ผู้เขียน หัวข้อ: วิถีแห่งเต๋า หลักธรรม มณีปัญญา ของ จวงจื๊อ จอมปราชญ์  (อ่าน 5292 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด


               

ดั่งเรือมิได้ผูก
คนเฉียบแหลมมักเหนื่อยยากลำบากกาย คนฉลาดมักจะวิตกกังวล
คนไร้ความสามารถไม่ต้องการอะไร กินอิ่มแล้วก็ท่องเที่ยวไปทุกแห่งหน
ประดุจเรือเปล่าที่มิได้มีเชือกผูกติด
เคลื่อนคล้อยโคลงเคลงไปบนสายน้ำ เป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง

ความฉลาดเฉียบแหลมมักจะนำมาซึ่งความยุ่งยากอันปราศจากที่สิ้นสุด
      เครื่องถ่วงเหล่านี้คนในโลกมักจะไม่สำนึก
                –˜™—



เพื่อวัตถุนอกกายที่แปลกประหลาดพิสดาร
คนในโลกนี้มักจะลืมอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิตตน
นี่เป็นความหลงใหลอย่างหนึ่ง
ถ้าหากต้องเสียชีวิตไปแล้ว จะมิใช่ไม่คุ้มดอกหรือ?
              –˜™—



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด


               

จวงจื๊อใกล้ตาย
จวงจื๊อใกล้ตายแล้ว ลูกศิษย์ของเขาชุมนุมปรึกษาหารือกัน เตรียมจะจัดการฝังศพเขาอย่างมโหฬาร เพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา

จวงจื๊อหัวเราะกล่าวว่า “จำเป็นด้วยหรือ? เมื่อเราตายแล้ว ใช้ฟ้าดินเป็นเปลือกโลง ใช้ดวงเดือนดวงตะวันเป็นผนังโลง ใช้ดวงดาวเป็นไข่มุก ใช้สรรพสิ่งเป็นเครื่องเซ่นไหว้ ดังนี้ พิธีศพของเราก็มิใช่สมบูรณ์ที่สุดแล้วหรือ ? ยังจะมีพิธีฝังศพที่ดีกว่านี้ที่ใดเล่า ?

               

บรรดาลูกศิษย์กล่าวว่า “พวกเราเป็นห่วงว่าท่านอาจารย์จะถูกแร้งกาเอาไปกินหมด !”
จวงจื๊อกล่าวว่า “อยู่บนพื้นดินก็อาจจะถูกแร้งกากินหมด อยู่ใต้ดินก็อาจจะถูกมดปลวกกินหมด เหตุไฉนพวกเจ้าจึงต้องไปแย่งเรามาจากปากแร้งปากกา เอาไปให้มดปลวกกินเล่า ? ทำเช่นนี้จะมิเป็นการเลือกที่รักมักที่ชังไปหน่อยหรือ ?
ความตายเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง การสูญหายและการเปลี่ยนแปลงของเนื้อหนังมังสา ก็ปล่อยให้ธรรมชาติไปจัดการก็แล้วกัน !
                –˜™—

                คัดลอกจาก จวงจื๊อจอมปราชญ์
                แปลโดย บุญศักดิ์  แสงระวี


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด




จวงจื่อ หรือจวงโจว
เดิมชื่อจวงโจว เป็นปรัชญาเมธีและนักศิลปศาสตร์ผู้โด่งดัง แห่ง ลัทธิเต๋าในสมัยจั้นกั๋วอีกท่านหนึ่งต่อจากเหลาจื้อ

จวงจื้อเป็นชาวรัฐซ่ง(มณฑลเหอหนันในปัจจุบัน)เคยเป็นข้าราช การชั้นผู้น้อย เล่ากันว่า จวงจื้อเป็นคนเฉลียวฉลาด และชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก เคยท่องเที่ยวไปตามรัฐต่างๆเพื่อ ศึกษาหาความรู้ด้านประเพณีนิยมพื้นเมือง จวงจื่อถือหลักการว่า จะ ต้องทำตนให้เป็นอิสระ หลุดพ้นจากโลกอันวุ่นวายนี้ ประท้วงจารีต ประเพณีและดูหมิ่นเชื้อพระวงศ์ กษัติริย์รัฐฉู่เคยเชื้อเชิญให้ดำรง ตำแหน่งเสนาบดีรัฐฉู่ด้วยเงินทองก้อนมหึมา แต่ถูกจวงจื้อปฏิเสธ เนื่องจากไม่พอใจสถานการณ์ทางการเมืองและสังคม ในสมัยนั้น จวงจื้อลาออกจากข้าราชการ เลี้ยงชีพด้วยการถักรองเท้าฟาง ไปถ่ายทอดแนวคิดลัทธิเต๋าและ ประพันธ์หนังสือ”จวงจื้อ”ที่มีตัวหนังสือถึงกว่า100,000คำ

