รสแห่งเซน
เรื่องราวในโลกล้วนเป็นทุกข์
ไม่เหมือนอยู่ในป่าเขา
เอนกายใต้ต้นหวาย
ใช้ก้อนหินมาหนุนนอน
ไม่อยากเป็นพระราชา
หรือจะอยากเป็นอำมาตย์
เกิดตายไม่กังวล
หรือจะกลัวการเปลี่ยนแปลง
พระอาจารย์ท่านหนึ่งเขียนบทกลอนด้านบนนี้ไว้ ฮ่องเต้ถังเต๋อจงเมื่อได้อ่านบทกลอนนี้แล้ว อยากจะพบและสนทนาธรรมกับพระท่านนี้ ว่าเป็นอย่างไร? จึงให้ท่านเสนาออกไปเชิญพระอาจารย์มาเข้าเฝ้า
เสนาท่านนั้นนำพระราชโองการมาถึงปากถ้ำที่พระอาจารย์ท่านนี้อยู่ ก็เห็นพระอาจารย์กำลังก่อไฟอยู่ในถ้ำ จึงตะโกนเข้าไปว่า
“พระราชโองการมาถึง รีบมาคุกเข่ารับพระราชโองการ”
แต่พระท่านนั้นทำเป็นคนหูหนวกไม่รู้ไม่ชี้
เสนานั้นเห็นพระอาจารย์เอาขี้วัวมาก่อไฟ บนเตานั้นกำลังเผาแตงชนิดหนึ่งอยู่ ไฟยิ่งมายิ่งลุกโชน ควันไฟลอยคละคลุ้งออกมาทั้งในถ้ำและนอกถ้ำ ควันไฟนั้นทำให้น้ำมูกของพระอาจารย์ไหลออกมาเป็นทางยาวเฟื้อยจนหยดติ๋งๆ เสนานั้นเห็นสภาพอย่างนั้น จึงพูดขึ้นว่า
“พระอาจารย์ น้ำมูกของท่านไหลออกมาอย่างนี้ ทำไมไม่เช็ดเสียเล่า?”
“ข้าไม่มีเวลาว่างจะมาเช็ดน้ำมูกให้กับชาวโลกหรอก” พระอาจารย์ตอบ พูดพลางก็คีบแตงร้อนๆนั้นเข้าปากพลาง “อร่อยจริงๆ! อร่อยจริงๆ!”
แล้วก็ยื่นแตงนั้นให้เสนา แล้วพูดว่า
“รีบกินตอนที่ยังร้อนๆอยู่!
สามโลกก็มีแค่จิต ธรรมทั้งหลายก็อาศัยรู้
รวยหรือจน สูงหรือต่ำ ดิบหรือสุก อ่อนหรือแข็ง
จิตรู้อยู่แต่ตรงกลาง อย่าแบ่งแยกมันออกเป็นสองฝั่ง”
เสนานั้นเห็นพระอาจารย์ทำอะไรแปลกๆ พูดธัมมะที่ฟังไม่รู้เรื่อง เลยรีบกลับไป ทูลฮ่องเต้
ฮ่องเต้ตรัสว่า “ประเทศของเรามีพระอาจารย์อย่างนี้ เป็นบุญกุศลของทุกคนจริงๆ”
http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=2389