อิ่มกาย อิ่มใจ > ร้านดีร้านเด่น

รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา

<< < (14/23) > >>

sithiphong:
บะหมี่น้ำตกซุปเข้ม ร้าน"หัวเรือ"เมืองนนท์

-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UY3pPVFE0T0E9PQ==&sectionid=-



คอลัมน์ อิ่มอร่อย





ถ้า ชอบก๋วยเตี๋ยวเรือ โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวน้ำตกน้ำซุปแบบเข้มข้น แนะนำให้ แวะชิมร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ "หัวเรือ" เมืองนนท์ ตั้งอยู่ที่ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี

ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ชามเล็ก น้ำซุปหอม รสเข้มข้น ใส่เครื่องเทศเต็มสูตร เคี้ยวน้ำซุปนานก่อนใส่ชาม จึงทำให้รสชาติถูกปาก

จัน ญา เกิดนาค หรือ ป้ายา เจ้าของร้านยืนลวกเส้นและใส่เครื่องปรุงอยู่หน้าร้านทุกวัน เล่าว่า ขายก๋วยเตี๋ยวเรือมากว่า 20 ปี สูตรก๋วยเตี๋ยวเป็นสูตรของทางร้าน เพราะตนชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ชื่อ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิต ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา และก๋วยเตี๋ยวเรือ อนุสาวรีย์ชัยฯ แล้วกลับมาปรับสูตร น้ำก๋วยเตี๋ยวจนรสชาติเข้มข้นลงตัว

ลูกค้าที่มากินที่ร้านต่างเรียกกันว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือนนทบุรี"

สำหรับเอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวเรือคือต้องชามเล็ก เครื่องเคียงครบเข้มข้นและราคาถูก มีหลากหลายเมนูให้ได้กินกัน

เส้น เล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ และบะหมี่น้ำตกเนื้อ/หมูสด เปื่อย ลูกชิ้น เมนูยอดนิยมที่ลูกค้ามาสั่งทุกโต๊ะ ด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่เหนียวนุ่ม ใช้ผักบุ้งลวกเป็นผักแกล้ม ใส่เนื้อหมูมีทั้งเนื้อหมูสด และเนื้อหมูเปื่อย ลูกชิ้นหมู กินคู่กับแคบหมู เข้ากันอย่างลงตัว

เกาเหลาหมู น้ำตก-ข้าวเปล่า อีกเมนูที่เหมาะสำหรับคน ไม่ชอบกินเส้น น้ำซุปเข้มข้น ทางร้านใช้กระเทียมเจียวกากหมู คลุกเคล้าให้ทั่ว ชิมก่อนแล้วถึงค่อยปรุงรส ทางร้านมีสูตรน้ำส้มรสเด็ด ที่ใช้เมล็ดพริกไทยสดคั่ว นำมาบดแล้วหมัก เป็นการเพิ่มรสชาติก๋วยเตี๋ยวให้จัดจ้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งน้ำส้มพริกไทยสดคั่ว มี 3 รส ทั้งเปรี้ยว หวาน เผ็ด มัน ลูกค้ามักใช้แทนเป็นเครื่องปรุงรส

เส้นหมี่ หรือเส้นอื่นๆ แห้ง เมนูนี้เข้มข้นด้วยความมันของถั่วลิสงคั่วตำ ซึ่งทางร้านคั่วเองใหม่วันต่อวัน ใส่ซีอิ๊วหวานก่อนกินคลุกเคล้าให้ทั่ว ใส่น้ำส้มพริกไทยสด ลงไปเล็กน้อย กินคู่กับแคบหมู เพิ่มความอร่อยให้กับก๋วยเตี๋ยวแห้งอย่างที่ต้องสั่งต่ออีก 1 ชาม

หาก ต้องการกินเครื่องเคียงให้จุใจ ทางร้านยังมีลูกชิ้นหมูอย่างเดียว เกี๊ยวทอด กระเทียมเจียวกากหมู หรือหากใครชอบกินผัก สั่งผักบุ้งลวกเพิ่มได้

