ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 08:42:47 pm »

 :13: อนุโมทนาครับพี่แป๋ม พี่มด ขอบคุณครับพี่เล็ก ^^
ข้อความโดย: lek
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 04:03:53 am »

ขอบพระคุณขอรับคุณฐิตา อนุโมทนาสาธุ  :07:
 
นำคำสอนพระอรหันต์จี้กงมาฝากขอรับ :45:

1. ชีวิตย่อมเป็นไปตามวิถีแห่งกรรมที่ลิขิต (ละชั่วทำดี) วอนขออะไร
2. วันนี้ไม่รู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้ กลุ้มเรื่องอะไร
3.เคารพพระพุทธเจ้าไม่เคารพพ่อแม่ เคารพเรื่องอะไร
4. พี่น้องคือผู้ที่เกิดตามกันมา ทะเลาะกันทำไม
5. ลูกหลานทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต ห่วงใยทำไม
6. ชีวิตย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ ร้อนใจทำไม
7. ชีวิตใช่จะพบเห็นรอยยิ้มกันได้ง่าย ทุกข์ใจทำไม
8. ผ้าขาดปะแล้วกันหนาวได้ อวดโก้ทำไม
9. อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร อร่อยไปใย
10. ตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้ ขี้เหนียวทำไม
11. ที่ดินคือสิ่งที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง โกงกันทำไม
12. โอกาสจะได้กลายเป็นเสีย โลภมากทำไม
13. สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือศีรษะเพียง 3 ฟุต ข่มเหงกันทำไม
14. ลาภยศเหมือนดอกไม้ที่บานอยู่ไม่นาน หยิ่งผยองทำไม
15. ทุกคนย่อมมีลาภยศตามวาสนาที่ลิขิต อิจฉากันทำไม
16. ชีวิตลำเค็ญเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ แค้นใจทำไม(บำเพ็ญไวๆ)
17. นักเล่นการพนันล้วนตกต่ำ เล่นการพนันทำไม
18. ครองเรือนด้วยการประหยัดดีกว่าไปพึ่งผู้อื่น สุรุ่ยสุร่ายทำไม
19. จองเวรจองกรรมเมื่อไหร่จะจบสิ้น อาฆาตทำไม
20. ชีวิตเหมือนเกมหมากรุก คิดลึกทำไม
21. ฉลาดมากเกินจึงเสียรู้ รู้มากทำไม
22. พูดเท็จทอนบุญจนบุญหมด โกหกทำไม
23. ดีชั่วย่อมรู้กันในที่สุด โต้เถียงทำไม
24. ใครจะป้องกันมิให้เกิดเรื่องได้ตลอด หัวเราะเยาะกันทำไม
25. ฮวงซุ้ยดีอยู่ในจิตไม่ใช่อยู่ที่ภูเขา แสวงหาทำไม
26. ข่มเหงผู้อื่นคือทุกข์ รู้ให้อภัยคือบุญ ถามโหรเรื่องอะไร
27. ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม

edit @ 1 Apr 2008 22:11:09 by DhammaWorld
กิ๊งๆๆๆๆ http://dhammaworld.exteen.com/20080224/entry
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 02:46:28 am »


ข้าพเจ้าได้เขียน กิจปฏิบัติของพระโพธิสัตว์ 37 ประการ ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเกี่ยวกับความหมายของพระสูตร พระตันตระและอรรถกถาต่างๆ ให้แก่ผู้ที่ต้องการฝึกฝนตนตามแนวทางของพระโพธิสัตว์
 
เนื่องจากสติปัญญาอันจำกัดและการศึกษาเล่าเรียนอันน้อยของข้าพเจ้า นี่ไม่ได้เป็นบทกลอนที่ไพเราะ ที่จะทำให้เหล่านักวิชาการพอใจ แต่ข้าพเจ้าก็ได้ยึดถือพระสูตรและพระพุทธพจน์ ข้าพเจ้าคิดว่ากิจปฏิบัติของพระโพธิสัตว์นี้ไม่มีข้อผิดพลาด
 
