วิถีธรรม > ไหว้พระหน้าคอม

บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong

<< < (20/25) > >>

sithiphong:
คำถวายผ้ากฐิน
อิมัง ภันเต สะปะริวารัง กะฐินะจีวะระทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุโน ภันเต สังโฆ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะ ทุสสัง ปะฏิคคัณหาตุ ปะฏิคคะเหตะวา จะ อิมินา ทุสเสนะ กะฐินัง อัตถะระตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
ทุติยัมปิ ...(อารธนาศีลห้า)
ตะติยัมปิ ...
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายผ้ากฐินจีวรกับทั้งบริวารนี้ แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับผ้ากฐินกับทั้งบริวารนี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย และเมื่อรับแล้ว ขอจงกรานใช้กฐินด้วยผ้านี้ เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้า ทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายผ้าป่า
อิมานิ มะยัง ภันเต ปังสุกูละจีวะรานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุโน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ ปังสุกูละจีวะรานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆารัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายผ้าบังสุกุล จีวร กับทั้งบริวารเหล่านี้ แก่พระภิษุสงฆ์ ขอพระภิษุสงฆ์จงรับผ้าบังสุกุล จีวร กับทั้งบริวารเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายผ้าอาบน้ำฝน
อิมานิ มะยัง ภันเต
วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ
ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ
ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าอาบน้ำฝนกับบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับผ้าอาบน้ำฝนกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายผ้าไตร
อิมานิ มะยัง ภันเต
ติจีวะรานิ สะปะริวารานิ
ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ ติจีวะรานิ สะปะริวารานิ
ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าไตรจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์
ขอพระภิกษุสงฆ์ จงรับผ้าไตรจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายหนังสือธรรมะ
อิมานิ มะยัง ภันเต ธัมมะโปตถะกานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ ธัมมะโปตถะกานิ สะปะริวารานิ ปฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ นิพพานายะจะ
(ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายหนังสือธรรมะกับทั้งของบริวารเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับหนังสือธรรมะกับทั้งของบริวารเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อมรรคผล นิพพาน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย และขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ สิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายข้าวสาร
อิมานิ มะยัง ภันเต ตัณฑุลานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ ตัณฑุลานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายข้าวสารกับทั้งบริวารเหล่านี้แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ข้าวสารกับทั้งบริวารเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายยาพระสงฆ์
อิมานิ มะยัง ภันเต คิลานะเภสัชชานิ สะปะริวารานิ สังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต สังโฆ
อิมานิ คิลานะเภสัชชานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัญจะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ญาตะกานัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายยาบำบัดความป่วยไข้ กับทั้งเวชภัณฑ์ทั้งหลายเหล่านี้ แก่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับยาบำบัดความป่วยไข้ และเวชภัณฑ์ทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ญาติทั้งหลาย มีมารดาและบิดาเป็นต้นด้วย สิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายเสนาสนะ สร้างกุฏิ วิหารให้สงฆ์
อิมานิ มะยัง ภันเต เสนาสะนานิ อาคะตานาคะตัสสะ จาตุททิสัสสะ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ เสนาสะนานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายเสนาสนะเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ ผู้มีในทิศทั้ง ๔ ที่มาแล้วก็ดี ยังไม่มาก็ดี ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับเสนาสนะเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)


คาถาอาวุธ
นโม   ๓   จบ
   สักกัสสะ   วะชิราวุธัง   ยะมัสสะ   นัยนาวุธัง   อาฬะวะกัสสะ   ทุสาวุธัง   เวสสุวัณณัสสะ   คะธาวุธัง   จัตตาโร   วา   อาวุธานัง   เอเตสัง   อานุภาเวนะ   สัพเพ   ยักขา   ปะลายันติ
( คาถานี้   ใช้เสกมือหรือเสกศัสตราอาวุธก็ได้   เมื่อเวลาจะประจัญบานกันศัตรู   หรือใช้เสกต้นข่าต้นไพลขับไล่   ตีผี   ให้หนีกระเจิง   ดีนักแล )

