น้ำท่วมใหญ่สมัยสามก๊ก
สมัยสามก๊กมีเรื่องราวของน้ำท่วมใหญ่ท่ามกลางการศึกสงครามหลายสิบครั้ง ขอยกครั้งสำคัญครั้งหนึ่งมาเล่าไว้ ณ ที่นี้
เมื่อครั้งกองซุนเอี๋ยน เจ้าเมืองเลียวตั๋ง ริคิดการใหญ่ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ ประกาศปลดแอกตัวเองจากราชวงศ์วุย พระเจ้าโจยอยได้ส่ง "สุมาอี้" เดินทางไกลไปปราบพยศ
สุมาอี้ใช้เวลาสามเดือน ยกทัพมาถึงอำเภอเลียวซุน ปากทางเข้าเมืองเซียงเป๋ง เมืองหลวงของเลียวตั๋ง "เอี้ยนอ๋อง" กองซุนเอี๋ยนได้ส่ง ปีเอี๋ยน กับ เอียวจอ สองแม่ทัพเอกมาตั้งค่ายสกัดขัดตาทัพไว้ โดยสั่งให้ตั้งรับหนักแน่น ห้ามยกทัพออกไปต่อกรกับยอดแม่ทัพฝ่ายวุยเป็นอันขาด
ฝ่ายสุมาอี้รู้ทัน จึงยกทัพอ้อมค่ายของฝ่ายเลียวตั๋งทำทีจะไปตีเมืองเซียงเป๋ง ทัพเลียวตั๋งตกใจ ถอนค่ายหมายจะกลับไปช่วย จึงโดนลอบโจมตีพ่ายยับเยิน ต้องหนีกลับเข้าเมืองแบบทุลักทุเลแทบเอาตัวไม่รอด
เจ้ากำมะลอกองซุนเอี๋ยนเห็นคนของตนเสียทีดังนั้น จึงดึงเอาธรรมชาติเป็นพวก สั่งปิดตายประตูเมือง ตั้งรับอย่างเดียว เล่นเกมยืดเยื้อ ด้วยรู้ว่าจะเข้าฤดูน้ำหลาก ไม่ช้าไม่นานทัพจากลกเอี๋ยงต้องหายไปกับสายน้ำ
และแล้วก็เป็นดังคาด พอถึงหน้าน้ำ ฝนเทลงมาไม่มีหยุด ทั้งวันทั้งคืน วันชนวัน สัปดาห์ชนสัปดาห์ ตกต่อเนื่องกันเป็นเวลาเดือนกว่าๆ ไม่มีว่างเว้น น้ำนั้นไหลแรงและเร็วลงมาจากเขา ท่วมถึงบั้นเอวทหารเข้าไปแล้ว ทัพสุมาอี้จะหุงหาอาหารก็ไม่ได้ จะนอนก็ไม่สะดวก กินอยู่ลำบากยิ่งนัก
ข่าวไปถึงหูพระเจ้าโจยอย ณ ลกเอี๋ยง ขุนนางต่างแนะนำให้เรียกตัวสุมาอี้กลับมาก่อน ไว้สบโอกาสค่อยยกทัพกลับไปเลียวตั๋งใหม่ แต่พระองค์รู้จักสุมาอี้ดี คนๆ นี้รู้ทางหนีทีไล่ สติปัญญาเหนือคน ไม่ช้าต้อง "เอาชนะน้ำ" ยึดเมืองได้แน่
ครั้นอุทกภัยถาโถม ปวยเกง แม่ทัพขวา ไปบอกสุมาอี้ ขอให้ย้ายค่ายจากประตูเมืองไปตั้งบนเขา ทว่าสุมาอี้โกรธ บอกว่าตีเมืองขบถจะแตกอยู่ในวันในพรุ่ง ขืนยกหนีน้ำไปจะมิเสียการใหญ่หรือ ว่าแล้วก็คาดโทษไว้ ใครมาพูดเรื่องย้ายค่ายหนีน้ำจักโดนตัดหัวทุกคน
วันรุ่งขึ้น ซือเหลียน แม่ทัพซ้ายยังไม่เข็ด นำความไปปรึกษาสุมาอี้เหมือนที่ปวยเกงเพิ่งพูดไปเมื่อวาน คราวนี้แม่ทัพจอมอึดโกรธจัด สั่งตัดหัวซือเหลียนเสียบประจานไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โทษฐานทำลายขวัญทหาร ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัวน้ำ ห้ามย้ายค่ายไม่ได้ยินหรือ
จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องย้ายค่ายหนีน้ำท่วมอีก
ครั้นแล้ว สุมาอี้สั่งถอนทัพทางประตูเมืองฝั่งทิศใต้ของเมืองเซียงเป๋ง เพื่อล่อให้ทัพเลียวตั๋งหนีออกไป ตามกลศึก "ล้อมพึงเปิดช่อง" หนึ่งใน "36 ยอดกลยุทธ์จีน"
ถอนทัพได้ไม่นาน พอถึงเพ-ลา ฝนก็หยุดตก แม่ทัพแห่งวุยยินดียิ่ง ฟ้าเป็นใจ ทุกอย่างเข้าทางตามแผนเรา
สุมาอี้จึงสั่งทหารบุกข้ามกำแพง เข้าตีเมืองเซียงเป๋งทุกด้านพร้อมกัน ทหารในเมืองระดมกำลังกันต้านเต็มที่ ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แม้จะยังทะลวงเข้าเมืองไปไม่ได้ทันที แต่ก็ทำให้ไพร่พลเลียวตั๋งไม่มีแก่ใจจะสู้รบอีกต่อไปแล้ว
กองซุนเอี๋ยนเห็นหมดทางสู้ อยู่ต่อก็ตายแน่ จึงส่งคนออกไปขอสวามิภักดิ์กับสุมาอี้ โดยขอส่งลูกชายมาเป็นตัวประกันไว้ก่อน ทว่ายอดคนแซ่สุมาหายอมไม่ ด้วยรู้ทันว่ามิได้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ จึงไล่ตะเพิดคนนำสารของเอี้ยนอ๋องเจ้ากำมะลอกลับไป
กองซุนเอี๋ยน และ กองซุนสิว สองพ่อลูก เห็นหมดทางไป จึงรอจนตกดึก แล้วให้กองทหารม้าเร็วนำทาง รุดออกจากเมืองไปทางประตูฝั่งทิศใต้ที่สุมาอี้จงใจเปิดช่อง ครั้นออกมาเห็นทางโล่ง ปลอดทหาร ก็ยิ่งดีใจ สั่งเร่งฝีเท้าสุดชีวิต หนีเอาตัวรอดให้ได้
ที่แท้สุมาอี้ขุดบ่อล่อไว้ ขืนไปดักตั้งแต่หน้าประตูเมืองมีหวังขบถหนีกลับเข้าเมืองแน่นอน จึงให้ เตียวฮอง กับ งักหลิม สองทหารเอก ซุ่มกำลังไว้กลางทางห่างออกมาหลายเส้น สุดท้ายฝ่ายวุยจึงจับตัวสองพ่อลูกแซ่กองซุนไว้ได้โดยละม่อม
สุมาอี้ประกาศ ยอมอะไรก็ยอมได้ แต่ยอมให้พวกกบฏ ยอมไม่ได้เป็นอันขาด จึงสั่งลงดาบ ตัดหัวกองซุนเอี๋ยนพร้อมลูกชาย โทษฐานคิดคดทรยศ ไม่เลี้ยงไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบไป แล้วเอาหัวกลับไปถวายพระเจ้าโจยอย ณ เมืองลกเอี๋ยง
น้ำท่วมน้ำหลาก มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ แต่ท่วมหนักอย่างไร สักวันก็ต้องหยุด คนจะทำศึกสงครามหรือทำการใดๆ พึงรู้จักน้ำ ต้องรู้ว่าน้ำจะมาเมื่อไร จะหยุดเมื่อไร รู้จักดึงธรรมชาติมาเป็นพวกตน จึงมีชัยชนะทุกแห่งหน
http://cheechud.blogspot.com/2011/10/blog-post_14.htmlโดย ชัชวนันท์ สันธิเดช สุดยอดแฟนพันธุ์แท้สามก๊ก และสุดยอดแฟนพันธุ์แท้แห่งปี 2008