ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

รวบรวมเตือนภัย และการต่อต้าน แก๊ง เมาแล้วขับรถ

<< < (18/21) > >>

sithiphong:
ตำรวจไทย กับ กรมการขนส่งทางบก  ไม่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ถึงทำให้เกิดปัญหานี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ต้องลงโทษทั้งผู้ขับขี่  ลงโทษทั้งเจ้าของรถแท็กซี่


แล้วแก๊งสิทธิมนุษยชน อยู่ไหน  ทำไมไม่ออกมาเคลื่อนไหว

เพราะเรื่องนี้ ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง



ไอ้แท็กซี่ที่เห็นแก่ตัวแบบนี้  มันคงไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากครอบตรัวและวงศ์ตระกูลแน่เลย


---------------------------------------------------------------------------------


หนุ่มญี่ปุ่นแฉซ้ำ ผ่านไป 2 เดือน แท็กซี่สุวรรณภูมิยังโกงค่าโดยสารเหมือนเดิม

-http://hilight.kapook.com/view/119178-


   หนุ่มญี่ปุ่นแฉซ้ำ สนามบินสุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย หลังผ่านไป 2 เดือน แท็กซี่สุวรรณภูมิ ก็ยังเก็บค่าโดยสารเกินจริงเหมือนเดิม

            จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Koki Aki (โกกิ อากิ) หรือ นายอากิฮิโระ โทมิคาว่า นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ผู้เดินทางมาเมืองไทยเป็นประจำ เพื่อแจกขนมและของเล่นให้กับเด็ก ๆ ผู้ด้อยโอกาส ได้โพสต์ข้อความแฉว่า สนามบินสุวรรณภูมิคือความน่าอับอายของประเทศไทย ทั้งการบริการที่แย่ เจ้าหน้าที่ไม่เต็มใจให้บริการ และยังถูกแท็กซี่โกง จนกลายเป็นข่าวฮือฮา และนำมาซึ่งการจัดระเบียบแท็กซี่สุวรรณภูมิ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

            แต่เมื่อกระแสข่าวดังกล่าวซาลงไปได้ราว 2 เดือน เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมอีกจนได้ โดยล่าสุด (18 เมษายน 2558) นายอากิฮิโระ โทมิคาว่า หรือ โกกิ อากิ ได้โพสต์ข้อความแฉ สนามบินสุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย ลงในเฟซบุ๊ก Koki Aki อีกครั้ง ดังนี้

            "ผมขอบอกอีกครั้งนะครับว่าสนามบินสุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย

            ครั้งนี้เพื่อน ๆ ของผมมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยเด็กในชุมชนประเทศไทย พวกเขามาทำขนมญี่ปุ่นให้เด็ก ๆ ในชุมชนทาน

            แต่ครั้งนี้พวกเขาก็โดนแท็กซี่สนามบินเก็บค่าโดยสารเกินจริงอีก

            เพื่อนผม คุณ A มากัน 11 คน มาถึงเมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลา 18.00 น. พวกเขาขึ้นรถคันใหญ่ 2 คัน แต่คนขับไม่กดมิเตอร์ และเรียกราคา 600 และ 750 บาท ไม่รวมค่าทางด่วน

            ครั้งนี้คนขับก็ขอเก็บบัตรคิวแท็กซี่จากพวกเขาด้วย

            และคุณ A บอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ที่กดบัตรคิวก็มัวแต่เล่นกัน

            ผมพูดเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

            กระทรวงที่รับผิดชอบและผู้ที่ดูแลสนามบินควรจะทราบว่า แท็กซี่สนามบินและเจ้าหน้าที่บางคนได้สร้างความอับอายให้ประเทศไทย

            พวกเขาจะรู้ไหมว่าเรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย และทำให้ประเทศสูญเสียหลายสิ่ง

            ครั้งที่แล้วที่ผมพูดเรื่องนี้ไป ก็มีคนขับแท็กซี่มาต่อว่าผม มีแม้กระทั่งข่มขู่

            บางคนก็เอารูปที่ไม่ใช่รูปผมมาอ้าง

            แต่ลองคิดดูนะครับ ถึงรายได้จะน้อย ถึงประสิทธิภาพจะไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว

            การที่คนขับบ่นต่อว่ากับผู้โดยสาร พวกเขาน่าจะไปพูดกับกระทรวง หรือผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่านักท่องเที่ยวนะครับ

            ครั้งนี้กลุ่มของคุณ A มาทำจิตอาสาให้เด็ก ๆ ในชุมชนในไทย โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรเลย

            พอเกิดเรื่องครั้งก่อนก็มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจรถแท็กซี่ ผู้บริหารสนามบินก็ขอโทษผม แต่พอผ่านมาแค่ 2 เดือนทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิมอีก

            ผมพูดหลายครั้งแล้วนะครับว่าสนามบินคือประตูสู่ประเทศ นักท่องเที่ยวควรจะได้รับการบริการที่ปลอดภัยครับ
           
            และสนามบินก็คือหน้าตาของประเทศเช่นกันครับ

            ผมอยากจะบอกว่า ผู้ที่รับผิดชอบควรจะยอมรับว่าความน่าอายก็คือความน่าอายครับ

            ช่วยทำให้สนามบินเป็นสนามบินที่ปกติสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ ผมอยากจะฝากบอกกับรัฐบาลด้วยครับ"




ภาพจาก เฟซบุ๊ก Koki Aki

.


sithiphong:
ไม่ใช่เรื่องเมา เหล้า


แต่ไม่รู้ว่า แก๊งที่ออกแบบ ทางม้าลาย

คิดอย่างไร

ถ้าให้ดี  ต้องให้แก๊งที่ออกแบบ  มาข้ามทุกวัน



-------------------------------------------------------------


เตือนภัย ออกแบบทางม้าลายสุดชุ่ย หลุดโค้ง ต้นไม้บัง คนข้ามถูกรถชนดับ


-http://hilight.kapook.com/view/119195-


หญิงจูงจักรยานข้ามทางม้าลายถูกรถชนดับ ชาวเน็ตวิจารณ์เละคนออกแบบทางม้าลายสุดชุ่ย อยู่หลังทางโค้ง คนในพื้นที่กลัวเสี่ยงตายไม่กล้าข้าม

              เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 เมษายน 2558 ได้เกิดเหตุรถยนต์ ทะเบียนป้ายแเดง ร-3607 กทม. พุ่งชนผู้หญิงรายหนึ่งที่กำลังจูงจักรยานข้ามทางม้าลาย บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 37 ถนนสุขสวัสดิ์ ขาออก เป็นเหตุให้หญิงรายนี้เสียชีวิต โดยร่างกระเด็นไปไกลกว่าจุดเกิดเหตุหลายเมตร ขณะที่คนขับรถยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ

              อย่างไรก็ตามจากข่าวนี้ได้ทำให้ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรเป็นประจำ เข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านสังคมออนไลน์ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการออกแบบทางข้ามม้าลายที่ไม่เหมาะสมด้วย ดังเช่นที่คอมเม้นท์กันใน เฟซบุ๊ก FM. 91 Trafficpro ระบุว่า ถนนเส้นดังกล่าวเป็นทางโค้ง เมื่อหมดทางโค้งกลับเป็นทางม้าลายเลย ถ้ารถขับมาเร็ว ๆ ไม่ระวังก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้

              อีกทั้งยังมีพุ่มไม้บนเกาะกลางถนนมาบดบังทัศนวิสัย โดยเฉพาะคนขับเลนขวา เมื่อหลุดโค้งมาก็แทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามีทางม้าลายอยู่ข้างหน้า ทำให้คนในพื้นที่หลายคนจะไม่ค่อยกล้าข้าม เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ จึงอยากให้ทำป้ายเตือนติดไว้ให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังทางม้าลายข้างหน้าบ้าง เพราะนี่ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้น

              ขณะที่คุณ ปอ.2 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ก็ได้ตั้งกระทู้ถึงเรื่องนี้ เพื่อไม่อยากให้เป็นเพียงอุบัติเหตุเงียบ ๆ แล้วจบไป หากแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งแก้ไขปัญหา เพราะเห็นได้ชัดเจนว่าการออกแบบทางม้าลายที่ไม่เหมาะสม นำมาซึ่งเหตุสลดใจเช่นนี้ พร้อมกับยังเตือนให้ผู้ใช้จักรยานในชีวิตประจำวันต้องหูไวตาไว และประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง



ภาพจาก  เฟซบุ๊ก FM. 91 Trafficpro โดย คุณนิรันทร์ กู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสราษฎร์บูรณะ 29



sithiphong:
สาวขับเก๋งสารภาพสิ้น เมาแฮงค์-วูบหลับ พุ่งชนนักปั่น 3 ศพ

-http://news.sanook.com/1790026/-

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

เหตุสลดรับอรุณ สาวขับเก๋งพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยาน 3 ศพ สารภาพยังเมาแฮงค์ จากปาร์ตี้เมื่อคืน วูบหลับ-เสียหลักชน

(3 พ.ค.) จากกรณีรถเก๋งพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณถนนทางหลวงสาย 118 เชียงใหม่-เชียงราย พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นเหตุทำให้มีนักปั่นเสียชีวิตทันที 3 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 5-6 คน ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน น.ส.ภัทร์ชุดา อายุ 24 ปี ผู้ขับขี่รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ที่ก่อเหตุ ยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ได้ไปเที่ยวสังสรรค์กับกลุ่มที่เมืองเชียงใหม่ และได้นอนพักประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนจะขับรถกลับบ้าน แต่ยังคงมีอาการแฮงค์อยู่

เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนยังรู้สึกง่วงอยู่ ก่อนจะเกิดอาการวูบไป เป็นทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยานพอดี และยังทำให้รถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำกลางถนนอีกด้วย ทั้งนี้จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ น.ส.ภัทร์ชุดา พบว่ามีปริมาณ 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงกว่าข้อกำหนดตามกฎหมาย จึงได้แจ้งข้อหาเมาแล้วขับ เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต


sithiphong:
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน โพสต์เตือน “เมา+ขับ=ฆาตกร“

-http://news.sanook.com/1790778/-

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com



จากกรณีเมื่อเช้าตรู่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดกรณี นักศึกษาสาวขับรถเก๋งพุ่งชนกลุ่มผู้สูงอายุปั่นรถจักรยานออกกำลังกาย อยู่บริเวณริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวกลับจากดื่มกินกับเพื่อนๆ คาดอาจเกิดจากอาการมึนเมาสุรา หรือไม่อาจหลับในหญิงสาวขับขี่รถเก๋งพุ่งชนนักปั่นจักรยานจนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 2 คนขณะมีอาการเมาสุรา

ล่าสุด ดาราหนุ่มและไฮโซชื่อดัง "ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" ได้โพสต์ข้อความบนอินสตาแกรม @nutt_devahastin แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า

"โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนถนนที่ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งที่เกี่ยวข้องกับคนเดินถนน รวมถึงคนที่ร่วมแบ่งปันใช้ถนนไม่ว่าจะเป็นพาหนะอะไรก็ตาม แต่ในฐานะคนที่เคยใช้พาหนะเกือบทุกประเภท ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์(ซึ่งผมเลิกขี่แล้วเนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุล้มด้วยตัวเอง) รวมถึงจักรยาน จึงทำให้เกิดความเข้าใจถึงความสะดวกปลอดภัย รวมถึงความเสี่ยงที่มากับทุกพาหนะที่มีอยู่บนท้องถนน

ในความเป็นจริงเราทุกคนคงต้องยอมรับว่าทุกพาหนะมีความเสี่ยง แต่สิ่งที่ทุกคนที่ร่วมแบ่งปันพื้นที่บนท้องถนนไม่ว่าคุณจะใช้พาหนะอะไรก็ตามต้องมี คือความรับผิดชอบต่อชีวิตตนเองรวมถึงผู้อื่นที่ร่วมแชร์พื้นที่ "สาธารณะ"นี้ด้วย

แน่นอนกฏหมายบ้านเราเกี่ยวกับการเมาแล้วขับอาจยังไม่รุนแรงเท่ากับต่างประเทศแต่เราก็ได้เห็นการพัฒนาในความเข้มงวดกวดขันที่เพิ่มขึ้นของผู้รักษากฏหมายรวมถึงกระบวนการยุติธรรมที่มีมากขึ้นทุกครั้งที่เกิดความสูญเสีย ซึ่งก็ถือเป็นเป็นเรื่องดี แต่เราควรถามตัวเองหรือไม่ว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรก และการแก้ปัญหาของเราเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ (โดยการแก้กฏหมายหรือคาดโทษลงทัณฑ์ผู้กระทำผิดให้มากขึ้น) ในทางกลับกันผมกลับมองว่าเป็นหน้าที่เราทุกคนที่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเรา "คนไทย" ควรเริ่มกลับมามองตนเองและพิจารณาว่าเราได้ตระหนักถึงปัญหาในการเมาแล้วขับขนาดไหน