sithiphong:
บทแผ่เมตตาให้ตนเอง
อะหัง   สุขิโต   โหมิ         ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
อะหัง   นิททุกโข   โหมิ      ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
อะหัง   อะเวโร   โหมิ      ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
อะหังอัพยาปัชโณ   โหมิ      ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
สุขี   อัตตานัง   ปะริหะรามิ   ขอให้ข้าพเจ้าจงมีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ   รักษา กาย วาจา ใจ   ให้พ้นจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
หรือ
   อะหัง   สุขิโต   โหมิ,   นิทุกโข   โหมิ,   อะเวโร   โหมิ,   อัพยาปัชโฌ   โหมิ,   อะนีโฆ   โหมิ,   อะโรโค   โหมิ,   สุขี   อัตตานัง   ปะริหะรามิ.
   ขอให้ตัวของเราเอง   จงมีความสุข   ปราศจากทุกข์   ไม่มีเวร   ไม่มีภัย   ไม่มีความเบียดเบียน   ไม่มีความเดือดร้อน   ไม่มีความลำบาก   ปราศจากโรคภัย   รักษาตนอยู่เถิด

คำแผ่เมตตา
สัพเพ   สัตตา      สัตว์ทั้งหลาย   ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อะเวรา         จงเป็นสุข ๆ เถิด   อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
สัพเพ   สัตตา      สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อัพพะยา   ปัชณา      จงเป็นสุข ๆ   เถิด   อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
สัพเพ   สัตตา      สัตว์ทั้งหลาย   ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อะนีฆา         จงเป็นสุข ๆ   เถิด   อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สัพเพ   สัตตา      สัตว์ทั้งหลาย   ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ   จงมีความสุขกายสุขใจ   รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ   ท่านทั้งหลาย   ที่ท่านได้ทุกข์ขอให้ท่านมีความสุข   ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข   ขอให้สุขยิ่ง ๆ   ขึ้นไป
สัพเพ   สัตตา      สัตว์ทั้งหลายที่เกิดเป็นชะลาพุชะ   ที่เกิดเป็นอัณฑะชะ   ที่เกิดเป็นสังเสทะชะ   ที่เกิดเป็นโอปปาติกะ   จงมารับกุศลผลบุญให้ถ้วนทั่วทุกตัวสัตว์

บทแผ่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

เมตตา
สัพเพ   สัตตา   สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง   ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย  ด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อะเวรา   โหนตุ   จงเป็นสุข   เป็นสุขเถิด   อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพะยาปัชณา โหนตุ   จงเป็นสุข   เป็นสุขเถิด   อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา   โหนตุ   จงเป็นสุข   เป็นสุขเถิด   อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ   จงมีความสุขกาย   สุขใจ   รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้ง   สิ้นเทอญ

กรุณา
สัพเพ   สัตตา   สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ   จงพ้นจากทุกข์เถิด

มุทิตา
สัพเพ   สัตตา   สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ   จงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด

อุเบกขา
สัพเพ   สัตตา   สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
กัมมัสสะกา   เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน
กัมมะทายาทา   เป็นผู้รับผลของกรรม
กัมมะโยนิ   เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
กัมมะพันธุ   เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
กัมมะปะฏิสะระณา   เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย
ยัง   กัมมัง   กะริสสันติ   กระทำกรรมอันใดไว้
กัลละยาณัง  วา  ปาปะกัง  วา   ดีหรือชั่ว
ตัสสะ   ทายาทา   ภะวิสสันติ   จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
      สัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้   จงอย่าได้มีเวรเบียดเบียนกันและกัน   
จงอย่าได้มีความลำบากเจ็บไข้เลย   จงเป็นผู้มีสุขพ้นทุกข์ภัยทั้งสิ้น   กับขอจงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญอันเราได้กระทำแล้วทุกเมื่อเทอญ

