ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีสั่งจิต ป้องกันป่วย ด้วยตัวคุณเอง ( ทันตแพทย์สม สุจีรา )  (อ่าน 1106 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


วิธีสั่งจิต ป้องกันป่วย ด้วยตัวคุณเอง

"ชีวิตของคนเราประกอบด้วยรูปพรรณ ส่วนของรูปก็คือ กาย ส่วนของนามคือ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ

จะเห็นได้ว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ขึ้นอยู่กับนามถึง 4 ส่วน ซึ่งในทางพุทธศาสนาเรียกรวมกันว่า “จิต” ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคบอกไว้ว่า จิตและกายเป็นของคู่กัน แยกออกจากกันไม่ได้ เมื่อส่วนหนึ่งในห้าส่วนเสียหาย องค์รวมก็จะแตกสลายไปตามเหตุปัจจัย

จิตแบ่งออกเป็นสองแบบ คือ จิตสำนึก กับจิตใต้สำนึกซึ่งเทียบได้กับวิถีจิตกับภวังคจิต และจตใต้สำนึกจะมีอิทธิพลต่อชีวิตถึง 90 เปอร์เซ็นต์

หนังสือ เดอะท็อปพาวเวอร์ ได้อธิบายไว้อย่างละเอียดถึงกลไกการทำงานของจิตใต้สำนึก โดยจิตจะควบคุมร่างกายผ่านระบบประสาทอัตโนมัติ และระบบฮอร์โมนเป็นสำคัญ แม้สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีจิตสำนึกอย่าเช่น สุนัข สุกร ช้าง ม้า วัว ควาย ก็สามารถมีสุขภาพที่ดีได้ เพราะการกำงานของจิตใต้สำนึก ซึ่งมีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

ระบบประสาทอัตโนมัติไม่อยู่ภายใต้อำนาจของจิตสำนึก ดังนั้นจิตใต้สำนึกจะมีอิทธิพลต่อระบบประสาทอัตโนมัติอย่างเต็มที่ และที่สำคัญของมนุษย์มีสองชนิด คือ ระบบประสาทซิมพาเทติก และระบบประสาทพาราซิมพาเทติก

ระบบประสาทซิมพาเทติกจะทำงานเมื่อเรามีอารมณ์เชิงลบตื่นเต้น ตกใจ เตรียมต่อสู้หรือหนี ทำให้หลอดเลือดหดตัว หัวใจเต้นรัว ความดันขึ้นสูง

ส่วนพาราซิมพาเทติกจะทำงานเมื่อเรารู้สึกสงบผ่อนคลาย มีสมาธิ มีอารมณ์เชิงบวก หัวใจเต้นช้าลง หลอดเลือดขยาย ความดันลด เมื่อระบบใดทำงาน อีกระบบจะปิดตัวลง

ฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน อินซูลิน เมลาโทนิน ฯลฯ ซึ่งทำให้เกิดความสุข ความรู้สึกสบาย ถูกกระตุ้นจากระบบประสาทพาราซิมพาเทติก และในทางตรงกันข้าม ฮอร์โมนอะดรีนาลินกลูคากอน คอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดถูกกระตุ้นโดยระบบประสาทซิมพาเทติก"



คุณหมอสมเป็นทันตแพทย์ ซึ่งถือว่าเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน ท่านมีความสนใจเป็นพิเศษด้าน พระพุทธศาสนา และเมื่อนำทั้งสองศาสตร์มารวมกัน อธิบายปรากฏการณ์ของจิตใจ จึงน่าสนใจ กลายเป็นวิธีป้องกันความเจ็บป่วยได้ทางหนึ่ง

"วิธีการกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกวิธีหนึ่ง คือการกำหนดยุบหนอ พองหนอ หายใจเข้าท้องพอง หายใจออก ท้องยุบ กระบังลมที่ยกตัวขึ้นลงอย่างช้าๆ ตามจังหวะการหายใจจะกระต้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกผ่านทางเส้นประสาทเส้นที่ 10 โดยเส้นประสาทเส้นนี้จะวิ่งจากสมองลงล่า ผ่านกระบังลมและเช้าควบคุมอวัยวะภายในเกือบทั้งหมด ซึ่งจะควบคุมอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย คือ หัวใจ ปอด หลอดลด กระเพราะ ลำไส้ ถุงน้ำดี ตับ และตับอ่อน ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย หลอดเลือดขยาย ความดันเลือดลดลง ชีพจรเต้นช้า เกิดภาวะสงบ

เนื่องจากสังเกตการณ์เคลื่อนตัวของกระบังลมขณะหายใจได้ชัดเจนขณะท้องพองเมื่อหายใจเข้า และท้องยุบเมื่อหายใจออก การฝึกวิปัสสนากรรมฐานจึงมีผลพลอยได้คือ การกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกด้วย ดังนั้นการฝึกกำหนดพองหนอ ยุบหนอ (พองก่อนยุบ) จะได้ผลต่อการกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกมากกว่าการกำหนดลมหายใจเข้า-ออกที่ปลายจมูก

นอกจากนั้นการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ ก็สามารถกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก เช่น การเดินจงกรม ฝึกโยคะ ไทเก๊ก วูซู ฤาษีดัดตน ฯลฯ จะทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติและฮอร์โมนฝ่ายบวกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรำกระบองของชีวจิตจึงทำให้สุขภาพดีขึ้นอย่างได้ผล เนื่องจากท่ารำกระบองได้ผสมผสานส่วนที่ดีที่สุดของท่าจากศาสตร์แขนงต่างๆ ร่วมกับหลักการทางศัลยศาสตร์กระดูกและข้อทางการแพทย์

การนอนหลับก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้จิตใต้สำนึกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะขณะที่หลับ จิตสำนึกจะหยุดทำงาน ทำให้ระบบอัตโนมัติของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ มีการหลั่งฮอร์โมนฝ่ายบวกออกมามากมาย เช่น เลปติน เทสทอสเทอโรน โกร๊ธฮอร์โมน เมลาโทนิน ฯลฯ

เลปติน เป็นฮอร์โมนที่ช่วยสลายไขมันและทำให้รูปร่างดี ดังนั้นการนอนหลับให้สนิทก็สามารถลดความอ้วนได้โดยที่ไม่ต้องไปเข้าคอร์สใดๆ เลย เทสทอสเทอโรน ป้องกันโรคหลอดเลือดตีบ กล้ามเนื้อบลีบ โรคเบาหวาน โกร๊ธฮอร์โมน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและชะลอความชรา ส่วน เมลาโทนิน มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอยแห่งวัย ต่อสู้หรือป้องกัน โรคมะเร็ง ป้องกันโรคหลอดเลือดอุตัน โรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โรคหัวใจ

การนอนหลับให้สนิทระหว่างเจ็บป่วยจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะขณะหลับ กิเลสตัณหาจะหายไปชั่วขณะ ทำให้จิตใต้สำนึกได้ทำงาน แต่การใช้ยานอนหลับกลับเป็นผลเสีย เพราะยานอนหลับทุกชนิดมีคุณสมบัติกดการทานของสมอง ทำให้จิตไม่สามารถกระตุ้นสมองให้สร้างฮอร์โมนที่จำเป็นได้

เราไม่สามารถใช้จิตสำนึกไปบังคับระบบประสาทอัตโนมัติและฮอร์โมนให้ทำงานตามที่เราต้องการได้ เพราะระบบเหล่านี้ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกทั้งหมด แต่มีวิธีการดังที่กล่าวมาแล้วสำหรับการควบคุมระบบอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ อีก ได้แก่ การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สร้างความเชื่อ ความศรัทธา การควบคุมอารมณ์ ฝึกลดกิเลส ตัณหา การคิดบวก การยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ การออกกำลังกายและการทำงานอดิเรก

สั่งจิตได้ก็ป้องกันความเจ็บป่วยได้ครับ"

จาก http://www.megazy.com/square/Cheewajit
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...