ป้า ยาบอกเคล็ดลับความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน คือ วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงรสหรือเครื่องเคียงต่างๆ ต้องสดใหม่ทุกวัน สำหรับเครื่องปรุง อาทิ ถั่วลิสงคั่ว พริกป่นคั่ว กระเทียมเจียว หรือเกี๊ยวทอด

สำหรับราคาหากเป็นชามเล็กธรรมดา 13 บาท พิเศษ 23 บาท และใส่ถุงกลับบ้านราคา 30 บาท ส่วนเครื่องเคียงที่สั่งมากินเพิ่มเติม ชามละ 13 บาท ทั้งหมด ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-15.30 น. สอบถามได้ที่โทร. 0-80453-7252

sithiphong:
 “ขนมจีนซาวนํ้า”

-http://www.dailynews.co.th/Content/Article/216260/_%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3_+%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99-




คลิปขนมจีนซาวน้ำ ช่องทางทำกิน อาทิตย์160257
-http://www.youtube.com/watch?v=SiWcUtLw3Qg-




หน้าร้อนใกล้เข้ามา หนึ่งในเมนูอาหารที่ทำให้นึกถึงห้วงเวลาของการพักผ่อนคลายร้อน ที่มักนิยมรับประทานมากเป็นพิเศษในช่วงอากาศร้อน ๆ ก็รวมถึงอาหารคาวของไทย


หน้าร้อนใกล้เข้ามา หนึ่งในเมนูอาหารที่ทำให้นึกถึงห้วงเวลาของการพักผ่อนคลายร้อน ที่มักนิยมรับประทานมากเป็นพิเศษในช่วงอากาศร้อน ๆ ก็รวมถึงอาหารคาวของไทยที่มีชื่อละม้ายคล้ายอาหารจีน คือ “ขนมจีนซาวนํ้า” อีกหนึ่งเมนูที่มีความโดดเด่น อุดมด้วยสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งวันนี้ทางทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการทำเมนูดับร้อนผ่อนกระหาย ทานแล้วชื่นอกชื่นใจไปกับรสชาติความอร่อยจากตำรับโบราณแท้ ๆ เมนูนี้ มานำเสนอให้ได้พิจารณากัน...

ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จะถ่ายทอดสูตร “ขนมจีนซาวนํ้า” ให้แบบไม่มีการหมกเม็ด โดย ผศ.พงษ์ศักดิ์ บอกว่า ขนมจีนซาวนํ้า เป็นเมนูอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการ ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาไทย ขนมจีนแป้งหมัก กับนํ้ากะทิที่มีความมัน แต่สามารถหักล้างกันด้วยสมุนไพรต่าง ๆ อาทิ ขิง ช่วยในเรื่องขับไล่ลม รักษาโรคท้องอืดท้องเฟ้อ กระเทียม มีสารต่อต้านมะเร็ง ลดไขมันในเลือด ส่วน พริกขี้หนู ก็ช่วยแก้ลมจุกเสียด ช่วยเจริญอาหาร สับปะรด ช่วยเรื่องการย่อย ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง นอกจากนี้ก็จะได้โปรตีน แคลเซียม จากเนื้อปลา กุ้งแห้ง และได้กรดไขมันดีจากกะทิ ได้คาร์โบไฮเดรตจากเส้นขนมจีน และถ้าเพิ่มสมุนไพรในเส้นขนมจีนก็จะได้สารอาหารเพิ่มอีก

อร่อยได้ประโยชน์ ก็เป็นจุดขายที่ดี

ขนมจีนซาวนํ้า เป็นอาหารคาวอีกหนึ่งชนิดที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ โดยเสน่ห์ของอาหารสูตรโบราณคือการใส่ส่วนผสมที่ครบถ้วน สามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยได้ โดยจุดสำคัญคือทำอย่างไรให้กรรมวิธีการปรุงไม่ทิ้งกลิ่นอายแบบโบราณไป

