ผู้เขียน หัวข้อ: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา  (อ่าน 35129 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ราดหน้าจานละ 7,000! บิ๊กไซส์จัดเต็มของดีจากทะเลทั่วโลก    ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    24 ตุลาคม 2556 09:48 น.
-http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000127513-



เมนูราดหน้า LOVE BOAT ราคา 7,000 บาท วัตถุดิบหลัก คือ ปูคิงแคลป

       ใครจะเชื่อบ้างว่า ราดหน้าจานเดียวราคาถึง 7,000 บาท แถมเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในซอยลึกข้างทาง ไม่ได้ขายในภัตตาคาร หรือโรงแรมหรูแต่อย่างใด ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้มากขึ้นไปอีก แต่ร้าน “แป๊ะราดหน้ามหาชน” ทำให้เกิดขึ้นจริงได้แล้ว ด้วยเมนูราดหน้าที่ระดมสุดยอดของดีจากทะเลทั่วโลกมารวมกันไว้ในจานขนาดยักษ์ใบเดียว และที่สำคัญกว่านั้น กลายเป็นการทำตลาดที่ยอดเยี่ยม สร้างจุดเด่นให้ร้านนี้ เป็นที่รู้จักและจดจำในฐานะร้านที่มีราดหน้าจานยักษ์ราคาเจ็บๆ ไว้คอยบริการ


พหล สิริเวชชะพันธ์ เจ้าของร้าน "แป๊ะราดหน้ามหาชน"

       ไอเดียมันๆ นี้มาจากเจ้าของร้าน “พหล สิริเวชชะพันธ์” หรือชื่อเล่นว่า “ปุ๊บปั๊บ” ที่เริ่มต้นเพียงแค่อยากให้ลูกค้าได้กินราดหน้าทะเลที่ได้สัมผัสถึงวัตถุดิบของทะเลที่อร่อยแบบเต็มๆ คำจริงๆ โดยเบื้องต้นเป็นราดหน้าทะเล ราคาจานละ 80 บาท
       
       “เมื่อก่อนเวลาเราไปกินราดหน้าทะเลแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ได้กินของทะเลแบบจริงๆ มีแค่กุ้งตัวเล็กๆ กับหมึกชิ้นเล็กๆ จนเมื่อผมมาขายราดหน้าเอง เมนูราดหน้าทะเลของผม ก็เลยใส่กุ้งตัวใหญ่ๆ กับหมึกชิ้นใหญ่เลย ให้ลูกค้ากินได้อร่อยเต็มคำ ซึ่งแน่นอนว่า ต้นทุนมันก็สูงขึ้นด้วย ผมเลยขายจานละ 80 บาท ปรากฏว่าขายดีมาก ซึ่งผมคิดว่า เกิดจากที่ลูกค้าเห็นว่ามันคุ้มค่า ราคาอาจจะสูงสักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับกลับมา ผมเชื่อว่าลูกค้ารับได้” หนุ่มร่างใหญ่อารมณ์ดี เล่าถึงเมนูราดหน้าทะเลยุคแรกเมื่อกว่า 7-8 ปีทีแล้ว
       
       ส่วนที่มาของเมนูราดหน้าจานยักษ์อลังการ ราคาสูงปรื๊ดนั้น จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อราว 4 ปีที่แล้ว เมื่อตัดสินใจย้ายร้านจากที่เคยเปิดที่เซ็นต์หลุยส์ ซอย 3 ย่านสาทร มาอยู่ในซอยนนทบุรี 46 (ซอยไทยานนท์)


เมนูราดหน้าทะเลไฮโซ ราคาจานละ 300 บาท ขายดีอันดับหนึ่ง

       พหล เล่าให้ฟังว่า ร้านที่เซ็นต์หลุยส์ขายดีมาก แต่ติดปัญหาเป็นที่เช่า ขายได้เฉพาะช่วงค่ำ ไม่สะดวก แม้จะเสียดายแต่ก็ต้องตัดสินใจเลือกย้ายมาเปิดในซอยนนทบุรี 46 แทน ส่วนสาเหตุที่เลือกทำเลนี้ ด้วยเหตุผลเป็นพื้นที่เปล่าของครอบครัวอยู่แล้ว และอีกข้อ ในพื้นที่ใกล้เคียง กำลังจะมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานกองสลากแห่งใหม่ เชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่จะกลายเป็นทำเลทองในอนาคต
       
       อย่างไรก็ตาม ด้วยทำเลที่ตั้งร้าน ในซอยนนทบุรี 46 ทั้งแคบและลึก แถมเป็นแค่ร้านกางเต็นท์ง่ายๆ ไม่ได้สวยงามหรือโดดเด่นแต่อย่างใด ในระยะแรกยอดขายจึงไม่หวือหวามากนัก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นขายประจำที่ติดใจรสชาติตามมากิน ซึ่งส่วนใหญ่มักสั่งเมนูราดหน้าทะเล ทำให้พ่อครัวคนนี้ เกิดความคิดสนุกๆ ทำเมนู “ราดหน้าทะเลไฮโซ” ราคาจานละ 300 บาท เพื่อเอาใจลูกค้าที่อยากกินราดหน้าทะเลพิเศษ ในจานประกอบด้วยวัตถุดิบทะเลของดีต่างๆ ทั้งกุ้ง ปลาหมึก หอย ฯลฯ แบ่งกินกัน 2-3 คนอิ่มได้สบายๆ
       
       ผลปรากฏว่า เมนูราดหน้าทะเลไฮโซ ราคาจานละ 300 บาท กลับกลายเป็นเมนูสุดฮิตอย่างรวดเร็ว ขายดีอย่างไม่น่าเชื่อ ลูกค้ามาเป็นกลุ่ม สั่งจานเดียวแบ่งกินด้วยกันได้อย่างสนุกสนาน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอิทธิพลของสังคมออนไลน์ ลูกค้าที่มากินแล้วตื่นตาตื่นใจด้วยขนาดจานใหญ่อลังการกับเครื่องใส่มาเยอะจุใจ มักถ่ายรูปแล้วส่งตามสังคมออนไลน์ต่างๆ ช่วยเรียกลูกค้าภายนอกเข้ามาที่ร้านจำนวนมาก แถมยังสร้างกระแสให้คนในพื้นที่ตื่นเต้นว่า ทำไมร้านนี้มีลูกค้าข้างนอกเข้ากินกันเยอะจัง จนต้องขอมาลองชิมรสดูบ้าง กลายเป็นแรงส่งจากภายนอกช่วยเรียกลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย


นำวัตถุดิบสุดยอดจากทะเลมาไว้ในจาน

       หลังเมนู “ราดหน้าทะเลไฮโซ” จานละ 300 บาท เป็นที่นิยม จนเริ่มรู้สึกว่าธรรมดาเกินไปแล้ว กลายเป็นภาคบังคับให้ร้านนี้ต้องมีเมนูราดหน้าจานยักษ์ที่คัดสรรสุดยอดวัตถุดิบของดีจากท้องทะเลทั่วโลกมาไว้ในจาน พ่อครัวไฟแรงจึงต่อยอดความสำเร็จด้วยการคิดค้นเมนูราดหน้าทะเลจานยักษ์อลังการมากขึ้นไปเรื่อยๆ จาก 300 บาท ค่อยๆ มีเมนูราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 500 บาท 1,000 บาท 1,500 บาท 2,000 บาท และล่าสุด 7,000 บาท!


บรรยากาศภายในร้าน

       สำหรับเมนูราดหน้าทะเลจานยักษ์ แต่ละเมนูจะใส่เครื่องต่างๆ มาจำนวนมาก มีวัตถุดิบพื้นฐาน เช่น เส้นที่ผัดจนหอมไหม้กระทะ รวมถึง เนื้อปู กุ้ง หมึกสด หอยแมลงภู่ เนื้อปลา หน่อไม้ทะเล คะน้าฮ่องกง ฯลฯ โดยแต่ละเมนูก็จะมีวัตถุดิบหลัก เช่น เมนูราดหน้าจานละ 500 บาท มีหอยเป๋าฮือเป็นวัตถุดิบหลัก , เมนูราดหน้าบันลือโลก จานละ 1,500 บาท กินอิ่มได้อย่างน้อย 4 คน มีทั้งกุ้งแม่น้ำ กุ้งแชบ๊วย , เมนูราดหน้าโพไซดอน จานละ 2,000 บาท เวลายกมาเสิร์ฟต้องใช้ 2 คนช่วยกันแบก กินอิ่มได้ 6-8 คน มีพระเอกหลัก คือ กุ้งล็อบสเตอร์ตัวเป้ง , เมนูราดหน้าซีอูส จานละ 3,000 บาท กินอิ่มอย่างน้อย 8-10 คน ใส่ทั้งปูอลาสก้า และกุ้งล็อบสเตอร์เป็นจุดขาย และแพงสุดเวลานี้ คือ เมนูราดหน้า LOVE BOAT ราคา 7,000 บาท วัตถุดิบหลัก คือ ปูคิงแคร็บ จากประเทศชิลี มาพร้อมของทะเลอื่นๆ ครบถ้วน กินอิ่มสบายท้องอย่างน้อย 10 คนขึ้นไป


เมนูล็อบสเตอร์ทอดกระเทียม จานละ 1200-1500 บาทตามน้ำหนัก

       เมนูอลังการขนาดนี้ ภาชนะที่ใช้ใส่ก็ต้องใหญ่ตามไปด้วย ส่วนใหญ่จะไปหาซื้อตามร้านขายเครื่องจานชามกระเบื้องในตลาดนัดจตุจักร และสั่งจากโรงงานเซรามิกที่ จ.ลำปาง
       
       พหล ยอมรับว่า ช่วงแรกที่คิดทำเมนูจานยักษ์ราคาสูง แค่อยากสีสันเรียกความสนใจจากลูกค้าเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีใครสั่งจริง แต่ปรากฏว่า ทุกเมนูกลับมีลูกค้าสั่งมาลิ้มลอง แถมยังถามเชิงท้าต่อว่า มีพิเศษกว่านี้อีกไหม จนเขาต้องคิดหาเมนูที่อลังการยิ่งกว่ามาบริการเพิ่มไปเรื่อยๆ อย่างเมนูราดหน้า LOVE BOAT ราคา 7,000 บาท ที่เริ่มขายเมื่อกลางเดือนกันยายน 2556 ถึงสิ้นเดือนกันยายน 2556 ที่ผ่านมา มีสั่งไปแล้ว 5 จาน ส่วนในอนาคตก็อาจจะมีเมนูที่อลังการและแพงขึ้นไปอีกก็เป็นได้!


