วันทหารผ่านศึก

[sithiphong]

วันทหารผ่านศึก (ประเทศไทย)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วันทหารผ่านศึก ตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เนื่องจากเป็นวันที่รัฐบาลได้จัดตั้ง "องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก" ขึ้นเพื่อให้เป็นหน่วยงานถาวร ทำหน้าที่ให้การสงเคราะห์แก่ "ทหารผ่านศึก" และครอบครัวทหารผ่านศึกโดยตรง โดยมีการร่างพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา[1] จึงถือว่าวันนี้เป็นวันทหารผ่านศึกตลอดมา

วันนี้ของทุกปี องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการ และผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงของชาติ จะร่วมกันจัดพิธีวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเป็นการแสดงความคารวะต่อดวงวิญญาณของเหล่านักรบผู้กล้า และยังมีพิธีสวนสนามที่ลานอเนกประสงค์ กองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ด้วย
อ้างอิง

    Jump up ↑ พระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ. 2491

-http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81_%28%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%29-

.

[sithiphong]

 วันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์

-http://www.lib.ru.ac.th/journal/feb/feb03-VeteranDay.html-




         หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหลังสงครามมหาเอเซียบูรพาสิ้นสุดลง มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดปล่อยจากการเป็นทหาร จึงได้มีเสียงเรียกร้องขอให้ทางการพิจารณาให้ความช่วยเหลือดังนั้น ในปี พ.ศ.2490 กระทรวงกลาโหมอันเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านนี้โดยตรง จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่ กลับจากปฏิบัติการรบ และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบแต่ก็ยังเป็นหน่วยงานที่ไม่เป็นทางการ
             ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ใน
             ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2491 จึงได้ยึดเอาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก โดยมี พลโท ชมะบูรณ์ ไพรีระย่อเดช เป็นผู้อำนวยการคนแรก ในปี พ.ศ.2510 องค์การทหารผ่านศึกได้ปรับเปลี่ยนฐานะมาเป็นองค์การเพื่อการกุศลของรัฐ และเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยได้รับเงินอุดหนุนจากกระทรวงกลาโหมและเงินที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นครั้งคราว ภารกิจหลักขององค์การทหารผ่านศึก ได้แก่ การให้การสงเคราะห์แก่ทหารที่ผ่านการปฎิบัติการรบ และครอบครัวของทหารที่ปฏิบัติการรบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ

    การสงเคราะห์ทางด้านสวัสดิการ เป็นการให้การสงเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไป ที่อยู่อาศัย การศึกษา ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านอวัยวะเทียม

    การสงเคราะห์ทางด้านอาชีพ โดยการฝึกอบรมและการฝึกอาชีพ ให้ความช่วยเหลือในทางด้านการทำงาน จัดหางานให้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    การสงเคราะห์ด้านนิคมเกษตรกรรม จัดสรรที่ทำกินในด้านเกษตรกรรมให้ และให้ความช่วยเหลือทางด้านเครื่องมือและวิชาการ

    การสงเคาระห์ด้านกองทุน โดยการจัดหาเงินทุนให้สมาชิกขององค์การทหารผ่านศึกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ

    การสงเคราะห์ด้านการรักษาพยาบาลให้แก่สมาชิก โดยไม่คิดมูลค่า

    ให้มีการส่งเสริมสิทธิของทหารผ่านศึก โดยการขอสิทธิพิเศษในด้านต่างๆ ให้แก่ทหารผ่านศึก เช่น การขอลดค่าโดยสาร เป็นต้น






      ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารผู้เสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยและอธิปไตยของชาติ ดอกป๊อปปี้ สีแดง นั้น เป็นสัญลักษณ์แทน ทหารผ่านศึก ผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของดอกป๊อปปี้ คือ เลือดของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด ดังนั้นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่เราทั้งหลายจะได้เห็นดอกป๊อปปี้บานสะพรั่งไปทั่วราชอาณาจักร

              สำหรับประเทศไทยแล้ว การจัดทำดอกป๊อปปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึกเกิดจากดำริของ ท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน ที่ต้องการจะดำเนินการหาทุนมาช่วยเหลือทหาร และครอบครัวทหารผ่านศึก ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศจึงได้เลือกเอาดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสงครามในครั้งนั้นทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงและน่าพิศมัยเกิดขึ้น ณ สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอกป๊อปปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ

              สำหรับประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามต่างๆ มาแล้ว โดยมีอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติ ปรากฎเป็นอนุสรณ์อยู่ วีรกรรมของนักรบไทยในการรบได้ขจรขจายไปทั่ว ปรากฎ ต่อสายตาชาวโลก ฉะนั้น เพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทยเช่นเดียวกับในต่างประเทศ และมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก ตั้งแต่ปี 2511 เป็นต้นมา  นับเป็นโอกาสอันดีที่เราท่านทั้งหลายจะได้แสดงความระลึกถึง และช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว ด้วยการซื้อดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึก ผู้กล้าหาญ และเสียสละ ตลอดจนเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีและวีรกรรมของเหล่าทหารหาญที่ทำให้เราอยู่กันอย่างสงบสุขบนผืนแผ่นดินไทย และมีอธิปไตยมีชาติ บ้านเมือง ให้ได้อยู่อาศัย ตราบชั่วลูกชั่วหลานจวบจนปัจจุบัน