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ หลัก ๆ ก็เป็นเครื่องครัวทั่วไปที่ใช้กันในครัวเรือน

วัตถุดิบ-ส่วนผสมในการทำ “ขนมจีนซาวนํ้า” แบ่งเป็น 2 ส่วนที่ต้อง เตรียมคือ ในส่วนของ เครื่องซาวนํ้า เช่น สับปะรดสด กุ้งแห้ง ขิง กระเทียม พริกขี้หนู และอีกส่วนก็คือส่วนของ เครื่องแจงลอน มี เนื้อปลากราย นํ้ากะทิ เกลือ นอกนั้นก็เป็นเครื่องปรุงรส เช่น นํ้าปลา นํ้าตาล เกลือ

เริ่มการเตรียมในส่วนเครื่องซาวนํ้าก่อน สับปะรด เลือกใช้ของศรีราชา เพราะมีรสอมเปรี้ยวอมหวานและความกรอบในตัว นำมาปอกเปลือกควั่นตาออกให้หมด ผ่าตามยาวของลูก ตัดเอาแกนออก แล้วสับเป็นชิ้นหยาบปนละเอียด ขิง เลือกที่กลางอ่อนกลางแก่ ปอกเปลือกแล้วล้างนํ้า ฝานเป็นแผ่นแล้วซอยบาง ๆ กระเทียม ปอกเปลือกแล้วล้างนํ้า ซอยบาง ๆ พริกขี้หนูสวน นำมาล้างแล้วซอยหยาบ ๆ มะนาว ล้างแล้วนำมาฝานเป็นชิ้น ๆ กุ้งแห้ง นำมาโขลกหรือปั่นด้วยเครื่องปั่นแห้งให้เนื้อฟู ๆ

ต่อไปเป็นการทำแจงลอน เริ่มจากนำเนื้อปลากรายขูดที่เตรียมไว้ไปแช่ในตู้เย็นให้เย็นจัด จากนั้นโขลกให้ละเอียดแล้วนำมานวดกับเครื่องปรุงอย่างรากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลก หรือจะเป็นเครื่องแกงนิดหนึ่ง เพื่อเพิ่มสีสันและความเผ็ดร้อนตามแต่ความชอบ เสร็จแล้วให้ปั้นเป็นลูก ๆ ตั้งหม้อใส่นํ้า พอนํ้าเดือด นำเนื้อปลาที่ปั้นลงต้มให้สุก พักไว้

ขั้นตอนต่อมา นำกะทิตั้งไฟ เพื่อให้ได้ความหอมและดับกลิ่นคาว ปรุงรสด้วยนํ้าตาลทรายและนํ้าปลา ชิมให้ได้รสหวาน เค็ม และมัน พอกะทิเริ่มร้อน ให้ใส่ลูกชิ้นปลากรายที่เตรียมไว้ลงไป ต้มจนสุกในนํ้ากะทิ สิ่งที่สำคัญเมื่อผสมเสร็จแล้วเนื้อปลาจะต้องคงความเย็นอยู่และจับตัวเป็นก้อนเพื่อให้เนื้อปลาเด้ง แล้วตักแจงลอนขึ้นใส่ภาชนะที่ได้จัดเตรียมไว้

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงขั้นตอนการเสิร์ฟ ส่วนแรกจัดเส้นขนมจีนขมวดเป็นคำ ๆ ใส่จาน ตามด้วยเครื่องปรุงซาวนํ้าที่เตรียมไว้ ไม่ว่าจะเป็นสับปะรดสับ ตามด้วยแจงลอน โรยด้วยขิงซอย พริกขี้หนู กระเทียมซอย กุ้งแห้งป่น ตกแต่งด้วยมะนาวผ่าซีก ราดหัวกะทิให้โชก