ราดหน้าเจก็มีบริการ

       อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านย้ำว่า สิ่งที่สำคัญเหนือกว่าขนาดจานที่ใหญ่ยักษ์กับเรื่องราคาแพง คือ เมื่อมาเสิร์ฟถึงโต๊ะแล้ว ลูกค้าต้องรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปตั้งแต่ความรู้สึกที่แรกเห็น ทั้งเรื่องปริมาณและคุณภาพวัตถุดิบที่ใส่มาเต็มๆ และเมื่อได้กินแล้ว ต้องพึงพอใจในรสชาติความอร่อย และอยากกลับมากินซ้ำอีก
       
       “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ผมเชื่อว่า หากอาหารที่เราทำ หรืออาหารที่เราขาย ถ้าเอาของไม่ดีไปขาย ลูกค้าเขาก็มากินครั้งเดียว แต่ถ้าเราใช้ของดี ทำอย่างตั้งใจ และอร่อย ลูกค้าจะรู้สึกคุ้มค่า ถึงราคาจะแพงหน่อย ผมเชื่อว่า ลูกค้ารับได้” เจ้าของร้านร่างใหญ่ ระบุ


มีเมนูให้เลือกกว่า 200 รายการ

       เมื่อถามเจาะไปถึงเคล็ดลับความอร่อยนั้น เจ้าของชื่อเล่นปุ๊บปั๊บ ตอบสวนมาอย่างไม่ลังเล อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพดี อย่างของทะเลสดต่างๆ ไปซื้อถึงแหล่งใกล้ทะเลอย่างย่านแม่กลอง ส่วน “เส้นใหญ่” สั่งตรงจากเจ้าเก่าแก่ย่านเยาวราช และส่วนของทะเลพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ปูอลาสก้า กุ้งล็อบสเตอร์ และปูคิงแคร็บ ฯลฯ จะสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ


       จริงๆ แล้ว ในร้าน “แป๊ะราดหน้ามหาชน” ไม่ได้มีแต่ราดหน้าราคาสูงเท่านั้น ทว่า มีเมนูอื่นๆ ให้เลือกหลากหลาย ทั้งประเภทอาหารจานเดียว ติ่มซำ รวมกว่า 200 รายการ ราคาก็ทั่วไปอย่างราดหน้าหมู จานละ 35 บาท ข้าวผัดปู จานละ 40 บาท เป็นต้น ส่วนเมนูที่ขายดีที่สุดในปัจจุบัน คือ ราดหน้าทะเลไฮโซ” จานละ 300 บาท


ผัดเส้นให้มีกลิ่นหอมไหม้

       ปัจจุบัน ร้าน “แป๊ะราดหน้ามหาชน” ยังเน้นแต่งร้านทำแบบง่ายๆ ออกแบบเป็นครัวเปิด รองรับลูกค้าได้กว่า 200 ที่นั่ง ขณะที่ทีมงานร้านมีประมาณ 10 คน ลูกค้าหลักจะเป็นพนักงานออฟฟิศในบริเวณใกล้เคียง ประกอบกับคนภายนอกที่รู้จักผ่านสื่อและสังคมออนไลน์ต่างๆ ส่วนใหญ่จะมาเป็นครอบครัวและกลุ่มเพื่อน โดยลูกค้าแน่นแทบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเสาร์อาทิตย์ ยอดขายหลักแสนบาทต่อวัน และต่อเดือนรายได้นับเจ็ดหลักทีเดียว
       
       อย่างไรก็ตาม กว่าจะพบกับความสำเร็จเช่นวันนี้ พหลบอกว่า ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แค่ข้ามคืน แต่ต้องอาศัยความพยายามล้มแล้วลุก ฮึดสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า จากที่เริ่มต้นเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว เคยไปทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัวอยู่ที่สหรัฐอเมริกา พอกลับมาเมืองไทย คิดหาอาชีพขายอาหารสักอย่าง โดยชอบทำราดหน้า เพราะรู้สึกว่าเป็นเมนูที่ทำสนุก แต่กว่าจะเริ่มขายจริงก็ทดลองทำทิ้งทำเสียอยู่นานหลายเดือน


ภายในร้านรองรับลูกค้าได้ประมาณ 200 คน

       เบื้องต้นแค่เป็นรถเข็นข้างทาง ขายอยู่ย่านเมืองทอง ผลก็คือ เงียบสนิท 6 เดือนแรกขาดทุนตลอด ทั้งอายและทั้งท้อ แต่ก็พยายามฮึดสู้ปรับปรุงสูตรเรื่อยมา จนพอจะมีลูกค้าบ้าง และหลังผ่านไป 2 ปี ได้ย้ายมาขายที่เซ็นต์หลุยส์ ซอย 3 ย่านสาทร ก่อนมาสู่ร้านที่ซอยนนทบุรี 46 ในปัจจุบัน


แต่ละจานใส่เครื่องมาแบบเต็มๆ

       ความสำเร็จในวันนี้ ปุ๊บปั๊บ บอกว่า ลำพังแค่อาหารใส่จานใหญ่ๆ ตั้งค่าแพง คงไม่เพียงพอ แต่ต้องควบคู่กับความพยายามมุมานะ และลงมือทำอย่างจริงจังด้วย
       
       ร้าน“แป๊ะราดหน้ามหาชน” เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ในซอยนนทบุรี 46 ฝั่งตรงข้ามอาคารสำนักงานสลากกินแบ่งแห่งใหม่ โทร. 08-2596-8458 หรือ facebook:แป๊ะราดหน้ามหาชน


ใส่มาในจานขนาดใหญ่อลังการ


http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000127513
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เร่เข้ามา!! ขอเชิญชิมก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นรสแซ่บ ที่ "ออฟหอยใหญ่"
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1382602267&grpid=&catid=09&subcatid=0908-

คอลัมน์ชีพจรตะลอนทัวร์ โดย พุงพลุ้ย


"ออฟหอยใหญ"

อ่านถึงตรงนี้อย่าเพิ่งคิดว่าเราทะลึ่ง,


เพราะเรากำลังหมายถึงอาณาจักรเล็กๆ ของแม่ค้าคนสวยนามว่า"ออฟ" (อยากรู้ว่าน่ารักแค่ไหน ขอให้ไปดูตัวจริงที่ร้าน) ที่เจ้าตัวเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลน้ำข้นถึงเครื่องพร้อมเสิร์ฟ โดยมีเจ้าหอยแมลงภู่ตัวบิ๊กเบิ้มเป็นตัวชูโรง อยู่ในศูนย์อาหารของตลาดอตก.
















ร้านนี้มีเส้นให้เลือกเพียบ! ไล่ตั้งแต่เส้นสามัญประจำร้านก๋วยเตี๋ยวอย่าง เส้นใหญ่, เส้นเล็ก, เส้นหมี่ เส้นพิเศษๆ อย่าง มาม่า, เซี้ยงไฮ้, เกี้ยมอี๋ และเส้นปลา ก็ยังเลือกใส่ได้ในราคา 60 บาทไทยถ้วนๆ


ไม่ใช่แค่นั้น แม่ค้าคนสวยยังใจดีให้ลูกค้าเลือกระดับความเผ็ดร้อนแล้วแต่ความพอใจว่าจะชอบเผ็ดมาก เผ็ดน้อยหรือปานกลาง

วันนี้เราเลยขอเลือกเผ็ดปานกลางมาชิม พอก๋วยเตี๋ยวชามโตถูกยกมาวางบนโต๊ะ หลังจากสบตากับเจ้าหอยแมลงภู่, กุ้ง, ปลาหมึก , หมูสับชิ้นบิ๊กเบิ้ม และเห็ดนานาชนิด ในราคา 60 บาทไทย ที่ใครใคร่อยากจะเพิ่มสัดส่วนอาหารทะเลก็เพิ่มเงินไปได้ 10-20 บาทเท่านั้น ก็อร่อยคูณสอง

 
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นเผ็ดปานกลางชามนี้ บอกเลยว่าเครื่องปรุง พริกน้ำส้ม น้ำตาล น้ำปลา ที่ถูกยกมา ขอให้เชิดใส่ไปได้เลย เพราะรสชาติกำลังไปได้ดีแบบไม่ต้องเพิ่ม ไม่เปรี้ยวเกินไป อีกทั้งคนกินอย่างเรายังไม่ต้องซี๊ดซ๊าดขั้นน้ำตาแตก


ใครเห็นแล้วหิวไปลองกินและซดน้ำต้มยำข้นๆ เต็มทั้งรสเต็มทั้งเครื่องได้ที่ บริเวณศูนย์อาหารตลาดอตก. ร้านเปิดทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เช้าไปจนถึง 16.00 น. นะจ๊ะ

 

 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1382602267&grpid=&catid=09&subcatid=0908
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2013, 10:45:01 pm »
ก๋วยเตี๋ยวเรือ เมนูเส้นชูโรง กินเส้น เดินเล่นที่"อนุสาวรีย์ชัยฯ"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    1 พฤศจิกายน 2556 15:53 น.
-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000135597-


ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ฯ ที่ใครๆ ก็มากิน

       ย่าน “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “อนุสาวรีย์ฯ” ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่สำคัญในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานที่สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย และยังถือเป็นจุดศูนย์รวมของสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล วิทยาลัยการแพทย์ ศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง สวนสาธารณะ (คลิกอ่านเรื่องเที่ยวย่านอนุสาวรีย์ฯ) รวมถึงเป็นจุดศูนย์รวมของการคมนาคมที่สำคัญ ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถโดยสารประจำทาง รถตู้ ฯลฯ อีกด้วย


ทัศนียภาพโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

       นอกจากนี้แล้ว ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแห่งนี้ ยังถือเป็นแหล่งของกินนานาชนิด ที่เรียกได้ว่าทุกตรอกซอกซอยมีของกินให้เลือกซื้อ เลือกกินกันได้ตามใจชอบ โดยวันนี้จะพาไปรู้จักกับบรรดาของกินแบบเส้น ทั้งขนมจีน ผัดไทย กวยจั๊บ รวมถึงก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ส่วนจะมีร้านไหนน่าสนใจกันบ้างนั้นตามไปอ่านกันเลย
       
       เริ่มต้นที่ “ขนมจีน” ถ้ามาอนุสาวรีย์ฯ เรียกได้ว่าสามารถหาขนมจีนกินกันได้แทบทุกซอย ไม่ว่าจะฝั่งราชวิถี ฝั่งพหลโยธิน หรือฝั่งทางไปดินแดง ก็ล้วนแล้วแต่มีขนมจีนขายทั้งสิ้น ส่วนร้านที่เห็นเด่นๆ คนกินเยอะหน่อยก็อยู่ตรงบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ถัดจากเซ็นเตอร์วันไปประมาณ 50 เมตร หากใครที่ไม่ชอบที่แคบๆ ก็อาจไม่ถูกใจเท่าไหร่ เนื่องจากร้านจะตั้งอยู่บนฟุตปาธ เวลานั่งกินก็ต้องนั่งหันหน้าเข้าหากระจกร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีผู้คนเดินผ่านไปมา อาจทำให้ไม่สะดวกในการนั่งกิน ส่วนน้ำยาขนมจีนก็มีน้ำยาป่ากับน้ำยากะทิ ส่วนที่พิเศษของร้านนี้คือจะสามารถเลือกจับคู่ได้ว่าจะกินขนมจีนกับอะไร มีทั้งขาไก่ ลูกชิ้น ขาไก่+ลูกชิ้น หรือจะพิเศษเส้น พิเศษขาไก่ พิเศษลูกชิ้น ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ สนนราคา 30 - 35 บาท ร้านเปิดวันอังคาร - อาทิตย์


ร้านขนมจีนหน้าร้านสะดวกซื้อ

       จากนั้นเดิมข้ามฝั่งไปยังฝั่งตรงข้ามสวนสันติภาพจะพบกับร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อร้านว่า “ลูกชิ้นดิสโก้” ความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้อยู่ตรงที่ลูกชิ้น เนื่องจากที่นี่จะทำลูกชิ้นเองจึงทำให้มีความเหนียวนุ่ม อร่อย ส่วนเมนูก๋วยเตี๋ยวก็มีก๋วยเตี๋ยวหมู และก๋วยเตี๋ยวเนื้อ มีเส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ เส้นเล็ก และเกาเหลา สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเนื้อสด เนื้อเปื่อย หรือลูกชิ้นล้วน นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วร้านลูกชิ้นดิสโก้ยังมีลูกชิ้นขายแยกอีกด้วย (100 ลูก 280 บาท) สนนราคาก๋วยเตี๋ยวชามละ 40 -50 บาท เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 19.30 น. โทร.0-2245-6790


ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเนื้อเปื่อย ร้าน “ลูกชิ้นดิสโก้”

       ถัดมาเอาใจคนชอบกินคนชอบกินจุกับ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ที่อนุสาวรีย์ฯ มีให้เลือกกินหลายร้าน โดยจะมีร้านเด่นๆ ด้วยกันอยู่ 2 ร้าน (อยู่ทางฝั่งแฟชั่นมอลล์) จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่คือจะมาเป็นชามเล็กๆ ส่วนมากคนที่มากินจะสั่งมาทีละหลายๆ ชาม (20 ชาม ฟรี น้ำอัดลม 1 ขวดลิตร) บรรยากาศภายในร้านจะคึกคักเต็มไปด้วยนักกินมากมาย หากมองไปรอบๆ จะเห็นว่าแทบทุกโต๊ะจะมีชามก๋วยเตี๋ยวใบเล็กวางซ้อนกันเป็นตั้ง เมนูก็มีให้เลือกกันทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือหมูและเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็กเสิร์ฟมาพร้อมกับเส้นนิดหน่อย ภายในชามมีผักบุ้ง ลูกชิ้น และเนื้อสัตว์พอดีคำ สนนราคาชามละ 10 บาท เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 21.00 น.


ร้านค้าริมฟุตปาธฝั่งหน้าแฟชั่นมอลล์

       ถ้ายังไม่จุใจพอในช่วงเย็นบริเวณฟุตปาธด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาราชวิถีซอย 8 จะมีร้าน “ก๋วยเตี๋ยวพ่อตา” รสเด็ดอีกร้าน ที่การันตีความอร่อยจากการเปิดขายมานานกว่า 30 ปี ร้านนี้จะเป็นร้านรถเข็นตั้งอยู่บนฟุตปาธ หากเดินมาจะได้กลิ่นของน้ำซุปหอมๆ เตะจมูกชวนให้หิว เมนูที่ขายก็มีก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวหมูแดง เป็นต้น สนนราคาชามละ 30 บาทขึ้นไป เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป โทร.08-5114-5083


แหล่งช้อปปิ้งโดยรอบบริเวณอนุสาวรีย์ฯ

       จากนั้นมาปิดท้ายกันที่ร้าน “ต.การันต์” บริเวณฟุตปาธหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาราชวิถีซอย 8 เช่นกัน ที่ร้านนี้มีดีที่ผัดไท ส่วนเมนูก็จะมีผัดไทยธรรมดา ผัดไทยกุ้งสด ผัดไทยทะเล นอกจากผัดไทยแล้วยังมีเมนูหอยนางรมทอด ทะเลทอด กุ้งทอด อีกด้วย สนนราคา 30 - 60 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละเมนู) เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
       
       นอกจากนี้แล้วที่ย่านอนุสาวรีย์ฯ ยังมีของกินอร่อยๆ อีกมากมาย สามารถเลือกกินกันได้ทั้งในศูนย์การค้า และนอกศูนย์การค้า หากใครที่มาช่วงเย็นบริเวณริมฟุตปาธฝั่งแฟชั่นมอลล์ก็จะมีของกินเรียงรายให้เลือกสรรกันมากมาย และถ้าหากใครชอบกินกวยจั๊บร้อนๆ ช่วงเย็นที่นี่ก็มีร้านกวยจั๊บรสเด็ด อร่อยๆ ให้เลือกกินกันอีกด้วย

       *****************************************************
       
       การเดินทาง
       
       รถโดยสารประจำทาง : สาย 8, 12, 14, 17, 24, 26, 27, 28, 29, 34, 36, 38, 39, 54, 59, 62, 63, 74, 77, 96, 97, 104, 108, 139, 140, 157, 204, 502, 503, 509, 513, 510
       รถไฟฟ้า BTS : สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ







คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2013, 10:48:15 am »
“ราดหน้ารัตนาธิเบศร์” อร่อยเด็ด สไตล์แต้จิ๋ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    3 พฤศจิกายน 2556 11:36 น.
-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000136366-



ด้านหน้าร้าน

       สำหรับนักกินทั้งหลาย ไม่ว่าจะหน้าร้อน ฝน หรือหนาว ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการจะออกนอกบ้านไปหาของอร่อยลิ้มลองกันแน่นอน
       
       และร้านอาหารอร่อยที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะชวนไปลิ้มลองกันในวันนี้ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสะพานพระนั่งเกล้า มีชื่อร้านว่า “ราดหน้ารัตนาธิเบศร์” ที่เปิดขายกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 แล้ว ซึ่งสูตรราดหน้าของทางร้านนั้นก็เป็นสไตล์จีนแต้จิ๋ว ที่นำมาประยุกต์รสชาติให้มีความอร่อยเฉพาะตัว


ราดหน้าหมูไข่ดาว

       อย่างที่ได้ลองชิมกันในจานแรก ราดหน้าหมูไข่ดาว (45 บาท) ซึ่งจะมีเส้นให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นหมี่ หมี่ขาวกรอบ หมี่เหลืองกรอบ และเกี๊ยวหมูทอดกรอบ แต่ที่เราเลือกชิมวันนี้จะเป็นเส้นใหญ่ที่นำมาผัดคั่วจนหอม ราดด้วยน้ำราดหน้าที่ปรุงจากน้ำซุปกระดูกหมู ใช้เนื้อหมูส่วนสะโพกมาหมักกับเครื่องปรุงรสต่างๆ ทิ้งไว้ข้ามคืน ส่วนผักคะน้าก็เลือกเฉพาะส่วนที่อ่อนๆ มาลวกแค่พอสุก จากนั้นนำมาผัดปรุงรสทีละจาน เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับไข่ดาวโปะหน้า ชิมราดหน้าที่รสชาติหวานนุ่มกลมกล่อม หมูหมักนุ่มอร่อย ผักคะน้ากรอบหวานไม่ขม เข้ากับรสชาติของไข่ดาว


ราดหน้าเส้นใหญ่ห่อไข่

       หรือหากจะชิม ราดหน้าเส้นใหญ่ห่อไข่ (45 บาท) ก็หอมอร่อยเหมือนกัน ด้วยการนำเส้นผัดรวมไปกับไข่ไก่ ได้เส้นหอมๆ นุ่มๆ ราดด้วยน้ำราดหน้าหมูลงไป แต่ถ้าอยากชิมราดหน้าแบบธรรมดา ก็มี ราดหน้าหมูเส้นใหญ่ (35 บาท) เส้นหมี่/หมี่กรอบราดหน้า (45 บาท) เกี๊ยวหมูกรอบราดหน้า (55 บาท) และ เกาเหลาราดหน้า (45 บาท)