แต่เนื่องด้วยความด้อยสติปัญญาของข้าพเจ้า ที่จะหยั่งลงถึงก้นบึ้งของการปฏิบัติอันยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอจึงวิงวอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย โปรดประทานอภัยแก่ข้อผิดพลาดต่างๆ เช่นการไม่เข้ากัน หรือข้อความที่ขัดแย้งกันในบทเหล่านี้
 
ด้วยอำนาจของผลบุญที่เกิดขึ้นจากการประพันธ์บทเหล่านี้ ขอให้สัตว์โลกทั้งหลายที่เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ จงกอปรไปด้วยโพธิจิตทั้งสองประการ อันได้แก่โพธิจิตสมมติและโพธิจิตปรมัตถ์ และเป็นดั่งพระอวโลกิเตศวรผู้ปกป้อง ผู้ทรงไม่ดำรงอยู่ในสุดโต่งทั้งสอง อันได้แก่สังสาระและนิพพาน
 
บทประพันธ์นี้เขียนขึ้นมาโดยพระภิกษุท็อกเม ผู้อธิบายพระคัมภีร์และเหตุผลต่างในการปฏิบัติจำศีล ในถ้ำในงุลจู รินเจ็นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านเองและผู้อื่น จากคำขอของพระการ์เช็น ตริปตรุล รินโปเช บทประพันธ์นี้ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษสำเร็จเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2542 โดยลูกศิษย์อริมา โดยเธอได้แก้ไขเพิ่มเติมในฤดูใบไม้ผลิปี พ.ศ. 2545




 
บทแปลภาษาอังกฤษสงวนลิขสิทธิ์โดย อริมา
บทประพันธ์นี้สามารถทำไปเผยแพร่แจกแจงได้
การสงวนลิขสิทธ์นั้นเพียงเพื่อการตรวจสอบความถ่องแท้

ราม นฤหล้าและโสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์ แปลเป็นภาษาไทย
                                กันยายน ๒๕๕๑


: http://1000stars.wikispaces.com/37practices
: http://www.sookjai.com/index.php?topic=3357.0
นำมาแบ่งปันโดย : คุณมดเอ๊กซ์
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 02:03:04 am »