เทคนิคการกินให้อร่อยก็ต้องคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พอลองชิมแล้วแจงลอนนุ่มเด้ง ส่วนตัวขนมจีนนั้นได้รสหอมมัน ได้ความเปรี้ยวหวานจากสับปะรด ความเค็มเล็กน้อยจากกุ้งแห้ง และความเผ็ดจากขิงและพริกขี้หนู

ง่าย ๆ แบบนี้ ยิ่งถ้าได้รับประทานพร้อมหน้ากับครอบครัวในช่วงวันหยุด อาจจะรู้สึกได้ถึงอุ่นไอบาง ๆ ของความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้น จนคลายความร้อนของช่วงหน้าร้อนไปได้บ้าง ซึ่งในจุดนี้ก็น่าจะเป็นจุดขายที่ดีได้

ใครสนใจใช้ “ขนมจีนซาวนํ้า”เป็น “ช่องทางทำกิน”ก็ลองไปฝึกฝนฝีมือ หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมจาก ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-9600-0993.

เชาวลี ชุมขำ :เรื่อง / สุนิสา ธนพันธสกุล ภาพ

*********************

คู่มือลงทุน...ขนมจีนซาวน้ำ

ทุนเบื้องต้น ประมาณ 2,000 บาท

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคา

รายได้ ราคาขาย 30 บาท/ชุด

แรงงาน 1 คนขึ้นไป

ตลาด ย่านอาหาร, ชุมชนทั่วไป

จุดน่าสนใจ ปัจจุบันมีคนทำขายน้อย

-----------------------------------------------------------------------------

สูตรอาหาร : ขนมจีนซาวน้ำ

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีสูตรขนมจีนซาวน้ำมาฝากกันครับ ความอร่อยของขนมจีนซาวน้ำอยู่ที่ความข้นและมันหวานของน้ำกะทิ แจงลอนต้องเหนียว โดยเลือกใช้เนื้อปลากรายมาทำ และหอมกลิ่นรากผักชี กระเทียม พริกไทย สับปะรดต้องมีรสหวานอมเปรี้ยว กุ้งแห้งใช้ชนิดเนื้ออย่างดี เมื่อรับประทานจึงเพิ่มรสอร่อยตามความชอบด้วยพริกป่นคั่วเอง มะนาวเปลือกบางสีเขียว และน้ำปลาดี รู้อย่างนี้แล้วเราไปลองทำกันเลยครับ



ส่วนผสม

    สับปะรดสับละเอียด 1 1/2 ถ้วยตวง
    กระเทียมหั่นบางๆ 1/4 ถ้วย
    ขิงสดหั่นฝอย 1/4 ถ้วย
    กุ้งแห้งป่น 1/2 ถ้วย
    มะนาว 3 ผล
    น้ำปลาดี 1/4 ถ้วย
    น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
    หัวกะทิข้นๆ ตั้งไฟแล้ว 1 ถ้วย
    แจงร้อนหรือลูกชิ้นปลา 40 ลูก
    ขนมจีน 25 จับ
    พริกขี้หนู 15 เม็ด

น้ำพริกแกงคั่ว

    พริกแห้งเม็ดใหญ่ 7 เม็ด (แช่น้ำให้นิ่ม)
    ข่าหั่นฝอย 1 ต้น
    หอมแดงซอย 7 หัว
    กระเทียมซอย 1 หัว
    กะปิดี 1/2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมแจงลอน

    เนื้อปลากรายขูด 300 กรัม
    น้ำพริกแกงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
    ผักชีหั่นหยาบๆ 1 ช้อนโต๊ะ
    เกลือป่น 1 ช้อนชา (ผสมกับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ)

วิธีทำแจงลอน

นวดเนื้อปลากับน้ำพริกแกงใส่น้ำเกลือเล็กน้อย นวดให้เข้ากันจนเหนียว ใส่ผักชีนวดอีกครั้ง ปั้นเป็นลูกชิ้นรูปทรงรีๆ เสียบไม้ปิ้งไฟ พอสุกหรือจะต้มในน้ำกะทิก็ได้