ผัดซีอิ๊ว

       ส่วน ผัดซีอิ๊ว (50 บาท) ของที่นี่ก็เด็ดเช่นกัน มีให้เลือกเส้นใหญ่กับเส้นหมี่ เวลาผัดก็จะใส่เนื้อผมูที่หมักได้ที่แล้วลงไปก่อน ใส่ผักคะน้า และใส่เส้นลงไป ใส่ไข่และผัดคั่วให้หอม ชิมแล้วจะได้กลิ่นหอมของเส้นและไข่ หมูหมักเนื้อนุ่ม และผักคะน้ากรอบๆ


ข้าวหมูแดง

       แต่นอกจากราดหน้า-ผัดซีอิ๊วแล้ว ก็ยังมี ข้าวหมูแดง (35 บาท)ที่ใส่ทั้งหมูแดง กุนเชียง และหมูกรอบ โดยหมูแดงเป็นหมูส่วนเนื้อสันนำมาหมักแล้วนำไปย่างจนสุก กุนเชียงก็เป็นกุนเชียงหมู ส่วนหมูกรอบเป็นหมูสามชั้นหมักเกลือ นำไปต้ม ย่าง แล้วทอดซ้ำอีกครั้ง น้ำราดข้าวหมูแดงต้องผสมเครื่องสมุนไพรต่างๆ ใส่กะทิ กุ้งแห้ง และเครื่องปรุงต่างๆ ลงไป นำมาราดลงบนข้าว รสชาติกลมกล่อมอร่อย ไม่หวานมากไป หมูแดงเนื้อนุ่ม กุนเชียงหวานๆ และหมูกรอบที่กรอบนอกนุ่มใน เติมรสชาติอีกนิดด้วยซีอิ๊วผสมน้ำส้มพริกดอง


บะกุย

       ส่วนเมนูกินเล่นก็มีให้เลือกชิม อย่าง บะกุย (45 บาท) ที่หน้าตาคล้ายๆ หอยจ้อ แต่ทำมาจากเนื้อหมูบดผสมเนื้อกุ้งแห้งอย่างดี ใส่ผักต่างๆ แล้วห่อด้วยฟองเต้าหู้ นำไปทอดให้สุก ซึ่งบะกุยนี้เป็นของว่างสูตรฮกเกี้ยน กินคู่กับน้ำจิ้มหวาน ชิมแล้วกรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวเพลินๆ ดี


ปอเปี๊ยะสด

       ปิดท้ายด้วยของอร่อยอีกจาน ปอเปี๊ยะสด (35 บาท) เป็นสูตรดั้งเดิมที่จะมีไส้กุนเชียง หมูตั้ง ถั่วงอก แตงกวา ไข่ และเต้าหู้ นพมาห่อกับแป้งปอเปี๊ยะ ส่วนน้ำราดก็ปรุงรสให้ออกเค็มๆ หวานๆ กินเป็นของกินเล่นระหว่างรอราดหน้าก็ได้
       
       ของอร่อยของร้านนี้มีมากมาย ซึ่งความอร่อยนั้นก็การันตีได้จากการที่เปิดขายมาอย่างยาวนาน และมีลูกค้าประจำมากมาย ใครอยากลองชิมก็ต้องมากันเองที่ร้าน “ราดหน้ารัตนาธิเบศร์” แห่งนี้

       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       “ราดหน้ารัตนาธิเบศร์” ตั้งอยู่ที่ 41/11-12 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางหากมาจากถนนงามวงศ์วาน ให้มุ่งหน้ามาที่แยกแคราย แล้วตรงข้ามแยกแครายมาเข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ ผ่านห้าวบิ๊กซีรัตนาธิเบศร์ และเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ตรงมาอีกจนผ่านทางลงสะพานกลับรถ สังเกตทางขวามือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน อยู่ก่อนถึงแยกสะพานพระนั่งเกล้า สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน (หยุดเฉพาะวันอาทิตย์ปลายเดือน) เวลา 08.30-20.00 น. โทร. 0-2527-2407


รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ราดหน้ารัตนาธิเบศร์”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    3 พฤศจิกายน 2556 11:36 น.
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000136375-



ชื่อร้าน : ราดหน้ารัตนาธิเบศร์
       
       ประเภทอาหาร : อาหารจานเดียว
       
       เมนูจานเด่น : ราดหน้าหมูไข่ดาว, ราดหน้าเส้นใหญ่ห่อไข่, ผัดซีอิ๊ว, ข้าวหมูแดง, บะกุย, ปอเปี๊ยะสด
       
       บรรยากาศร้าน : ตึกแถว
       
       ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 41/11-12 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางหากมาจากถนนงามวงศ์วาน ให้มุ่งหน้ามาที่แยกแคราย แล้วตรงข้ามแยกแครายมาเข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ ผ่านห้าวบิ๊กซีรัตนาธิเบศร์ และเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ตรงมาอีกจนผ่านทางลงสะพานกลับรถ สังเกตทางขวามือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน อยู่ก่อนถึงแยกสะพานพระนั่งเกล้า
       
       บัตรเครดิต : ไม่รับบัตรเครดิต
       
       สถานที่จอดรถ : จอดรรถได้หน้าร้าน
       
       เวลาเปิด-ปิด : ร้านเปิดทุกวัน (หยุดเฉพาะวันอาทิตย์ปลายเดือน) เวลา 08.30-20.00 น.
       
       เบอร์โทรศัพท์ : 0-2527-2407
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2013, 09:01:07 pm »

‘ผัดไทยเสวย’ มีมากกว่าเมนูผัดไทย

สัปดาห์นี้ แม่พลอยชวนไปชิม เมนูอาหารทานง่าย ๆ ประเภทผัดไทย ข้าวผัด สเต๊ก ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ ร้านผัดไทยเสวย

-http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=198437-












สัปดาห์นี้ แม่พลอยชวนไปชิม เมนูอาหารทานง่าย ๆ ประเภทผัดไทย ข้าวผัด สเต๊ก ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ ร้านผัดไทยเสวย
วันเสาร์ 30 พฤศจิกายน 2556 เวลา 00:00 น.

สัปดาห์นี้ แม่พลอยชวนไปชิม เมนูอาหารทานง่าย ๆ ประเภทผัดไทย ข้าวผัด สเต๊ก ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ ร้านผัดไทยเสวย ปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 8 ลาดพร้าว 71 เยื้องทางเข้าโรงเรียนสตรีวิทยา 2

ร้านผัดไทยเสวยเปิดบริการมานานกว่า 17 ปีแล้ว มีนักชิมแวะเวียนไปไม่ขาดสาย เมนูเด่นเมนูแรกที่แม่พลอยอยากแนะนำ เป็น ผัดไทยกุ้งใหญ่ห่อไข่ นอกจากมีกุ้งใหญ่เคียงมาให้ รสเด่นอยู่ที่ผัดไทยเส้นหนาเหนียวนุ่ม เคล้ารสกับเครื่องผัดไทย ที่มีเต้าหู้ขาวกุ้งแห้งและหัวไชโป๊ที่ผัดเข้ากับน้ำปรุงผัดไทยที่ใช้น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และน้ำผึ้งที่ให้กลิ่นหอม ที่สำคัญไม่ใช้ถั่วลิสง บดผสมลงไปด้วย ถือเป็นเอกลักษณ์ผัดไทยของร้านนี้ ที่เน้นเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคเป็นหลักและไม่อยากให้รสชาติผัดไทยลดลงไป

ถ้าคิดว่า ผัดไทยกุ้งใหญ่จานใหญ่เกินไป ลองสั่ง ผัดไทยกุ้งสดธรรมดา และ ผัดไทยกุ้งสดห่อไข่ มาทานก็ได้รสชาติกลมกล่อมอร่อยเหมือนกัน หรือถ้าใครอยากลองทาน ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แม่พลอยไม่อยากให้พลาด

เมนูข้าวผัดเป็นเมนูเด่น ของร้านเช่นกัน แนะนำ ข้าวผัดต้มยำ เคียงด้วยมะนาวและแตงกวา รสชาติเข้มข้นดี เหมาะกับคนชอบทานข้าวผัดที่รสชาติไม่จืด มีให้เลือกทั้งหมู ไก่ ปลาหมึกและกุ้ง ข้าวผัดอินเดีย ใช้ข้าวผัดกับผงกะหรี่ ตัวเนื้อข้าวหอมมะลิออกหอมนวลลิ้นเคล้ากลิ่นและรสชาติของผงกะหรี่ ข้าวผัดฮ่องกง เป็นขวัญใจของนักชิมทุกวัยที่ไม่นิยมทานอาหารรสชาติจัด ตัวข้าวมี ลูกเกด สับปะรด เคียงด้วยกุนเชียงออกกลิ่นหอม ออกรสหวานเปรี้ยว ยามเคี้ยวสัมผัสรสชาติของลูกเกด สับปะรด และกุนเชียงและข้าวในเวลาเดียวกัน

ถ้าชอบทานเมนูหมูสะเต๊ะมีเมนู หมูสะเต๊ะโรตี ให้เลือกสั่งเสิร์ฟมาเป็นเซต หมูสะเต๊ะที่นี่ไม่ใช้วิธีการเสียบไม้ แต่หั่นเรียงบนจานเรียบร้อยสวยงาม ทานกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะกับอาจาดและโรตี เป็นเมนูประยุกต์ที่ให้รสชาติดี สเต๊กหมูจิ้มแจ่ว ราดด้วยน้ำเกรวี่ที่ประยุกต์ออกรสชาติเปรี้ยวหวานเค็มลงตัวเสิร์ฟเคียงมาพร้อมกับขนมปังเนื้อนุ่มและผักสดเอาไว้ทานแกล้มเคียงกันไป

หมูจิ๊ดจ๊าด เมนูออกประยุกต์ ใช้น้ำราดประยุกต์มาจากน้ำยำส้มตำ ที่ซึมแทรกกับหมูเนื้อนุ่มออกรสหวาน พล่าปลาทับทิม หลายคนติดใจเพราะปลาทับทิมตัวใหญ่ ทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำยำ ที่น้ำพริกเผา น้ำกระเทียมดอง น้ำมะนาว พริกขี้หนูแดง ตะไคร้ซอย หอมแดง ผักชีฝรั่งซอย เป็นส่วนผสมออกรสชาติเข้มข้นกลม กล่อมครบครันด้วยเครื่องสมุนไพร หากท้องไม่แน่นหรืออิ่มเกินไป ลองพุดดิ้ง เป็นของหวานปิดท้ายมื้อนี้สักถ้วยก็ดี รสชาติพุดดิ้งใช้ได้เลยหอม นุ่มไม่หวานเกินไป

ร้านผัดไทยเสวย เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 09.00 -21.30 น. ปิดบริการทุกวันจันทร์ สนใจสอบถามรายละเอียดและเส้นทางได้ที่ 0-2570-9229 08-9142-1689 และ 08-9116-2960 พิเศษสำหรับแฟนคอลัมน์เดลินิวส์ชวนชิม หากตัดคอลัมน์เดลินิวส์ชวนชิมไปที่นำเสนอเรื่องราวของร้านอาหารทุกร้านที่ตีพิมพ์ในคอลัมน์นี้ไปแสดง และ ทานอาหารครบ 1,000 บาท จะได้รับพุดดิ้งฟรี 1 ที่ สิทธินี้ คุณสมทรง ฮอพานิชวัฒน์ เจ้าของร้านบอกว่า ไม่จำกัดวันเวลา.

