อริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมอันดี > หลวงพ่อชา สุภทฺโท

หยุดเถอะ หยุดเถอะ หยุดเสียก็ดี

(1/1)

ฐิตา:



หยุดเถอะ หยุดเถอะ หยุดเสียก็ดี
หลวงพ่อฟิลลิป ญาณธัมโม แห่งวัดป่ารัตนวัน ท่านเทศน์ว่า มีเณรรูปหนึ่งที่วัดหนองป่าพง สมัยหลวงพ่อชายังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อท่านเทศน์นานมาก บางครั้งตลอดทั้งคืน พระทั่วไปต้องอดทน ต่อสู้กับทุกขเวทนา

วันหนึ่งหลวงพ่อชา ขึ้นธรรมาสน์เทศน์ เณรก็ไปฟัง นั่งฟังจนถึงตี ๓ เณรก็ไม่ลุกจากอิริยาบถนั่งสมาธิ นั่งตลอดช่วงเช้า จนพระออกบิณฑบาต เณรก็ยังนั่งอยู่ นั่งต่อจนพระทั่วไปกลับจากบิณฑบาต เธอก็ไม่ลุกขึ้นมาฉันเช้า จนกระทั่งถึง ๑๐ โมงเช้า จึงออกจากสมาธิ พระทั้งหลายก็ร้องว่า “โอ้ เณรนี้อัศจรรย์จริง ๆ นั่งสมาธิตั้งนาน” เณรเล่าให้ฟังว่า คืนนั้นหลวงพ่อชาเทศน์ เธอเบื่อมาก อยากกลับไปนอน แต่หลวงพ่อก็ไม่หยุดเทศน์สักที เบื่อแสนเบื่อ จึงภาวนาเป็นภาษาอีสานว่า “เซาซะ เซาซะ เซาซะ เซาซะก็ดี” ความหมายก็คือ “หยุดเถอะ หยุดเถอะ หยุดเสียก็ดี” ภาวนาไปจิตก็จดจ่ออยู่กับเรื่องอยากให้หลวงพ่อเลิกเทศน์

พลันจิตก็พลิกเป็นปัญญาว่า ตนเองทำไมไม่เลิก ไม่เลิกคิดในแง่ไม่ดี ทำไมไม่เลิกในการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ทำไมยังโง่อยู่ ทำไมไม่เกิดธรรม ไม่เกิดแสงสว่าง ก็เลยเอา "เลิกเถอะ เลิกเถอะ" เป็นข้อกรรมฐาน เป็นกุศลจิตว่าให้เลิกการบ่น ให้เลิกสิ่งที่เป็นอกุศล ให้เลิกสิ่งที่ไม่ดี จนจิตรวมเป็นสมาธิกรรมฐาน นั่งจนตลอดรุ่ง พอเณรรู้ตัวอีกครั้งก็ช่วงสายพระมาจัดเก็บบริขาร

 _/\_  _/\_  _/\_
Secret Magazine (Thailand)
ได้แชร์รูปภาพของ ท่องถิ่นธรรม พระกรรมฐาน

ฐิตา:



#หลวงพ่อสุเมโธ เห็นศพหลวงปู่ชา..
ท่านว่า.. ท่านร้องไห้นิดหน่อย..
มองดูอารมณ์โศกเศร้า..
ไม่ยึดมั่นถือมั่น เห็นอารมณ์เป็นอารมณ์

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

ตอบ

Go to full version