วิธีจัดเสิร์ฟ

จัดขนมจีนลงจานเสิร์ฟ วางแจงร้อนลงบนเส้น วางขิงและกระเทียมไว้ด้านบน โรยด้วยกุ้งแห้งป่น วางสับปะรดไว้ข้างจานพร้อมมะนาวผ่าซีก ราดด้วยหัวกะทิ ปรุงรสตามชอบด้วยน้ำตาล น้ำปลา พริก (พริกขี้หนูซอยผสมน้ำปลาดี)

บทความจาก : หนังสือครัวสยาม

-http://www.hilunch.com/ka-nom-jeen-sao-nam-

sithiphong:
กลมกิ๊กเมนู-ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน

กลมกิ๊กเมนู-ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน

-http://www.youtube.com/watch?v=WntlFOoBURE-

.

sithiphong:
“ผัดไทแม่อัม” หอมอร่อยถูกปาก รสชาติถูกใจ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    23 กุมภาพันธ์ 2557 12:21 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000018941-



บรรยากาศภายในร้าน

       “ผัดไทย” หรือก๋วยเตี๋ยวผัดไทย เป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติที่ทั้งคนไทยและต่างชาติก็นิยมชมชอบกันเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม และเส้นเหนียวนุ่ม หรือบางเจ้าก็ยังมีเครื่องเคียงอื่นๆ ใส่มาเพิ่มความอร่อยกันอีกด้วย
       
       พูดมาแค่นี้ “ผ่านมาแวะกิน” ก็เริ่มหิวจนท้องร้อง ภาพของผัดไทยหอมๆ ลอยไปลอยมาอยู่ในความคิด แบบนี้ก็ต้องรีบไปหาผัดไทยอร่อยๆ มาปรนเปรอปากเสียก่อนที่จะหิวไปมากกว่านี้



ผัดไทยธรรมดา

       มื้อนี้พากันมาที่ร้าน “ผัดไทแม่อัม” ตรงถนนพระราม 4 ซึ่งร้านนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องผัดไทยอร่อยๆ มากว่า 17 ปีแล้ว โดยมีแม่อัมเป็นเจ้าของร้านและเจ้าของสูตรลับความอร่อยของผัดไทย
       
       เมื่อมาถึงร้านแล้วก็อย่ารอช้า รีบสั่งมากินกันดีกว่า เริ่มจากจานแรก ผัดไทยธรรมดา (40 บาท) ที่นี่เขาจะใช้เตาถ่านผัดผัดไทยเพื่อให้หอม และใช้เส้นจันทร์ที่ผัดแล้วได้ความเหนียวนุ่ม ผัดกับน้ำมะขามปรุงรสเปรี้ยวหวาน ใส่เต้าหู้ ไชโป๊ว กุ้งแห้ง ถั่วงอก และใบกุยช่าย ใส่น้ำตาลทรายและพริกป่นผัดลงไปด้วยเพิ่มรสชาติ ตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมถั่วลิสงคั่วป่นใหม่ๆ และมะนาวเพิ่มความเปรี้ยว ชิมรสชาติผัดไทยอร่อยได้ที่กลมกล่อมแล้ว คลุกเคล้าถั่วป่นเพิ่มความหอมมัน และบีบมะนาวเพิ่มรสให้จัดจ้านขึ้นอีกนิด



ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ

       อีกจานขอจัดเต็มด้วย ผัดไทกุ้งแม่น้ำ (150 บาท) ที่เป็นแบบเดียวกับผัดไทยธรรมดา แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการนำผัดไทยมาห่อไข่ เสิร์ฟพร้อมกับกุ้งแม่น้ำตัวโตที่นำไปย่างไฟให้สุกหอมกำลังดี กินคู่กันกับผัดไทยรสชาติกลมกล่อม เนื้อกุ้งสดแน่นเด้งหวานหอม แต่ถ้าใครคิดว่ากุ้งแม่น้ำอาจจะตัวโตไปสักนิด เปลี่ยนมาสั่งเป็น ผัดไทยทะเล (60 บาท) ที่ใส่กุ้งทะเลและปลาหมึก ก็อร่อยดีไม่แพ้กัน
       