เรื่อง/ แม่พลอย : ภาพ /วรพรรณ เลอสิทธิศักดิ์




คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2013, 09:20:57 am »
วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว สูตรอาหารชาวเหนือ

-http://club.sanook.com/13530/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A7-








ขนมจีนเป็นอาหารจานโปรดของหลายคน การดัดแปลงขนมจีนแล้วแต่ภาคแตกต่างกันไป เช่น ขนมจีนน้ำยาปลาช่อนของภาคกลาง ขนมจีนน้ำยาป่าภาคอีสาน ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ของภาคใต้ ถ้าเป็นภาคเหนือก็จะปรุงเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยวก็จะต่างจากการทำน้ำยาของภาคอื่นๆ แทนที่จะใช้เนื้อปลา ก็จะใช้เป็นเนื้อสัตว์อื่นมาปรุงแทน เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ซี่โครงหมู เลือดหมู และรสชาติก็จะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของน้ำเงี้ยว
วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว

เครื่องปรุงขนมจีนน้ำเงี้ยว
1. ขนมจีน 30 จับ (1000 กรัม)
2. ซี่โครงหมูสับชิ้นเล็ก 500 กรัม
3. เลือดไก่หั่นชิ้น ขนาด 2×2 นิ้ว 500 กรัม
4. เนื้อหมูสับละเอียด 500 กรัม
5. มะเขือเทศลูกเล็ก (มะเขือส้ม) 500 กรัม
6. เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
8. ดอกงี้ว ใส่ตามชอบค่ะ
9. น้ำมัน ¼ ถ้วย (45 กรัม)

เครื่องแกงขนมจีนน้ำเงี้ยว
1. พริกแห้งแกะเม็ดแช่น้ำ 7 เม็ด (15 กรัม)
2. รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนชา (8 กรัม )
3. ข่าหั่นละเอียด 5 แว่น (40 กรัม)
4. ขมิ้นสดยาว 1 ซม.3 ชิ้น (15 กรัม)
5. ตะไคร้หั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
6. หอมแดง 7 หัว (70 กรัม)
7. เกลือป่น 1 ช้อนชา (8 กรัม)
8. กระเทียม 3 หัว (30 กรัม)
9. กะปิ (หรือถั่วเน่าย่างไฟ 1 แผ่น)
10. 1 ช้อนชา (8 กรัม)

วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว
1. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
2. แช่ดอกงิ้วให้นิ่ม
3. ตั้งหม้อใส่น้ำ + ซี่โครงหมู ต้มให้เดือด และนำดอกงิ้วที่แช่ไว้ มาต้มด้วย
4. ใส่น้ำมันในกะทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เครื่องแกง ลงผัดให้หอม ใส่เนื้อหมู ผัดให้ทั่ว ผัดพอสุกใส่มะเขือเทศ คลุกให้ทั่ว ตักใส่ในหม้อที่ต้มซี่โครงหมู ตั้งไฟให้เดือดแล้วใส่เลือดไก่
4. ตั้งไฟอ่อนพอให้น้ำเดือดปุดๆ เคี่ยวให้น้ำแกงหอม ซี่โครงหมูนุ่ม ปรุงรสด้วยเกลือ ชิมรส รับประทานกับขนมจีน หรือ เส้นใหญ่หั่นเล็กๆ ตามชอบ
ขนมจีนน้ำเงี้ยว

ขนมจีนน้ำเงี้ยว
สรรพคุณทางยาของขนมจีนน้ำเงี้ยว

1. มะเขือเทศ รสเปรี้ยว เป็นผักที่ใช้แต่งสีและกลิ่นอาหาร ช่วยระบายและบำรุงผิว
2. ผักกาดดอง รสเปรี้ยว ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะและลำไส้
3. หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไขหวัด
4. ผักชี ช่วยละลายเสมหะ แก้หัด ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เจริญอาหาร
5. มะนาว เปลือกผล รสขม ช่วยขับลม น้ำมะนาว รสเปรี้ยวจัดขับเสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน ฟอกโลหิต
6. กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด
7. พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อย
8. ข่า รสเผ็ดปร่า และร้อน ช่วยขับลม ขับพิษโลหิตร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้
9. ขมิ้นชัน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เจริญอาหาร และขับเหงื่อ
10. ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ
11. มะพร้าว (กะทิ) รสมัน บำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็น ใช้รักษาโรคกระดูก

ประโยชน์ทางอาหาร ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ให้ความอบอุ่นต่อร่างกาย
คุณค่าทางโภชนาการของขนมจีนน้ำเงี้ยว

ขนมจีนน้ำเงี้ยว 1 ชุด ให้พลังงานต่อร่างกาย 3303 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
- น้ำ 3893.7 กรัม
- โปรตีน 476.4 กรัม
- ไขมัน 69.3 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 176.7 กรัม
- กาก 41.3 กรัม
- ใยอาหาร 8.3 กรัม
- แคลเซียม 1097.2 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 1947.3 มิลลิกรัม
- เหล็ก 509.6 มิลลิกรัม
- เบต้า-แคโรทีน 1865 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 52038 IU
- วิตามินบีหนึ่ง 198.4 มิลลิกรัม
- วิตามินบีสอง 5.4 มิลลิกรัม
- ไนอาซิน 91.7 กรัม
- วิตามินซี 320.2 มิลลิกรัม

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2013, 10:55:49 am »
ก๋วยเตี๋ยวมหาภัย ตับไตพัง - สมองเสื่อม

-https://www.facebook.com/FoodleNoodle?hc_location=timeline-

ก๋วยเตี๋ยว ถือว่าเป็นอาหาร "คู่ปากคู่ท้อง"ของคนไทยไม่แพ้ข้าว จึงไม่แปลกที่จะมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวผุดขึ้นอยู่ทุกหัวระแหง ขนาดว่ากันว่า "ทุกซอย"ในประเทศไทยจะต้องมีร้านก๋วยเตี๋ยวอย่างน้อย 1 ร้าน

แต่ตอนนี้ "คอก๋วยเตี๋ยว"อาจจะต้อง "ชะงัก" นิดนึง เมื่อนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) ออกมาเปิดเผยข้อมูลอัน"น่าตกใจ"ว่า คคบ. ได้มอบหมายให้
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบและศึกษาอุปกรณ์การบริโภคที่ใช้วิธีเอาสาร"ตะกั่ว"มาบัดกรี แทนการใช้เชื่อมแบบ"อากอน"ที่ปลอดภัยกว่า เช่น หม้อต้มน้ำ และหม้อต้มกาแฟ เป็นต้น

ทั้งนี้เนื่องจากมีการพิสูจน์แล้วว่า อุปกรณ์ที่มีสารตะกั่วมาบัดกรีเมื่อถูกความร้อนอาจ "ปนเปื้อน"กับอาหารได้ และหากร่างกายได้รับสารตะกั่วเกินมาตรฐาน ก็จะเป็นอันตรายทั้งต่อระบบ "สมอง"และระบบ"ประสาท"รวมทั้งยังมรผลต่อสุขภาพในด้านอื่นๆด้วย

หากมีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าอุปกรณ์ร้านอาหารและเครื่องดื่มมีการใช้ตะกั่วในการบัดกรีจริง ก็จะเสนอให้ที่ประชุม คคบ.ประกาศบังคับ"ห้ามจำหน่ายแบบถาวร"ทันที อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม คคบ.ได้มีมติออกคำสั่งห้ามใช้ ห้ามจำหน่าย และซ่อมเครื่องทำน้ำเย็นและน้ำอุ่น ที่ใช้สารตะกั่วในการบัดกรีตัวถัง หรือท่อส่งน้ำในถังในเครื่องทำน้ำเย็นน้ำอุ่นแล้ว

นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า ในธรรมชาติมีสารตะกั่วปนเปื้อนในอาหารและเครื่องดื่ม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย อย.จึงกำหนดมาตรฐานที่ยินยอมให้ปนเปื้อนในอาหารไม่เกิน 1 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม น้ำดื่มไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร

"สารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ทั้งการบริโภค การหายใจเอาไอตะกั่ว และสัมผัสเข้าทางผิวหนัง หากได้รับตะกั่วอย่างต่อเนื่องและปริมาณมากๆจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างเฉียบพลันคือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง เมื่อพิษสะสมเรื้อรังทำให้ระบบประสาทส่วนปลายเสื่อม เป็นอัมพาต อ่อนเพลียคล้ายคนเป็นง่อย เซลล์สมองผิดปกติ เซื่องซึม ความจำเสื่อม สติปัญญาด้อย คิดช้า ซีด อ่อนเพลีย เพราะตะกั่วทำลายเม็ดเลือดแดง"เลขาธิการ อย.กล่าว