ผมเชื่อว่าเราเกือบทุกคนเคยดื่มแล้วขับด้วยเหตุผลที่คิดว่าเราขับได้ ไม่เมามาก ไม่อยากจอดรถทิ้งไว้ หรือไม่ไว้ใจบริการขนส่งมวลชนและบริการอื่นๆที่เริ่มมีมากขึ้นในสังคมสำหรับคนที่ดื่มและมีพาหนะส่วนตัว ดังนั้นผมจึงอยากให้เราทุกคนเริ่มสร้าง"ค่านิยม"ใหม่ๆกับตัวเองและคนรอบข้างโดยการ "หยุดขับ" ถ้าคุณคิดจะดื่ม และวางแผนการเดินทางล่วงหน้าก่อนขาดสติ เพราะครั้งที่คุณล้วงกระเป๋าแล้วหยิบกุญแจรถขึ้นมาหลังจากที่คุณดื่มเหล้า(ต่อให้เป็นปริมาณมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม) คุณก็ไม่ต่างอะไรจากฆาตกรที่รอก่อเหตุ เพียงแต่ไม่รู้ว่า "เหยื่อ" ของคุณจะเป็นใครแค่นั้นเอง...ทุกครั้งที่ผมได้ยินคำว่า "ขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจ" ผมมักจะตอบกลับไปเสมอในเชิงหยิกแกมหยอกว่า "ไม่เป็นไร คราวหน้าก็ขอให้ตั้งใจนะ จะได้ไม่เกิดขึ้นอีก

ขอแสดงความเสียใจกับทุกชีวิตและครอบครัวที่สูญเสียคนรักไปครับ หวังว่าพวกเราจะได้ตื่นจากการหลอกตัวเองแล้วเริ่มจริงจังกับเรื่องนี้ซะที เริ่มต้นจากตัวคุณและคนรอบข้าง เพราะการสร้าง "จิตสำนึก" ให้เด็กรุ่นใหม่จะไร้ค่าหากผู้ใหญ่อย่างเรายังทำไม่ได้และใช้คำพูดมักง่ายว่า ไม่เป็นไร"

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากอินสตาแกรม @nutt_devahastin

sithiphong:
.

เพื่อนนศ.เมาชนจักรยาน โพสต์แรง ฉุนเพื่อนถูกด่า

-http://news.sanook.com/1790894/-



นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(5 พ.ค.) จากกรณี น.ส.ภัทร์ชุดา อายุ 24 ปี นักศึกษาสาวจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ขับรถชนคนขับจักรยานจนเสียชีวิต 3 ศพ โดยยอมรับว่า ตนเองเมาและมีอาการหลับใน จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์แต่ต่อว่าอย่างรุนแรงที่เมาแล้วขับ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น

ล่าสุด เพจ The Dark Knights lll เปิดเผยข้อความจากเพื่อนของ น.ส.ภัทร์ชุดา ที่ออกมาระบายถึงคนที่ด่าเพื่อนของตนเองเรื่องเมาสุรา ทั้งๆที่คนที่มาด่าก็เป็นนักดื่มทั้งนั้น พร้อมระบุว่าเพื่อนไม่ได้ตั้งใจและขณะนี้สภาพจิตใจแย่มาก ...