       จากผัดไทย เปลี่ยนมากิน คั่วทะเล (60 บาท คั่วไก่ 40 บาท) กันบ้าง คั่วไก่ของที่นี่ก็เป็นสูตรโบราณที่คั่วด้วยเตาถ่านทำให้เพิ่มกลิ่นหอมชวนหิว จะใช้เส้นใหญ่ลงไปผัดคั่วกับเนื้อไก่ส่วนหน้าอก ใส่กุ้งสด และหมึกกรอบ ใส่ไข่แล้วผัดคั่วจนแห้งดี ตักใส่จานโรยต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมผักกาดหอมให้กินคู่กัน และมะนาวเพิ่มความเปรี้ยว ชิมคั่วทะเลจานนี้อร่อยดี มีความหอมของเส้นและไข่ที่คั่วจนแห้ง



คั่วทะเล

       ถ้าอิ่มของคาวแล้ว ที่ร้านนี้เขาก็มีขนมหวานอร่อยๆ ให้ชิมด้วยเช่นกัน อย่างที่เราสั่ง บัวลอยมะพร้าวอ่อน (ไม่ใส่ไข่ 20 บาท ไข่หวาน 30 บาท ไข่เค็ม 30 บาท) ที่เป็นบัวลอยสูตรโบราณเช่นกัน ตัวเม็ดบัวลอยใช้สีจากธรรมชาติผสม ทั้งจากฟักทอง อัญชัน แครอท น้ำแดง มันม่วง และใบเตย ต้มจนสุกในน้ำเชื่อม โดยใส่เผือกและใส่มะพร้าวอ่อนด้วย แล้วราดหน้าด้วยน้ำกะทิคั้นสด เวลาชิมต้องคนให้เข้ากัน จะได้รสชาติความหวานหอมของน้ำเชื่อมและมะพร้าว มีความเค็มผสมผสานของกะทิ ตัวบัวลอยนุ่มหนึบอร่อยถูกปาก
       
       ใครที่มาร้านนี้แล้วอยากกินหลายๆ เมนู ที่นี่ก็มีให้เลือกชิมอีก อาทิ ทาโกะยากิ (60 บาท) สลัดปลา (60 บาท) สลัดกุ้ง (60 บาท) และยังมี ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน-แกงไก่-น้ำเงี้ยว (30 บาท) ที่มีให้ชิมเฉพาะตอนเที่ยงวันจันทร์-ศุกร์เท่านั้น
       
       ของอร่อยๆ แบบนี้ ถ้าเห็นแล้วหิว ก็ต้องมาที่ร้าน “ผัดไทแม่อัม” กันเลย



บัวลอยมะพร้าวอ่อน

       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       ร้าน “ผัดไทแม่อัม” ตั้งอยู่ที่ 2253/5 ถนนพระราม 4 คลองเตย กทม. การเดินทางจากหัวลำโพง ให้ตรงมาที่ถนนพระราม 4 ตรงมาเรื่อยๆ ผ่าน MRT คลองเตย ให้ชิดซ้าย จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือริมถนน ระหว่างซอยโรงงานยาสูบกับชุมชนเทพประทาน (ตรงข้ามการไฟฟ้านครหลวง) สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน (หยุดเสาร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน) จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 14.00-22.00 น. โทร. 08-1917-6871, 08-5343-3795



รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ผัดไทแม่อัม"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    23 กุมภาพันธ์ 2557 12:22 น.
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000018938-




ชื่อร้าน : ผัดไทแม่อัม
       
       ประเภทอาหาร : อาหารจานเดียว
       
       เมนูจานเด่น : ผัดไทย,ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ,คั่วทะเล,คั่วไก่,บัวลอยมะพร้าวอ่อน
       