มหันตภัย"จากก๋วยเตี๋ยว ไม่ได้มีเฉพาะอันตรายที่มาจากอุปกรณ์ในการทำก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น แต่มาจาก "วัตถุดิบ" ในการทำก๋วยเตี๋ยวนั้นด้วย นั้นก็คือ "เส้นก๋วยเตี๋ยว"โดยก่อนหน้านี้ ภก.วรวิทย์ กิตติวงสุนทร ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุบลราชธานี ได้ออกมาเปิดเผยผลการวิจัยเรื่อง "ความปลอดภัยในเส้นก๋วยเตี๋ยว ในเขตภาคอีสาน"ว่า

ก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่เป็น "เส้นสด"ที่ค้างหลายวันไมได้ ผู้ประกอบการจึงเติม "สารกันบูด"หรือ"สารกันเสีย"เพื่อยืดอายุเส้นก๋วยเตี๋ยวและยืดระยะเวลาการจำหน่าย ซึ่งสารกันบูดที่นิยมใช้คือ "กรดเบนโซอิก" และ กรดซอร์บิก ถ้าร่างกายได้รับปริมาณสูงเป็นเวลานาน จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของ "ตับ"และ"ไต"ลดลง

ดังนั้น คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานอาหารสากล (Codex) จึงได้กำหนดให้ใช้กรดเบนโซอิกในเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ไม่เกิน 1000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ผลจากการตรวจวิเคราะห์ "ตัวอย่าง เส้นก๋วยเตี๋ยวใน 4 จังหวัดภาคอีสานคือ จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และศรีสะเกษ ผลปรากฏว่า ก๋วยเตี๋ยว"เส้นเล็ก"พบปริมาณกรดเบนโซอิกสูงสุด 17,250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม รองลงมาเป็นก๋วยเตี๋ยว "เส้นหมี่"7,825 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม " ก๋วยจั๊บ เส้นใหญ่ "7,358 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม "กวยจั๊บเส้นเล็ก"6,305 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม "บะหมี่โซบะ"4,593 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และ"ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่"4,230 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ภก.วรวิทย์ กล่าวว่า จากผลวิจัยดังกล่าวทำให้ความเชื่อเดิมที่คิดว่า "เส้นหมี่"ซึ่งมีลักษณะแห้งจะมีวัตถุกันเสียน้อย แต่จะพบมากใน "เส้นใหญ่"ที่มีความชื้นสูงนั้น แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า กลับมีการใส่ตุกันเสียเยอะมากเป็นอันดับ 2 รองจากเส้นเล็ก ส่วนเส้นที่มาพบสารเลยคือ เส้น "บะหมี่เหลือง"เพราะผลิตจากแป้งสาลี ส่วนเส้นอื่นๆจะผลิตจากแป้งข้าวเจ้าที่มีความชื้นสูง ทำให้ราขึ้นง่าย จึงมีการใส่วัตถุกันเสีย ขณะที่วุ้นเส้นไม่มีปัญหาเช่นกัน

"การวิจัยนี้ไม่ได้ตั้งใจทำให้คนแตกตื่น หรือทำลายอุตสาหกรรมก๋วยเตี๋ยว แต่เป็นการวิจัยเพื่อเตรียมแก้ไขปัญหา และสร้างความปลอดภัยในอาหาร เพราะเมื่อคิดค่าเฉลี่ยน้ำหนักผู้บริโภคคนไทย คือ 50 กิโลกรัม ดังนั้นปริมาณสูงสุดที่ควรบริโภคคือไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งการกินก๋วยเตี๋ยว 1 มื้อ จะมีเส้นประมาณ 50-100 กรัม เท่ากับว่าผู้บริโภคจะได้รับกรดเบนโซอิกประมาณ 226-451 มิลลิกรัม ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว และเมื่อรวมกับปริมาณวัตถุกันเสียในอาหารอื่นๆ ที่กินในแต่ละวัน เท่ากับว่าผู้บริโภคจะได้รับสารนี้จำนวนมาก แม้การตรวจวิเคราะห์ในครั้งนี้จะทำเฉพาะในเขตภาคอีสาน แต่คาดว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศจะมีปัญหาไม่แตกต่างกัน" ภก.วรวิทย์ ระบุ

เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลอันน่าตกใจดังกล่าวของเส้นก๋วยเตี๋ยว ก็จะทำให้ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับอาหารและยาถึงกับ "เต้น"ได้สั่งการให้นายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เร่งเก็บตัวอย่างเส้นก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศตรวจหาสารกันบูด

นอกจากนี้มีแนวโน้มที่จะกำหนดให้ " โรงงาน " ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวต้องพัฒนาให้ได้มาตรฐานเกณฑ์การผลิตที่ดี (จีเอ็มพี) คำนึงถึงความสะอาดปลอดภัยของกระบวนการการผลิต ขณะเดียวกัน อย.มีโครงการ "เฝ้าระวัง"การใช้สารกันบูดในอาหารตั้งแต่กลางปี 2548 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

นพ.นิพนธ์ กล่าวอีกว่า สารกันบูดที่ใส่ในเส้นก๋วยเตี๋ยวนั้น ไม่สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า อีกทั้งรสชาติของเส้นที่มีสารกันบูดไม่มีความแตกต่างกับเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ไม่มีสารกันบูด และการลวกเส้นด้วยน้ำร้อนก็ไม่สามารถทำลายสารกันบูดได้ เพราะผสมเป็นเนื้อเดียวกันกับเส้นก๋วยเตี๋ยวไปแล้ว ซึ่งอย.จะเร่งศึกษาข้อมูลเพื่อหาทางคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค

ทั้งนี้ มีข้อแนะนำในการสังเกตว่า ก๋วยเตี๋ยวที่เรากินนั้นใส่สารกันบูดหรือไม่ มีวิธีสังเกตหลายวิธี คือ อย่างแรกถ้าใส่สารเคมี เส้นก๋วยเตี๋ยวจะ"เหนียวหนึบ"กัดไม่ค่อยจะขาดจากกัน หรือถ้าพูดง่ายๆจะมีความเหนียวผิดปกติ อีกทั้งเส้นที่ใส่สารกันบูดเมื่อนำไปลวกในหม้อก๋วยเตี๋ยว สังเกตว่าน้ำที่ลวกจะ "ขุ่น"

นอกจากนี้ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่หรือเส้นสดที่ใส่สารกันบูดทิ้งไว้ 2- 3 วัน จะมีสีสันคงเดิมไม่มี รา ขึ้น แต่เมื่อมาดมดูจะมีกลิ่น เหม็นเปรี้ยว ผิดกับเส้นสดที่ไม่ใช้สารกันบูดเพียงคืนเดียวเส้นก็ขึ้นราและบูดแล้ว

อย่างไรก็ตาม บรรดา สาวกก๋วยเตี๋ยว ก็ไม่ถึงกับต้องหวาดวิตกเกินไป จนถึงกับปฏิเสธ การกินก๋วยเตี๋ยวไปเลย เพียงแต่ก่อนจะคีบเข้าปาก ลองสังเกตสักนิดว่า เส้นก๋วยเตี๋ยว และ อุปกรณ์ การทำก๋วยเตี๋ยวของร้าน มีความผิดปกติ อันจะก่อให้เกิดอันตราย ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นหรือไม่

อีกทั้งถ้าจะว่าไปแล้ว ร่างกายของคนเรามีกระบวนการขับสารที่เป็นพิษออกไปได้หมดภายใน 1 วันอยู่แล้ว ขณะที่ "ผู้ประกอบการ"ที่เกี่ยวกับ ก๋วยเตี๋ยวเอง ก็ควรมี "จิตสำนึก"ต่อความปลอดภัยของ "ผู้บริโภค" ด้วย เพื่อเส้นก๋วยเตี๋ยวจะได้เป็นอาหารยอดนิยมคู่กับ "สังคมไทย"ไปตลอดกาล


ขอขอบคุณที่มา :
สกู๊ปหน้า 1 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 8/10/2550
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

---------------------------------------------------------------------------------------------------


ผลการวิจัย : อันตรายสารพัดโรค จากเส้นก๋วยเตี๋ยว

-https://www.facebook.com/FoodleNoodle?hc_location=timeline-

ก๋วยเตี๋ยวถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมของผู้บริโภค ทั้งคนทำงาน เด็ก นักเรียน นักศึกษา เนื่องจากสะดวก หาซื้อทานง่ายและมีราคาไม่แพงแต่กลับกลายเป็นอาหารอันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพคนไทยได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อเร็วๆนี้ มีผลการสำรวจวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยมีนายโสภาค สอนไว และนายบัณฑิต อินณวงศ์ ตัวแทนจากทีมวิจัย ได้ออกมาแถลงถึงมหันตภัยที่แฝงมากับเส้นก๋วยเตี๋ยวว่า

จากการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเส้นก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ปี 2549-2551 โดยสำรวจกรรมวิธีการผลิตของโรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว จำนวน 10 แห่งทั่วประเทศ พบว่า เส้นก๋วยเตี๋ยวที่นำมาประกอบอาหารนั้นมีอันตรายต่อสุขภาพ

โดยเฉพาะเส้นใหญ่จะมีปริมาณน้ำมันที่มาจากการใช้ซ้ำมากที่สุด ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าจะใช้น้ำมันที่มาจากการใช้ซ้ำและการผสมน้ำมันจากหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น น้ำมันปาล์ม น้ำมันจากถั่วลิสง

แต่การใช้น้ำมันเหล่านี้เป็นจำนวนมาก จะทำให้มีการสะสมของสารประกอบมีขั้วหรือสารประกอบโพลาร์ จะส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากนี้น้ำมันที่ทำมาทาเส้นก๋วยเตี๋ยวเพื่อไม่ให้เกาะติดและขยี้แตกเป็นเส้นง่ายง่าย อาจปนเปื้อนของสารอะฟลาท็อกซิน ทำให้เกิดโรคตับอักเสบ มะเร็งตับ รวมไปถึงโรคราย ซินโดรม (REYE's Syndrome) ในเด็กก่อนวัยเรียน โดยจะมีอาการไข้ ปวดท้อง อาเจียน ซัก สมองบวมและเสียชีวิตภายใน 24-72 ชม.

