ผู้เขียน หัวข้อ: บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong  (อ่าน 40429 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong
« ตอบกลับ #120 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 09:34:17 pm »
คำแนะนำ   “ โคจร  -  อรุณ  -  พินทุ ”
หนังสือนวกานุศาสนี อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พุทธศักราช ๒๕๒๒    พระธรรมเจดีย์  อดีตเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ  กรุงเทพฯ
(  หนังสือพิมพ์ข่าวสด  คอลัมน์ รายงานพิเศษ  วันที่ 10 กรกฎาคม  ๒๕๔๒  )
   คำว่า “ สำรวมแล้วด้วยความสำรวมในปาฎิโมกข์ ”  นั้น  หมายความสำรวมเพียงในสิกขาบทที่มาในพระปาฎิโมกข์คือ  ศีล  ๒๒๗  ข้อ  แคบเข้ามา  มรรยาทหมายถึงกิริยาวาจาที่เรียบร้อยตามสมณวิสัย  แต่ไม่ได้ตั้งใจไว้เป็นวินัย  เพราะบางอย่างไม่ผิดวินัย  แต่ผิดมารยาทสังคมก็มีโทษต้องติเตียน  พระนั้นไม่ใช่แต่อยู่ในวินัยแต่อย่างเดียว  ยังต้องอยู่ในมารยาทดีงามด้วย  โคจรหมายถึงสถานที่ควรไปไม่ควรไป
   สถานที่ไม่ควรไปเรียก  อโคจร  มีทั้งที่เป็นสถานที่เช่น  ร้านสุรา  สถานที่ที่มีบุคคลพลุกพล่าน  เช่น  ตลาดนัดสวนจตุจักร  พระจะไปเดินเบียดเสียดกับเขาไม่ควร  ยังมีสถานเป็นอโคจรอื่นๆอีก  ส่วนบุคคลนั้น  คือสำนักหญิงเพศยา  หญิงม่าย  สาวเทื้อ ( สาวแก่ )  ภิกษุณี ( เวลานี้ไม่มี สำนักนางชีโดยอนุโลม )  บัณเฑาะก์ ( คือกระเทย )  ท่านห้ามไม่ให้ไปคลุกคลี  ไปเป็นกิจจะลักษณะเช่น  เขาทำบุญนิมนต์ไปสวดไปฉันได้  ในปัจจุบันเกิดมีการแปลงเพศผู้ชายทำให้เป็นผู้หญิงก็ได้  บุคคลประเภทนี้ท่านก็ห้ามมิให้ไปคลุกคลีเช่นกัน  ไม่ระวังเรื่องโคจรย่อมทำให้คนอื่นพบเห็นติเตียนได้  ภิกษุที่ชื่อว่ารักษาตัวดีต้องถึงพร้อมด้วย  ศีล  อาจาระ  โคจร  อย่างนี้  ท่านว่าเป็นศรีสง่าของพระศาสนา  เหมือนเครื่องประดับอันมีค่า  ควรแก่การยกย่องนับถือบูชา
   คำว่า  “ อรุณ ”  เป็นชื่อเรียกแสงอาทิตย์แรกขึ้นสีแดงเรื่อๆ  อรุณมีความเกี่ยวข้องกับวินัยหลายข้อ  เช่น  การรักษาผ้าไตรจีวรครอง  มิให้ล่วงราตรี  รักษาอดิเรกจีวรมิให้ล่วง  ๑๐  วัน  การนอนร่วมกับอนุสัมปันเกิน  ๓  คืน  การรักษาเขตจำพรรษา  การเก็บอดิเรกบาตรมิให้เกิน  ๑๐  วัน  และยังมีอีกหลายสิกขาบทที่เกี่ยวแก่การนับราตรี  ถือเอาสำคัญตอนอรุณขึ้น
   อรุณนั้นมี  ๔  คือ 
๑.ที่แรกสีขาวเหมือนสีเงินยวง  สียังสลัวชื่อ เสตารุณ 
๒.ต่อมาสีแดงเจือสีเหลืองทองคำ  ค่อยชัดขึ้นชื่อ ตัมพารุณ
๓.ต่อมาสีทองคำขาว  สีผ่อง  ค่อยหายสลัวชื่อ โอทาตารุณ
๔.สว่างกระจ่างแจ้งเห็นหน้ากันชัดเจน  จนเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าได้แม้อยู่ห่างกัน  ๑๒  ศอกชื่อ นันทมุขี
