ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้มโขทัย
« เมื่อ: กันยายน 24, 2010, 08:37:59 am »

ขอบคุณครับ  :46:
ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 10:28:21 pm »

 :13: อนุโมทนาครับน้องฝน^^
ข้อความโดย: rain....
« เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 04:35:24 pm »

ปู่ไม่เคยเห็นใครตายเพราะอกหัก แต่ที่คนมันตายก็เพราะมันสิ้นคิดเพราะแพ้ใจตัวเอง ใจอ่อนแอ ถ้าไม่คิด ไม่นำจิตไปวางไว้กับมันมันก็จะค่อย ๆดีขึ้นเอง บังคับตัวบังคับกายมันทำได้ แต่การบังคับใจถ้าไม่แกร่งจริงมันก็ยาก แต่ใจมันเป็นของเราถ้าเรายอมแพ้มัน เราก็จะแพ้ไปตลอดชีวิต ถ้าเราเคยเอาชนะมันได้บังคับมันได้เราก็จะไม่มีทุกข์ ไม่มีใครช่วยเราได้หรอกหมอที่ไหนก็รักษาให้ไม่ได้ มีแต่ตัวเรากับเวลาเท่านั้นที่ช่วยตัวเราได้

......สิบห้าวันผ่านมาเป็นไงบ้าง” “ไม่ได้คิดอะไรก็รู้สึกดีค่ะ” “ทำต่อไปน่ะ ตัดใจซะ มันทำไม่ได้ทันทีหรอกแต่มันจะค่อยๆ ดีขึ้นคิดถึงแม่ไว้ให้มาก ๆ ไม่สบายใจอะไรก็เล่าให้เค้าฟังให้มีสติ อย่าไปจดจ่ออยู่กับมัน15 วันผ่านมาไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ไม่เห็นจะตายไม่ใช่หร ือตัดใจซะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่นอย่าไปใส่ใจ กับม ัน คนมันไม่ดีก็ปล่อยมันไปตามวิถีชีวิตของมัน........”

ปู่ฤาษีหันไปหยิบของในย่ามเป็นเงิน 3 หมื่นบาทยื่นคืนให้ฉัน “เงิน 3 หมื่นปู่ไม่เอาหรอกให้เอาไปเก็บไว้ 2หมื่น เอาให้แม่ 5 พันอีก 5 พันไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอาง แต่งตัวใหม่ให้ดูดีกว่านี้”พูดจบแกก็หัวเราะ “จำคำปู่ไว้อย่าเชื่อใจคน อย่ามองเพียงแค่ภายนอก แล้วอย่าไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก

ทุกคนมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้วเพียงแต่เสน่ห์ที่ เรามีจะถูกใจใครเท่านั้นพวกนุ่งผ้าเหลืองผ้าขาว บางคนสักแต่เอาผ้ามาห่มแต่ใจมันไม่ใช่คน เราเป็นผู้หญิงต้องระวังตัวให้ดีถ้าเจอคนดีก็ดีไป ถ้าเจอพวกไม่ดีเราจะเสียทั้งตัวเสียทั้งเงินเสียทั้ง ใจ จะไปโทษใครบอกใครก็ไม่ได้เราโง่เอง ...หยุด...ห้ามไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก จำคำปู่ไว้ให้ขึ้นใจวันนี้แฟนเราจะมาหา ก็ตัดสินใจเอาก็แล้วกัน”

ฉันกลับที่พักเริ่มนั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆที่ผ่านมา ความเจ็บปวดที่เคยมี ทุกครั้งฉันแทบจะทนไม่ได้ถ้าคิดถึงเค้า แต่ตอนนี้ทำไมความเจ็บปวดมันลดลง เริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆที่ผ่านมาจิตใจที่เคยอ่อนแอ มันเริ่มแข็งแรงตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันไม่รู้ น้ำตาที่เคยไหลไม่หยุดหากเมื่อไหร่ที่คิดถึงเค้าทำไม มันหายไปไหน คำสอนของปู่ก้องอยู่ในสองหู ฉันตัดสินใจ.....จากนี้ต่อไปฉันต้องเข้มแข็ง ...........