21. ความสุขจากความรู้สึกภายนอกต่างๆเปรียบเสมือนน้ำเค็ม ที่ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งเกิดความกระหายมาก การปลดปล่อยสิ่งที่ทำให้เกิดการยึดติดคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
22. ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจิตของตนเอง ตั้งแต่เริ่มแรกจิตปราศจากการปรุงแต่งใดๆ การเข้าใจเรื่องนี้และไม่ยึดติดกับการแยกแยะเนื้อเรื่อง-วัตถุต่างๆคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
23. เมื่อพบกับความสนุกสนานเพลิดเพลิน แม้ว่าจะสวยงามดังสายรุ้งในฤดูร้อน พึงอย่าเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ การไม่มองสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นของจริง และการละทิ้งในการยึดติดคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
24. ความทุกข์ต่างๆเปรียบเสมือนการตายของเด็กในความฝัน การหลงคิดไปว่าสิ่งลวงต่างๆเป็นจริงทำให้เราเหนื่อยล้า ดังนั้น เมื่อพบกับเหตุการ์ณที่ไม่พึงประสงค์ ให้มองว่าเป็นสิ่งลวง นี่คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
25.เมื่อจำต้องสละแม้ร่างกายของเราเมื่อเรามุ่งตรงสู่พระนิพพาน แล้วจะมีเหตุอันใดที่ต้องกล่าวถึงวัตถุภายนอกเล่า เพราะฉะนั้น การบำเพ็ญทานและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยไม่หวังผลตอบแทนหรือไม่หวังผลบุญคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
26. หากขาดเสียซึ่งศีลแล้ว ก็จะไม่สามารถแม้บรรลุจุดประสงค์ของตนเอง ดังนั้นความปราถนาที่จะสนองความประสงค์ของผู้อื่นก็ยิ่งเป็นเรื่องตลก เพราะฉะนั้น การรักษาศีลโดยปราศจากความปราถนาในทางโลกคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
27. สำหรับพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาความสุขจากพระธรรมนั้น ทุกๆคนที่ก่อให้เกิดภัยอันตรายเป็นดั่งทรัพย์สมบัติอันมีค่า เพราะฉะนั้นการฝึกฝนขันติโดยปราศจากความมุ่งร้ายใดๆคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
28. แม้พระสาวกและพระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ซึ่งบรรลุถึงการปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของตนเอง ก็ยังเพียงพยายามราวกับกำลังจะดับไฟที่กำลังไหม้อยู่บนศีรษะ เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว การปฏิบัติวิริยะ การขยันหมั่นเพียร อันเป็นบ่อเกิดของคุณลักษณอันดีงาม เพื่อยังประโยชน์แก่สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
29. เมื่อเข้าใจแล้วว่ากิเลสต่างๆถูกทำลายได้ด้วยญาณอันเกิดจากสมถสมาธิ และการฝึกฝนสมาธิอันพ้นไปจากอรูปฌานทั้งสี่อย่างสมบูรณ์คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
30. หากขาดเสียซึ่งปัญญา การตรัสรู้ที่สมบูรณ์แบบโดยอาศัยบารมีทั้งห้าที่เหลือนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ การฝึกฝนอุบายหรือเส้นทาง ด้วยปัญญาที่ไม่แบ่งแยกระหว่างมณฑลทั้งสาม คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
31. หากเรามีแต่เพียงรูปร่างท่าทางของผู้ปฏิบัติ แต่ไม่ตรวจสอบข้อพร่องของตนเอง จะเป็นไปได้ว่าเราอาจปฎิบัติในทางที่ตรงกันข้ามกับพระธรรม เพราะฉะนั้น การหมั่นตรวจสอบข้อบกร่องของตนเอง และการกำจัดข้อบกพร่องเหล่านั้นคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
32. หากเราถูกกระทบจากกิเลสต่างๆ แล้วชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ เราเองก็จะด้อยลงไป ดังนั้น การไม่พูดถึงข้อผิดพลาดของผู้ที่ได้เข้าสู่เส้นทางของมหายาน คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
33. เนื่องจากลาภกับยศทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท และทำให้ความสามารถในการฟัง การไตร่ตรองกับการตั้งสมาธิลดถอยลง การไม่ยึดติดกับบ้านเรือนของเพื่อนๆ ญาติๆ หรือผู้ให้การอุปภัมภ์ทั้งหลาย คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
34. เนื่องด้วยการพูดหยาบคายและเพ้อเจ้อทำให้จิตผู้อื่นไม่สงบ และทำให้ความประพฤติของพระโพธิ์สัตว์เสื่อมถอยลง การไม่พูดพยาบคายและไม่พูดเพ้อเจ้อที่ทำให้ผู้อื่นไม่พอใจคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
35. เมื่อกิเลสได้ฝังลึกลงไปจนเป็นนิสัย การเอาชนะกิเลสก็ทำได้โดยยาก แต่ด้วยอาวุธอันได้แก่สติ การทำลายกิเลสต่างๆเช่นโลภะได้ในทันใดที่กิเลสนั้นเริ่มเกิดขึ้นมา คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
36. โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เราควรถามตัวเองว่าจิตของเรากำลังอยู่ในสภาวะใด การตอบสนองจุดมุ่งหมายของผู้อื่นด้วยการมีสติสัมปชัญญะพร้อมอยู่ตลอด คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
37. เพื่อการปัดเป่าความทุกข์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่มีจำนวนจำกัดด้วยปัญญาที่เข้าใจความบริสุทธิ์ของมณฑลทั้งสาม การอุทิศผลบุญที่ได้มาจากการพยายามนี้ให้แก่การตรัสรู้คือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 01:53:20 am »




กิจปฏิบัติของพระโพธิสัตว์ 37 ประการ
โดย งุลจู ท็อกเม ซังโป


ขอนอบน้อมแด่พระโพธิสัตว์โลเกศวร!
 
