   เชียงใหม่ - พบหญิงแกร่งเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีกร่าง แต่สู้ชีวิตไม่ท้อ ขอความอนุเคราะห์ใช้ที่ดินเทศบาลฯ ตั้งเพิงเปิดขายก๋วยเตี๋ยว-ก๋วยจั๊บ พร้อมลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวมือเดียวขายหาเงินส่งหลายชายวัย 8 ขวบได้เล่าเรียน
       
       วันนี้(13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงแกร่งสู้ชีวิต แม้ร่างกายจะพิการเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก แต่ไม่ย้อท้อต่อโชคชะตา เปิดร้านเป็นกระต๊อบสังกะสีเก่าสภาพผุพัง ลงมือลวกก๋วยเตี๋ยว-ก๋วยจั๊บด้วยมือข้างเดียว ขายอยู่บริเวณข้างบ้านเลขที่ 185/1 หมู่ 1 บ้านร้องยาว ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หารายได้เลี้ยงหลานชายวัย 8 ขวบด้วยตัวเอง อีกทั้งเป็นก๋วยเตี๋ยว-ก๋วยจั๊บราคาถูก และอร่อยจนชาวบ้านติดใจแวะเวียนไปใช้บริการต่อเนื่องไม่ขาดสาย
       
       โดยแม่ค้าหญิงพิการใจแกร่งคนนี้คือ นางจันทร์สม สันเดช อายุ 52 ปี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบเมื่อปี 2550 ลุกขึ้นเดินไม่ได้ ต้องใช้เวลาทำกายภาพบำบัดกว่าสองปีจนลุกขึ้นเดิน-ยืนได้ แต่ก็เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงอัมพฤกษ์ไปแล้วครึ่งซีกด้านขวาทั้งแถบ ซึ่งแขน พอยกขึ้นได้บ้าง แต่ไม่มีเรี่ยวแรง หยิบจับอะไรไม่ได้
       
       แต่ตนมีหลานชายอยู่หนึ่งคนที่ต้องดูแล คือ ด.ช.ธนากร อิ่นแก้ว อายุ 8 ปี หรือน้องอิกคิว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดศรีโปธาราม เพราะลูกชายตน ซึ่งเป็นพ่อเด็ก มีอาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และตนก็ฐานะยากจน จึงต้องเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อหาเงินจุนเจือส่งเสียหลานชายให้ได้เล่าเรียนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยขายในราคาถูก ชาวบ้านที่มากินบ่อย บางรายก็สงสารที่ต้องสู้ชีวิตดูแลหลานชายที่กำลังโตด้วย
       
       สำหรับที่ดินที่ใช้เปิดร้านดังกล่าว เป็นที่ของทางเทศบาลตำบลยางเนิ้ง ก็ขอความอนุเคราะห์จากเทศบาลในการเปิดร้าน เป็นกระต๊อบเก่าๆ หลังคาก็รั่วเวลาฝนตกหนักก็ต้องย้ายหลบฝนกันเอง แต่ก็ไม่รู้ทำไง เพราะยังไม่มีเงินใช้ในการซ่อม ลำพังที่ขายทุกวันถ้าหมดก็ได้เงิน 400 - 500 บาท แต่ถ้าขายไม่ดี ก็ได้เพียงวันละ 200 - 300 บาท บางวันขายได้ 100 บาทก็มี แต่ก็ไม่ท้อขอสู้ชีวิตลวกก๋วยเตี๋ยวดูแลหลานชายต่อไป







.

sithiphong:
“ก๋วยเตี๋ยวหมูอาดัง” ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ้าเด็ด อร่อยจัดจ้านครบรส
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
   
18 ตุลาคม 2558 15:39 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000116221-


บรรยากาศด้านหน้าร้าน

        หลายๆ ครั้งที่เมื่อถึงมื้ออาหารแล้วเรามักจะนึกไม่ออกว่าอยากกินอะไรดี ซึ่งกลายเป็นปัญหาไปเสียทุกครั้งถ้าหากจะต้องเลือกกินระหว่างข้าวและก๋วยเตี๋ยว แต่ส่วนใหญ่แล้ว “ผ่านมาแวะกิน” มักจะเลือกกินก๋วยเตี๋ยว เนื่องจากได้ซดน้ำซุปอร่อยกลมกล่อม และก๋วยเตี๋ยวก็สามารถปรุงให้จัดจ้านได้ตามใจเรา โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ที่มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ในใจ
       
