ข้อความโดย: Plusz
« เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 04:13:06 pm »คอลัมน์ ผู้หญิง 360 องศา(กอง บ.ก. Women.sanook.com)
เรื่องโดย เชลซี เกิร์ล
ตกงานอย่าท้อแท้! แปรความผิดหวังให้เป็นพลังสร้างความสุข
*ต่อไปนี้เป็นรายงานข่าวประจำวัน*
ค่ายรถยักษ์ใหญ่ปลดพนักงาน 3000 ตำแหน่ง
บริษัทผลิตซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์เล็งเลิกจ้างพนักงาน 1000 ตำแหน่ง พร้อมงดจ่ายเงินชดเชย
โรงงานประกอบตุ๊กตาประกาศวันหยุดลูกจ้างไม่มีกำหนด
….ฯลฯ….
แม้ไม่ต้องเห็นหน้าเฮียสอ เฮียหว่อง คุณพี่กนก หรือท่านพิธีกรรูปหล่อแห่งรายการข่าว เรื่องราวที่สาวๆ ต้องตื่นมาเจอทุกเช้าวันนี้กลายเป็นเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจไปเสียแล้ว อยากปิดหูปิดตาไม่รับรู้ก็ทำไม่ได้ ก็ผู้หญิงสมัยนี้น่ะไม่เหมือนก่อน พวกเรามีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติกันทุกคน ความสามารถรึก็ทัดเทียมคุณผู้ชาย หลายๆ องค์กรก็มีสุภาพสตรีอยู่ในระดับบริหาร คอยคุมบังเหียนและจัดการองค์กรได้อย่างน่าชื่นชม แต่เมื่อ “เรา” มีบทบาทมากขึ้นในสังคม ผู้หญิงเก่งทั้งหลายก็เลยต้องแบกความรับผิดชอบที่มากขึ้นตามไปด้วย
เครียดมั้ยคะ เครียดเนอะ …เกิดเป็นหญิงยุคใหม่วัยทำงานสมัยนี้มีแต่ปัญหารุมเร้า แต่ละวันต้องมาคอยระวังภัยผู้หญิง ภัยสังคมไม่พอ ยังมีเรื่องพิษเศรษฐกิจมาแชร์ส่วนแบ่งการเตลิดอีกหรือเนี่ย
นี่ยังไม่นับเปอร์เซ็นต์สาวๆ อีกหลายคนที่เครียดกับปัญหาเรื่องทอง โดยเฉพาะคานทอง! ที่ทำยังไง้..ยังไง ก็แปรให้เป็นราคาทองที่สูงปรี๊ด จนน่าขายทิ้งไม่ได้เลย เฮ้อ…
เรื่องตกงานตอนนี้กลายเป็นปัญหาระดับชาติที่สาวๆ วัยทำงานทุกตำแหน่งตั้งแต่ลูกจ้างรายวันไปจนถึงระดับซีอีโอจะไว้วางใจในสวัสดิภาพของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว บางคนแจ็คพ็อต คนรัก สามี พี่น้อง กลายเป็นคนตกงาน เวรแล้วสิเรา! เล่นตกงานกันเป็นแพคเกจ แฟมิลี่เซ็ทอย่างนี้ สวัสดิการมั่นคงที่เคยได้รับก็หดหาย แถมภาระค่าใช้จ่ายมีแต่งอกเงย ยิ่งถ้าต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวอีกด้วยล่ะคุณเอ๊ย …เกิดบริหารจิตใจไม่ทัน รับมือกับมันไม่ได้ วิกฤติย่อมๆ ระดับครอบครัวอาจลงเอยด้วยทางออกที่เลวร้ายเอาได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ
ต้องเข้าใจว่าสภาพสังคมทุกวันนี้มันมีหลากปัจจัยบีบรัดคุณสาวๆ ให้หาทางออกไม่ได้เลยจริงๆ ใช่ว่าทุกคนจะมีต้นทุนพอจะเจียดเวลาไปปรึกษาจิตแพทย์หรือเข้าฟิตเนสสังสรรค์คลายเครียด บางคนมีเงิน แต่ไม่มีเวลา เพราะดันเกิดมาเป็นหญิงเก่ง ทำงานนอกบ้านวันละ 18 ชั่วโมง ลูกผัวพ่อแม่ไม่ต้องได้คุยกัน บางคนลืมคุยกับหวานใจแค่ครึ่งวันท่านก็หนีไปกิ๊กน้องๆ หนูๆ ทำหรูหราอยู่นอกบ้าน บางคนน่าสงสารกว่านั้นค่ะ ไม่มีทั้งเงิน ไม่มีทั้งเวลา แค่คิดว่าแต่ละวันจะกินใช้อย่างไรให้พอดีไม่ต้องถึงกับมีเก็บออมก็แทบร้องไห้
ยิ่งท้อแท้ ยิ่งหมดกำลังใจ ก็ยิ่งอันตรายนะคะ