ข้าพเจ้ากราบด้วยกายวาจาและใจ โดยความเคารพแด่ท่านอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ และพระอวโกลิเตศวรผู้ปกป้อง ผู้ซึ่งได้สำนึกว่าทุกปรากฎการณ์มิได้มาหรือได้ไปและได้ตั้งใจเป็นหนึ่งเดียวสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทั้งปวงตลอดเวลา
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้ทรงเป็น จุดกำเนิดของประโยชน์และความสุข ทรงเกิดขึ้นจากการสำเร็จพระธรรมอันประเสริฐ และเนื่องจากการสำเร็จนี้ขึ้นอยู่กับการรู้ถึงการปฎิบัติธรรม ข้าพเจ้าจะอธิบายกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์

 
1 ในขณะนี้ ซึ่งได้อยู่ในกายอันไม่ต้องทำงานหนักและและมีโอกาสอันดี อันได้มาโดยยาก การตั้งใจฟัง ตั้งใจคิดใตร่ตรอง และตั้งสมาธิทั้งคืนและวัน เพื่อปลดปล่อยตนเองและผู้อื่นให้หลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิด คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
2. จิตของผู้ที่ที่ยึดติดกับคนรักระร่ำกระสายดุจสายน้ำ จิตของผู้ที่เกลียดชังศัตรูเผาใหม้ดั่งเช่นไฟ จิตของผู้ที่โง่เขลา หลงลืมไปว่าจะรับอะไรไว้ และจะทิ้งอะไร เต็มไปด้วยความบดบัง การไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆคือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
 
3. เมื่อละเว้นจากสถานที่ที่เป็นอันตราย ความรู้สึกยุ่งเหยิงต่างๆจะค่อยๆ ลดน้อยลงไป การปราศจากความไขว้เขวจะทำให้ความอุตสาหะในทางที่ดีเพิ่มขึ้น เมื่อมีจิตใจที่แจ่มแจ้งบริสุทธิ์ การเข้าใจหลักธรรมอันแจ่มชัดแน่นอนก็จะเกิดขึ้น การฝึกฝนโดยปราศจากความไขว้เขวคือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
 
4. เพื่อนที่มีความสัมพันธ์คบหาสมาคมกันมานานก็จะจากกันไป ทรัพย์สมบัติและสิ่งที่ครอบครองมาด้วยความพยายามก็จะต้องละทิ้งไป วิญญาณซึ่งเป็นแขกพักอาศัยอยู่ในกายก็จะออกจากกายไป การไม่ยึดติดกับชีวิตนี้คือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
 
5. เมื่อไปพัวพันกับคนพาล (อกุศล) พิษสามประการเพิ่มขึ้น กิจในการฟัง ในการไตร่ตรอง ในการทำสมาธิก็จะลดถอยลง ความเมตตา และความกรุณาก็จะหมดสิ้นไป การละทิ้งการคบหากับคนพาลคือกิจกฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
6. เมื่อไว้วางใจในกัลยาณมิตรผู้เจริญธรรมกับปัญญา ความบกพร่องก็จะหมดไป คุณสมบัติดีๆก็จะเจริญงอกงามคล้ายดวงจันทร์ที่กำลังจะเต็มดวง การคบหาและยึดมั่นในกัลยาณมิตรผู้เจริญธรรมและปัญญามากกว่ายึดมั่นในกายของตนเองคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
7. แม้แต่เทพเทวดาก็ยังถูกจองจำอยู่ในคุกของเวียนว่ายตายเกิด แล้วพวกเขาจะมาปกป้องผู้อื่นได้อย่างไร ดังนั้นเมื่อหาที่พึ่ง จงพึ่งพระรัตนตรัยที่ไม่มีความหลอกลวง นี่คือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
 
8. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกล่าวไว้ว่าความทุกข์อันไม่อาจทนทานได้ในอบายภูมิทั้งสามเป็นผลของการการทำชั่ว เพราะฉะนั้น การละเว้นการทำชั่วแม้จะเป็นภัยแก่ชีวิตของตนเอง คือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
 