       ซึ่งมื้อนี้เราก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำอร่อยๆ มาแนะนำให้ไปลองชิมกัน ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 24 ย่านห้วยขวาง มีชื่อร้านว่า “ก๋วยเตี๋ยวหมูอาดัง”



บะหมี่แห้ง

        ร้านนี้ คุณสุนีย์ ลิ่มสมบูรณ์ เป็นผู้ก่อตั้ง โดยที่นี่นั้นขายเฉพาะก๋วยเตี๋ยวหมูที่จะเน้นใช้วัตถุดิบที่สดสะอาด ส่งมาใหม่ๆ ทุกวัน ที่สำคัญยังอร่อยด้วยตัววัตถุดิบที่ดี โดยไม่ต้องมีผงชูรสเป็นส่วนประกอบอีกด้วย
       
       จานเด็ดของร้านก็ต้องเป็น บะหมี่แห้ง (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่ใช้เส้นบะหมี่สั่งทำพิเศษนำมาลวกให้สุกกำลังดี ใส่มาพร้อมกับลูกชิ้นหมู เนื้อหมูสันในต้ม หมูบดปรุงรส ตับหมู หัวใจ ไส้หมู ทำความสะอาดอย่างดีแล้วลวกให้สุก ปรุงรสแบบต้มยำด้วยพริกป่นและถั่วป่นที่ทำเองใหม่ๆ กลิ่นหอม ใส่น้ำตาลทราย แล้วยังมีมะนาวมาให้บีบเพิ่มความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด กินคู่กับเกี๊ยวกรอบที่ใส่มาในชาม เวลากินต้องคลุกเคล้าเครื่องต่างๆ ให้เข้ากัน ชิมดูได้รสต้มยำจัดจ้าน หอมมันถั่วป่น เนื้อหมูนุ่ม เครื่องในนุ่มไม่คาว เส้นบะหมี่ก็เหนียวนุ่มกำลังดี อร่อยแบบนี้กินแป๊บเดียวก็หมดชาม



เส้นเล็กน้ำ

        แต่ถ้าอยากลองชิมก๋วยเตี๋ยวแบบน้ำ แนะนำให้เริ่มจาก เส้นเล็กน้ำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่น้ำซุปหอมๆ ได้มาจากการต้มเคี่ยวกระดูกหมูส่วนข้อและส่วนสันหลัง ที่เคี่ยวอยู่นานจนได้น้ำซุปที่หอมหวานกลมกล่อมกำลังดี ใส่เครื่องมาแบบเต็มที่ ทั้งลูกชิ้นหมู เนื้อหมู หมูบดปรุงรส เครื่องในต่างๆ ซึ่งหากว่าใครชอบไม่ชอบอะไรก็สามารถบอกได้
       
       ส่วน เส้นเล็กต้มยำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ก็อร่อยถูกใจ เครื่องเคราต่างๆ ก็ใส่มาเหมือนก๋วยเตี๋ยวชามอื่น แต่ใส่น้ำซุปหอมหวานที่ปรุงรสต้มยำ ใส่พริกป่น น้ำตาล มะนาว และถั่วป่น ชิมแล้วรสชาติจัดจ้าน อร่อยถูกใจ



เส้นเล็กต้มยำ
        นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ที่ร้านก็ยังมี ปอเปี๊ยะทอด (25 บาท) ให้ลองชิมด้วย ซึ่งปอเปี๊ยะทอดของร้านนี้ ไส้ด้านในเป็นกะหล่ำปลี แครอท และมันแกว ผัดรวมกันผสมกับเนื้อปู จากนั้นนำไปห่อกับแป้งปอเปี๊ยะ แล้วทอดให้เหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มหวานที่ทางร้านทำเอง ปอเปี๊ยะทอดกรอบอร่อย ไส้ได้รสหวานจากผัก และมีเนื้อปูให้เคี้ยวเข้ากันไปด้วย เพิ่มความอร่อยด้วยน้ำจิ้มหวาน กินกันเพลินไปเลยทีเดียว
       
       ใครที่นึกถึงก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำรสจัดจ้าน อร่อยแบบถูกปาก อย่าลืมแวะมาชิมที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหมูอาดัง” ย่านห้วยขวางแห่งนี้



