ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Plusz
« เมื่อ: ตุลาคม 08, 2010, 01:53:59 pm »

ความกังวลเรื่องโรคกระดูกพรุนกำลังขยายวงกว้างขึ้น ล่าสุดสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐฯ ระบุว่าเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไปในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ได้รับแคลเซียมในปริมาณไม่เพียงพอ จนเกิดความเสี่ยงว่ากระดูกจะเปราะในช่วงที่กำลังพัฒนาสู่วัยผู้ใหญ่   ดื่มน้ำอัดลม, น้ำอัดลม
ขณะเดียวกัน มูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งชาติสหรัฐฯ ก็คาดการณ์ว่าประชากรชาวอเมริกันประมาณ 55% ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป กำลังทุกข์ทรมานกับโรคกระดูกพรุน หรือมีมวลกระดูกต่ำ ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน งานวิจัยในสหรัฐฯหลายชิ้น ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มน้ำอัดลม กับการที่แร่ธาตุในกระดูกมีความหนาแน่นต่ำ โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งสรุปว่า เด็กสาววัยรุ่นที่ดื่มน้ำอัดลม มีโอกาสกระดูกเปราะได้มากกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 5 เท่า! แพทย์และนักวิจัยหลายคนตั้งสมมติฐานว่า กาเฟอีน กรดฟอสฟอรัส น้ำตาล หรือแม้กระทั่งการเติมโซดาลงในน้ำอัดลมหลายชนิด เป็นตัวการทำให้กระดูกเปราะ เพราะสารอาหารเหล่านั้นจะเข้าไปขัดขวางร่างกายไม่ให้ดูดซึมแคลเซียม ทำให้กลไกในร่างกายต้องดึงแร่ธาตุจำนวนมากที่จำเป็นต้องใช้ออกมาจากกระดูก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า น้ำอัดลมจะมีผลกระทบต่อผู้ที่ดื่มในปริมาณมาก ก็ต่อเมื่อคนเหล่านั้นไม่บริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม และไม่ดื่มนมอย่างเพียงพอ รายงานจากที่ประชุมศัลยแพทย์ทั่วไป ว่าด้วยเรื่องสุขภาพกระดูกและโรคกระดูกพรุนของสหรัฐฯ เมื่อปี 2547 มีมติตรงกันว่า ในขณะที่กาเฟอีนและกรดฟอสฟอรัส รบกวนการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย แต่ผลกระทบเหล่านี้ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยที่แก้ไขได้ ด้วยการจำกัดอาหารและบริโภคแคลเซียมให้เพียงพอ แคทเธอรีน ทัคเกอร์ นักระบาดวิทยาของศูนย์วิจัยโภชนาการด้านการเกษตรของสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัยทัฟส์ เชื่อว่า จำเป็นต้องมีการวิจัยระยะยาวเรื่องผลกระทบของการดื่มน้ำอัดลมให้มากขึ้น พร้อมเสนอแนะว่า กรดฟอสฟอรัสกระตุ้นการสูญเสียความหนาแน่นของแร่ธาตุในกระดูก ซึ่งแม้ผลกระทบจากการได้รับกรดฟอสฟอรัสจะมีเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถสะสมในร่างกายได้ หากได้รับเป็นเวลานานติดต่อกันหลายๆ ปี ขณะที่สมาคมเครื่องดื่มสหรัฐฯ (เอบีเอ) ออกมาวิจารณ์ผลการวิจัยหลายชิ้น ที่เชื่อมโยงการบริโภคน้ำอัดลมกับความหนาแน่นของกระดูก โดยโต้แย้งว่า ผลการศึกษาไม่ได้บ่งชี้ว่า เด็กสาวเหล่านั้น ดื่มน้ำอัดลมก่อนที่กระดูกของพวกเธอจะเปราะ เอบีเอยังโต้แย้งรายงานของด็อกเตอร์ทัคเกอร์ด้วยว่า ไม่มีงานวิจัยชิ้นใดบ่งชี้ว่าทั้งกาเฟอีนและกรดฟอสฟอรัส เป็นอันตรายต่อสุขภาพของกระดูก ด้านนายโรแบร์โต ปาซิฟิซิ ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกพรุนของมหาวิทยาลัยอีโมรี ระบุว่า การใช้ยาสเตียรอยด์ ประวัติครอบครัว การสูบบุหรี่และปัจจัยอื่นๆ มีส่วนก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าการดื่มน้ำอัดลม อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกระดูกหลายคน ได้ออกมาเตือนบรรดาผู้ป่วยให้จำกัดปริมาณการบริโภคน้ำอัดลม ด้วยเหตุผลทางสุขภาพทั่วไป รวมถึงสุขภาพของกระดูก ขณะที่เฟลิเซีย คอสแมน ผู้อำนวยการด้านคลินิกของมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งชาติสหรัฐฯ แนะนำว่า ผู้ป่วยสามารถดื่มน้ำอัดลมได้อย่างมากที่สุด 4 กระป๋องต่อสัปดาห์ และควรเลือกน้ำอัดลมประเภทไดเอท ถึงที่สุดแล้ว ข้อถกเถียงเกี่ยวกับน้ำอัดลมและปัญหาสุขภาพก็ไม่ต่างไปจากไวน์ หรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ตราบใดที่มีเรื่องผลประโยชน์ทางการค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง รับรองเรื่องนี้ไม่มีวันจบ ดังนั้นคำตอบสุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับผู้บริโภคแต่ละคน ว่ายินดีจะเชื่อฝ่ายไหนมากกว่ากัน