เสียงเคาะประตูหน้าห้อง.....“ใครค่ะ?” ฉันถาม “เราเอง” เหมือนที่ปู่บอกไว้ไม่ผิดเค้ามาจริงๆ ใจที่เคยเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่หายไปไหนหมดหัวใจเต้นแรง ใจเริ่มอ่อนเริ่มหวั่นไหว........

“มีธุระอะไร?”ฉันไม่ยอมเปิดประตู
“.....เราคิดถึง.....เปิดประตูให้เราหน่อย”.......

ฉันเริ่มสับสนน้ำตาเริ่มไหล จะทำไงดี...คิดถึงคำพูดของปู่ฤาษีคิดถึงหน้าแม่..... .. “กลับไปก่อนน่ะ วันนี้เรายังไม่อยากคุย ตอนนี้เราอยู่กับแม่กลับไปเถอะ” ฉันโกหกเพราะรู้ว่าตัวเองยังไม่เข้มแข็งพอ หากเจอเค้าวันนี้ฉันต้องใจอ่อนแน่นอน ........

ทุกวันนี้ฉันฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ถ้าไม่มีท่านฉันก็ไม่รู้ว่าชีวิตของฉันจะต้องพบเจออะ ไร อาจจะเจอสิ่งที่เลวร้าย เจอพวกซาตานในคราบนักบุญต้องเสียทั้งตัวเสียทั้งใจ จึงอยากจะขอเตือนเพื่อนๆ ที่คิดจะไปทำเสน่ห์ให้ไตร่ตรองให้ดี ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเหมือนฉันเสมอไปน่ะคะ
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
ขอขอบคุณโพสดีๆจาก  http://www.junjaowka.com/webboard/showthread.php?t=47909
ข้อความโดย: rain....
« เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 04:33:10 pm »

ฉันกับแฟนคบกันมา 4 ปี มีโครงการจะแต่งงานกันสิ้นปีนี้แต่แล้วจู่ ๆเค้าก็มาบอกว่า “เราเลิกกัน เค้าไม่ได้รักฉันแล้วตอนนี้เค้าพบคนใหม่ ตลอดเวลาเค้าหลอกฉันมาตลอดว่ารัก เค้าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สิ้นปีนี้”

ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อจะฉุดรั้งเค้ากลับมา ฉันถามว่าฉันผิดตรงไหนไม่ดีตรงไหน ฉันจะปรับปรุงตัวใหม่ เค้าต้องการอะไรฉันทำให้ได้ทุกอย่างและยอมทุกอย่างขอ เพียงแค่ “กลับมาเหมือนเดิม”แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือความเฉยชา, หงุดหงิด,รำคาญทำอะไรก็ผิดไปหมด เพื่อนแนะนำฉันให้ “ไปทำเสน่ห์”

ปกติฉันเป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้ไม่อยากยุ่งเกี่ยวไ ม่อยากเข้าใกล้แต่....ณ จุดจุดนี้ไม่ได้แล้ว ความรักบังตาฉันยอมทุกอย่าง ขอเพียงได้เค้ากลับคืนอะไรก็ได้สำหรับฉัน ณ ตอนนี้

“ปู่ฤาษี ” คือผู้ที่เพื่อนฉันพาไปหาเพื่อนบอกว่า “ท่านเก่งญาติของเพื่อน สามีหนีไปอยู่กับเมียน้อยท่านก็เป็นคนเรียกกลับมา ทุกวันนี้ทั้งรักทั้งหลงภรรยาไม่ไปมีใหม่อีกเลย”

บ้านปูนชั้นเดียว มีลานจอดรถที่พอจอดรถยนต์ได้ประมาณ10 คัน วันแรกที่ฉันไปมีรถยนต์จอดอยู่3 คัน มองเข้าไปในบ้านมีคนนั่งจนล้นออกมาข้างนอกมีเสียงหัว เราะดังออกมาเป็นระยะเพื่อนพาฉันเข้าไปภาพที่ฉันเห็น “ชายหนุ่มอายุน่าจะประมาณ28 – 29 ปี ผมยาวมีลายสักเต็มตัว นัยต์ตาหวานเยิ้มมือคีบบุหรี่พูดไปยิ้มไปปล่อยมุกสนุ กสนานทำให้ผู้ที ่เข้ามาหาหัวเราะเป็นระยะๆ นุ่งชุดลายเสือดูดีมีเสน่ห์′ คนนี้เรอะที่เพื่อนบอกว่าเป็นปู่ฤาษีทำไมยังหนุ่ม แต่ ณ วินาทีนั้นความรักบังตาไม่ได้คิดอะไรเพื่อนบอกว่าดี ฉันก็เชื่อโดยที่ไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ในวันข้างหน้า เลย