ปอเปี๊ยะทอด


        * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหมูอาดัง” ตั้งอยู่ที่ 530 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 24 เขตห้วยขวาง กทม. การเดินทางจากถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าแยกห้วยขวาง จากนั้นให้เลี้ยวเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นตรงไปอีกเล็กน้อยจะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงตามทางมาเรื่อยๆ อีกประมาณ 500 เมตร จะเห็นซอย 24 ทางขวามือ ให้เลี้ยวเข้าซอยไปเล็กน้อย จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางขวามือ ร้านเปิดทุกวัน (หยุดวันพุธที่ 1 และ 3 ของเดือน) เวลา 09.30-15.00 น. โทร. 0-2691-2396

sithiphong:
“บอกต่อ ก๋วยเตี๋ยวหมูยำแซบ” อร่อยเด็ดต้องลอง
-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000125548-


ที่นั่งภายในร้าน
        ในบรรดาก๋วยเตี๋ยวทั้งหมด “ผ่านมาแวะกิน” ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวต้มยำเป็นที่สุด เพราะเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ครบเครื่อง ครบรส แต่ละร้านก็จะปรุงรสมาแบบเข้มข้น ใส่เครื่องเครามาอย่างเต็มที่ ชนิดที่ว่าแทบจะไม่ต้องปรุงเพิ่มกันอีกเลย
       
       ซึ่งอีกร้านอร่อยที่อยากจะมาบอกต่อให้ไปลองชิมกัน ร้านนี้ก็ขายก๋วยเตี๋ยวต้มยำให้ได้ลองลิ้ม และยังเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยที่ครบเครื่อง ที่สามารถมาอร่อยกันได้ที่ร้าน “บอกต่อ ก๋วยเตี๋ยวหมูยำแซบ”


ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยแห้ง
        อย่างที่บอกว่าที่ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบสุโขทัย แต่ก็เป็นก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยประยุกต์ ซึ่งได้ปรับปรุงสูตรมาจากของดั้งเดิม แต่ก็ยังใส่เครื่องมาแบบครบครันเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยแห้ง (40 บาท) ที่มีเส้นให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เส้นหมี่ และวุ้นเส้น ส่วนเครื่องต่างๆ ก็จะมีหมูชิ้น หมูเด้ง หมูสับ ไส้ ตับ ลูกชิ้นหมู ปรุงรสต้มยำใส่น้ำตาล พริกป่น และมีมะนาววางเคียงมากให้ด้วย แต่ทีเด็ดก็คือมีไข่ต้มยางมะตูม รวมถึงกากหมูทอด และถั่วฝักยาว ที่เป็นเอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย
       
       ส่วน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยน้ำ (40 บาท) ก็ปรุงรสมาแล้วเช่นกัน สำหรับน้ำซุปนั้นเป็นน้ำซุปที่ต้มเคี่ยวกับกระดูกหมูจนหอมหวานกลมกล่อม ชิมแล้วรสชาติเข้มข้น เปรี้ยวเผ็ดเค็มหวาน อร่อยจุใจกับเครื่องเคราที่ใส่มาจนเต็มชาม


ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยน้ำ
        นอกจากก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้ว ก็ยังมีเมนูแซบให้ลองชิมอีกอย่าง นั่นคือ ต้มแซบเล้งกระดูกหมู (60 บาท) ที่จะใช้กระดูกเล้งที่ติดเนื้อมาต้มเคี่ยวจนเปื่อย จากนั้นปรุงรสเพิ่มด้วยพริกขี้หนู มะนาว น้ำปลา แล้วใส่ผักชีฝรั่งเพิ่มความหอม ซดน้ำซุปรสชาติจัดจ้าน เผ็ดๆ ผอมๆ จากพริกขี้หนู เปรี้ยวเค็มกำลังดี เนื้อหมูที่ติดเล้งก็เปื่อยล่อนเคี้ยวเพลิน


ต้มแซบเล้งกระดูกหมู
        หันมาชิมอาหารว่างแบบเบาๆ กันบ้าง ปอเปี๊ยะสดบอกต่อ (40 บาท) จานนี้เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน แป้งปอเปี๊ยะสดเป็นแป้งเวียดนาม ด้านในเป็นไส้เนื้อไก่ปรุงรสและคลุกเคล้ากับเครื่องเทศ ใส่ผักกาดหอม ผักแพว โหระพา ผักชีฝรั่ง แครอท พริกชี้ฟ้าแดง ห่อรวมกันแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มหวานโรยด้วยถั่วลิสงป่น แล้วกินคู่กับหอมเจียว ปอเปี๊ยะสดแป้งเหนียวนุ่มกำลังดี กินจิ้มกับน้ำจิ้มได้รสชาติชาติกลมกล่อม