       บรรยากาศร้าน : ห้องแถว
       
       ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 2253/5 ถนนพระราม 4 คลองเตย กทม. การเดินทางจากหัวลำโพง ให้ตรงมาที่ถนนพระราม 4 ตรงมาเรื่อยๆ ผ่าน MRT คลองเตย ให้ชิดซ้าย จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือริมถนน ระหว่างซอยโรงงานยาสูบกับชุมชนเทพประทาน (ตรงข้ามการไฟฟ้านครหลวง)
       
       สถานที่จอดรถ : ด้านหน้าร้าน
       
       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน (หยุดเสาร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน) จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 14.00-22.00 น.
       
       เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-1917-6871, 08-5343-3795

sithiphong:
 “ร้านลูกชิ้นศรีย่าน” ความอร่อยคงคู่ศรีย่าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 มีนาคม 2557 15:04 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000020710-


เมนู เส้นหมี่ทุกอย่าง จาก “ร้านลูกชิ้นศรีย่าน”
       ถ้าพูดถึงแหล่งของกินในกรุงเทพฯ นั้น เชื่อได้ว่าหลายคนคงมีหลากหลายสถานที่ในใจที่แตกต่างกันออกไป
       
       ซึ่งแหล่งของกินส่วนใหญ่นั้น มักจะตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชุมชน แหล่งทำงาน ออฟฟิศ แหล่งช้อปปิ้ง โรงเรียน วัด หรือสถานที่อื่นๆ ที่มีผู้คนผ่านไปมา หรือใช้ชีวิตอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณนั้นๆ และ “ศรีย่าน” ก็เรียกได้ว่า อยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย มีทั้งชุมชน โรงเรียน สถานที่ทำงาน โรงพยาบาล วัด และแหล่งกวดวิชาของนักเรียนมากมาย


ภายในตลาดศรีย่านมีของสดมากมาย

       “ศรีย่าน” ถือเป็นย่านเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณถนนสามเสนนอก ถนนนครชัยศรี เขตดุสิต ย่านแห่งนี้เป็นย่านเก่าแก่อีกย่านหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ในอดีตล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ศรีย่าน กลายเป็นย่านที่เต็มไปด้วยของกินมากมาย และเมื่อเราได้แวะเวียนมายังศรีย่าน เราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศ รวมถึงของกินต่างๆ มาฝากกัน


ริมฟุตปาธมีของขายตลอดแนว

       เริ่มต้นกันที่ “ตลาดศรีย่าน” ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดสดที่ก่อตั้งมานานหลายสิบปี ภายในมีการแบ่งล็อกขายของอย่างเป็นระเบียบ ทั้งของสด ทั้งผักสด เนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรืออาหารปรุงสำเร็จ ก็มีให้เลือกซื้อเลือกหากันมากมาย ถัดออกมาจากตลาด จะสังเกตได้ว่าตลอดริมฟุตปาธ ก็จะมีร้านขายอาหารทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้ มาตั้งโต๊ะเรียงรายให้ได้เลือกซื้อกันตลอดแนว



“ร้านลูกชิ้นศรีย่าน”

       หลังจากเดินตลาดกันจนทั่วแล้ว เราข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม จะพบกับร้านก๋วยเตี๋ยวร้านดังของศรีย่าน ที่ขึ้นชื่อเรื่องลูกชิ้น ร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อที่เปิดขายมายาวนานกว่า 40 ปี เรียกได้ว่าใครที่ผ่านไปมาแถวนี้บ่อยๆ นั้นต้องรู้จัก “ร้านลูกชิ้นศรีย่าน” ลูกชิ้นของที่ร้านนี้จะเป็นลูกชิ้นเนื้อวัว 100% เป็นสูตรของทางร้านที่ทำขึ้นเอง ทำให้ลูกชิ้นเหนียวนุ่ม เคี้ยวเด้ง โดยที่นี่จะขายเฉพาะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อน้ำใส จะมีให้เลือกทั้งลูกชิ้นเนื้อ และลูกชิ้นเอ็นเนื้อ และวันนี้เราเลือกสั่ง ‘เส้นหมี่เนื้อทุกอย่าง’ ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ขาวร้อนๆ เสิร์ฟมากับถั่วงอกขาวอวบ ลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นเอ็นเนื้อ เนื้อสด และเนื้อเปื่อย วางอยู่เต็มชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี ราดด้วยน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวรสกลมกล่อมโดนใจ สนนราคาชามละ 45 บาท โทร.0-2243-3537