แต่ถ้าคำว่า ตกงาน เข้ามาเยือนในชีวิตล่ะ เราจะรับมือกับมันอย่างไรกันดี
1.ตั้งสติให้นิ่ง
ต่อให้แกร่งแค่ไหน แต่ผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวกับทุกปัญหาอยู่ดี ไม่ผิดที่คุณต้องการจะร้องไห้เพื่อระบายความเครียดหรือทำอะไรก็ตามที่สุดโต่ง คุณทำได้ค่ะ แต่อย่าจมลึกไปกับน้ำตาจนบานปลาย สติ คำเดียวเท่านั้นที่จะดึงคุณกลับมาสู่สภาวะจิตใจที่เป็นปกติได้ เมื่อรู้สึกว่าได้ระบายออกจนทุเลาเบาบาง คุณต้องปรับศูนย์ถ่วงทางอารมณ์ให้คงที่โดยเร็ว การใช้ความคิดคนเดียวเงียบๆ อาจทำให้คุณเผลอฟุ้งซ่าน ให้ลองนั่งสมาธิ ผ่อนลมหายใจเข้าออก เพื่อจัดระเบียบความคิดและจิตใจของคุณใหม่ ถ้าทำแล้วรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งใจขึ้นบ้างล่ะก็ ยินดีด้วยค่ะ เพราะข้อต่อๆ ไปที่เหลือก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณไปเลย
2.พร้อมจะเป็นผู้หญิงคิดบวก
บ่อยครั้งที่การมองทุกเรื่องอย่างติดลบทำให้คุณเป็นทุกข์ บางคนบอกว่าฉันก็ทำทุกอย่างแล้วแต่ทำไมยังเครียด ลองสำรวจดูว่าคุณกำลังมองตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลอยู่หรือไม่ ก็คุณเพิ่งจะเจอเรื่องที่เลวร้าย คุณจึงกำลังเหมารวมว่าว่าโลกใบนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกินสำหรับคุณไงคะ แม่จะไม่มีข้อห้ามแต่คุณสาวๆ ก็ไม่ควรทำจิตใจให้ซึมเศร้า หลังจาก “สติ” บังเกิดในข้อแรก จูนคลื่นความคิดอีกนิดให้เป็นบวกเพราะมันช่วยสร้างพลังวิเศษได้ดีนัก ภาวะคนตกงานเกลื่อนเมืองแบบนี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่คุณคนเดียวที่โชคร้าย ตราบเท่าที่มันสมองและแรงกายของคุณยังเต็มเปี่ยม ลองมองดูคนที่ด้อยกว่า พวกเขาอาจไม่มีทางเลือกในชีวิตแบบคุณก็ได้ คุณลุงเก็บของเก่าขายได้เงินวันละไม่กี่สิบบาทแต่ทำไมยังยิ้มได้ คุณป้าที่หาบไข่ปิ้งขายทั้งหนักทั้งเหนื่อยแต่ทำไมยังสู้ล่ะ กางหนังสือพิมพ์สมัครงานดู ยังมีทางเลือกตั้งแยะที่เปิดกว้างสำหรับคนมีความสามารถอย่างคุณ อย่าตั้งแง่ อย่าแบะปาก อย่าทำใจลำบากเพราะคุณกำลังเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าคุณเป็นคนตกงาน เมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็ทำใจยอมรับกับมันไปเลย เมื่อมุมมองปลอดโปร่ง พลังแห่งการเริ่มต้นก็จะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง
สำคัญที่สุด อย่ามองข้ามกำลังใจจากคนรอบข้างที่พร้อมจะปลอบโยนคุณ อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน…นั่นไงคะ ฟังเพลงของคุณป้ากมลา คิดบวกแบบนาตาลี เรื่องแค่นี้ เวิร์คกิ้งวูแม่นอย่างคุณก็ทำได้ ง่าย..นิดเดียว
3.สวมหมวกใบใหม่อย่างยินดี