"แต่ละคนที่มาด่า มาว่า มาแช่ง ก็สาวกสุราทั้งนั้น ระวังซักวันจะถึงคราวตัวเอง แล้วจะพูดไม่ออก แล้วจะโดนย่ำอีกที คือเข้าใจ เห็นใจ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นคนในครอบครัวเราทำไง แล้วลองนึกอีกมุม ถ้าคนที่ขับรถชนเป็นเราล่ะ จะทำไง เราก็ไม่ได้ตั้งใจ จะทำไง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอบ ! ตอนนี้สภาพจิตใจเพื่อนเหมือนตายทั้งเป็น #โลกสวยใจหมา"

ทั้งนี้ ข้อความดังกล่าวยิ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างหนักขึ้นไปอีก เพราะการเมาสุราไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องมีจิตสำนึก เพราะการเมาแล้วขับขี่ยานพาหนะนั้นผิดทั้งกฎหมาย และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากเหตุการณ์ชนนักปั่นจักรยานดับ 3 ศพเหตุการณ์เดียวกันนี้ เมื่อวาน (4 พ.ค.) มีกรณีที่หนุ่มรายหนึ่งโพสต์ข้อความด่านักปั่นจักรยานด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสม ทำให้ถูกบริษัทไล่ออกเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม (อ่านข่าว : หนุ่มโพสต์ด่านักปั่นจักรยาน สุดท้ายถูกบริษัทไล่ออก)




-----------------------------------------------------------------

หนุ่มโพสต์ด่านักปั่นจักรยาน สุดท้ายถูกบริษัทไล่ออก

-http://news.sanook.com/1790614/-



นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

จากเหตุการณ์นักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เมาแล้วขับรถชนกลุ่มนักปั่นจักรยานที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้นักปั่นจักรยาน และต่างเรียกร้องหาความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถจักรยาน พร้อมทั้งขอให้ลงโทษผู้ที่เมาแล้วขับอย่างเด็ดขาด

แต่อย่างไรก็ตาม กลับมีหนุ่มรายหนึ่ง โพสต์ข้อความด่ากลุ่มนักปั่นจักรยานว่าเป็นพวกชอบโชว์ ปั่นขวางถนน แถมยังขู่ว่าถ้าเจอจะขับรถชนให้หมด จนข้อความดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อพร้อมกับเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรง



ล่าสุด (4 พ.ค.) ทางบริษัทต้นสังกัดของหนุ่มคนดังกล่าวได้มีหนังสือไล่ออก ระบุว่า หนุ่มคนดังกล่าวเพิ่งเริ่มงานในบริษัทแห่งนี้ได้ 1 เดือน และอยู่ในช่วงทดลองงาน ยังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ แต่เนื่องจากใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม แม้จะเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ทางบริษัทฯ จะขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการพิจารณาให้พนักงานคนดังกล่าวไม่ผ่านการทดลองงาน

ต่อมาหนุ่มรายนี้ได้โพสต์ข้อความขอโทษผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ได้ทำลงไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีอคติต่อนักปั่นจักรยานแต่อย่างใด ตอนนี้สำนึกและยอมรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอรับรองว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกต่อไป และการกระทำดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางบริษัทแต่อย่างใด




-----------------------------------------------------------------


--- อ้างจาก: sithiphong ที่ พฤษภาคม 03, 2015, 04:59:51 pm ---สาวขับเก๋งสารภาพสิ้น เมาแฮงค์-วูบหลับ พุ่งชนนักปั่น 3 ศพ

-http://news.sanook.com/1790026/-

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

เหตุสลดรับอรุณ สาวขับเก๋งพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยาน 3 ศพ สารภาพยังเมาแฮงค์ จากปาร์ตี้เมื่อคืน วูบหลับ-เสียหลักชน

(3 พ.ค.) จากกรณีรถเก๋งพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณถนนทางหลวงสาย 118 เชียงใหม่-เชียงราย พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นเหตุทำให้มีนักปั่นเสียชีวิตทันที 3 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 5-6 คน ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน น.ส.ภัทร์ชุดา อายุ 24 ปี ผู้ขับขี่รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ที่ก่อเหตุ ยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ได้ไปเที่ยวสังสรรค์กับกลุ่มที่เมืองเชียงใหม่ และได้นอนพักประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนจะขับรถกลับบ้าน แต่ยังคงมีอาการแฮงค์อยู่

เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนยังรู้สึกง่วงอยู่ ก่อนจะเกิดอาการวูบไป เป็นทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยานพอดี และยังทำให้รถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำกลางถนนอีกด้วย ทั้งนี้จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ น.ส.ภัทร์ชุดา พบว่ามีปริมาณ 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงกว่าข้อกำหนดตามกฎหมาย จึงได้แจ้งข้อหาเมาแล้วขับ เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

--- End quote ---

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version