ปอเปี๊ยะสดบอกต่อ
        ต่อจากนั้นมาลอง เกี๊ยวกุ้งลวกจิ้ม (40 บาท) ที่ไส้ด้านในเป็นเนื้อกุ้งชิ้นๆ ผสมกับเนื้อกุ้งบดปรุงรส นำมาห่อกับแผ่นเกี๊ยว แล้วนำไปลวกให้สุก จิ้มกับจิ๊กโฉ่ว ชิมเกี๊ยวเคี้ยวเด้ง เนื้อกุ้งหวานฉ่ำได้รสชาติเค็มนิดๆ กินกับจิ๊กโฉ่วเปรี้ยวๆ เค็มๆ เป็นอีกจานที่อร่อยถูกใจ


เกี๊ยวกุ้งลวกจิ้ม
        ปิดท้ายความอร่อยกันที่ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง (40 บาท) ที่ใส่เส้นใหญ่ ถั่วงอกลวก แล้วก็ราดด้วยเต้าหู้ เห็ดหอม และหมูสามชั้นที่เคี่ยวปรุงรสมาแล้ว แล้วก็ยังโรยด้วยกุนเชียง หมึกแห้งทอด กุ้งแห้งทอด แคปหมู และกากหมู ลองชิมก๋วยเตี๋ยวหลอกที่เส้นเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นซีอิ๊วดำ กินพร้อมกับเครื่องเคราที่ใส่มาให้เต็มที่ รสชาติกลมกล่อม อร่อยเพลินกันไปอีกจาน
       
       อิ่มอร่อยกับอาหารว่างและก๋วยเตี๋ยวกันแล้ว ที่ร้านก็ยังมีของหวานและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้ล้างปากกันด้วย ซึ่งหากว่าใครอยากลองชิมก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยก็แวะมาอร่อยกันได้ที่ร้าน “บอกต่อ ก๋วยเตี๋ยวหมูยำแซบ” แห่งนี้เลย


ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
       

       
       ร้าน “บอกต่อ ก๋วยเตี๋ยวหมูยำแซบ” ตั้งอยู่ที่ 57 ถนน 535 เลียบทางรถไฟสายใต้ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. การเดินทางจากถนนเพชรเกษม เลี้ยวเข้าสู่ถนนจรัญสิทนวงศ์ มุ่งหน้าสามแยกไฟฉาย ตรงมาเรื่อยๆ พอเลยตลาดบางขุนศรีและแม็คโครจรัญฯ ให้ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 500 มตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ซ้ายมือ (อยู่ก่อนถึงสะพานข้ามคลอง) ติดกับคาร์แคร์ ร้านเปิดทุกวัน (หยุดทุกวันที่ 16 ของเดือน แต่ถ้าเดือนไหนตรงกับเสาร์-อาทิตย์จะเลื่อนไปหยุดวันจันทร์แทน) เวลา 09.00-17.00 น. โทร. 08-9616-1614 www.facebook.com/Borktor


sithiphong:
ราดหน้าชิ้งกี่ ตำนานกว่า 75 ปี
-http://travel.sanook.com/1397151/-


ราดหน้าชิ้งกี่ถ้าพูดถึงร้านราดหน้าที่มีประวัติอันแสนจะยาวนาน คงหนีไม่พ้นร้านราดหน้าร้านนี้ “ราดหน้าชิ้งกี่” คุณเอ่ยยเค้าเปิดมา 75 ปีตั้งอยู่ย่าน “ประตูผี” ถนนมหาไชย ข้างๆ คุกเก่า หรือปัจจุบันเป็นสวนรมณีนาถ ให้ประชาชนแถวๆย่านนั้นมาออกกำลังกายกันเพื่อสุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ

ร้านนี้จะอยู่ในซอยมหาชัย (แต่ปากซอยที่ไม่มีป้ายนะจ๊ะ) ไม่ต้องกลัวเราเตรียมรายละเอียดร้านมาไว้ให้แล้ว



ร้านนี้ตอนแรกๆ ขายแบบรถเข็นแล้วก็มีร้าน จนปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่ ถนนมหาไชยได้ 50 กว่าปีแล้ว อยู่มานานกว่าอายุดิฉันอีก!! เป็นร้านที่เก่าแก่จริงๆ ชิมิฮะ