9. ความเพลิดเพลินสนุกสนานในกามาวจรภูมิทั้งสาม เปรียบดั่งน้ำค้างบนปลายใบไม้ จะหายไปในช่วงพริบตา การปฎิบัติให้บรรลุถึงสถานะที่มั่นคงถึงการหลุดพ้นอันไม่เปลี่ยนแปลงคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
10. เมื่อแม่ทั้งหลายที่ได้เคยดูแลเราเป็นอย่างดีนับตั้งแต่ห้วงเวลาที่ไม่มีจุดกำเนิดกำลังทนทุกข์ทรมาน ความสุขของเราเองจะมีประโยชน์อันใดเล่า? เพราะฉะนั้น การมุ่งหมายเห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นเป็นที่ตั้งเพื่อช่วยให้ทุกชีวิตอันไม่มีประมาณได้หลุดพ้นคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
11. ความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงไม่มีข้อยกเว้น เกิดขึ้นจากความต้องการความสุขเพื่อตัวเราเอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเกิดขึ้นจากจิตที่เห็นแก่ความสุขของผู้อื่นเป็นที่ตั้ง การแลกเปลี่ยนความสุขของเรากับความทุกข์ของผู้อื่น คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
12. แม้ว่าผู้อื่น ซึ่งถูกชักจูงด้วยความโลภจักได้ลักทรัพย์ทั้งหมดของเราไป หรือทำให้ทรัพย์ของเราถูกขโมยไป การอุทิศร่างกาย ทรัพย์สิน และบุญบารมีที่ได้สะสมตลอดกาลทั้งสามให้แก่คนเหล่านั้นคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
13. แม้ว่าผู้อื่นจะมาตัดศรีษะของเรา ในขณะที่เราปราศจากความผิดแม้แต่น้อยนิด การน้อมรับการกระทำอันชั่วร้ายของเขาทั้งปวงมาไว้ที่ตัวเราด้วยพลังแห่งความกรุณาคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
14. แม้บางคนจะด่าว่าร้ายเราต่างๆนานาด้วยการป่าวประกาศไปทั่วทั้งหนึ่งพันล้านโลก การพูดถึงคุณงามความดีของผู้นั้นด้วยจิตที่เปี่ยมไปความรักความโอบอ้อมอารี คือกิจปฎิบัติของประโพธืสัตว์
 
15. แม้จะมีผู้เปิดโปงความผิดทั้งหลายของเรา หรือพูดถึงเราในทางลบต่อหน้าสาธารณชน การแสดงความเคารพต่อคนผู้นั้น และมองเขาผู้นั้นเป็นกัลยาณมิตรผู้เป็นผู้ร่วมเดินทางสู่การหลุดพ้นคือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
16. แม้บางคนที่เราเคยดูแลเหมือนเป็นลูกของเราเองมามองว่าเราเป็นศัตรู การดูแลรักษาเขาด้วยความรักใคร่เปรียบเสมือนแม่ที่ดูแลลูกด้วยความรักเมื่อลูกป่วยคือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
 
17. แม้ว่ามีคนที่เท่ากันหรือด้อยกว่ามาดูถูกเราด้วยความหยิ่งยโส การยกเขาผู้นั้นไว้เหนือกระหม่อมด้วยความเคารพอย่างสูงดุจดังเคารพอาจารย์ของเราคือกิจปฎิบัติของพระโพธิ์สัตว์
 
18. แม้ชีวิตของเราจะยากจน ถูกนินทาว่าร้ายจากผู้อื่นอยู่เสมอ เป็นทุกข์จากการเจ็บป่วยที่ร้ายแรง ทั้งเจ็บป่วยทางกาย และถูกภูตผีปีศาจทำร้าย การไม่มีความรู้สึกท้อแท้และน้อมรับเอาความชั่วร้ายและความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิตทั้งปลายทั้งปวงไว้คือกิจปฎิบัติของพระโพธิสัตว์
 
19. แม้เราอาจจะมีชื่อเสียงและมีผู้อื่นมากมายมาเคารพยกย่อง และร่ำรวยดุจดั่งเทพแห่งทรัพย์ การประจักษ์ว่าโชคลาภทั้งหลายในโลก ไม่มีแก่นสาร การปราศจากความหยิ่งทะนงคือกิจปฎิบัติของประโพธิสัตว์
 
20. ในยามที่ไม่สามารถปราบความโกรธและความเกลียดชังภายในตัวเราแม้ว่าจะสามารถปราบศัตรูภายนอกได้ ก็จะมีแต่ศัตรูเพิ่มมากขึ้น การเอาชนะจิตใจของเราให้สงบได้ด้วยกองทัพแห่งความเมตตาและความกรุณา คือกิจปฎบัติของประโพธิสัตว์