นอกจากนี้เส้นก๋วยเตี๋ยวยังมีการใช้สารวัตถุกันเสียเป็นจำนวนมาก เพื่อยับยั้งเชื้อราและจุลินทรีย์อื่นๆ รวมทั้งการปนเปื้อนของสารส้มในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อระบบประสาท การอักเสบของไตและกรวยไต จนมีผลต่อระบบกระดูกได้อีกด้วย

เห็นทีผู้บริโภคอย่างเรา คงจะบริโภคอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลกันหน่อย เพื่อไม่ให้ผู้ผลิตเอาเปรียบเราโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภคอีกต่อไป
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2013, 05:19:55 pm »
ก๋วยเตี๋ยวหมูสับต้มยำ เมนูเส้นหอม ๆ ชวนน้ำลายสอ

-http://cooking.kapook.com/view76801.html-





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           เมนูก๋วยเตี๋ยวยอดฮิตก็คงต้องยกให้ก๋วยเตี๋ยวหมูสับต้มยำนี่แหละเป็นพระเอก เพราะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน เปรี้ยวเค็มหวานครบรสความอร่อย แต่ถ้าใครว่าง ๆ แล้วอยากลองทำเองดูล่ะก็เราก็มีสูตรก๋วยเตี๋ยวหมูสับต้มยำ มาฝาก เผื่อมีงานเลี้ยงก็สามารถนำไปทำได้


สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับน้ำซุป)

          กระดูกหมู 500 กรัม

          หัวไชเท้าหั่นเป็นชิ้นหนา 1 หัว

          น้ำ

          รากผักชีทุบ 2 ต้น

          น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต๊ะ

          เกลือป่น สำหรับปรุงรส


วิธีทำ

          1. ใส่กระดูกหมู และหัวไชเท้าลงในหม้อ เติมน้ำลงไปจนท่วม ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มจนเดือด (หมั่นช้อนฟองอากาศออก) และน้ำซุปเริ่มใส ใส่รากผักชี น้ำตาลกรวด และเกลือป่น คนผสมให้เข้ากัน ลดไฟอ่อนลงต้มจนเดือด นานประมาณ 1 ชั่วโมง เตรียมไว้






  สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับก๋วยเตี๋ยว)

          เต้าหู้ขาวแบบแข็งหั่น 4 ส่วน 1 ก้อน

          น้ำมันพืชสำหรับทอดเต้าหู้

          หมูสับ 300 กรัม

          ตับหมู 200 กรัม

          ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก (หรือเส้นตามชอบ) 1 ห่อ

          ถั่วงอกเด็ดหาง

          น้ำมันกระเทียมเจียว

          กระเทียมเจียว

          ตั้งฉ่าย

          ถั่วลิสงคั่วบด

          ต้นหอมซอย

          ผักชีซอย

          น้ำมะนาว

          พริกไทย สำหรับโรยหน้า

          พริกป่น


  วิธีทำ

          1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใส่เต้าหู้ลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ เตรียมไว้

          2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือด ใส่หมูสับ และตับหมูลงลวกจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้

          3. ลวกเส้น และถั่วงอกในน้ำเดือดจนสุก นำใส่ชาม ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวลงเคล้าให้ทั่วเส้น จากนั้นใส่เต้าหู้ทอด และตับหมูที่เตรียมไว้ ตามด้วยกระเทียมเจียว ตั้งฉ่าย และถั่วลิสงคั่วบด

          4. ใส่หมูสับ น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกป่นลงในอ่างผสม ตามด้วยน้ำซุปกระดูกหมู คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ลงในชามเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย และผักชีซอย พร้อมรับประทาน

          เพียงเท่านี้ก็ได้ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหอม ๆ รสเด็ด ๆ ไว้รับประทานให้อิ่มท้องแล้ว


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2013, 07:30:41 pm »
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อป้าพิศ เมนูเด็ดหน้าวัด “บางยี่ขัน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    13 ธันวาคม 2556 17:08 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000151473-



ก๋วยเตี๋ยวเนื้อป้าพิศ เมนูเด็ดหน้าวัดบางยี่ขัน
       “บางยี่ขัน” เป็นชื่อของย่านหนึ่งในเขตบางพลัด ที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ต่างไปจากย่านอื่นๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งบางยี่ขัน ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่มีสถานที่สำคัญทางศาสนา เช่น วัดบางยี่ขัน วัดน้อยนางหงษ์ เป็นต้น


ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกบริเวณใต้สะพานพระรามแปด

       ซึ่งวัดที่เป็นจุดเด่นของบางยี่ขันก็คือ “วัดบางยี่ขัน” เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ไม่เพียงแต่วัดวาอารามเท่านั้นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ในบริเวณย่านแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของสะพานพระรามแปด และสวนหลวง ร.8 อีกด้วย(คลิกอ่านเรื่องเที่ยวย่านบางยี่ขัน)


ร้านค้าบริเวณลานใต้สะพานพระรามแปด

       และเมื่อเอ่ยถึงเรื่องเที่ยวแล้ว ก็คงจะดูแปลกๆ ถ้าไม่พูดถึงเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากบางยี่ขันเป็นย่านเล็กๆ ที่ผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ และสำหรับร้านอาหารนั้นก็อาจจะหายากสักหน่อย แต่เมื่อไปถึงที่แล้วเราก็ไม่ละความพยายามที่จะสรรหาของกินอร่อยๆ มาฝากกัน ส่วนจะมีที่ไหน อย่างไร บ้างนั้น ตามไปอ่านกันเลย


ร้านส้มตำ-อาหารตามสั่ง เยื้องทางเข้าสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา

       เริ่มต้นกันที่ใต้สะพานพระรามแปด บริเวณริมฟุตปาธจะมีร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ตั้งอยู่หนึ่งร้าน ที่ร้านนี้จะขายเมนูก๋วยเตี๋ยวน้ำตก - น้ำใส มีให้เลือกสั่งทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมู ทั้งแบบสด แบบเปื่อย โดยเราเลือกสั่ง “เส้นเล็กหมูน้ำตก” มาลองชิม ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำตก รสชาติอร่อยกลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อหมู ตับหมู และลูกชิ้นหมูลวก กินคู่กับผักสดอย่างถั่วงอกสด และใบโหระพา สนนราคาชามละ 25 บาท (พิเศษ 30)


คอหมูย่างร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟ

       จากนั้นเดินมาต่อยังบริเวณหน้าทางเข้าสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา เยื้องๆ ทางเข้าจะมีร้านขายส้มตำตั้งอยู่ โดยร้านนี้จะเป็นร้านส้มตำเล็กๆ ในตอนกลางวันจะมีพนักงานมูลนิธิฯ มานั่งกินกันหลายโต๊ะ ที่นี่จะขายเมนูอาหารหลากหลายชนิด ทั้งอาหารไทยตามสั่ง และอาหารอีสาน ได้แก่ ส้มตำ น้ำตก คอหมูย่าง ไก่ทอด ปลาดุกย่าง ฯลฯ สนนราคา 30 – 50 บาท


ส้มตำ อาหารอีสานรสแซบ

       เมื่ออิ่มท้องกันไปแล้ว ต้องล้างปากกันด้วยผลไม้ ที่บริเวณทางเข้าของสวนหลวงร.8 จะมีร้านขายผลไม้ตั้งอยู่หน้าทางเข้าสวนฯ ร้านนี้เป็นร้านรถเข็นขายผลไม้หลากหลายชนิด ทั้งแตงโม สับปะรด มะม่วง ฝรั่ง มะละกอ แคนตาลูป รวมไปถึงของดองมากมาย ได้กินแตงโมเย็นๆ ล้างปาก สดชื่น คลายร้อนได้ดี


ร้านผลไม้หน้าทางเข้าสวนหลวง ร.8

       จากนั้นไปต่อยังวัดบางยี่ขัน บริเวณหน้าพระอุโบสถจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตั้งขายอยู่ โดยมีชื่อร้านว่า “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อป้าพิศ” ที่นี่จะขายเฉพาะเมนูก๋วยเตี๋ยวเนื้อ มีให้เลือกทั้งเนื้อสด เนื้อเปื่อย ตับ หัวใจ และลูกชิ้นเนื้อ โดยเราเลือกสั่ง “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดเส้นหมี่” ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้อนๆ เสิร์ฟมาพร้อมเนื้อสดลวก และลูกชิ้นเนื้อ น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวรสชาติกลมกล่อม เข้ากันดีกับเนื้อสดและลูกชิ้นเนื้อ สนนราคาชามละ 30 - 40 บาท เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 15.00 น. โทร.08-9688-0111


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อป้าพิศ

       ปิดท้ายกันด้วยกล้วยทอดหอมอร่อยข้างร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อป้าพิศ ร้านเล็กๆ ริมถนนหน้าวัด ขายกล้วยทอด เผือกทอดร้อนๆ หอมอร่อย สนนราคา 6 ชิ้น 10 บาท นอกจากนี้แล้วบริเวณหน้าวัดบางยี่ขันยังมีร้านอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ทั้ง ข้าวราดแกง ข้าวหมูแดง ส้มตำ-ไก่ย่าง ฯลฯ


กล้วยทอดร้อนๆ หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อป้าพิศ

       และย่าน “บางยี่ขัน” ก็เป็นอีกย่านหนึ่งที่มีกิจกรรมให้ทำกันหลากหลาย ทั้งไหว้พระวัดบางยี่ขัน ชมวิวสะพานพระรามแปด เดินเล่นชมดอกไม้สวนหลวงร.8 หรือนั่งชมวิวริมน้ำเจ้าพระยายามเย็น ก็มีให้เลือกมากมาย หากสุดสัปดาห์นี้ใครไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวไหน บางยี่ขัน ก็เป็นอีกย่านหนึ่ง ที่น่าสนใจไม่น้อย!




