ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานเต๋าเผชิญรับปีม้า'57 ชายชรา กับ 'อาชาที่เตลิดหนีไป!  (อ่าน 1153 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
นิทานเต๋าเผชิญรับปีม้า'57 ชายชรา กับ 'อาชาที่เตลิดหนีไป!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    2 มกราคม 2557 14:59 น.

-http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000000503-



ภาพเขียน 'ชาย กับ ม้า' ผลงานเอกของ 'จ้าว เมิ่งฝู่ (赵孟頫, ค.ศ. 1254–1322)จิตรกรผู้มีชื่อเสียงในยุคราชวงศ์หยวน คาดว่าเขียนขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1296 โดยเป็นส่วนหนึ่งของภาพที่วาดลงบนผืนม้วนกระดาษด้วยสีและน้ำหมึก มีขนาดกว้าง 30.2 ซม. ยาว 178.1 ซม.)

       'ชีวิตที่เป็นสุข ไร้ทุกข์' นั้นเป็นสิ่งปรารถนาของผู้คน แต่ในความเป็นจริงแต่ละวัน จิตใจต่างถูกกระทบด้วยเรื่องราวมากมาย ในโอกาสปีม้า 2557 นี้ มุมจีน ขอนำนิทานเต๋า เกี่ยวกับการวางความรู้สึกนึกคิดเผชิญชีวิต - ผ่านเคราะห์กรรมต่างๆ ของ ชายชรา กับ 'อาชาที่เตลิดหนีไป! ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในนิทานเต๋า ที่ถูกบอกเล่ากันอย่างแพร่หลายมาเสนออีกครั้ง โดยเรื่องเล่าต่อๆ กันมานั้น มีดังนี้
       
       ในชนบทจีนแห่งหนึ่ง มีชายเฒ่านามว่า 'เซ่ย์ เหวง ผู้ซึ่งทำงานหนักมาตลอดทั้งชีวิต เขามีลูกชายที่กตัญญู และมีม้าชั้นเลิศอยู่ 1 ตัว ซึ่งม้าเพศเมียตัวนี้ สวยงามและมีความสามารถอันหลากหลาย ด้วยเป็นม้าที่ฝึกมาดีแล้ว ช่วยงานเขาทั้งในการเดินทางไกล และทำไร่ไถนา ขนาดที่เพื่อนบ้านยังต่างชื่นชม และว่า เขาช่างเป็นคนที่โชคดีที่สุดในหมู่บ้าน
       
       ชายชราได้ยิน กลับบอกสั้นๆ เพียงว่า โชคดี น่ะหรือ? ใครเล่าจะบอกได้?
       
       อยู่มาจนเช้าวันหนึ่ง เมื่อเขาตื่นขึ้นมาได้พบว่า ม้าสารพัดนึกของเขาตัวนี้ เตลิดหายไปไร้วี่แวว เขาจึงต้องเดินเท้าไปไหนมาไหนแทน โดยไม่มีม้าตัวนั้นอีกต่อไป
       
       เมื่อเพื่อนบ้านเห็นความโชคร้ายที่เกิดขึ้นกับชายเฒ่า ต่างก็เวทนาและกล่าวแสดงความเห็นใจในความอาภัพอับโชค ช่างตีเหล็กบอกว่า ชายชราคงช้ำตรมแต่ต้องฝืนยิ้มรับโชคร้ายที่เกิดขึ้น
       
       "โชคร้ายน่ะหรือ? ใครเล่าจะบอกได้?" ผู้เฒ่าตอบ
       
       เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ม้าหายไป ชายเฒ่าก็ตื่นขึ้นมาพบว่า ม้าตัวเดิมนั้นได้กลับมาที่บ้านพร้อมกับนำม้าป่าหนุ่มอีก 1 ตัว ตามมาอยู่ด้วย เมื่อเป็นดังนั้น เขาจึงกลายเป็นผู้ที่ครอบครองม้าชั้นเลิศ แถมม้าป่าหนุ่มสูงสง่ามากอีกตัว
       
       ทันทีที่ข่าวการได้ม้ากลับคืน พร้อมกับม้าป่า แพร่อออกไป ชาวบ้านต่างมาร่วมยินดีกับชายชรา พร้อมกล่าวว่า เขาช่างเป็นชายเฒ่าผู้โชคดีเหลือเกิน
       
       เช่นเคย เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขากลับบอกสั้นๆ เพียงว่า โชคดีน่ะหรือ? ใครเล่าจะบอกได้?
       
       ชายชรา แม้จะได้ม้าป่าตัวใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ยินดี ด้วยพิจารณาตนเอง กับสิ่งที่ได้มานั้น เป็นเรื่องเกินกำลัง เขาแก่เกินกว่าจะฝึกม้าตัวนี้ ขณะที่ลูกชายของเขาปรารถนาจะครอบครอง แต่กลับกลายเป็นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาหัก พิการตลอดชีวิตมานับแต่วันนั้น เพราะพยายามจะบังคับควบขึ่ จนถูกดีดตกจากหลังของมัน
       
       เพื่อนบ้าน ต่างมาแสดงความเสียใจกับเคราะห์กรรมบุตร และภาระฯ ที่เพิ่มขึ้นของชายชรา
       
       "เคราะห์กรรม น่ะหรือ? ใครเล่าจะบอกได้?" ชายเฒ่ากล่าว
       
       เวลาผ่านไป 1 ปี กองทัพในแว่นแคว้น ได้ประกาศระดมเกณฑ์กำลังพลคนหนุ่มไปรบกับข้าศึก ชายหนุ่มต่างถูกเกณฑ์ไปจนหมดหมู่บ้านฯ ทิ้งบิดา มารดาแก่ชรา เด็ก และผู้หญิง อยู่กันเพียงลำพัง คงเหลือเพียงลูกชายขาพิการของผู้เฒ่าม้าเคยหายคนนี้เอง ที่ไม่ต้องถูกเกณฑ์ไปในสงครามซึ่งรบอย่างยืดเยื้อยาวนาน และปราชัยพ่ายแพ้ เป็นเหตุให้เด็กหนุ่มของหมู่บ้านซึ่งถูกเกณฑ์ไปต่างเสียชีวิตหมดสิ้น ไม่มีใครได้กลับบ้านมาหาครอบครัวอีกเลย
       
       ในความเป็นเต๋านั้น สรรพสิ่งหรือทุกคู่ตรงข้ามล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น เมื่อละทิ้งชีวิตภายในได้ ก็ย่อมเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียวไม่ขัดแย้งกับธรรมชาติภายนอกอีกต่อไป... 'การตามลิขิตกรรม' ของชายเฒ่า นับเป็นหนึ่งในหนทางสู่ความสงบ รอดพ้นจากเคราะห์กรรมที่ขึ้น-ลงของชีวิต




http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000000503
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)