เราสองคนนั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง คนที่เข้ามาล็อตแรกก็ออกไปถึงคิวของฉัน เพื่อนแต่งขันธ์ห้า(ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่)พร้อมเงิน 100 บาท ให้ฉันเขียนชื่อ-นามสกุลพร้อมที่อยู่ของฉันและของแฟนยื่นให้

ปู่ฤาษี “.........(เอ่ยชื่อฉัน)ดวงไม่ดีจะถูกแย่งของรัก .......(เอ่ยชื่อแฟน) คนนี้เป็นแฟนใช่มั๊ย?”

ฉันตอบ “ใช่ค่ะ” ′มีอะไรจะถาม?” ท่านถามฉัน......เงียบ ......ฉันก็ไม่รู้จะถามอะไรเพื่อนหันมาสะกิด“ตอบไปซิ ” ก็ไม่รู้จะตอบอะไร.......... ท่านนั่งหลับตาสวดคาถาประมาณ5-10 คำ แล้วหันมาถาม“รักเค้ามากตอนนี้ใจเศร้าหมองในสมอง มีแต่คิดจะฆ่าตัวตาย .........อยากได้เค้ากลับมามั๊ย?”ท่านหันมาถาม

“อยากได้ค่ะ”ฉันตอบ

“ถ้าอยากได้คืนจะช่วยแต่จะต้องจ้างน่ะมีเงินเท่าไหร่ ?” “สองพันค่ะ” ท่านหลับตาสักพัก′ไม่ใช่หรอก ในกระเป๋าตังค์มีเงินห้าพันบาทในสมุดบัญชีมีเงินอีก 3 หมื่น” ฉันตกใจท่านรู้ได้อย่างไง “ถ้าอยากได้คืนปู่คิดค่าจ้าง 3 หมื่น”

“ตกลงค่ะ!”ฉันตอบตกลง “จะบ้าเหรอ.....3หมื่นน่ะแก ไม่คิดก่อนหรือไง”เพื่อนฉันตกใจรีบหันมาถามฉัน แต่สำหรับฉันตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการได้แฟนกลับค ืนมาปู่ฤาษี มองหน้ายิ้มๆ

“ให้ไปเอา...................................” ท่านสั่งให้ฉันนำสิ่งของมาเข้าพิธีรุ่งขึ้นเดินทางไป หาปู่ฤาษี

ไปถึงก็มีคนมารอท่านเต็มอาศรมไปหมด รายแรก....มากันประมาณ 5-6คน แต่งขันธ์ 5จานเดียวใส่เงิน 100 บาท แต่มีรายชื่อในกระดาษประมาณ10 ชื่อได้ท่านรับขันธ์ 5 ไปหลับตาสวดมนต์ดูให้ทีละคน การทำนายของท่านแม่นเหมือนตาเห็น ท่านจะทักเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยก่อนว่า เป็นลักษณะไหนอยู่ตรงไหนมีอะไรเป็นจุดเด่น (มาทราบภายหลังว่าท่านไม่ได้ดูจากวันเดือนปีเกิด แต่จะส่งจิตไปยังบ้านที่เราอาศัยอยู่เพื่อไปตรวจสอบย ังสถานที่ ท่านจึงต้องถามว่าสถานที่ที่ท่านไปถูกต้องหรือไม่) ท่านจะทักแต่ละคนตามรายชื่อที่เขียนไป

จนกระทั่งไปสะดุดที่ชื่อของลูกสาวของคนที่มาดู “มันหนีออกจากบ้านไปใช่มั๊ย?” (จริงๆ แล้วท่านจะพูดเป็นภาษาอีสาน แต่ว่าฉันแปลเป็นภาษาภาคกลางให้เพื่อจะได้เข้าใจ)