http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000151473


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2013, 08:09:30 pm »
อาหารกึ่งสำเร็จรูป เลือกซื้ออย่างไรให้ปลอดภัย

-http://health.kapook.com/view63591.html-





เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม

          อาหารกึ่งสำเร็จรูปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เส้นหมี่ วุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว มะกะโรนี กุนเชียง แหนม ฯลฯ ล้วนเป็นอาหารที่หาซื้อมาปรุงทานที่บ้านได้ง่าย ๆ แถมอาหารเหล่านี้ยังถูกปรุงแต่งให้มีรสชาติอร่อยไม่เบา จนหลายคนติดใจชอบซื้ออาหารเหล่านี้ตุนเป็นเสบียงอาหารแห้งติดบ้านไว้

          อ๊ะ...แต่ก่อนจะซื้ออาหารเหล่านี้ เพื่อน ๆ ก็ควรรู้วิธีการเลือกซื้อที่ถูกต้องด้วย เพื่อจะได้อาหารที่มีคุณภาพดี ไม่ใช่ของเก่า หรือมีเชื้อโรคเป็นของแถม อย่างคำแนะนำจาก กองส่งเสริมและพัฒนาด้านการมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ขอหยิบมาฝากเพื่อน ๆ กัน




เส้นหมี่

          เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวเจ้าหรือแป้งข้าวเจ้าเพียงอย่างเดียว หรือมีแป้งชนิดอื่นผสมอยู่ด้วยที่บางส่วนมีลักษณะเป็นเส้นกลมขนาดต่าง ๆ ที่ทำให้สุกและแห้งแล้ว
 
ลักษณะเส้นหมี่ที่ดี

          มีสีขาวนวล สม่ำเสมอ

          มีกลิ่นรสตามธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นอับหรือรสเปรี้ยว หรือกลิ่นรสไม่พึงประสงค์อื่น

          เส้นต้องนิ่มและเหนียว และไม่เกาะติดกันมาก

          ภาชนะบรรจุสะอาด แห้ง สามารถป้องกันการปนเปื้อนได้



บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

          เป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่เหมาะสำหรับวันที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปัจจุบันมีวางขายกันทั่วไป และได้รับความนิยมเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ และสามารถเตรียมเสร็จและรับประทานได้ภายใน 3 นาที ประกอบด้วยเส้นบะหมี่ซึ่งทำจากแป้งสาลี หรือแป้งสาลีผสมแป้งชนิดอื่น และเครื่องปรุงในอัตราส่วนที่เหมาะสม เช่น ซุปแห้ง หรือโปรตีนเข้มข้น เกลือ พริกไทย พริกป่น รวมบรรจุอยู่ในภาชนะถุงเดียวกัน

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

          ประเภทที่ 1 ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งเส้นบะหมี่ถูกทำให้แห้ง โดยการทอดในน้ำมัน

          ประเภทที่ 2 ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งเส้นบะหมี่ถูกทำให้แห้ง โดยวิธีอื่น ๆ

ลักษณะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ดี

          ต้องมีสีสม่ำเสมอ ไม่มีกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นหืน และเมื่อต้มตามเวลาที่กำหนดแล้วเส้นต้องสุก และอ่อนนุ่ม เหมาะที่จะรับประทาน
 
ข้อแนะนำ

          ในการรับประทานควรจะเติมเนื้อสัตว์ และผักสดบางชนิดลงไปด้วย เพราะนอกจากจะเพิ่มรสชาติแล้วยังช่วยเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ร่างกายด้วย



วุ้นเส้น

          เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วนางแดง ถั่วพุ่ม และถั่วดำ เป็นต้น โดยอาจทำจากแป้งถั่วล้วน ๆ หรือทำจากแป้งถั่วผสมกับแป้งบริโภคชนิดอื่น เช่น แป้งมันสำปะหลัง แล้วนำมาทำเป็นเส้นต้มให้สุก แล้วทำให้แห้ง
 
ลักษณะวุ้นเส้นที่ดี

          ลักษณะก่อนต้มเป็นเส้นเล็ก ๆ ที่มีขนาดเส้นสม่ำเสมอตลอด เส้นใส มีสีออกขาวเล็กน้อย ไม่มีกลิ่นอับ ไม่มีรา หรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ

          เมื่อต้มแล้วเส้นต้องเหนียว มีความยืดหยุ่น ไม่เกาะติดกันใสเป็นเงาสม่ำเสมอ และมีกลิ่นรสตามธรรมชาติของวุ้นเส้นตามกรรมวิธีการผลิต



กุนเชียง

          เป็นไส้กรอกชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่ทำจากเนื้อหมูหรือเนื้อไก่และมัน (โดยไขมันต้องไม่เกินร้อยละ 30 ของน้ำหนัก) นำมาบดหยาบแล้วผสมเครื่องปรุง บรรจุไส้ โดยจะหมักก่อนบรรจุไส้หรือไม่ก็ได้ แล้วทำให้แห้งกุนเชียงเป็นอาหารที่เตรียมเสร็จโดยทำให้สุกแล้วรับประทานได้ทันที หรือจะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำอาหารชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวหมูแดง, ข้าวคลุกกะปิ เป็นต้น
 
ลักษณะกุนเชียงที่ดี

          มีสีค่อนข้างแดงตามธรรมชาติของกุนเชียง ซึ่งเกิดจากกรรมวิธีการหมักมิใช่เกิดจากการเติมแต่งสีดูสดใหม่สม่ำเสมอ

          ลักษณะเนื้อต้องแน่นคงรูป เนื้อและมันผสมกันอย่างทั่วถึง ไม่มีโพรงอากาศและสิ่งแปลกปลอม

          มีกลิ่นหอม ชวนรับประทาน

          บรรจุในภาชนะที่สะอาด สามารถป้องกันการปนเปื้อน



แหนม

           ปัจจุบันมีการผลิตแหนมออกมาจำหน่ายและนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหมู ผสมหนังหมู และอาจจะมีหูหมู จมูกหมู และเครื่องปรุงห่อเป็นมัดหรือลักษณะอื่น ๆ หมักจนได้รสเปรี้ยว แล้วอาจนำมาฉายรังสีด้วยก็ได้

           แหนมเป็นอาหารที่ปรุงเสร็จ โดยทำให้สุกแล้วรับประทานได้ทันที หรือนำมาประกอบอาหารได้หลายประเภท
 
ลักษณะแหนมที่ดี

          มีเนื้อแน่น คงรูป เนื้อหมูและส่วนประกอบต่าง ๆ ต้องผสมอยู่อย่างทั่วถึง

          มีสีชมพูตามธรรมชาติของแหนมที่พร้อมบริโภค

          มีกลิ่นและรสดี ปราศจากกลิ่นแปลกปลอม

          วัสดุที่ใช้ห่อหุ้มต้องสะอาด ห่อหุ้มได้เรียบร้อย



อาหารกึ่งสำเร็จรูปประเภทอื่น ๆ

           อาหารกึ่งสำเร็จรูป คือ อาหารที่สามารถเตรียมเสร็จ และสามารถรับประทานได้ทันทีหลังจากผ่านวิธีการทำให้สุกในเวลาสั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแป้งชนิดต่าง ๆ และเครื่องปรุงอื่นในอัตราส่วนที่เหมาะสม เช่น ซุปแห้ง หรือโปรตีนเข้มข้น น้ำมันบริโภค เกลือ พริกไทย พริกป่น รวมบรรจุอยู่ในภาชนะถุงเดียวกัน ปัจจุบันมีผู้ผลิตออกมามากมายหลายชนิด ได้แก่

ก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูป

           เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งประกอบด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากข้าวเจ้าที่นำมาโม่ หรือแป้งข้าวเจ้าเพียงอย่างเดียว นำมาทำให้เป็นแผ่นบาง นึ่งให้สุก ตัดเป็นเส้นแล้วทำให้แห้ง และมีซองเครื่องปรุงในอัตราส่วนที่เหมาะสมรวมบรรจุในภาชนะบรรจุเดียวกัน รับประทานได้หลังจากผ่านวิธีการอย่างง่าย ๆ โดยใช้เวลาสั้น

กวยจั๊บกึ่งสำเร็จรูป

           เป็นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยแผ่นกวยจั๊บที่ทำจากข้าวเจ้า หรือแป้งข้าวเจ้าซึ่งทำให้เป็นแผ่นบาง นึ่งให้สุก นำมาตัดเป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วทำให้แห้ง และมีซองเครื่องปรุงในอัตราส่วนที่เหมาะสม รวมบรรจุในภาชนะบรรจุเดียวกัน รับประทานได้หลังจากผ่านวิธีการอย่างง่าย ๆ โดยใช้เวลาสั้น

มะกะโรนีกึ่งสำเร็จรูป

           เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งประกอบด้วยมะกะโรนีที่ทำจากแป้งสาลีหยาบ ซึ่งได้จากข้าวสาลีชนิดดูรัม และ/หรือชนิดคอมมอน อาจผสมส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ไข่ แป้งถั่วเหลือง แป้งข้าวโพดหยาบ กลูเทน ผสมกับน้ำนวด นำมาผ่านเครื่องอัดทำให้เป็นรูปร่างที่ต้องการแล้วนำไปอบแห้ง และมีซองเครื่องปรุงในอัตราส่วนที่เหมาะสมรวมบรรจุในภาชนะเดียวกัน รับประทานได้หลังจากผ่านวิธีการทำให้สุกในเวลาสั้น ๆ

ลักษณะของอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่ดี

           ต้องมีสีสม่ำเสมอ มีกลิ่นรสตามธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นหืน เมื่อต้มแล้วต้องสุกตามเวลาที่กำหนด

ข้อแนะนำ

           ในการรับประทาน ควรเติมเนื้อสัตว์ต่าง ๆ และผักสดบางชนิดลงไปด้วย เพราะนอกจากจะเพิ่มรสชาติให้น่ารับประทานแล้ว ยังช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่มีคุณค่าครบตามโภชนาการให้แก่ร่างกายอีกด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เอกสารคู่มือผู้บริโภค กองส่งเสริมและพัฒนาด้านการมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)