สวมหมวกอะไรหว่า..แล้วใบเก่าล่ะสวมไม่ได้รึ…”หมวก” ในที่นี้ก็เป็นแค่อุปมาอุปไมยหมายถึง “บทบาทใหม่” ในชีวิตนั่นเองค่ะ หากสถานภาพของคุณแปรเปลี่ยนจากคนทำงานเป็นคนว่างงาน ก็อย่ามัวอายที่จะเดินหน้าหางานใหม่ หลายคนพลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสเพราะคำว่าตกงานนี่แหละค่ะ สิ่งนี้จะท้าทายความกล้าและพลังในตัวคุณให้มีรัศมีเปล่งปลั่งออกมา ตัดความกลัวทิ้งไปเพราะมันช่างไร้สาระและน่าเบื่อ แต่จง “ปล่อยของ” ออกมาให้เต็มที่เพราะคุณเองก็มีกึ๋น บรรยายคุณสมบัติพร้อมประวัติและผลงานมาสเตอร์พีซของคุณลงในพอร์ตโฟลิโอ และไม่ลืมทำตัวให้สดชื่นสดใส พกความมั่นใจตลอดเวลาเมื่อถึงวันที่คุณต้องวอล์คอินเข้าไปให้ “ว่าที่” เจ้านายใหม่ดูตัวด้วยล่ะ
กรณีนี้ยังรวมถึง “จุดเปลี่ยน” สำหรับคุณที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางใหม่ในการเริ่มต้นเป็นเจ้านายตัวเอง หากค้นพบว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนแบบสาวออฟฟิศไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของดาว เอ๊ย! ของคุณล่ะก็ ลองช่างน้ำหนักปัจจัยรอบตัวอย่างเงินทุน สถานที่ หรือฝีมือเฉพาะทางที่คุณถนัดและมั่นใจว่าทำแล้วรุ่ง ลองมุ่งไปทางนั้น สุภาษิตจีนบทหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า แม้ค้าขายดีก็ยังมีคนเจ๊ง แม้เศรษฐกิจเก๋าเจ้งแต่ก็ยังมีเศรษฐี ใจพร้อม แรงพร้อม ขอเพียงคุณอดทนอีกนิด ชีวิตใหม่ที่สดใสในยามวิกฤติแบบนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะคะ
4.ใช้ทุกนาทีของชีวิตให้มีค่า
ผู้หญิงแสนสุขมักชอบพูดว่า ใช้ชีวิตที่เหลือทุกวัน ให้เหมือนกับเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ไม่ได้แปลว่าให้คุณใช้ชีวิตเต็มเหนี่ยวแบบไม่ระวังจนตายกันไปข้าง หรือบ้าบิ่นทำเรื่องพิเรนทร์ให้เป็นภัยต่อศีลธรรมหรอกนะคะ แต่ขอให้ลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ซะตั้งแต่ตอนนี้อย่างมีเป้าหมายและสุขใจที่ได้ทำ เมื่อชีวิตที่เคยไร้งานของคุณกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง จงสร้างพลังความคิดและการดำเนินชีวิตในทิศทางใหม่ด้วยความไม่ประมาทซ้ำสอง ถ้าไม่รู้ว่าจะลงมือทำอย่างไร คิดไม่ออก แนะนำให้ลอก เอ่อ…ยืมคำขวัญเด็ดแห่งปีของท่านบารัค โอบามา มาคิดตามดู “change” ไงล่ะคะ คำเดียวสั้นๆ แต่ความหมายนั้นย้าว ยาว ค่อยๆ ปรับ เปลี่ยน ลด เลิก สิ่งเก่าๆ ที่เคยทำผิดพลาด แล้ววางแผนชีวิตรูปแบบใหม่ มองชีวิตไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ และไม่ลืมเก็บออมเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจคาดการณ์ไม่ได้ในอนาคตไว้ด้วยค่ะ
สำคัญที่สุด อย่าลืมรักตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง แล้วคุณจะลุกขึ้นได้เองอย่างสง่างามในยามวิกฤติแบบนี้ค่ะ
เรื่องโดย เชลซี เกิร์ล
ตกงานอย่าท้อแท้! แปรความผิดหวังให้เป็นพลังสร้างความสุข
*ต่อไปนี้เป็นรายงานข่าวประจำวัน*
ค่ายรถยักษ์ใหญ่ปลดพนักงาน 3000 ตำแหน่ง
บริษัทผลิตซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์เล็งเลิกจ้างพนักงาน 1000 ตำแหน่ง พร้อมงดจ่ายเงินชดเชย
โรงงานประกอบตุ๊กตาประกาศวันหยุดลูกจ้างไม่มีกำหนด
….ฯลฯ….
