ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

รวบรวมเตือนภัย และการต่อต้าน แก๊ง เมาแล้วขับรถ

<< < (10/21) > >>

sithiphong:
ไอ้พวกเมาแล้วขับรถ

วงศ์ตระกูลอบรมมาแบบนี้

ถึงได้เมาแล้วขับรถ


พวกเมาแล้วขับรถ

ต่อให้ตายเพื่อใช้ความผิด

แล้วกลับมาเกิดใหม่

แล้วตายเพื่อใช้ความผิด

อีก 100 ชาติ  ก็ไม่เพียงพอกับการชดใช้ความผิด



ขอภาวนาให้คนเมาแล้วขับรถชน
กลุ่มคนที่สารพัดอ้างคำพูดที่ช่วยแก๊งค์เมาแล้วขับ


-----------------------------



ตำรวจเตะคนเมาขับรถชน พ่อเหยื่อถามกลับ ทำผิดตรงไหน

-http://hilight.kapook.com/view/111319-





ตำรวจเตะคนเมาขับรถชน พ่อเหยื่อถามกลับ ทำผิดตรงไหน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)

            ตำรวจเตะคนเมาถูกสั่งย้ายฟ้าผ่า พ่อของเด็กหญิงที่ถูกคนเมาขับรถชนบาดเจ็บ ถามกลับ ตำรวจทำผิดตรงไหน แล้วคนเมาขับรถชนคนอื่นไม่ทำเกินกว่าเหตุหรือ ขณะที่ชาวเน็ตมองสองฝั่ง ทั้งเห็นใจตำรวจ และระบุว่าตำรวจก็ทำผิดจริง

            จากกรณีที่มีชายคนหนึ่งดื่มสุราจนเมาแล้วไปขับรถชนคนอื่น รวมทั้งเฉี่ยวชนรถยนต์อีกหลายคันในจังหวัดนครสวรรค์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสกัดจับอยู่นาน กว่าจะสามารถควบคุมตัวไว้ได้ และก็ทำให้นายตำรวจคนหนึ่งใช้เท้าเตะชายคนนี้ที่ถูกจับใส่กุญแจมือไพล่หลังจนสลบเหมือด ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่ยืนมองอยู่ ดังที่ปรากฏเป็นคลิปแชร์ว่อนในสังคมออนไลน์ เป็นเหตุให้นายตำรวจคนดังกล่าวถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

            อีกด้านหนึ่ง มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ระบายความในใจว่า เป็นพ่อของเด็กหญิงที่ถูกชายเมาคนดังกล่าวขับรถชน โดยชายคนนี้นอกจากจะขับรถชนลูกสาวของเขาแล้ว ยังไปชนรถคันอื่นอีก 6 คัน ตนจึงสงสัยว่าตำรวจเตะคนกระทำผิดเช่นนี้ถือว่าผิดตรงไหน แต่กลับถูกสั่งย้ายเพราะทำเกินกว่าเหตุ แล้วคนที่เมาแล้วขับรถชนคนอื่นไม่ทำเกินกว่าเหตุหรืออย่างไร

          "ช่วยแชร์หน่อยเพื่อน ใครได้ดูคลิปตำรวจ นว. เตะคนเมาไอ้เ-ย คนขับมันชนลูกกูแล้วหนีและไปชนรถคนอื่นอีก 6 คัน ตำรวจเตะคนผิดมันผิดตรงไหน มันเมาแล้วขับรถชนคน ตอนนี้ตำรวจที่จับมันได้โดนย้าย เนื่องจากทำเกินกว่าเหตุ แล้วคนเมาขับรถชนคนอื่นแม่งไม่ทำเกินกว่าเหรอ"



เด็กหญิงที่ถูกชายเมาขับรถชน



            ทั้งนี้ก็มีคนแชร์ข้อความนี้ต่อกันมากมาย โดยส่วนหนึ่งก็เข้ามาให้กำลังใจคุณพ่อ พร้อมให้กำลังใจตำรวจที่ช่วยระงับเหตุไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นคนเมาอาจขับรถไปชนคนอื่นจนเกิดเหตุน่าสลดกว่านี้ ขณะที่อีกส่วนก็มองว่า เรื่องนี้ตำรวจถือว่ามีความผิดจริง เพราะไปทำร้ายผู้ต้องหา ส่วนผู้ต้องหาคนนั้นก็มีความผิดอยู่แล้ว ดังนั้นต้องแยกให้ออกด้วยเช่นกัน และในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ควรใช้อารมณ์เช่นนี้

sithiphong:
ไม่เห็นด้วยกับการไล่ออก

ทีเวลาที่ตำรวจทำผิดกฎหมาย เช่น รับเงิน  ไม่เห็นไล่ออก

แต่กับการเตะพวกเมาแล้วขับ ทำให้ผู้ที่ไม่รู้เรื่อง เกิดการบาดเจ็บ (บางครั้งทำให้พิการ) หรือ เสียชีวิต 


