หากยังไม่เพียงพอต่อหัวข้อโสเหล่แรก ก็พึงมาโสเหล่ในหัวข้อที่สองกันดู..
คำสอนในพระพุทธศาสนาเริ่มต้นจากการมองชีวิตว่าเป็นทุกข์ ปรากฏการณ์จึงเป็นว่า คนที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่กับทุกข์ หรือมองไม่เห็นทุกข์ จึงไม่มีความสนใจที่จะศึกษาพระพุทธศาสนา เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตัวเอง หรือคิดว่าจะทำให้ชีวิตไร้สีสัน สลดหดหู่ สู้หาความเพลิดเพลินให้กับชีวิตไปวันๆไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าเรามีตาที่ดูออก จะพบว่าทุกข์ได้ติดตามชีวิตอยู่เหมือนเงาตามตัว ทั้งทุกข์ที่เนื่องด้วยกาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน คือการที่เราต้องคอยขวนขวายหาทางบำบัดอาการหิว กระหาย ร้อนหนาว เมื่อบำบัดได้คราวหนึ่งทุกขเวทนาก็เบาบางลง เราจะรู้สึกว่าเป็นสุขอยู่ไม่นาน ทุกขเวทนาอื่นก็เกิดตามมาอีก เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา... ต่อมาคือทุกข์ที่เนื่องด้วยจิต ได้แก่ ความไม่สมหวัง ความต้องพบเจอกับสิ่งที่ไม่ชอบ หรือต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ชอบ ความคับแค้นใจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความทุกข์ที่ละเอียดลึกซึ้งไปกว่านั้น คือที่พระพุทธองค์ให้เราพิจารณาว่า แม้ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตายก็เป็นทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกชีวิตต้องประสบพบเจออย่างแน่นอน ต่างกันเพียงแต่ความเข้มจาง เร็วหรือช้า และด้วยท่าทีที่แตกต่างกันอย่างไรเท่านั้น
หากเราไม่รีบเบือนหน้าจากจุดเริ่มต้นนี้ แล้วสนใจศึกษาต่อไปจะพบว่า จุดหมายปลายทางที่พระพุทธศาสนาจะนำพาเราไป คือ ความพ้นทุกข์ แม้แต่ในขณะที่เรากำลังประสบกับความทุกข์ เราก็สามารถอยู่กับทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์ หรือมีทุกข์น้อยที่สุด ก็โดยการทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามหลักธรรมในเรื่องอริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นความจริงที่ประเสริฐ เป็นสากล ทันสมัยตลอดกาล และสามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาของชีวิตได้ทุกแง่ทุกมุมอย่างน่าอัศจรรย์
มีคนเป็นอันมากพึ่งตนเองได้ทางกาย เขาไม่อดไม่อยาก ปากท้องของเขาชุ่มและเต็มอยู่ด้วยข้าวปลาอาหาร ร่างกายห่อหุ้มด้วยพัสตราภรณ์อันพราวพรรณ เลิศด้วยเนื้อและสี สูงส่งในราคา เขามีคฤหาสน์โอ่อ่าปานทิพย์วิมาน ได้ฟังเสียงสรรเสริญเยินยอ ได้รับการต้อนรับพินอบพิเทาจากวงสังคม นี่คือลักษณะภายนอกที่ใครๆพอมองออกได้ แต่ลึกลงไป ส่วนที่ใครๆมองไม่เห็นคือใจของเขา ใครเล่าจะบอกได้ นอกจากตัวเขาเอง เขารู้สึกว้าเหว่อย่างล้ำลึกอยู่ในดวงกมล มีความคลางแคลงสงสัยมิเว้นวายว่า "เราคือใคร? อะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ? ทำไมอะไรๆ ช่างจืดชืดไปเสียสิ้น?" เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ชีวิตต้องการแต่ยังขาดอยู่ เขาขาดอาหารใจนั่นเอง ที่พึ่งคือธรรมนั่นแหละเป็นอาหารใจที่ดีที่สุด ธรรมนั่นแหละเป็นทั้งอาหารที่อยู่อาศัย เครื่องประดับ และยาบำบัดโรคของใจ คนส่วนมากพึ่งตนเองไม่ได้ทางใจ ก็เพราะขาดธรรมเป็นที่พึ่งพำนัก..ปล.ธรรมะทั้งสองข้อด้านบนไม่ได้เขียนเองทั้งหมด แต่จำไม่ได้แล้วว่าเอามาจากไหนบ้าง เพราะเอามารวมๆกันไว้กับบทความและข้อเขียนส่วนตัว ในคลังมหาสมบัติของตัวเองสองสามปีมาแล้ว จึงขอยกเอาอานิสงส์และคุณความดีี่พึงมีทั้งหมดให้เจ้าของธรรมและครูบาอาจารย์ในทางธรรมทุกท่านด้วยครับ..
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=d2sYbe7J0ow&feature=related[/youtube]