แม้ไม่ต้องเห็นหน้าเฮียสอ เฮียหว่อง คุณพี่กนก หรือท่านพิธีกรรูปหล่อแห่งรายการข่าว เรื่องราวที่สาวๆ ต้องตื่นมาเจอทุกเช้าวันนี้กลายเป็นเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจไปเสียแล้ว อยากปิดหูปิดตาไม่รับรู้ก็ทำไม่ได้ ก็ผู้หญิงสมัยนี้น่ะไม่เหมือนก่อน พวกเรามีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติกันทุกคน ความสามารถรึก็ทัดเทียมคุณผู้ชาย หลายๆ องค์กรก็มีสุภาพสตรีอยู่ในระดับบริหาร คอยคุมบังเหียนและจัดการองค์กรได้อย่างน่าชื่นชม แต่เมื่อ “เรา” มีบทบาทมากขึ้นในสังคม ผู้หญิงเก่งทั้งหลายก็เลยต้องแบกความรับผิดชอบที่มากขึ้นตามไปด้วย
เครียดมั้ยคะ เครียดเนอะ …เกิดเป็นหญิงยุคใหม่วัยทำงานสมัยนี้มีแต่ปัญหารุมเร้า แต่ละวันต้องมาคอยระวังภัยผู้หญิง ภัยสังคมไม่พอ ยังมีเรื่องพิษเศรษฐกิจมาแชร์ส่วนแบ่งการเตลิดอีกหรือเนี่ย
นี่ยังไม่นับเปอร์เซ็นต์สาวๆ อีกหลายคนที่เครียดกับปัญหาเรื่องทอง โดยเฉพาะคานทอง! ที่ทำยังไง้..ยังไง ก็แปรให้เป็นราคาทองที่สูงปรี๊ด จนน่าขายทิ้งไม่ได้เลย เฮ้อ…
เรื่องตกงานตอนนี้กลายเป็นปัญหาระดับชาติที่สาวๆ วัยทำงานทุกตำแหน่งตั้งแต่ลูกจ้างรายวันไปจนถึงระดับซีอีโอจะไว้วางใจในสวัสดิภาพของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว บางคนแจ็คพ็อต คนรัก สามี พี่น้อง กลายเป็นคนตกงาน เวรแล้วสิเรา! เล่นตกงานกันเป็นแพคเกจ แฟมิลี่เซ็ทอย่างนี้ สวัสดิการมั่นคงที่เคยได้รับก็หดหาย แถมภาระค่าใช้จ่ายมีแต่งอกเงย ยิ่งถ้าต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวอีกด้วยล่ะคุณเอ๊ย …เกิดบริหารจิตใจไม่ทัน รับมือกับมันไม่ได้ วิกฤติย่อมๆ ระดับครอบครัวอาจลงเอยด้วยทางออกที่เลวร้ายเอาได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ
ต้องเข้าใจว่าสภาพสังคมทุกวันนี้มันมีหลากปัจจัยบีบรัดคุณสาวๆ ให้หาทางออกไม่ได้เลยจริงๆ ใช่ว่าทุกคนจะมีต้นทุนพอจะเจียดเวลาไปปรึกษาจิตแพทย์หรือเข้าฟิตเนสสังสรรค์คลายเครียด บางคนมีเงิน แต่ไม่มีเวลา เพราะดันเกิดมาเป็นหญิงเก่ง ทำงานนอกบ้านวันละ 18 ชั่วโมง ลูกผัวพ่อแม่ไม่ต้องได้คุยกัน บางคนลืมคุยกับหวานใจแค่ครึ่งวันท่านก็หนีไปกิ๊กน้องๆ หนูๆ ทำหรูหราอยู่นอกบ้าน บางคนน่าสงสารกว่านั้นค่ะ ไม่มีทั้งเงิน ไม่มีทั้งเวลา แค่คิดว่าแต่ละวันจะกินใช้อย่างไรให้พอดีไม่ต้องถึงกับมีเก็บออมก็แทบร้องไห้
ยิ่งท้อแท้ ยิ่งหมดกำลังใจ ก็ยิ่งอันตรายนะคะ
แต่ถ้าคำว่า ตกงาน เข้ามาเยือนในชีวิตล่ะ เราจะรับมือกับมันอย่างไรกันดี
1.ตั้งสติให้นิ่ง
ต่อให้แกร่งแค่ไหน แต่ผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวกับทุกปัญหาอยู่ดี ไม่ผิดที่คุณต้องการจะร้องไห้เพื่อระบายความเครียดหรือทำอะไรก็ตามที่สุดโต่ง คุณทำได้ค่ะ แต่อย่าจมลึกไปกับน้ำตาจนบานปลาย สติ คำเดียวเท่านั้นที่จะดึงคุณกลับมาสู่สภาวะจิตใจที่เป็นปกติได้ เมื่อรู้สึกว่าได้ระบายออกจนทุเลาเบาบาง คุณต้องปรับศูนย์ถ่วงทางอารมณ์ให้คงที่โดยเร็ว การใช้ความคิดคนเดียวเงียบๆ อาจทำให้คุณเผลอฟุ้งซ่าน ให้ลองนั่งสมาธิ ผ่อนลมหายใจเข้าออก เพื่อจัดระเบียบความคิดและจิตใจของคุณใหม่ ถ้าทำแล้วรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งใจขึ้นบ้างล่ะก็ ยินดีด้วยค่ะ เพราะข้อต่อๆ ไปที่เหลือก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณไปเลย
2.พร้อมจะเป็นผู้หญิงคิดบวก
บ่อยครั้งที่การมองทุกเรื่องอย่างติดลบทำให้คุณเป็นทุกข์ บางคนบอกว่าฉันก็ทำทุกอย่างแล้วแต่ทำไมยังเครียด ลองสำรวจดูว่าคุณกำลังมองตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลอยู่หรือไม่ ก็คุณเพิ่งจะเจอเรื่องที่เลวร้าย คุณจึงกำลังเหมารวมว่าว่าโลกใบนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกินสำหรับคุณไงคะ แม่จะไม่มีข้อห้ามแต่คุณสาวๆ ก็ไม่ควรทำจิตใจให้ซึมเศร้า หลังจาก “สติ” บังเกิดในข้อแรก จูนคลื่นความคิดอีกนิดให้เป็นบวกเพราะมันช่วยสร้างพลังวิเศษได้ดีนัก ภาวะคนตกงานเกลื่อนเมืองแบบนี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่คุณคนเดียวที่โชคร้าย ตราบเท่าที่มันสมองและแรงกายของคุณยังเต็มเปี่ยม ลองมองดูคนที่ด้อยกว่า พวกเขาอาจไม่มีทางเลือกในชีวิตแบบคุณก็ได้ คุณลุงเก็บของเก่าขายได้เงินวันละไม่กี่สิบบาทแต่ทำไมยังยิ้มได้ คุณป้าที่หาบไข่ปิ้งขายทั้งหนักทั้งเหนื่อยแต่ทำไมยังสู้ล่ะ กางหนังสือพิมพ์สมัครงานดู ยังมีทางเลือกตั้งแยะที่เปิดกว้างสำหรับคนมีความสามารถอย่างคุณ อย่าตั้งแง่ อย่าแบะปาก อย่าทำใจลำบากเพราะคุณกำลังเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าคุณเป็นคนตกงาน เมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็ทำใจยอมรับกับมันไปเลย เมื่อมุมมองปลอดโปร่ง พลังแห่งการเริ่มต้นก็จะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง
สำคัญที่สุด อย่ามองข้ามกำลังใจจากคนรอบข้างที่พร้อมจะปลอบโยนคุณ อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน…นั่นไงคะ ฟังเพลงของคุณป้ากมลา คิดบวกแบบนาตาลี เรื่องแค่นี้ เวิร์คกิ้งวูแม่นอย่างคุณก็ทำได้ ง่าย..นิดเดียว
3.สวมหมวกใบใหม่อย่างยินดี