ร้านนี้บอกเลยเคยไปทานตอนเด็กๆแล้วก็เป็นราดหน้าที่แฟนซีได้อีกด้วยราดหน้าที่ชื่อว่าสี่สี มันคือราดหน้าอัลไร ราดหน้าโหมด CMYK หรือเปล่า ไม่ใช่เลยราดหน้าสีสี่คือราดหน้าที่มีหมูชิ้น แฮม (ร้านนี้เรียกหมูหมักกระเทียมที่รสชาติออกหวานว่าแฮม) ผักต่างๆเส้นมีให้เลือกเส้นใหญ่ เส้นหมี่ ที่ผัดกับไข่มาให้ด้วย





และพิเศษสุดๆคือไข่ดาวที่นำไข่เป็ดไปทอดเป็นไข่ดาวกรอบนอกไข่แดงเยิ้มๆ อยู่ด้านในก็เพราะไปกินร้านนี้นะแหละหลังๆไปสั่งราดหน้าร้านไหนต้องสั่งไข่ดาวด้วยตลอดๆ แต่สงสัยกันบ้างมั้ยว่า ไข่ไก่กับไข่เป็ด มีคุณประโยชน์ต่างกันยังไง มาๆ





เข้าสู่ช่วงวิชาการนอกจากเรื่องกินกันบ้าง เดียวจะหาว่าเราพาไปกินๆๆ อย่างเดียวเรามารู้จักสิ่งที่เรากินในชีวิตประจำวันกันเพิ่มเติมดหน่อยน่ะ ไข่ไก่นั้นมีประโยชน์ ในด้าน โปรตีน แคลเซี่ยม เหล็กแต่ไข่เป็ดมีประโยชน์เหนือกว่าไข่ไก่ คือให้พลังงานเยอะกว่า ไขมัน วิตามิน บี 1 วิตามิน บี 2 บี 5 และรสชาติของไข่ทั้ง 2แบบนี้ก็ไม่เหมือนกันเนอะ ไข่เป็ดจะออกคาวๆ กว่านิดนึง





ต่อกันที่ผักคะน้าของร้านนี้ก็จะเลือกมาแล้วกรุบกรอบหวานอร่อยไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อยเคี้ยวเพลินเข้ากับราดหน้าเป็นอย่างยิ่ง มาทำความรู้จักกับผักคะน้ากันหน่อยดีกว่า ผักคะน้าส่วนใหญ่จะปลูกในแถบ ASIA มีมากในจีน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย รวมไปถึงประเทศไทยด้วยนะจ๊ะ

ซึ่งเจ้าคะน้าที่นิยมปลูกในบ้านเราเนี๊ยมีใบกลม ใบแหลม และพันธ์ยอดหรือก้าน เลือกซื้อกันตามสะดวกเลยน่ะพวกเธอนอกจากจะมีราคาถูก



ยังมีคุณประโยชน์ด้วยเพราะคะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีวิตตามินซี ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียมช่วยชะลออาการความจำเสื่อม น้ำตาลน้อยเป็นเบาหวานกินดีฯลฯ คุณประโยชน์มากมายมหาศาลมว๊ากจริงๆ

แต่ของทุกอย่างมีประโยชน์ก็มีโทษน่ะจ๊ะ เจ้าผักคะน้ามีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งถ้ากินในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะเกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขาดแร่ธาตุไอโอดีน จะให้แนะนำจริงๆ

ก็ควรจะเลือกทานผักหลากหลายชนิดน่ะจ๊ะร้านนี้มีเครื่องดื่มอีกอย่างคือน้ำส้มคั้นที่จะคั้นใส่ขวดแก้วเอาไว้มีให้เลือกขวดเล็กและขวดใหญ่ซึ่งน้ำส้มคั้นก็ชื่นในแถมแก้เลี่ยนราดหน้าได้เป็นอย่างดี





ใครจะไปร้านราดหน้าชิ้งกี่ก็ไปกันได้ ในวันนั้นเราเรียก Taxiไปจากรถไฟฟ้าสยาม 60 กว่าบาทก็ถึงละ วันนั้นหมดไป 284 บาท ราดหน้าจานละ 70 บาท น้ำส้มคั้นอีก 140 บาทกินแค่นี้ก็อิ่มแล้วละ

ราดหน้าชิ้งกี่ Google Map: 13.750283, 100.503722 ถ.มหาไชย สำราญราษฎร์ กทม. เปิดเวลา 18.00-23.30 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) โทร : 0-2222 2473

อุ๊ตะ อร่อย By Nuntisz


นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version