บรรณานุกรม

วรนุช อุษณกร. ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2543.
http://www.navy.mi.th/

ภาพประกอบ   http://www.thaiveterans.mod.go.th/

ข้อมูลโดย : กลุ่มนักศึกษาฝึกงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด

[sithiphong]

ทำไม “ดอกป๊อปปี้” จึงเป็นตัวแทน วันทหารผ่านศึก

-http://club.sanook.com/23044/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B9%8A%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B8%88%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99-


ทำไม “ดอกป๊อปปี้” ถึงเป็นตัวแทนใน วันทหารผ่านศึก

 

อีกไม่กี่วัน ก็ย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ และเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ” วันวาเลนไทน์ ” อย่างแน่นอนค่ะ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เรายังมีอีกหนึ่งวันสำคัญที่อยากจะให้พวกเราระลึกถึง นั่นก็คือ “วันทหารผ่านศึก” ซึ่งจะตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นั่นเองค่ะ



ซึ่งในวันทหารผ่านศึกนั้น เพื่อนๆ หลายคนคงจะชินตากับภาพกลุ่มคนหรือจิตอาสาจากมูลนิธิต่างๆ เดินขายดอกไม้ดอกเล็กๆ สีแดงน่ารัก หรือที่เรียกว่า “ดอกป๊อปปี้” ที่ถูกปักไว้บนถาดโฟม เพื่อมาขาย และให้เพื่อนๆ ช่วยกันอุดหนุน เพื่อช่วยเหลือ แด่บุคคลที่เคยทำคุณประโยชน์ไว้กับประเทศชาติไว้อย่างมากมาย จนประเมินค่าจากความเสียสละของพวกเค้าไม่ได้   นั่นก็คือเหล่าบรรดา “ทหารผ่านศึก” นั่นเองค่ะ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ และเป็นสัญลักษณ์สากลที่ทำให้ทุกคนรู้ว่าวันนี้เป็น วันทหารผ่านศึก นั่นก็คือ “ดอกป๊อปปี้” นั่นเอง



มีการเล่ากันว่า “ดอกป๊อปปี้” นั้น ได้สร้างความประหลาดใจกับนายทหารในยุคนั้นเนื่องจาก ดอกป๊อปปี้ป่า ได้ออกดอกบานสะพรั่งเองตามธรรมชาติกลางสมรภูมิรบ แถวบริเวณหลุมฝังศพของเหล่าบรรดาทหารที่สละชีพ จึงทำให้ ดอกป๊อปปี้ ได้เป็นตัวแทนของทหารผ่านศึกนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ เรายังมีประวัติของ ดอกป๊อปปี้ จาก มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาฝากกันค่ะ

 

ประวัติดอกป๊อปปี้



“ดอกป๊อปปี้” ในทางสากลแล้ว ถือว่าเป็นดอกไม้ที่สื่อความหมายถึง ทหารผ่านศึกพลีเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องมาตุภูมิอันเป็นที่รัก และในประเทศไทยยังกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์ของ วันทหารผ่านศึก  3 กุมภาพันธ์ของทุกปีอีกด้วย ซึ่งในวันนี้ดอกป๊อปปี้สีแดงจะบานสะพรั่งไปทั่วแผ่นดิน

สำหรับประเทศไทย การจัดทำดอกป๊อปปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึก หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน ที่ต้องการจะดำเนินการหาทุนมาช่วยเหลือทหาร และครอบครัวทหารผ่าศึกที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ จึงได้เลือกเอาดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ สมรภูมิเบลเยี่ยม และเนเธอร์แลนด์ ระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมันในสงครามโลก ครั้งที่ 1 โดยสงครามในครั้งนั้นทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพล เอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั้น ได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงเกิดขึ้น ณ สมรภูมิ ดังกล่าว โดย ในบริเวณหลุมฝังศพทหารมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอกป๊อปปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ สำหรับประเทศไทย ได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามต่างๆ ซึ่งมีอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติปรากฏเป็นอนุสรณ์อยู่ และความกล้าหาญในการรบของนักรบไทยได้ปรากฏขจรขจายไปทั่วโลก ฉะนั้น เพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบผู้กล้าเหล่านี้ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทย เช่นเดียวกับในต่างประเทศ และมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก ตั้งแต่ปี 2511 เป็นต้นมา

 

Credit : มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, wikipedia

ภาพประกอบจาก www.Photos.com

[sithiphong]

องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์

-http://www.thaiveterans.mod.go.th/index_th.html-


องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์

    ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยได้ส่งกำลังทหารเข้าร่วมทำการรบ ในสงคราม มหาเอเซียบูรพา เมื่อสิ้นสุดสงครามทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ ในการรบถูกปลดประจำการโดยกระทันหัน ส่งผลให้ตัวทหารและครอบครัว ได้รับการเดือดร้อนในการครองชีพ รัฐบาลในขณะนั้นซึ่งมี พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาดำเนินการช่วยเหลือ กระทรวงกลาโหมจึงได้ตั้งคณะกรรมการ พิจารณาหาทางช่วยเหลือทหารกองหนุนขึ้น
       ต่อมาเมื่อมีการขยายการสงเคราะห์เพิ่มขึ้น จึงได้มีการพิจารณาว่าการดำเนินงาน ในรูปของคณะกรรมการจะขาดความรัดกุมและเหมาะสม กระทรวงกลาโหมจึงได้เสนอเป็น พระราชบัญญัติ จัดตั้ง องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หรือที่เรียกโดยย่อว่า "อผศ." ขึ้นเป็นหน่วยงานถาวร เพื่อทำหน้าที่ในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึกโดยตรง มีฐานะเป็นองค์กรของรัฐเพื่อการกุศล
       โดยรับผิดชอบในการจัดการและการดำเนินงานขององค์การ ฯ ซึ่งมีทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมีสาขา 23 แห่ง ทั้งนี้ยังมีหน่วยกิจการพิเศษที่ดูแลอีก 5 หน่วยงานคือ สำนักงานศาลหลักเมือง สำนักงานกิจการการเกษตรการอุตสาหกรรมและการบริการ สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ สำนักงานรักษาความปลอดภัย และสำนักงานกิจการโรงงานในอารักษ์
       การดำเนินงานให้การสงเคราะห์ 6 ด้าน คือ ด้านสวัสดิการ ด้านอาชีพ ด้านนิคมเกษตรกรรม ด้านการให้สินเชื่อ ด้านรักษาพยาบาล และ ด้านการส่งเสริมสิทธิและเกียรติ เป็นต้น

 
แผนที่ ด้านล่าง



-----------------------------------------------------------------------------


3 กุมภาพันธ์ วันทหารผ่านศึก
-http://www.panmai.com/Calendar/Feb_3.shtml-

รำลึกวีรกรรมด้วยดอกป๊อปปี้

วันทหารผ่านศึก เป็นวันที่ทหารไทยกลับมาจากการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 และเพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจกการสู้รบเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติ จึงมีการจัดตั้งองค์การทหารผ่านศึก และประกาศให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันทหารผ่านศึก กระทรวงกลาโหมจะจัดกองทุนรับเงินอุดหนุนขึ้นเพื่อสงเคราะห์ด้านสวัสดิการ เช่น ที่อยู่อาศัย การศึกษาและการจัดหาอวัยวะเทียม การสงเคราะห์ด้านอาชีพโดยฝึกอบรมอาชีพ จัดหาที่ดินทำกิน การรักษาพยาบาลฟรี เป็นต้น เงินสนับสนุนโครงการได้จากการบริจาคจากประชาชน การนำเอาผลผลิตของทหารมาจำหน่าย และการจำหน่ายดอกป๊อปปี้เป็นของที่ระลึกวันทหารผ่านศึก

ดอกป๊อปปี้ ที่ระลึกวันทหารผ่านศึก

ดอกป๊อปปี้ มีสีแดงสะดุดตาชวนจดจำ มีปะวัติเกี่ยวโยงไปถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ สมรภูมิเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ ระหว่างฝ่ายพันธมิตรและเยอรมัน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๑ ทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟเฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่น ได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่น่าพิศวงเกิดขึ้น ณ สมรภูมิแห่งนั้น คือ บริเวณหลุมฝังศพทหารมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่ทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงสวยสดงดงาม ดอกป๊อปปี้จึงเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ


ปฏิทินพรรณไม้
มกราคม

    14 วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
    16 วันครู วันดอกกล้วยไม้บาน

กุมภาพันธ์

    2 วันเกษตรแห่งชาติ กับงานเกษตรแฟร์
    3 วันทหารผ่านศึก รำลึกวีรกรรมด้วยดอกป๊อปปี้
    14 วันแห่งความรัก กุหลาบแดงแด่วาเลนไทน์ของฉัน
    24 วันปลอดควันพิษจากไฟป่า

พฤษภาคม

    วันพืชมงคล
    วันวิสาขบูชา วันต้นไม้ประจำปีของชาติ
    31 วันงดสูบบุหรี่โลก กำลังใจให้เลิกบุหรี่ด้วยลีลาวดีสีขาว

มิถุนายน

    5 วันสิ่งแวดล้อมโลก

สิงหาคม

    12 วันแม่ ดอกมะลิดอกไม้สำหรับแม่
    วันเข้าพรรษา ตักบาตรดอกไม้ด้วยดอกเข้าพรรษา

กันยายน

    20 วันเยาวชนแห่งชาติ กับรวงข้าวเก้ารวง

ตุลาคม

    21 วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ราชสักการะแด่สมเด็จย่าๆ ของแผ่นดิน
    31 วันฮาโลวีน กับโคมไฟฟักทองของแจ็ค

ธันวาคม

    4 วันสิ่งแวดล้อมไทย
    5 วันพ่อ บูชาพ่อด้วยดอกพุทธรักษา
    25 วันคริสต์มาส กับตำนานต้นคริสต์มาส