คำแผ่เมตตา   ( หลวงปู่ชา   วัดหนองป่าพง   อุบลราชธานี )
( หันทะ   มะยัง   เมตตาผะระนัง   กะโรมะ   เส )
อะหัง   สุขิโต   โหมิ   ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ถึงสุข
นิททุกโข   โหมิ   จงเป็นผู้ไร้ทุกข์
อะเวโร   โหมิ   จงเป็นผู้ไม่มีเวร
อัพะยาปัชโฌ   โหมิ   จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะนีโฆ   โหมิ   จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์
สุขี   อัตตานังปะริหะรามิ   จงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด
สัพเพ  สัตตา  สุขิตา โหนตุ   ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง   จงเป็นผู้ถึงความสุข
สัพเพ  สัตตา  อะเวรา  โหนตุ   ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร
สัพเพ สัตตา อัพะยาปัชณา    ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกัน
โหตุ   และกัน
สัพเพ  สัตตา  อะนีฆา  โหนตุ   ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์
สัพเพ สัตตา สุขี  อัตตานัง   ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด
ปะริหะรันตุ   
สัพเพ  สัตตา  สัพพะทุกขา    ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงพ้นจากทุกข์ทั้งมวล
ปะมุญจันตุ
สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต   ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้พรากจากสมบัติอัน
มา   วิคัจฉันตุ   ตนได้แล้ว
สัพเพ  สัตตา กัมมัสสะกา   สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของๆตน   มีกรรม
กัมมะทายาทา  กัมมะโยนิ   เป็นผู้ให้ผล   มีกรรมเป็นแดนเกิด   มีกรรมเป็นผู้ติด
กัมมะพันธุ  กัมมะปะฏิสะระณา   ตาม   มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง  กัมมัง  กะริสสันติ,   จักทำกรรมอันใดไว้   เป็นบุญหรือเป็นบาป   จักต้อง
กัลยาณัง วา  ปาปะกัง วา,   เป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป
ตัสสะ   ทายาทา   ภะวิสสันติ

คำแผ่เมตตา
( พระอาจารย์สมชาติ  ธมมะโชโต ศูนย์ปฏิบัติแสงส่องชีวิต  สี่แยกหินกอง  จ.สระบุรี )
   อิทังโน   ปุญญะภาคัง   สัพพะสัตตานัง   เทมะ,   ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล   ที่ได้บำเพ็ญมาแล้วในวันนี้ให้แก่   บิดา   มารดา   อุปัชฌาย์ครูอาจารย์   ท่านผู้มีพระคุณ   ท่านผู้มีบุญคุญ   ตลอดถึงเจ้ากรรมนายเวร   เทพบุตร   เทพธิดา   ทุกๆพระองค์   ภูตผีปีศาจทั้งหลาย   สรรพสัตว์ทั้งหลาย
สัพเพ   สัตตา,         อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง   ที่เป็นเพื่อนทุกข์   เกิด แก่ เจ็บ  ตาย   ด้วยกันหมดทั้งสิ้น   
อะเวรา   โหนตุ,      จงเป็นสุข   เป็นสุขเถิด   อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพะยาปัชณา   โหนตุ,   จงเป็นสุข   เป็นสุขเถิด   อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา   โหนตุ,      จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ,   จงมีความสุขกาย   สุขใจ   รักษาตนให้รอดพ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นนี้   เทอญ

sithiphong:
บทกรวดน้ำ   ( บทแผ่ส่วนกุศล )
   อิมินาปุญญะกัมเมนะ       ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า........................................ได้กระทำในครั้งนี้   ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่   คุณบิดา   มารดา   และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน   ผู้มีพระคุณ   ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์   เจ้ากรรมนายเวร   ปู่   ย่า   ตา   ยาย   พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ ( สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว )   ตัวของข้าพเจ้าเอง   เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย   เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่   เจ้ากรุงพาลี   แม่พระธรณี   แม่พระคงคา   พระเพลิง   พระพาย   แม่พระโพสพ   พระภูมิ-เจ้าที่   พระพิรุณ   พยายมราช   นายนิริยบาล   ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่   ศิริพุทธอำมาตย์   ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด   พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก   โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล   คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์   พรหม   ยม   ยักษ์   คนธรรพ์   นาคา   ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์   ขอให้พ้นจากทุกข์   ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข   ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป   ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้   จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ
พุทธังอนันตัง   ธัมมังจัรวาลัง   สังฆังนิพพานัง   ปัจจโยโหนตุ