“ใช่จ๊ะ”คนเป็นแม่พูดน้ำตาเริ่มไหล ท่านหลับตาสวดมนต์สัก5-10 คำ“มันหนีไปกับผู้ชายตอนนี้มันอยู่กาฬสินธ์อยู่บ้านเค้ า”“ปู่ช่วยหน่อย ตามมันกลับมาให้หน่อย” แม่พูดไปพร้อมเช็ดน้ำตา ฉันเองก็พาลจะน้ำตาไหลตามไปด้วยท่านสวดมนต์สักพัก

“เออ....ปู่จะช่วย วันจันทร์มันจะกลับมา พอมันมาแล้วให้พามันมาหาปู่..” ท่านพูดปลอบใจเขาสักพักแล้วก็เริ่มสอนให้เข้าใจถึงวิ ถีชีวิตของมนุษย์เป็นคำสอนตามแบบของศาสนา จนพ่อแม่ของน้องผู้หญิงผ่อนคลายหายเศร้าท่านจึงให้กล ับ

รายที่สอง .. เป็นชาวบ้านมาประมาณ4-5 คน รายนี้ภรรยาหนีตามชู้ไป ทิ้งสามีกับลูกสองคน สามีเค้ารักภรรยามากอยากได้ภรรยาคืน ฤาษีท่านดูไปแล้วทักว่า ภรรยาของแกหนีตามผู้ชายข้างบ้านไป ผู้ชายคนนั้นก็มีภรรยาแล้วใส่เสน่ห์ภรรยาของแกด้วยพอ ท่านพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงที่มาด้วยบอกว่าเป็นสามีของแกเอง ปู่จึงหันมาถามว่าจะเอาคืนด้วยหรือ ฝ่ายหญิงตอบว่าไม่เอาปู่จึงหันไปถาม ฝ่ายชายว่าจะเอาคืนจริงๆ หรือ ไม่รังเกียจเค้าหรือที่เค้าทำแบบนี้โกรธเค้าไหมเกลีย ดเค้ามั๊ยซึ่งฝ่ายชายก็ยืนยันคำเดียวว่าจะเอาคืนท่าน ถามซ้ำ 3 ครั้ง ฝ่ายชายก็ยังยืนยันคำเดิมท่านรับปากว่าจะช่วยแล้วให้ บูชาของสิ่งหนึ่งไปเรียกเก็บเงิน 500 บาท

ฉันเริ่มสงสัยเอ...ทำไมของฉัน 3 หมื่นส่วนของคนนี้แค่ 500 บาท แต่ก็ยังไม่ได้ถามตอนนั้น รายที่ 3 เป็นคุณยาย พาหลานสาวมากราบท่าน บอกว่าเป็นคนนี้ที่หนีออกจากบ้านแล้วให้ท่านตามมาให้ กลับมาแล้วตามที่ท่านบอก ท่านเรียกน้องผู้หญิง(อายุประมาณ 16-17 ปี) เข้ามานั่งต่อหน้าท่านแล้วเริ่มสอน ซึ่งคำสอนของท่านฉันฟังแล้วน้ำตาแทบไหล.....

“เห็นหน้ายายมั๊ยแกเสียใจขนาดไหน เค้าเลี้ยงเรามากี่ปี แต่ผู้ชายอีกคนพึ่งเจอกันไม่เท่าไหร่ ทำไมถึงทุ่มเททุกอย่างให้เค้าได้ขนาดนั้น ยายเค้าเสียใจขนาดไหนเห็นมั๊ย? (คุณยายเริ่มเช็ดน้ำตา) ที่ปู่ช่วยไม่ได้อยากช่วยเราน่ะ ปู่สงสารยายของเราถึงได้ช่วยเรียกกลับมา” ท่านสอนอยู่นานพอควร

