ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Plusz
« เมื่อ: ตุลาคม 08, 2010, 01:53:36 pm »

มะเร็งเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี และปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษาทางการแพทย์ใดๆ สามารถชี้ชัดสาเหตุที่แท้จริงของโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยในระยะต้นๆ มักไม่ค่อยมีอาการ ทำให้กว่าจะรู้ว่าตัวเองป่วย มะเร็งก็อาจลุกลามไปแล้ว ผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง คือผู้ที่รับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะกลุ่มที่รับประทานอาหารที่มีวิตามินและกากใยน้อย ดังนั้นการป้องกันโรคดังกล่าวคือการรับประทานอาหารในกลุ่มนี้ในปริมาณที่เพียงพอและสม่ำเสมอ แต่จากการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน แค่จะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อตรงตามเวลาก็เป็นเรื่องยากแล้ว อีกทั้งข้อจำกัดด้านเวลายังทำให้ทางเลือกของอาหารในแต่ละมื้อมีน้อยมีน้อยลงไป บ่อยครั้งที่เราต้องรับประทานอาหารจานด่วนที่มีผักอยู่เพียง 2-3 ชื้น คือ แตงกวา หรือบ้างก็ไม่มีเลย ยิ่งเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดแล้วยิ่งแทบไม่มีผักผลไม้เป็นส่วนผสมอยู่ในอาหารจานนั้นๆ   
วิตามิน
วิถีชีวิตที่บีบคั้นเช่นนี้ยิ่งทำให้การป้องกันตนเองจากโรคมะเร็งลำไส้ยากขึ้นไปอีก ไม่เฉพาะ็งลำไส้เท่านั้น แต่นักโภชนาการชั้นนำของเมืองไทยอย่างศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุรัตน์ โคมินทร์ หัวหน้าหน่วยโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังระบุว่าคนไทยเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ กระดูกพรุน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็งอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศ.นพ. สุรัตน์ยังกล่าวในงานเสวนาทางการแพทย์ ปฎิวัติโภชนาการ เพื่อชีวิตใหม่ อ่อนวัย ห่างไกลโรค จัดโดยไวเอท คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์ หนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์วิตามินและเกลือแร่รวม ว่าสำนักที่ปรึกษา กรมอนามัยได้เคยทำการสำรวจ พบว่าคนไทยทุกเพศทุกวัยจำนวนไม่น้อยได้รับวิตามินและเกลือแร่ต่ำกว่าที่ร่างกายต้องการตามมาตรฐานปริมาณสารอาหารที่แนะนำในแต่ละวัน (Thai RDA) ทั้งๆ ที่วิตามินและเกลือแร่นั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ด้านศาสตราจารย์ เจฟฟรี่ บี บลูมเบิร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยาและผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านสารต้านอนุมูลอิสระ ศูนย์วิจัยโภชนาการมนุษย์และการเปลี่ยนตามวัย มหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐอเมริกา กล่าวในงานเสวนาเดียวกันว่า การบริโภควิตามินและเกลือแร่รวมในรูปของผิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสุขภาพของคนในยุคปัจจุบันที่มีภารกิจรัดตัว กินนอนไม่เป็นเวลา ออกกำลังกาย และพักผ่อนน้อย เพราะเป็นวิธีการที่สะดวก ที่สามารถช่วยเติมเต็มร่างกายให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ต้องการในแต่ละวัน และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ด้วย ทั้งนี้ การได้รับวิตามินรวมติดต่อกันเป็นเวลา 15 ปี จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ สูงถึง 80% สำหรับวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์วิตามินให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายผู้บริโภคสุงสุดนั้น ศาสตราจารย์ เจฟฟรี่ ได้เสนอข้อพิจารณาสำคัญเบื้องต้น 3 ข้อ ได้แก่ - ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินและเกลือแร่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ - ผลิตภัณฑ์วิตามินเกลือแร่รวมนั้นต้องมีปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน - ผลิตภัณฑ์นั้นควรประกอบด้วยสารอาหารวิตามินและเกลือแร่ล้วนๆ ไม่เจือปนส่วนประกอบอื่นๆ