ผู้เขียน หัวข้อ: ตำรวจเร่งสืบหาโจรมอมยาผู้ป่วย-อย.เตือนไซลาซีนอันตราย  (อ่าน 1341 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ตำรวจเร่งสืบหาโจรมอมยาผู้ป่วย-อย.เตือนไซลาซีนอันตราย
-http://health.kapook.com/view73578.html-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ตำรวจพบชายต้องสงสัยอาจเอี่ยวมอมยาผู้ป่วยใน รพ.รามาธิบดี เร่งสืบเกี่ยวคดีมอมยาพระหรือไม่ ขณะที่ อย. เตือน สารไซลาซีนอันตราย ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

          จากกรณีที่โรงพยาบาลรามาธิบดีประกาศเตือนให้ผู้ป่วย ญาติ และผู้ที่มารอรับบริการระมัดระวังตัว หลังพบมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในโรงพยาบาล แล้วใช้สารไซลาซีน (xylazine) มาผสมน้ำและนำไปให้ผู้ป่วยที่รอรับการรักษาดื่ม ทำให้ผู้ป่วยหมดสติจนเกือบเสียชีวิต ก่อนจะถูกปลดทรัพย์ไปนั้น

          ความคืบหน้าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ตุลาคม 2556 พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลรามาธิบดี อย่างละเอียด เบื้องต้นพบว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักษณะนี้ประมาณ 5 ครั้ง แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งหาตัวคนร้าย

          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกับทางโรงพยาบาล พบภาพผู้ต้องสงสัยเป็นชาย อายุประมาณ 40-50 ปี มีรูปร่างสูงใหญ่ ใส่ผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้า เข้าไปใกล้ชิดกับผู้เสียหาย และกำลังตรวจสอบว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับคดีมอมยารูดทรัพย์พระภิกษุที่สถานีขนส่งหมอชิต และที่โรพยาบาลสงฆ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหรือไม่

          ขณะที่ในวันเดียวกัน ภญ.ประภัสสร ธนะผลเลิศ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สารไซลาซีน (xylazine) ถือเป็นยาอันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยมีฤทธิ์สงบประสาทส่วนกลาง มักใช้ในการเคลื่อนย้ายสัตว์ จึงไม่มีรายการความผิดปกติในคนมากนัก

          อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อมูลทางวิชาการพบว่า หากนำมาใช้กับคนจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปัสสาวะมาก ทำให้ความดันต่ำลง น้ำตาลในเลือดสูง ปากแห้ง ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและระบบเลือด ซึ่งหากผู้ได้รับยาเป็นเด็ก คนชรา หรือหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้มีโรคประจำตัว ก็จะยิ่งส่งผลรุนแรงกว่าคนทั่วไป

          ทั้งนี้ ภญ.ประภัสสร ระบุด้วยว่า สัปดาห์หน้า ทาง อย. จะประชุมเพื่อหามาตรการควบคุมการซื้อขายยาชนิดนี้ในร้านขายยา เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิด



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก INN และ
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381485634&grpid=00&catid=&subcatid=-

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
อย.ชี้"สารไซลาซีน"อันตราย! เผยมิจฉาชีพลักลอบผสมน้ำแล้ว"มอมยา"คนไข้รพ.รามาฯ ก่อนปลดทรัพย์
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381485634&grpid=00&catid=&subcatid=-

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ว่า  รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ส่งหนังสือเวียนถึงหน่วยงานต่างๆภายในโรงพยาบาล โดยระบุว่า เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาปลดทรัพย์ผู้ป่วยนอก ที่รอรับการรักษาในโรงพยาบาลฯ โดยใช้สารไซลาซีน  (Xylazine) เป็นสารที่ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี และดูดซึมได้เร็วทางกระเพาะอาหาร จนทำให้ผู้ป่วยหมดสติและอาจเสียชีวิตได้ โดยวิธีการผสมกับน้ำแล้วนำมาให้ผู้ที่รอรับบริการในโรงพยาบาลฯ ดื่ม อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลฯได้สอบถามทางสถานีตำรวจพญาไท ปรากฏว่า ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลอื่นๆ เช่นกัน