ขนมครกร่อน ร้อนๆ จากเตา

       จากนั้นไปต่อกันที่ขนมไทยๆ อย่าง “ขนมครก” ที่ร้าน “ขนมครกร่อน” ที่นี่เป็นร้านขนมครกชื่อดังแห่งย่านตลาดศรีย่าน มีขนมครกหน้าต่างๆ มากมาย ทั้งหน้าดั้งเดิม หน้าเผือก หน้าข้าวโพด หน้าต้นหอม ให้เลือกซื้อกันได้ตามชอบใจ ซึ่งขนมครกที่ร้านนี้มีความโดดเด่นตรงที่แป้งที่ร่อนกรอบด้านนอก นุ่มใน รสชาติหวานมัน เข้มข้นด้วยรสกะทิ ทำสดๆ ใหม่ๆ ร้อนๆ ทำเอาใครต่อใครต่างติดใจกันนัก โทร.0-2243-3526



หมูสะเต๊ะไม้ละ 5 บาท

       เมื่ออิ่มหนำกับขนมครกกันไปแล้ว ก็ได้เวลาหาของกินติดไม้ติดมื้อกลับไปฝากคนที่บ้านสักหน่อย โดยเราเดินตรงมาจากร้านขนมครกร่อน ไปทางสี่แยกศรีย่าน จะสังเกตเห็นร้าน "หมูสะเต๊ะ" ทางด้านซ้ายมือ ที่กำลังย่างหมูควันคลุ้งอยู่ริมฟุตปาธ เราไม่รอช้าเดินตรงไปสั่งหมูสะเต๊ะกลับบ้าน 10 ไม้ (ไม้ละ 5 บาท) หรือหากใครอยากจะซื้อกินตรงนั้นก็สามารถบอกแม่ค้า ให้ใส่ถุงพร้อมกินได้เลย หมูสะเต๊ะเนื้อนุ่ม กินคู่กับน้ำซอสถั่วหวานมัน แกล้มด้วยอาจาด ช่างอร่อยเข้ากันดีจริง หากใครสนใจจะไปชิม ร้านหมูสะเต๊ะนี้จะขายด้วยกัน 2 ที่ โดยตอนเช้าจะขายบริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.00 น. และในตอนเย็นจะขายฝั่งตรงข้ามตลาดศรีย่าน เวลา 15.00 - 20.00 น.



บรรยายกาศร้านค้าบริเวณศรีย่าน

       นอกจากนี้แล้ว ศรีย่าน ยังมีของกินอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เย็นตาโฟฮ่องเต้ บะหมี่หัวโต จิวลูกชิ้นปลาเยาวราช ศรีย่านนมสด ไอศกรีมศรีย่าน ขนมปังอบ และอีกหลายร้าน เรียกได้ว่าให้กินวันเดียวคงไม่ครบ และนอกจากของกินแล้ว ที่ศรีย่านยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย (คลิกอ่านเรื่องเที่ยวศรีย่าน) หากใครที่ยังไม่เคยผ่านไป-มา แถวศรีย่าน ก็ลองขับรถ หรือนั่งรถประจำทางมาลงตลาดศรีย่าน แล้วเดินเล่นหาของอร่อยๆ ลงท้อง และซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกินที่บ้านกันได้!





นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version