หรือ
อิทัง   เม   มาตาปิตุนัง   โหตุ   สุขิตา   โหนตุ   มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้   จงสำเร็จแก่   มารดาบิดา   ของข้าพเจ้า   ขอให้   มารดาบิดา   ของข้าพเจ้า   จงมีความสุข
อิทัง   เม   ญาตินัง   โหตุ   สุขิตา   โหนตุ   ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้   จงสำเร็จแก่   ญาติทั้งหลาย   ของข้าพเจ้า   ขอให้   ญาติทั้งหลาย   ของข้าพเจ้า   จงมีความสุข
อิทัง   เม   ครุปัชฌายาจริยานัง   โหตุ   สุขิตา   โหนตุ   ครุปัชฌายาจริยา
   ขอส่วนบุญนี้   จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า   ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า   จงมีความสุข
อิทัง   เทวะตานัง   โหตุ   สุขิตา   โหนตุ   เทวะตาโย
ขอส่วนบุญนี้  จงสำเร็จแก่  เทวดาทั้งหลาย  ขอให้  เทวดาทั้งหลาย  จงมีความสุข
อิทัง   เปตานัง   โหตุ   สุขิตา   โหนตุ   เปตะโย
ขอส่วนบุญนี้  จงสำเร็จแก่  เปรตทั้งหลาย  ขอให้  เปรตทั้งหลาย  จงมีความสุข
อิทัง   สัพพะเวรีนัง   โหตุ   สุขิตา   โหนตุ   สัพเพเวรี
   ขอส่วนบุญนี้   จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย   ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย   จงมีความสุข
อิทัง   สัพพะสัตตานัง   โหตุ   สุขิตา   โหนตุ   สัพเพสัตตา
ขอส่วนบุญนี้   จงสำเร็จแก่   สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง   ขอให้   สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง   จงมีความสุข

กรวดน้ำอิมินา   อุททิสสนาธิฏฐานคาถา
( หันทะ   มะยัง   อุททิสสะนาธิฏฐานะคาถาโย   ภะณามะ   เส )
อิมินา   ปุญญะกัมเมนะ   ด้วยบุญนี้อุทิศให้
อุปัชฌายา   คุณุตตะรา   อุปัชฌาย์ผู้เลิศคุณ
อาจะริยูปะการาจะ   และอาจารย์ผู้เกื้อหนุน
มาตา ปิตา จะ ญาตะกา   ทั้งพ่อแม่และปวงญาติ
สุริโย   จันทิมา   ราชา   สูรย์จันทร์และราชา
คุณะวันตา  นะราปิ  จะ   ผู้ทรงคุณหรือสูงชาติ
พรัหมะมารา  จะ  อินทา  จะ   พรหมมารและอินทราช
โลกะปาลา   จะ   เทวะตา   ทั้งทวยเทพและโลกบาล
ยะโม  มิตตา  มะนุสสา  จะ   ยมราชมนุษย์มิตร
มัชฌัตตา   เวริกาปิ   จะ   ผู้เป็นกลางผู้จ้องผลาญ
สัพเพ  สัตตา  สุขี  โหนตุ   ขอให้เป็นสุขศานติ์   ทุกทั่วหน้าอย่าทุกข์ทน
ปุญญานิ   ปะกะตานิ   เม   บุญผองที่ข้าทำ   จงช่วยอำนวยศุภผล
สุขัง   จะ   ติวิธัง   เทนตุ   ให้สุขสามอย่างล้น
ขิปปัง   ปาเปถะ   โวมะตัง   ให้ลุถึงนิพพานพลัน
อิมินา   ปุญญะกัมเมนะ   ด้วยบุญนี้ที่เราทำ
อิมินา   อุททิเสนะ   จะ   และอุทิศให้ปวงสัตว์
ขิปปาหัง   สุละเภ   เจวะ   เราพลันได้ซึ่งการตัด
ตัณหุปาทานะเฉทะนัง   ตัวตัณหาอุปาทาน
เย   สันตาเน   หินา  ธัมมา   สิ่งชั่วในดวงใจ
ยาวะ   นิพพานะโต  มะมัง   กว่าเราจะถึงนิพพาน
นัสสันตุ   สัพพะทา   เยวะ   มลายสิ้นจากสันดาน
ยัตถะ  ชาโต  ภะเว  ภะเว   ทุกทุกภพที่เราเกิด
อุชุจิตตัง   สะติปัญญา   มีจิตตรงและสติ   ทั้งปัญญาอันประเสริฐ
สัลเลโข   วิริยัมหินา   พร้อมทั้งความเพียรเลิศเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย
มารา   ละภันตุ   โนกาสัง   โอกาสอย่าพึงมี   แก่หมู่มารสิ้นทั้งหลาย
กาตุญจะ   วิริเยสุ   เม   เป็นช่องประทุษร้าย   ทำลายล้างความเพียรจม
พุทธาธิปะวะโร   นาโถ   พระพุทธผู้บวรนาถ
ธัมโม   นาโถ   วะรุตตะโม   พระธรรมที่พึ่งอุดม
นาโถ   ปัจเจกะพุทโธ   จะ   พระปัจเจกะพุทธสม
สังโฆ   นาโถตตะโร   มะมัง   ทบพระสงฆ์ที่พึ่งผยอง
เตโสตตะมานุภาเวนะ   ด้วยอานุภาพนั้น
มาโรกาสัง   ละภันตุ   มา   ขอหมู่มารอย่าได้ช่อง
ทะสะปุญญานุภาเวนะ,   ด้วยเดชบุญทั้งสิบป้อง
มาโรกาสัง   ละภันตุ   มา.   อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญ ฯ