 

  ล่าสุดโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ออกแถลงการณ์เรื่องนี้ว่า  ตามที่มีเหตุการณ์ที่ผู้มารับบริการถูกมิจฉาชีพหลอกให้ดื่มน้ำที่ผสมยา จนทำให้หมดสติและปลดทรัพย์ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีมีความห่วงใยผู้มาใช้บริการ เนื่องจากในแต่ละวันมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และอาจมีมิจฉาชีพปะปนอยู่  ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงออกประกาศแจ้งเตือนเป็นการภายในเพื่อให้ผู้ป่วยและญาติระวังตัวมากขึ้นพร้อมเน้นย้ำบุคลากรในเรื่องมาตรการความปลอดภัย ส่วนมาตรการเรื่องยานั้นทางโรงพยาบาลได้เรียนประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แล้ว เพื่อหาแนวทางป้องกันในระยะยาวต่อไป

 


ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน  ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารแลยา(อย.) ภญ.ประภัสสร ธนะผลเลิศ รักษาการผู้อำนวยการสำนักยา อย. กล่าวว่า สารไซลาซีน  (Xylazine) จัดเป็นตำรับยาสำหรับสัตว์ เป็นยาอันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยข้อบ่งชี้สำหรับยานี้ จะมีฤทธิ์เพื่อสงบประสาทส่วนกลาง ซึ่งส่วนมากจะใช้ในการเคลื่อนย้ายสัตว์ เพราะยาจะทำให้สัตว์มีความสงบ โดยในประเทศไทยมีการขึ้นทะเบียนยาดังกล่าว 9 รายการในจำนวนนี้นำเข้า 3 รายการ จากประเทศฝรั่งเศส สเปน และเนเธอแลนด์  ทั้งนี้ ยาดังกล่าวเป็นยาที่ใช้สำหรับสัตว์ ดังนั้น จึงไม่มีรายการว่าใช้ในคนแล้วจะเป็นอย่างไร แต่มีข้อมูลทางวิชาการว่า จะทำให้หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปัสสาวะมาก ทำให้ความดันต่ำลง น้ำตาลในเลือดสูง ปากแห้ง และทำให้อาการในระบบทางเดินหายใจและระบบเลือด

 

 “เนื่องจากสารดังกล่าวเป็นยาที่ใช้ในสัตว์ จึงไม่มีรายการความผิดปกติในคนมากนัก แต่มักพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะอาศัยผลข้างเคียงของยามาใช้ในทางที่ผิดเสมอ ซึ่งเป็นหน้าที่ อย.ต้องเฝ้าระวัง โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การใช้ในโรงพยาบาล หากผู้ได้รับยาเป็นผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็ก หรือ ผู้มีโรคประจำตัว ก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงกว่าคนปกติทั่วไป”ภญ.ประภัสสร

 

    ภญ.ประภัสสร กล่าวว่า สารดังกล่าวถือเป็นยาอันตราย แต่สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาที่มีเภสัชกร   ซึ่งในสัปดาห์หน้า อย.จะมีการประชุมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหามาตรการควบคุมไม่ให้มิจฉาชีพนำยาดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดต่อไป  โดยที่ผ่านมา เมื่อพบผลกระทบจากยาบางกลุ่มที่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะมีการยกระดับ เช่น กลุ่มยาสลบที่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิดจำนวนมาก อาทิ ยาเคตามีน (Ketamine)   ซึ่งเป็นกลุ่มยาสลบก็มีการยกระดับเป็นยาควบคุมพิเศษ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม การยกระดับยาใดๆ ก็ตาม จะต้องประเมินผลกระทบในการเข้าถึงยาตัวนั้นๆไปพร้อมกันด้วย  ทั้งนี้ สารไซลาซีน จัดเป็นสารที่มีความเข้มข้นน้อยกว่ากลุ่มยาเคตามีน เนื่องจากใช้ทำให้สัตว์สงบเท่านั้น โดยการใช้ในสัตว์มีข้อบ่งชี้ว่า ปริมาณที่ใช้ตามน้ำหนักของสัตว์ โดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ จะออกฤทธิ์ใน 3-5 นาที และมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 20 นาที ส่วนระยะเวลาการออกฤทธิ์ในคนนั้น ไม่มีรายงาน

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สมเกียรติ เพ็ชรงาม โจรมอมยา รพ.รามาฯ รับสารภาพทำมา 18 ครั้ง
-http://hilight.kapook.com/view/92478-




สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          สมเกียรติ เพ็ชรงาม โจรมอมยาใน โรงพยาบาลรามาธิบดีถูกจับ โดย นายสมเกียรติ เพ็ชรงาม สารภาพ ตั้งแต่ต้นปี 56 มาทำมาแล้ว  18 ครั้ง เพราะติดหนี้พนันบอล หลังก่อเหตุกบดาน ที่ จ.ตราด
 
          จากกรณีที่โรงพยาบาลรามาธิบดีประกาศเตือนให้ผู้ป่วย ญาติ และผู้ที่มารอรับบริการระมัดระวังตัว หลังพบมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในโรงพยาบาล แล้วใช้สารไซลาซีน (xylazine) มาผสมน้ำและนำไปให้ผู้ป่วยที่รอรับการรักษาดื่ม ทำให้ผู้ป่วยหมดสติจนเกือบเสียชีวิต ก่อนจะถูกปลดทรัพย์ไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลรามาธิบดีพบว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง  กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. เปิดเผย ว่าได้จับกุมผู้ต้องหามอมยารูดทรัพย์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีได้แล้ว

          ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (19 ตุลาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์สืบสวนสอบสวนนครบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 1 นำตัว นายสมเกียรติ เพ็ชรงาม อายุ 43 ปี ชาวฉะเชิงเทรา แถลงข่าว หลัง นายสมเกียรติ เพ็ชรงาม  ถูกจับกุม ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาพยายามฆ่า ปลอมปนสารในอาหาร และข้อหาชิงทรัพย์ หลังก่อเหตุใช้สารไซลาซีน หรือยาสลบที่ใช้กับสัตว์ ล่อลวงให้ นางวัชรี เดชทวิสุทธิ์ อายุ 69 ปี หมดสติ

          จากนั้น นายสมเกียรติ เพ็ชรงาม ชิงทรัพย์ โทรศัพท์มือถือมูลค่า 12,000 บาท และเงินสด 2,000 บาท รวมถึง บัตรเอทีเอ็ม ที่นำไปกดเงินสดอีกมูลค่า 38,300 บาท ขณะรอพบแพทย์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา
 
          เบื้องต้น นายสมเกียรติ ให้การรับสารภาพว่า หลังพ้นโทษคดีลักทรัพย์ เมื่อต้นปี 2556 ตนเองไม่มีงานทำ ประกอบกับเป็นหนี้พนันฟุตบอล จึงได้ก่อเหตุใช้สารไซลาซีน ที่มีความรู้มาจากการแนะนำของสัตวแพทย์ เมื่อครั้งนำสุนัขของตนเองไปรักษา ก่อนจะวางแผนนำมาผสมกับน้ำและอาหารถวายให้กับพระสงฆ์ในย่านหมอชิต และหัวลำโพง รวมทั้งโรงพยาบาลต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นปี 18 ครั้ง จนกระทั่งตกเป็นข่าว จึงได้หยุดก่อเหตุ และล่าสุดได้ก่อเหตุ กับ นางวัชรี ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก่อนหลบหนีไปกบดานที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด จนถูกจับกุมตัวในที่สุด





INN
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)