เกือบบ่าย 2ถึงคิวฉันซะทีท่านหันมายิ้ม “เดี๋ยวจะทำน้ำมนต์ให้อาบ” ... ท่านให้ฉันอาบน้ำมนต์โดยท่านเป็นผู้ปลุกเสก จะมีผู้ชายอีกคนเป็นคนอาบให้ ในระหว่างที่อาบเค้าก็จะสวดคาถาไปด้วย .....หลังจากอาบน้ำมนต์เสร็จ ท่านก็ให้นำของที่เตรียมมาให้ทำพิธีอยู่ประมาณ10 นาที หลังเสร็จพิธีท่านผูกแขนให้ฉันแล้วสั่งให้ฉันปฏิบัติ ตามคำสั่ง

1. ทุกวันตอนเย็นให้ฉันเดิน 999 ก้าว โดยให้นับทีละก้าวห้ามนับผิด หากนับผิดหรือไม่แน่ใจให้เริ่มนับใหม่
2. ก่อนนอนให้สวดมนต์ 99 จบ
3. ให้คุยกับ คุณพ่อหรือคุณแม่ทุกวันเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังให้หมดห้ามปิดบังและโกหก
4. ไม่ให้รับรู้หรือพูดคุยกับแฟนโดยเด็จขาดภายใน 15 วัน หากผิดคำสัญญาจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่จนกว่าจะครบ15 วัน

ท่านให้ฉันปฏิบัติอยู่15 วันแล้วให้กลับมาหาท่านใหม่ ซึ่งท่านสัญญาว่าภายใน15 วัน หากฉันทำได้ตามคำสั่งแฟนของฉันจะกลับมาหาฉันแน่นอน ฉันรับปาก และเริ่มปฏิบัติตามที่ท่านสั่งไว้......เวลาเริ่มผ่า นไปจากวันที่หนึ่ง เป็นวันที่สองวันที่สาม วันที่สี่ วันที่ห้า.......วันที่สิบห้า วันที่ 15 ครบจำนวนวันที่ท่านสัญญาไว้

ฉันเดินทางไปหาท่านแต่เช้า....... “เป็นไง.....รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า”ท่านถาม
“ค่ะ สบายใจขึ้นมากแล้วค่ะ”
“รักเค้ามากเลยหรือ”ท่านถาม
“ค่ะ”
“ได้โทรหาแม่ทุกวันหรือเปล่า”
“โทรค่ะ”
“แม่ว่าไงเค้าเสียใจมั๊ย”
“แม่ไม่ว่าอะไรค่ะท่านจะคอยปลอบใจ แล้วท่านก็เสียใจมากค่ะ”
“แม่เสียใจแล้วเราเสียใจมั๊ย” .....ฉันเงียบ เริ่มคิด“เสียใจค่ะ”
“ตอนเราร้องไห้แม่เค้าว่าไง”
“......แม่เค้าก็ร้องไห้ค่ะ....”
“รักแม่มั๊ย” “รักค่ะ”
“ใครทำให้เราเสียใจ?...ใครทำให้เราเป็นแบบนี้? ผู้ชายคนนั้นใช่มั๊ย”.......ฉันนั่งนิ่งน้ำตาเริ่มไห ล....... “ทำงานมาเคยให้เงินแม่บ้างมั๊ย....เวลาไปตลาดเห็นกับ ข้าวเคยจำได้มั๊ยว่าแม่ชอบกินอะไร จำได้หรือเปล่าว่าตัวเราชอบกินอะไร........ทุกวันนี้ กับข้าวที่ซื้อมากินเป็นที่เราชอบหรือเ ป็นที่ผู้ชายคนนั้นชอบ........ทำไมต้องให้เค้ามามีอิ ทธิพลอยู่เหนือตัวเองขนาดนั้น เค้าทิ้งเราไปเพราะอะไร.......ตอบได้มั๊ย” “.......เค้าไปมีคนใหม่ค่ะ” “ทำไมเค้าไปมีคนใหม่”“......ไม่ทราบค่ะ”

ฉันตอบไปพลางเช็ดน้ำตา “เพราะสันดาน......เข้าใจคำว่าสันดานมั๊ยคนดีจะคิดดี ทำดี พูดดีคนไม่ดี ความคิดมันก็เลวไปด้วย อยากจะทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตก็จะเอามันคืน ให้ แต่ถ้าอยากจะมีความสุข ไม่อยากให้แม่เสียใจมีชีวิตที่ดี เจอคนดีๆ ก็เลิกกับมันซะ”