-------------------------------------------------------------------------------------------


ตำรวจเตะคนเมาถูกให้ออกแล้ว ผู้เสียหายวอนทบทวนบทลงโทษ


-http://hilight.kapook.com/view/111378-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
 
             ตำรวจเตะคนเมามีความผิดจริง มีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว ด้านผู้บาดเจ็บเล่านาทีถูกชน พร้อมวอนทบทวนบทลงโทษตำรวจ ชี้ ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

             สืบเนื่องจากคดี ดาบตำรวจ ภรเดช เดชโชติ ตำรวจจราจรนครสวรรค์ ใช้เท้าเตะ นายไกรสิทธิ์ วรเชษฐ์ ผู้ต้องหาเมาสุราที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นเหตุให้ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการ เนื่องจากทำเกินกว่าเหตุดังที่ปรากฏในคลิปว่อนโลกไซเบอร์ ก่อนที่พ่อของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกคนเมาคนดังกล่าวขับรถชนได้รับบาดเจ็บออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถามหาความเป็นธรรม ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

             ความคืบหน้าวันนี้ (16 พฤศจิกายน 2557) รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ช่อง 3 รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม นายทิพากร สอนกิจ บิดาของน้องน้ำฟ้า ที่ถูกคนเมาขับรถชนได้รับบาดเจ็บว่า ขณะนี้น้องน้ำฟ้ายังมีร่องรอยถลอกที่บริเวณแขนและขา ต้องไปล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน ที่ผ่านมาหลังจากน้องถูกรถชนก็ไม่เคยมีใครมาเหลียวแล มีแต่ตำรวจชุดที่จับกุมคนชนมาเยี่ยมและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับตำรวจที่ถูกสั่งย้ายก็ให้กำลังใจเช่นกัน ต่างกับคนก่อเหตุที่ได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว แต่ไม่เคยมาเยี่ยมหรือสอบถามอะไรทั้งสิ้น

             คุณพ่อบอกว่าที่โพสต์เฟซบุ๊กลงไป เพราะไม่พอใจที่ตำรวจคนดังกล่าวโดนสั่งย้าย จึงอยากบอกให้สังคมรับรู้ถึงที่มาที่ไปที่ตำรวจต้องทำเช่นนั้น เพราะหากคนเมาขับรถพ้นจากหน้าโรงเรียนที่ชนลูกสาวไป โดยไม่ถูกตำรวจจับไว้ได้ก่อน ก็อาจเกิดเรื่องใหญ่กว่านี้ เพราะข้างหน้าเป็นตลาดสดที่มีคนพลุกพล่าน ตนจึงมองว่าสิ่งที่ตำรวจทำไปนั้นไม่เกินกว่าเหตุเลย อยากให้ทบทวนการสั่งย้ายตำรวจคนนี้โดยพิจารณาข้อมูลให้รอบด้านก่อน

             ขณะที่พยานอีกคนคือ นางอนงค์นาถ นีลเซ่น ซึ่งบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์จอดรถไฟเขียวอยู่ โดยมีเด็กนั่งมาด้วย เมื่อสัญญาณไฟเขียวปรากฏขึ้น ตนก็ออกตัวขับรถออกไป แต่กลับเห็นรถของนายไกรสิทธิ์ขับฝ่าไฟแดงออกมา และมาเฉี่ยวชนรถตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ 3 คน ก่อนจะขับรถหนีไป ภายหลังทราบว่านายไกรสิทธิ์ถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่มีการติดต่อมาขอโทษหรือสอบถามอาการอะไรทั้งสิ้น

             อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า พ.ต.อ. คณากร รุ่งขจรกลิ่น ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ระบุว่า หลังจากตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้เสร็จสิ้นแล้ว พบว่า ดาบตำรวจ ภรเดช มีความผิดจริง จึงมีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว และจะมีการดำเนินคดีด้านอาญาและวินัยต่อไป

             ด้าน ดาบตำรวจ ภรเดช ได้ออกมากล่าวขอโทษที่กระทำเช่นนั้น โดยระบุว่า ในเวลานั้นผู้ต้องหาอยู่ในสภาพที่เมาสุราอย่างหนัก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนไปสร้างความเสียหายให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย

             ทั้งนี้ ดาบตำรวจ ภรเดช ยังได้เล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าโรงเรียน ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ขับย้อนศรเฉี่ยวชนและหลบหนี จึงได้ออกติดตาม และพยายามสกัดจับ แต่ผู้ต้องหายังพยายามหลบหนี จนไปเฉี่ยวชนรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มอีก ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่มอีก 3 ราย ก่อนจะขับรถมาเบียดตน ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บที่แขนและขาด้วย กระทั่งผู้ต้องหาเจอรถติด ไม่สามารถขับรถต่อไปได้ จึงถูกจับกุมได้ในที่สุด ทั้งนี้ตนยอมรับว่าหลังจากใส่กุญแจมือเกิดบันดาลโทสะ จึงเตะเข้าที่หน้าอกผู้ต้องหา 1 ครั้ง และขอยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

             อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า โทษที่ดาบตำรวจ ภรเดช ได้รับนั้นหนักไปหรือไม่ รวมทั้งผู้เสียหายก็ได้วอนให้ทบทวนบทลงโทษครั้งนี้ด้วย


 http://www.youtube.com/watch?v=xIkW5tNdYTE&index=3&list=UU5wKpLWxAZBZrunls3mzwEw
-http://www.youtube.com/watch?v=xIkW5tNdYTE&index=3&list=UU5wKpLWxAZBZrunls3mzwEw-
เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ชาวเน็ตโพสต์ภาพ 'เณรคำ' ล่าสุด ยังกบดานสหรัฐฯ (16พ.ย. 57)

sithiphong:

คดีน้องการ์ตูน ชาวเน็ตแห่ประโคมข่าว พร้อมบริจาคเงินช่วยเหลือ


-http://hilight.kapook.com/view/111738-




ชาวเน็ตแห่ประโคมข่าว พร้อมบริจาคเงินช่วยเหลือ คุณแม่น้องการ์ตูน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก The Dark Knights ll, รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

          ชาวเน็ตร่วมใจ บริจาคเงินช่วยเหลือ น้องการ์ตูน และคุณแม่ เหยื่อนักซิ่ง พร้อมทวงความยุติธรรมคืนแก่แม่ลูก หลังคดีไม่คืบ ยังไม่ได้รับการเยียวยา

          วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2557) จากกรณี นางสาวน้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ขับรถกระบะพุ่งชนสองพ่อลูกที่หน้าร้านสเต๊กลุงใหญ่ ปากซอยเอกชัย 119 จนเป็นผลให้ผู้เป็นพ่อเสียชีวิต ขณะที่ น้องการ์ตูน ลูกสาว ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุได้เกิดตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2557 แต่แม้เวลาจะล่วงเลยมานานหลายเดือน จนถึงบัดนี้ทางครอบครัวของผู้เสียหายยังคงไม่ได้รับความยุติธรรมจากฝั่งนักซิ่ง โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลน้องการ์ตูนที่อีกฝ่ายสัญญาว่าจะรับเป็นภาระให้จนกว่าน้องจะหาย แต่จนบัดนี้ค่ารักษาน้องการ์ตูนทะลุ 1.5 ล้านบาทแล้ว อีกฝ่ายก็ยังคงไม่จ่าย แถมยังขอต่อรองลดค่าเสียหายในการซ่อมรถจาก 3.5 แสนบาท เหลือเพียงแค่ 2.5 แสนบาทอีกด้วยนั้น

          จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ขณะนี้สถานการณ์ของครอบครัวน้องการ์ตูนมีแค่ผู้เป็นแม่เพียงคนเดียวที่รับภาระในการหาเลี้ยงครอบครัว ประคองธุรกิจร้านอาหาร และหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาล แถมยังต้องถูกซ้ำเติมจากช่องว่างทางกฎหมาย ทำให้ทางครอบครัวเดือนร้อนอย่างหนัก แถมค่ารักษาพยาบาลซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นก็ยังไม่ได้รับจากคู่กรณีอีกด้วย ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแสดงความต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวดังกล่าว

  ขณะที่ทางเพจ The Dark Knights ll ก็ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสื่อกลางที่ร่วมแชร์ต่อเรื่องราว เพื่อหวังเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของน้องการ์ตูน พร้อมกันนี้ยังได้นำเลขบัญชีของคุณแม่น้องการ์ตูนมาเปิดเผย เพื่อเปิดรับเงินบริจาคสำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือน้องการ์ตูนต่อไป