   จึงชื่อว่าเป็นวันใหม่  การปลงกรรมก็ดี  สำหรับผู้อยู่ปริวาสกรรม  การฉันอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งตามวิกาลโภชนสิกขาบทก็ดี  ให้อรุณที่  ๔  ขึ้นเสียก่อนไม่เช่นนั้นยังไม่พ้นวันเก่า  ต่อถึงข้อที่สี่เห็นหน้ากันปรากฎตามกำหนดใกล้ไกลชั่ว  ๑๒  ศอก  เป็นกาลเข้าเขตวันใหม่อย่างภิกษุผู้รักษาผ้าครอง  ต้องให้อรุณดังกล่าวขึ้นเสียก่อน  จึงเปลื้องผ้าให้พ้นกายออกไปนอกเขตรักษาได้  ภิกษุที่อยู่ในอุโบสถที่ผูกสีมาแล้ว  ถือเอาสีมานั้นเป็นเขตอยู่ปราศจากไตรจีวรได้  แม้จะห่างตัวก็ไม่เป็นไร  เพราะสงฆ์สมมติพื้นที่สีมาเป็นแดนจีวราวิปลาส  คือไม่ถือว่าเป็นแดนอยู่ปราศจากไตรจีวรเหมือน
   นอกจากนี้  พระที่จะออกไปบิณฑบาตนอกวัด  ต้องสังเกตุอรุณให้ดีคอยจนได้อรุณ  ดังกล่าวจึงออกไปจากเขตจำพรรษา  มิฉะนั้น  พรรษาขาด  ถูกปรับอาบัติทุกกฎ  ถ้ารับบาตในเวลานี้  คือยังไม่ได้อรุณตามนี้  ถูกปรับอาบัติปาจิตตีย์  เพราะยังเป็นวิกาลอยู่ในวันเก่า  เป็นการรับไว้ค้างคืน  พระที่ออกไปรับบิณฑบาตดึกๆ  ต้องระวัง  แต่การกำหนดอรุณนี้  ไม่สะดวกเสมอไป  บางวันอากาศมืดครึ้มใช้านาฬิกาดี
   ต่อไปเป็นเรื่องการพินทุ  อธิษฐาน  เกี่ยวกับเรื่องผ้า  เพราะสมัยนี้พระมักจะได้ผ้าบ่อย  พระใหม่ก็อาจได้  จึงควรรู้  จะได้ป้องกันตนให้พ้นอาบัติโทษ
   คำว่า  “ พินทุ ”  แปลว่า  หยดน้ำเป็นเม็ดกลมๆ  ขนาดเท่าถั่วเขียว  ไม่มีอากาศอยู่กลาง  ถ้ามีหยดน้ำเช่นนี้มีแวว  พิธีทำพินทุท่านทำให้เฉพาะผ้าสังฆาฎิ  อุตตราสงค์ ( จีวร )  อันตรวาสก ( สบง )  ซึ่งเป็นผ้ามีขอบ  เรียกผ้าอนุวาด  คือขอบชายผ้าที่มีผ้าประกบ  การพินทุต้องทำนอกขอบผ้านั้น  บัดนี้นิยมทำตรงมุมที่พ้นขอบผ้านั้นออกมา  จะทำบนพื้นผ้าสี่เหลี่ยมที่เขาเย็บไว้ทำรังดุมไม่ได้  พื้นที่นอกจากนั้นตามที่กล่าวมาแล้ว  จะทำที่ไหนก็ได้  ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันทำตรงมุมผ้า
   สิ่งที่ใช้ทำพินทุตามวินัยบัญญัติ  คือสีดำ  สีตม  และสีเขียว  สีอื่นไม่นิยมใช้จำใช้ดินสอดำ  หรือปากกาหมึกดำ  ก็ได้  ดินสอดำดีกว่าหมด  เหตุที่ต้องทำพินทุ  ก็เพราะพระถูกโจรลักผ้าจีวรไปแล้ว  ภายหลังเจ้าหน้าที่จับผู้ร้ายได้พร้อมของกลาง  จึงให้ภิกษุเจ้าของผ้าที่หายไป  ดูของๆตน  แต่ภิกษุต่างจำผ้าของตนไม่ค่อยได้  ปะปนสับสนกัน  พระพุทธองค์ทรงทราบจึงทรงบัญญัติเป็นวินัย  ให้ภิกษุทำเครื่องหมายที่เครื่องนุ่งห่มของตน  คือพินทุเสีย  ถามว่าทำไมจึงไม่ให้เขียนชื่อของตนแทนพินทุ  คงเป็นด้วยสมัยนั้นหาพระที่รู้หนังสือยาก  จึงทรงให้กระทำเพียงเครื่องหมาย  ถ้าจะแบบแกงไดคือ  ตีนกาขีดกากบาทก็คงได้
   นอกจากนี้  การทำพินทุ  มีความประสงอีกอย่างหนึ่งเป็นการทำให้เสียสี  คือขาดความงาม  ต่อไปขโมยจะได้ไม่เอา  แม้การที่ทำจีวรเย็บเป็นกระทงเหมือนคันนาตัดผ้าออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  ก็มุ่งมิให้เป็นที่โจรปราถนา  แต่เวลานี้ก็ไม่แน่  เพราะจีวรใหม่ขายได้ราคา
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong
« ตอบกลับ #121 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 09:35:25 pm »
ขอขอบพระคุณ หนังสืออ้างอิงที่ผมนำมารวบรวม

ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยผมพิมพ์ในบางบท

ขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่ได้อ่าน

เพื่อเป็นธรรมทาน

โมทนาบุญครับ

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ rain....

  • ศรัทธาในสิ่งที่ค้นหา มั่นคงในสิ่งที่เป็น แบ่งปันในสิ่งที่ค้นพบ
  • ทีมงานกัลยาณมิตร
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 994
  • พลังกัลยาณมิตร 379
  • สุขลึกๆในความเหงา แม้จะโดดเดี่ยวแต่ไม่เคยเดียวดาย
    • ดูรายละเอียด
Re: บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong
« ตอบกลับ #122 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2010, 06:41:53 pm »
 :07: :07: :07: :07:อ่านยังมะจบเลย  แต่ขอ  อนุโมทนา  สาธุ   :07: :07: :07:ไว้ก่องละจามาอ่านใหม่งับ

...........................................
"ข้าพเจ้า ขอถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่อุบัติขึ้นมาในโลก  ทุกๆพระองค์
พร้อมทั้งพระธรรม และ พระสงฆ์
ว่าเป็น  สรณะ  ที่พึ่งตลอดชีวิต" 
 

ออฟไลน์ NATACHAI

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 14
  • พลังกัลยาณมิตร 7
    • ดูรายละเอียด
    • http://dr-natachai.blogspot.com/
Re: บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong
« ตอบกลับ #123 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2010, 11:46:42 pm »
 :39:  :39:  :39:  :46:  :46:  :46:
อนุโมทนาสาธุ
ฉันทะ_มีความพอใจ
วิริยะ_มีความพากเพียรต่อสู้กับอารมณ์ที่เป็นข้าศึก
จิตตะ_สนใจฝักใฝ่ในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง คือ พรหมวิหาร 4
วิมังสา_ใชัปัญญาดูว่าอารมณ์ที่ผ่านมาภายนอก เป็นอารมณ์ของความดี หรือว่าเป็นอารมณ์ของความชั่ว ดีรับ-ชั่วไม่รับ