หนังสือเรื่อง“จางจื้อ” แบ่งเนื้อหาทั้งหมดเป็น 3 เล่ม ได้แก่ ความเรียงใน ความเรียงนอก และความเรียงปกิณกะ รวม 33 บทด้วยกัน ความเรียงในเป็นบทประพันธ์ของจวงจื้อ ส่วนความเรียงนอก และความเรียงปกิณกะ อาจเป็นบทประพันธ์ของลูกศิษย์และนักปราชญ์รุ่นหลัง เนื้อหาของ ความเรียงในแบ่งเป็น3บท ได้แก่”ฉีอู้ลุ่น” “เซียวเหยาอิ๋ว” และ“ต้าจงซือ” นับเป็นแก่นสารหลักของคัมภีร์เต๋าเล่มนี้ บทประพันธ์เรื่อง”จวงจื้อ” เป็นหนังสือทั้งไพเราะและพิสดาร ถือได้ว่าเป็นวรรณกรรมปรัชญาที่ดี ที่สุดเล่มหนึ่งของโลก ผู้เชี่ยวชาญทั้งจีนและต่างประเทศ ต่างยกย่อง จวงจื้อว่าเป็นนักปรัชญาที่มีความรอบรู้ในวิชาการต่างๆอย่าง กว้างขวาง และมีภาษาหนังสือที่น่าอัศจรรย์ที่สุด


ทางด้านแนวคิดปรัชญานั้น จวงจื้อได้สืบทอดและเชิดชู ส่งเสริมแนวคิดของเหลาจื้อและลัทธิเต๋า ก่อรูปเป็นระบบแนวคิดทาง ปรัชญาที่มีเอกลักษณ์ของตนและท่วงทำนองในการใช้ภาษาหนังสือ ที่มีลักษณะพิเศษของตนขึ้นจวงจื่อเห็นว่า“เต้า”หรือ”เต๋า”เป็นการ ดำรงอยู่ในความเป็นจริงทางภววิสัย “เต๋า”เป็นบ่อเกิดสรรพสิ่งในโลกนี้ สรรพสิ่งในโลกเคลื่อนไหวอย่างไม่รู้สิ้นสุดและก็มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่อุบัติจนดับสูญ อันเป็นกระบวนการที่มักเปรียบเทียบกับพระจันทร์ ที่มีข้างขึ้นข้างแรม โลกนี้ปราศจากขอบเขตทั้งในอวกาศและกาลเวลา

“จวงจื้อฝันเห็นฝีเสื้อ” เป็นเรื่องที่จวงจื้อเล่าในหนังสือ”จวงจื้อ”นั้น นับเป็นเรื่องที่คนรุ่นหลังนำมาอ้างอิงกันมากที่สุดเรื่องหนึ่ง กล่าวคือ ”ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าฝันไปว่าเป็นผีเสื้อโบยบินไปมาอย่างสบายใจ ไม่มีความวิตกกังวลใดๆ ผีเสื้อตัวนี้ไม่รู้เลยว่า มันคือจวงโจว แต่แล้วในทันใดก็ตื่นขึ้นรู้สึกตัวว่า ตัวคือจวงโจว ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เป็นการยากที่จะบอกได้ว่า ตนเองเป็นจวงโจวที่ฝันไปว่าเป็นผีเสื้อตัวนั้น หรือว่า ผีเสื้อตัวนั้นฝันไปว่า มันเป็นจวงโจว ระหว่างผีเสื้อกับจวงโจวนั้น จะต้องแตกต่างกันแน่ๆ


จวงจื้อเลื่อมใสศรัทธาในธรรมชาติ ส่งเสริมเจตนารมณ์ที่ว่า “ ฟ้าดินอยู่เคียงคู่กับข้าพเจ้า สรรพสิ่งต่างๆกับข้าพเจ้า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ” และให้ความเห็นว่า อาณาจักรแห่งชีวิตสูงสุดคืออิสระและ ไม่มีอะไรมาบังคับความเป็นอิสระทางจิตใจได้ หากไม่ใช่การเสพสุข ทางวัตถุและชื่อเสียงอันจอมปลอม แนวคิดดังกล่าวของจวงจื้อได้ส่ง อิทธิพล ต่ออารยธรรมจีนทุกด้านอย่างกว้างขวางลึกซึ้งนับเป็นสิ่ง ล้ำค่าทางจิตใจในประวัติแนวคิดของมนุษยชาติ

“จวงจื้อ”ได้กลายเป็นหนึ่งในคัมภีร์อมตะแห่งลัทธิเต๋าอย่างเป็นทางการในราชวงศ์ถัง(ราวปี618-907) แนวการประพันธ์ของจวงจื้อ มักใช้รูปแบบเล่านิทานบรรยายอุดมคติของตน ทำให้ผู้อ่านเพลิน เพลินไปกับอารมณ์ของตนโดยไม่รู้สึกตัว กลวิธีการเขียนก็มีความพลิกแพลง ตื่นเต้น ลึกลับซับซ้อน เป็นหนึ่งในหนังสือที่เด่นที่สุดของหนังสือ ปรัชญาทั้งหลายในประวัติศาสตร์จีนและก็มีฐานะสำคัญในประวัติ วรรณกรรมของจีน หนังสือเรื่อง”จวงจื้อ”ร่วม กับหนังสืออีกสองเรื่องได้แก่เต้าเต๋อจิง”หรือ“เหลาจื่อ”และโจวอี้” หรือ”อี้จิง”รวมเป็นหนังสือสำคัญ3เล่มที่สะท้อนถึงคุณค่าของลัทธิเต๋าซึ่งเป็นปรัชญาแนวธรรมชาตินิยมได้เป็นอย่างดีที่สุด

-http://thai.cri.cn/chinaabc/chapter17/chapter170202.htm
-http://www.prachathon.org/forum/index.php?topic=7906.msg32067#msg32067




อ่านต่อ.. ปรัชญา: อิสรภาพของอิสรชนในคัมภีร์จวงจื๊อ ค่ะ...
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,8267.0.html