        และนับจากนั้นก็ได้มีกระแสน้ำใจจากชาวเน็ต หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย มีผู้ร่วมสมทบทุนบริจาคเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวดังกล่าวมากมาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเงินที่มากหรือน้อยก็ตาม แต่นั่นก็ถือเป็นเส้นทางน้ำใจที่ช่วยพยุงชีวิตน้อย ๆ ของน้องการ์ตูนไว้ได้ โดยที่คุณแม่ของน้องการ์ตูนก็ได้ยืนยันว่า เงินบริจาคทั้งหมดที่ได้ จะใช้เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลน้องการ์ตูนเท่านั้น

          ทั้งนี้ทางเพจ The Dark Knights ll ยังได้ทิ้งท้ายว่า "เครดิต ในนามของแอดมิน The Dark Knights ทั้งหมด พวกเราเป็นแค่กลุ่มคนร่วมอุดมการณ์ มีทั้ง หมอ หมอฟัน พระ ทนาย เภสัช นักธุรกิจพันล้าน นักธุรกิจ นักเขียนโปรแกรม นักบิน นักทำงาน นักอยู่ต่างประเทศ นักศึกษา นักเรียน เลขา ล่าม มือปืน ตำรวจ ทหาร และมีเครือข่ายอีกมากมาย ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยพลัง social network โดยไม่หวังชื่อเสียงหรือเงินทองใด ๆ"

          และสำหรับผู้ประสงค์ดีรายใดที่ต้องการให้การช่วยเหลือแก่ครอบครัวของน้องการ์ตูน สามารถร่วมสมทบทุนได้ผ่านทาง เลขบัญชี 978-2-19066-8 ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี ศรัญญา ชำนิ หรือแวะไปอุดหนุน ร้านสเต๊กลุงใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ ถนนราษฎร์บูรณะ 



sithiphong:
คน "ป้า"

คนกันให้วุ่น


--------------------------------------

คลิปมนุษย์ป้าจอดรถข้างถนน ทำรถติดยาว คนด่ายังเถียง ชาวเน็ตสุดจะเพลีย

-http://hilight.kapook.com/view/112024-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)

         คลิปมนุษย์ป้าจอดรถข้างถนนเฉย ทำรถข้างหลังติดยาวเป็นกิโล คนลงไปเคาะกระจกบอกก็ยังเฉย ไม่สนใจ แถมบอกจะเอาเรื่องคนด่าอีก ชาวเน็ตวิจารณ์เละ สามัญสำนึกมีไหม

         ชาวเน็ตถึงกับของขึ้นเลยทีเดียว เมื่อเจอคลิปวิดีโอ "#มนุษย์ป้า โดนดี ทำรถติดเป็นกิโล! <--::" ที่แฟนเพจ YouLike (คลิปเด็ด) แชร์ให้ดูกันเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 เผยให้เห็นภาพของหญิงวัยกลางคนรายหนึ่งจอดรถแช่อยู่เลนซ้ายสุด เป็นเหตุให้รถคันอื่นที่ขับตามมาด้านหลังต้องเบี่ยงออก จนเกิดปัญหารถติดยาวเป็นกิโล และก็ทำให้หลายคนอดรนทนไม่ไหวต้องลงจากรถมาเคาะกระจกบอกให้หญิงคนดังกล่าวไปจอดรถที่อื่นที่ไม่ใช่บนถนน ซึ่งเป็นที่ห้ามจอด เพราะตอนนี้รถติดยาวเป็นแถวแล้ว

         แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหญิงคนนี้จะไม่สนใจกับเสียงด่า ซ้ำบอกด้วยว่าเธอจะจอด ก่อนจะปิดกระจกรถไม่คุยด้วย เล่นเอาคนที่มาเคาะกระจกถึงกับเงิบที่หญิงคนนี้ไม่มีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนเอาเสียเลย ขนาดรถหลายคันบีบแตรไล่ก็ยังเฉย


  - ชายเสื้อฟ้าชี้ให้ประชาชนดูว่าจอดรถอย่างนี้ได้อย่างไร อายเขาไหม ทำให้หญิงคนดังกล่าวบอกว่า "ชั้นจะเอาเรื่อง" ท่ามกลางเสียงบีบแตรไล่ของรถด้านหลัง

         และแน่นอนว่าเมื่อคลิปนี้ถูกแชร์กันไป ชาวเน็ตต่างก็วิพากษ์วิจารณ์หญิงคนนี้ว่าไม่มีจิตสำนึก ขนาดคนลงมาไล่แล้วก็ยังเฉย เหมือนกับตัวเองไม่ได้ทำผิด พร้อมมอบฉายา "มนุษย์ป้า" ให้ตามระเบียบ ขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตหยิบคลิปมนุษย์ป้าคนหนึ่งที่เคยด่าตำรวจจราจรที่มาจับกุมเมื่อหลายปีก่อน มาเปรียบเทียบกับหญิงในคลิปล่าสุด โดยหลายคนวิเคราะห์ว่าอาจจะเป็นคนเดียวกัน เพราะหน้าตา ท่าทาง และน้ำเสียงคล้ายกันมาก เพียงแต่ขับรถคนละคันเท่านั้น


