ผู้เขียน หัวข้อ: มัชฌิมาปฏิปทา  (อ่าน 1183 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด
มัชฌิมาปฏิปทา
« เมื่อ: มกราคม 15, 2014, 05:24:37 pm »












ฅนต้องเท่ากับฅน

มัฌมาปฏิปทา

ในทาง พุทธศาสนา หมายถึง ทางสายกลาง
คือ การไม่ยึดถือสุดทางทั้ง 2 ได้แก่
อัตตกิล มถานุโยค คือ การประกอบ ตนเองให้ ลำบากเกินไป
กามสุขัล ลิกานุโยค คือ การพัวพันในกาม ใน ความสบาย
ที่ไม่ใช่ทางสายกลาง
คือ สักแต่ว่ากลาง โดยเป็น แต่เพียงโวหารไม่ได้กำหนดวิธีที่ถูกต้องไว้เลย

แต่ พระพุทธองเจ้า ได้ทรงกำหนด หลัก ทางสายกลางนี้ไว้อย่างชัดเจน
คือ อริยมรรคมีองค์ 8 เมื่อ ย่นย่อแล้ว เรียกว่า ไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา
มัชฌิมาปฏิปทา หมายถึง การปฏิบัติสายกลางซึ่ง
หลักปฏิบัติ ย่อมต้อง คู่กับ หลักการ อันเป็น สายกลางเช่นกัน
โดยที่หลักการอันเป็น สายกลางนี้เรียกว่า มัชเฌนธรรม หรือหลักการที่ว่าด้วย
ความสมดุล (สมตา)อันเป็น ลักษณะอันเป็น สากลของ
สรรพสิ่ง อย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับ ไตรลักษณ์ อิทัปปัจจยตา สุญญตา ตถตา
อันเป็น กฎธรรมชาติ อันเป็น หลักการสากลของสรรพสิ่ง เหมือนกัน อย่างหนึ่ง

มัชฌิมาปฏิปทา ใช้ในความหมายถึง ความพอเพียง หรือ การใช้ชีวิต ที่ถูกต้อง
ตามหลัก สัมมาอาชีวะ คือใช้ ชีวิตอย่าง รู้ประมาณในการบริโภค
คือใช้ปัจจัยสี่เท่าที่จำเป็น ไม่ใช่ใช้ตามความ ต้องการเพื่อ สนองความอยาก
มัชฌิมาปฏิปทา แปลว่า ทางสายกลาง หมายถึง ทางปฏิบัติที่ไม่สุดโต่งไปใน ทาง
อุดมการณ์ ใด อุดมการณ์หนึ่งเกินไป
มุ่งเน้นใช้ปัญญา ในการแก้ปัญหา มัก ไม่ยืดถือ หลักการอย่างงมงาย
มัชฌิมาปฏิปทา ในทางจิตวิญญาณ หมายถึงสติ
สติเป็นความสมสมดุลทางจิต อย่างหนึ่ง คือสมดุล ระหว่าง ศรัทธาและปัญญา
สติจะ อยู่ตรงกลาง ระหว่าง อารมณ์ และ เหตุผล ถ้าความคิดเปรียบเป็นน้ำไหล
สมาธิเปรียบ เป็นน้ำนิ่ง สติจะเป็น น้ำไหลนิ่ง คือ สติเป็น ทางสายกลาง ทางจิตวิญญาณ






<a href="http://www.youtube.com/v/3FS7YPSbHNk?version=3&amp;amp;hl=th_TH" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">http://www.youtube.com/v/3FS7YPSbHNk?version=3&amp;amp;hl=th_TH</a>









ถ่ายภาพโดย....時々कभीकभी一རພຊຍ๛-

คอม ฯ เสียอีกแล้วพับผ่าซิอยู่ดี ๆ Drive CD ROM ก็หายไปซ่ะงั้น ! เซ็ง นอนดีฝ่าเดี๋ยวตื่นมาค่อยซ่อมแล้วก็ดูหนังสัก 1 เรื่อง Facebook ก็โดนบล๊อกอีกทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเข้าไปดูเลยวันดี-คืนดีก็[โดนบล๊อก]เฉยเลยแปลกแต่จริง นอน นอน นอน ง่วงนอนตอนบ่าย ๆ เย็น ๆ

วันนี้จะกล่าวถึง อภิฐานะ 6 และอัญญสัตถุเทสซึ่งนับว่าเป็นหัวข้อที่น่าสนใจเพราะปัจจุบันนี้ชาวพุทธที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้มีไม่น้อยเลย

อภิฐานะ 6 หมายถึง กรรมที่เด่นยิ่งกว่ากรรมอื่นๆ มี 6 ประการดังนี้

1.มาตุฆาต  ฆ่ามารดา 

2.ปิตุฆาต ฆ่าบิดา

3.อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์

4.โลหิตุปบาท ทำโลหิตของพระพุทธเจ้าให้ห้อ 

5.สังฆเภททำสงฆ์ให้แตกกัน

6.อัญญสัตถารุทเทส  นับถือศาสดาอื่นคือเข้ารีต

อภิฐานะ 6 นั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ คือ มีความเห็นถูกแล้ว คือ พระโสดาบัน ย่อมไม่ทำกรรมอันยิ่งนี้อีก คือ อภิฐานะ 6 ประการนี้เลยแต่สำหรับปุถุชนแล้ว ผู้หนาด้วยกิเลส ย่อมมีโอกาส ล่วงกรรมอันเด่นยิ่งนี้ 6 ประการได้ เพราะความที่เป็นปุถุชนนั่นเอง





https://www.img.live/images/2019/06/21/00000003313502_ST.jpg
https://www.img.live/images/2019/06/21/PX_00001351040448000-CS.jpg
https://www.img.live/images/2019/06/21/IMG_0000000310201605.jpg
https://www.img.live/images/2019/06/21/DSXC_0000027730_2001.jpg
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 17, 2020, 07:39:17 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน