๒๐ พวก ลัทธิอิจฉันติกา เป็นพวกที่มีหลักลัทธิอันไม่สมบูรณ์ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงซึ่งมีอยู่ในคติภพทั้งหกนี้ ซึ่งมีทั้งพวกมหายานและหีนยานรวมอยู่ด้วยนั้น ถ้าเขาไม่มีความเชื่อต่อ พุทธภาวะ อันเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรยิ่งกว่า ซึ่งมีอยู่ในตัวเขาเองแล้ว ก็เป็นการสมควรแล้วที่จะถูกขนานนามว่าเป็นพวกอิจฉันติกา ที่มีรากเหง้าแห่งกุศลอันขาดด้วนเสียแล้ว
พวก พระโพธิสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งมีความเชื่อใน พุทธธรรม อย่างลึกซึ้ง และไม่ยอมรับการแบ่งแยก เป็นมหายาน และหีนยานแล้วก็ตาม แต่ถ้ายังไม่เห็นแจ้งต่อ สภาวะหนึ่ง เดียว ของพุทธทั้งหลาย และสัตว์โลกทั้งปวงแล้ว ก็ควรถูกขนานนามว่าเป็นพวกอิจฉันติกาประเภทที่รากเหง้าแห่งกุศลยังดีอยู่
พวก ที่การรู้แจ้งของเขาส่วนใหญ่ มีมูลมาจากการได้ยินได้ฟังธรรมที่มีผู้แสดงนั้น ถูกขนานนามว่าพวกสาวก พวกที่รู้แจ้งเห็นจริงด้วยการซาบซึ้งต่อกฎแห่งกรรม ถูกขนานนามว่าพวกปัจเจกพุทธะ พวกที่เป็น พุทธะ โดยได้มาจากการรู้แจ้งเห็นแจ้งอันแท้จริง ซึ่งแสวงหาเอาได้จากใจของเขาเองนั้น ถูกขนานนามว่าพวกสุตพุทธะ
นัก ศึกษาเรื่อง ทาง ทางนี้แทบทั้งหมด รู้แจ้งโดยทางธรรมะซึ่งสอนกันเป็นคำพูด ไม่ใช่โดยทางธรรมะที่เห็นได้ด้วยใจ แม้ว่าเขาจะได้ทำความพากเพียรมาแล้วเป็นกัปป์ ๆ ไม่ขาดสาย เขาก็จะไม่เป็นผู้ที่กลมกลืนกันได้กับ เนื้อแท้ดั้งเดิมของพุทธะ พวกที่ไม่รู้แจ้งเห็นแจ้งจากภายใน จิต ของเขาเอง ได้แต่ฟังธรรมซึ่งสอนกันด้วยคำพูดนั้น สร้างแสงสว่างให้แก่จิตเอาเอง และไปเห็นความสำคัญอยู่ที่คำสอน ดังนั้นเขาจึงมัวแต่ก้าวไปทีละขั้น ๆ โดยไม่ประสีประสาต่อ จิตเดิมแท้ ของตนเองเลย
เมื่อ เป็นดังนั้น ถ้าเธอเพียงแต่มีความเข้าใจซึมซาบต่อ จิต อย่างหุบปากเงียบ ไม่ต้องพูดอะไรเท่านั้น เธอก็ไม่จำเป็นต้องเที่ยวแสวงหาธรรมใด ๆ เลย เพราะเมื่อทำได้ดังนั้น จิต นั่นแหละ คือ ธรรม นั้น
ขอบคุณที่มาบันทึกชึนเชา