คำกรวดน้ำ   ( ของเก่า )
จากหนังสือกิตติคุณหลวงพ่อเดิม  พุทธสโร   ( พระครูนิวาสธรรมขันธ์ )
วัดหนองโพ   อ.ตาคลี   จ.นครสวรรค์
   อิมินา   ปุญญะกัมเมนะ   อุปัชฌายา   คุณุตตะรา   อาจะริยูปะการา   จะ   มาตา   ปิตา   จะ   ญาตะกา   ( ปิยา   มะมัง )   สุริโย   จันทิมา   ราชา   คุณะวันตา   นะราปิจะ   พรหมะมารา   จะ   อินทา   จะตุโลกะปาลา   จะ   เทวะตา   ยะโม   มิตตา   มะนุสสา   จะ   มัชฌัตตา   เวริกาปิ   จะ   สัพเพ   สัตตา   สุขี   โหนตุ   ปุญญานิ   ปะกะตานิ   เม   สุขัง   จะ   ติวิธัง   เทนตุ   ขิปปัง   ปาเปถะ   โวมะตัง   ฯ
   อิมินา   ปุญญะกัมเมนะ   อิมินา   อุททิเสนะ   จะ   ขิปปาหัง   สุละเภ   เจวะ   ตัณหุปาทานะเฉทะนัง   เย   สันตาเน   ฮีนา   ธัมมา   ยาวะ   นิพพานะโต   มะมัง   นัสสันตุ   สัพพะทา   เยวะ   ยัตถะ   ชาโต   ภะเว   ภะเว   อุชุจิตตัง   สะติปัญญา   สัลเลโข   วิริยัมหินา   มารา   ละภันตุ   โนกาสัง   กาตุญจะ   วิริเยสุ   เม   ฯ
   พุทธา   ทีปะวะโร   นาโถ   ธัมโม   นาโถ   วะรุตตะโม   นาโถ   ปัจเจกะพุทโธ   จะ   สังโฆ   นาโถตตะโร   มะมัง   เตโสตตะมานุภาเวนะ   มาโรกาสัง   ละภันตุ   มา   ฯ
คำแปล
   ด้วยการทำบุญนี้  ขอให้พระอุปัชฌาย์ผู้มีพระคุณสูงสุด  ขอให้อาจารย์ผู้มีอุปการะ  ขอให้มารดาบิดาและญาติทั้งหลาย ( ผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า )  ขอให้พระอาทิตย์  พระจันทร์  พระราชา  อีกทั้งท่านผู้มีพระคุณ  ขอให้พระพรหมและหมู่มาร   ทั้งพระอินทร์และท้าวโลกบาลทั้งสี่  กับเทวดาทั้งหลายด้วย  ขอให้พระยม  และมนุษย์ทั้งหลาย  ที่รักใคร่เป็นมิตรสหาย  ที่เป็นกลางๆ  รวมทั้งพวกที่มีเวรต่อกันด้วย  ขอให้บรรดาสัตว์ทั้งหลาย  จงมีความสุขทั่วกัน  และขอบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้  จงอำนวยความสุขทั้งสามประการ  ขอให้ท่านทั้งหลายจงบรรลุอมตะนิพพานโดยเร็วเถิด
   ด้วยการทำบุญนี้  และด้วยการอุทิศส่วนกุศลนี้  ขอให้ข้าพเจ้าได้บรรลุพระนิพพานซึ่งตัดขาด ( กิเลส ) ตัณหาและอุปาทาน  โดยเร็วและโดยง่ายเถิด  กว่าจะลุถึงนิพพาน  บรรดาสิ่งเลวร้ายทั้งปลายเหล่าใดที่มีอยู่ในสันดานของข้าพเจ้า  ขอให้บรรดาสิ่งเลวร้ายทั้งหลายเหล่านั้น  จงสูญสิ้นไปทุกๆขณะด้วยเถิด  ข้าพเจ้าไปเกิดในภพใดใด   ขอให้จิตใจซื่อตรง  มีสติปัญญา  มีความเพียรขัดเกลากิเลส  และขอให้ศัตรูหมู่มารทั้งหลาย  จงอย่าได้มีโอกาสทำการรบกวนในเวลาข้าพเจ้าทำความเพียรเลย
   พระพุทธเจ้า  ทรงเป็นนาถะที่พึ่งอันประเสริฐ  พระธรรมเป็นที่พึ่งอันสูงสุด   พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เป็นที่พึ่งด้วย  พระสงฆ์ก็เป็นที่พึ่งอันสูงสุด  ของข้าพเจ้า  ด้วยอานุภาพอันเยี่ยมยอด  ของพระพุทธเจ้า  พระธรรม  พระปัจเจกพุทธเจ้า  และพระสงฆ์ทั้งหลาย  เหล่านั้น  ขออย่าให้มารทั้งหลายได้มีโอกาสเลย.