สวมหมวกอะไรหว่า..แล้วใบเก่าล่ะสวมไม่ได้รึ…”หมวก” ในที่นี้ก็เป็นแค่อุปมาอุปไมยหมายถึง “บทบาทใหม่” ในชีวิตนั่นเองค่ะ หากสถานภาพของคุณแปรเปลี่ยนจากคนทำงานเป็นคนว่างงาน ก็อย่ามัวอายที่จะเดินหน้าหางานใหม่ หลายคนพลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสเพราะคำว่าตกงานนี่แหละค่ะ สิ่งนี้จะท้าทายความกล้าและพลังในตัวคุณให้มีรัศมีเปล่งปลั่งออกมา ตัดความกลัวทิ้งไปเพราะมันช่างไร้สาระและน่าเบื่อ แต่จง “ปล่อยของ” ออกมาให้เต็มที่เพราะคุณเองก็มีกึ๋น บรรยายคุณสมบัติพร้อมประวัติและผลงานมาสเตอร์พีซของคุณลงในพอร์ตโฟลิโอ และไม่ลืมทำตัวให้สดชื่นสดใส พกความมั่นใจตลอดเวลาเมื่อถึงวันที่คุณต้องวอล์คอินเข้าไปให้ “ว่าที่” เจ้านายใหม่ดูตัวด้วยล่ะ
กรณีนี้ยังรวมถึง “จุดเปลี่ยน” สำหรับคุณที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางใหม่ในการเริ่มต้นเป็นเจ้านายตัวเอง หากค้นพบว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนแบบสาวออฟฟิศไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของดาว เอ๊ย! ของคุณล่ะก็ ลองช่างน้ำหนักปัจจัยรอบตัวอย่างเงินทุน สถานที่ หรือฝีมือเฉพาะทางที่คุณถนัดและมั่นใจว่าทำแล้วรุ่ง ลองมุ่งไปทางนั้น สุภาษิตจีนบทหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า แม้ค้าขายดีก็ยังมีคนเจ๊ง แม้เศรษฐกิจเก๋าเจ้งแต่ก็ยังมีเศรษฐี ใจพร้อม แรงพร้อม ขอเพียงคุณอดทนอีกนิด ชีวิตใหม่ที่สดใสในยามวิกฤติแบบนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะคะ
4.ใช้ทุกนาทีของชีวิตให้มีค่า
ผู้หญิงแสนสุขมักชอบพูดว่า ใช้ชีวิตที่เหลือทุกวัน ให้เหมือนกับเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ไม่ได้แปลว่าให้คุณใช้ชีวิตเต็มเหนี่ยวแบบไม่ระวังจนตายกันไปข้าง หรือบ้าบิ่นทำเรื่องพิเรนทร์ให้เป็นภัยต่อศีลธรรมหรอกนะคะ แต่ขอให้ลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ซะตั้งแต่ตอนนี้อย่างมีเป้าหมายและสุขใจที่ได้ทำ เมื่อชีวิตที่เคยไร้งานของคุณกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง จงสร้างพลังความคิดและการดำเนินชีวิตในทิศทางใหม่ด้วยความไม่ประมาทซ้ำสอง ถ้าไม่รู้ว่าจะลงมือทำอย่างไร คิดไม่ออก แนะนำให้ลอก เอ่อ…ยืมคำขวัญเด็ดแห่งปีของท่านบารัค โอบามา มาคิดตามดู “change” ไงล่ะคะ คำเดียวสั้นๆ แต่ความหมายนั้นย้าว ยาว ค่อยๆ ปรับ เปลี่ยน ลด เลิก สิ่งเก่าๆ ที่เคยทำผิดพลาด แล้ววางแผนชีวิตรูปแบบใหม่ มองชีวิตไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ และไม่ลืมเก็บออมเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจคาดการณ์ไม่ได้ในอนาคตไว้ด้วยค่ะ
สำคัญที่สุด อย่าลืมรักตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง แล้วคุณจะลุกขึ้นได้เองอย่างสง่างามในยามวิกฤติแบบนี้ค่ะ