มนุษย์ป้า เจอแบบนี้ถึงกับ เงิบ
-http://www.youtube.com/watch?v=AB9u6wqxZ0g-

.

sithiphong:
คันเร่งค้าง เรื่องอันตรายถึงชีวิต กับวิธีรับมือเอาตัวรอด

-http://car.kapook.com/view105717.html-

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sheilasguide

          คันเร่งค้างแก้ไขอย่างไร วิธีรับมือคันเร่งค้างเหตุอันตราย

          เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีข่าวที่ได้ความสนใจจากสังคมอยย่าง รถเก๋งตกอาคารจอดรถชั้น 7 (3A) ของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ โดยเหตุการณ์นี้มีประเด็นสาเหตุการเกิดอุบัติที่ยังต้องพิสูจน์สาเหตุกันต่อไป

          ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ออกมาให้ข้อมูลว่ากรณีนี้อาจเกิดจาก คันเร่งค้าง ทำให้รถนั้นเร่งตลอดจนเกิดอุบัติเหตุพุ่งตกลงมาข้างล่างและปัญหาด้านเบรก ซึ่งแบ่งออกได้ 2 สาเหตุหลัก คือความผิดพลาดของตัวผู้ขับเอง (Human Error) หรือปัญหาจากตัวรถ

          โดยนายปรีดา ตันเต็มทรัพย์ ประธานฝ่ายเทคนิคราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และนายสุรชัย ศิริสัมพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์  ให้ความเห็นกรณีนี้น่าสนใจและสรุปประเด็นได้ว่า




ปัญหาคันเร่งค้าง

          อาการตกใจเวลาเจอเรื่องกะทันหัน อาจไปเหยียบคันเร่งแทนเบรก

          ใส่รองเท้าส้นสูงขับรถ เนื่องจากคนขับเป้นผู้หญิง อาจทำให้ส้นรองเท้าไปขัดกับคันเร่ง กว่าจะถอนจากคันเร่งมาเหยียบเบรกก็ไม่ทันแล้ว

          รถอาจเกิดปัญหาคนเร่งจมค้าง ทำให้แป้นเบรกแข็งจนไม่สามารถใช้เบรก เป็นปรกติของตัวรถเพื่อป้องกันการเหยียบเบรกพร้อมคันเร่งอยู่แล้ว






เบรกมีปัญหา

          เบรกจม (เบรกแตก) ทำให้ห้ามล้อไม่ได้

          หม้อเบรกมีปัญหา ทำให้เบรกแข็งเกินไปจนหยุดรถไม่ทัน

          มีขวดน้ำหรือรองเท้าไปยันเบรกไว้

          ทั้งหมดนี้คือข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยวิธีการรับมือปัญหาเบรกและคันเร่งค้าง ที่ควรเรียนรู้ดังนี้

          ตั้งสติให้ดีให้ใส่เกียร์ว่างทันที ทำให้รถไม่เร่งความเร็ว หลังจากนั้นให้เหยียบเบรกแรง ๆ แม้จะไม่รู้สึกเหมือนว่าเบรกก็ต้องเหยียบเบรกไว้ จนรู้สึกว่ารถชะลอตัว

          กรณีที่เบรกไม่ทันให้ รีบประคองรถเข้าไปหาจุดที่คิดว่าแข็งแรง ในกรณีเป็นลานจอดรถจุดที่แข็งแรงที่สุดคือเสา อย่าพุ่งไปที่ผนังหรือกำแพง และเลือกฝั่งที่ไม่มีคนนั่งชนกับเสา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

          ทั้งนี้สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด คือการดับเครื่องยนต์ เพราะถ้าดับเครื่องยนต์จะทำให้พวงมาลัยล็อก และเราจะไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้

          แต่ถ้าเป็นกรณีมีทางยาวให้ดับเครื่องยนต์ได้ทันที จะทำให้เครื่องยนต์ไม่ขึ้นรอบสูงจนเสีย และประคองรถเข้าข้างทางได้ สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดคือดึงเบรกมือ เพราะรถจะหมุนเสียการควบคุมทันที

          ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ถูกต้องในการรับมือคันเร่งค้างและเบรกมีปัญหา ที่สำคัญ "สติ" จะช่วยได้แก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version