sithiphong:
คำอธิฐานขอบารมี
ข้าพเจ้าขอเดชะพลานิสงค์      เมื่อจะปลงชีวิตขอให้คิดได้
ขออย่าได้มีมารมาผจญดลใจ      เทพไทจงเห็นเป็นพยาน
ขอให้ข้าพเจ้าได้ขจัดตัดกิเลส   ขอข้ามเขตแว่นแคว้นแดนสงสาร
ขอให้ได้สำเร็จประโยชน์โพธิญาณ      เข้านิพพานพ้นทุกข์สุขสบาย
ขอให้สมมาตรปรารถนาอย่าช้านัก  การสิ่งใดรักชอบให้สมอารมณ์หมาย
ขอให้พบพระทุกชาติอย่าคลาดคลาย   ขออย่าให้ตายกลางอายุปัจจุบัน
ตั้งแต่ชาตินี้จนชาติหน้า      ขออย่าข้องขัดทรัพย์สินทุกสิ่งสรรพ
การสิ่งใดบาปหยาบช้าทุกสิ่งอัน      การสิ่งนั้นขออย่าได้พบประสพเลย
นิพพานะ   ปัจจะโย   โหตุ
( อธิฐานทุกครั้ง   หลังไหว้พระสวดมนต์แล้ว )

เมื่อเจ้ามา   มีอะไร   มาด้วยเจ้า   เจ้าจะเอา   แต่สุข   สนุกไฉน
เจ้ามามือเปล่า   เจ้าจะ   เอาอะไร   เจ้าก็ไป   มือเปล่า   เหมือนเจ้ามา
ยศและลาภ   หาบไป   ไม่ได้แน่   มีเพียงแต่   ต้นทุน   บุญกุศล
ทรัพย์สมบัติ   ทิ้งไว้   ให้ปวงชน   แม้ร่างตน   เขาก็เอา   ไปเผาไฟ

วิธีการไหว้   ๕   ครั้ง   ( มนต์พิธี )
   คนเราทุกคน   ในวันหนึ่งๆ   จะต้องไหว้ให้ได้   ๕   ครั้ง   เป็นอย่างน้อยคือ   ในเวลาค่ำใกล้จะนอน   ตั้งใจระลึกถึงพระรัตนตรัยอันเป็นสรณะอันสูงสุดและท่านผู้มีพระคุณแก่ตน   คือ   มารดาบิดา   และครูอาจารย์   โดยประนมมือ
   ๑.   นมัสการพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า
อะระหัง  สัมมา  สัมพุทโธ  ภะคะวา  พุทธัง  ภะคะวันตัง  อะภิวาเทมิ   กราบลงหนหนึ่ง
   ๒.   ไหว้พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า   ว่า
สวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม  ธัมมัง  นะมัสสามิ   กราบลงหนหนึ่ง
   ๓.   ไหว้พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า   ว่า
สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  สังฆัง  นะมามิ   กราบลงหนหนึ่ง
   ๔.   ไหว้คุณมารดาบิดา   ว่า
มัยหัง  มาตาปิตูนังวะปาเท  วันทามิ  สาทะรัง   กราบลงหนหนึ่ง
   ๕.   ไหว้ครูอาจารย์   ว่า
ปัญญาวุฑฒิกะเร  เต  เต  ทินโน  วาเท  นะมามิหัง  กราบลงหนหนึ่ง
   ต่อจากนั้น   พึงตั้งใจแผ่เมตตาจิตไปในเพื่อนมนุษย์   และสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง   ว่า   ขอท่านทั้งหลายอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย   อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย   อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย   จงมีความสุขกายสุขใจ   รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยด้วยกันหมดทั้งสิ้น   เทอญ.

sithiphong:
การจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชา หรือ หิ้งพระในบ้าน

ทิศที่   ๑   ( ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศอีสาน   เป็นเศรษฐีทิศ   จะคิดทำอะไรก็เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง ฯ
ทิศที่   ๒   ( ทิศตะวันออก )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศบูรพา   ราชาทิศ   รับราชการหรือทำงานใดๆ   จะได้เป็นเจ้าคนนายคน ฯ
ทิศที่   ๓   ( ทิศตะวันออกเฉียงใต้ )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศอาคเนย์   ทิศปฐม   พอทำพอกินลาภผลได้บ้างไม่ได้บ้าง
ทิศที่   ๔   ( ทิศใต้ )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศทักษิณ   ทิศจัณฑาล   หากินต้องเหนื่อยยาก   ผลได้ไม่คุ้มค่า
ทิศที่   ๕   ( ทิศตะวันตกเฉียงใต้ )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศหรดี   ทิศวิปฏิสาร   มักเดือดร้อน   เกิดความยุ่งยากภายในครอบครัว   และ   เพื่อนบ้าน
ทิศที่   ๖   ( ทิศตะวันตก )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศประจิม   ทิศกาลกิณี   ทำสิ่งใดมักมีแต่อุปสรรค์   ขัดข้องหาผลสำเร็จไม่ได้
ทิศที่   ๗   ( ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศพายัพ   ทิศอุทัจจะ   ทำงานใดมักรวนเรหาความแน่นอนไม่ได้   มักจะพบแต่คนไม่จริงใจ
ทิศที่   ๘   ( ทิศเหนือ )
ตั้งพระหันหน้าไปทางทิศอุดร   ทิศมัชฌิมาปฏิปทา   ไม่ดี – ไม่ชั่ว   ปานกลาง
เท็จ-จริงประการใดไม่ทราบ   ท่านผู้รู้กล่าวไว้ดังนี้แล

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version