ข้อความโดย: lek
« เมื่อ: ตุลาคม 15, 2010, 07:18:49 pm »ขอให้ทุกท่านได้มี “ ธรรม ” นำทาง สาธุ
ทานอันยิ่งใหญ่ : การให้อภัย
เนื้อความ :
เพื่อนคนหนึ่งของดิฉัน ส่งเรื่องนี้มาให้อ่าน ดิฉันเห็นว่าอาจให้ข้อคิดและเป็นประโยชน์กับบางท่านที่แวะเวียนมาที่ลานธรรมแห่งนี้ จึงขออนุญาตท่านที่เป็นเจ้าของเรื่อง ( ทั้งที่เป็นผู้เล่าและผู้ที่เป็นต้นเรื่องจริงๆ ซึ่งไม่ปรากฏนาม ) นำมาแบ่งปันกับชาวลานธรรม และขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้
หากได้เคยมีการเผยแพร่เรื่องนี้ไปแล้ว ณ ลานธรรมแห่งนี้ ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
------------------------------------
หลายปีก่อนมีคดีหนึ่งเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา วัยรุ่นอายุสิบสี่ยิงเด็กหนุ่มคนหนึ่งถึงแก่ความตายเพียงเพราะต้องการพิสูจน์ตัวเองให้เพื่อน ๆ ในแก๊งเห็น
ทุกนัดที่มีการสืบพยานในศาล แม่ของผู้ตายนั่งฟังการพิจารณาอย่างนิ่งเงียบ หลังจากที่ศาลตัดสินจำคุกวัยรุ่นผู้นั้น แม่ของผู้ตายเดินเข้าไปหาเขา จ้องหน้าและพูดว่า " ฉันจะฆ่าเธอ "
ผ่านไปครึ่งปี หญิงผู้นั้นก็ไปเยี่ยมคนที่ฆ่าลูกชายเธอ
เธอเป็นคนแรกและคนเดียวที่ไปเยี่ยมเขา เพราะเขาเป็นเด็กข้างถนน ไม่มีญาติพี่น้อง ก่อนที่จะจากกัน เธอให้เงินเขาเป็นค่าบุหรี่
แล้วเธอก็เริ่มไปเยี่ยมเขาบ่อยขึ้น แต่ละครั้งก็เอาอาหารและของฝากไปให้ เมื่อใกล้ครบกำหนดจำคุกสามปี หญิงผู้นั้นก็ถามว่าเขาจะทำอะไรเมื่อพ้นโทษ เขาตอบว่าไม่รู้ เธอจึงหางานให้เขาทำในบริษัทของเพื่อน ครั้นถามว่าเขามีที่พักไหม ก็ได้คำตอบว่าไม่มี เธอจึงชวนเขามาพักในบ้านของเธอ บ้านของเด็กที่เขาฆ่ากับมือ
ตลอดแปดเดือนเขาพักบ้านเธอ กินอาหารที่เธอทำ
แล้วเย็นวันหนึ่งเธอก็เรียกเขาไปคุยในห้อง เธอนั่งประจันหน้าเขา นิ่งเงียบพักใหญ่ แล้วพูดขึ้นว่า
" เธอจำได้ไหมตอนที่อยู่ในศาล ฉันพูดว่าจะฆ่าเธอ ?"
" จำได้ครับ "
" ฉันไม่ต้องการเห็นคนที่ฆ่าลูกฉันยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
ฉันต้องการให้เขาตาย เพราะเหตุนี้แหละฉันจึงไปเยี่ยมเธอและเอาของไปให้ เพราะเหตุนี้แหละฉันจึงหางานให้เธอและให้เธออยู่บ้านฉัน " ถึงตรงนี้ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แล้วแม่ของผู้ตายก็พูดต่อไปว่า
" ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเธอ ตอนนี้เจ้าวัยรุ่นคนนั้นก็จากไปแล้ว ฉันจะถามเธอล่ะทีนี้ว่า ลูกของฉันจากไปแล้ว เจ้าฆาตกรก็จากไปแล้วเช่นกัน เธอยังจะอยู่ที่นี่อีกหรือเปล่า ฉันอยากรับเธอเป็นลูกหากเธอไม่ว่าอะไร "
ในที่สุดเธอได้กลายเป็นแม่ของคนที่ฆ่าลูกเธอ ส่วนฆาตกรผู้หลงผิดก็ได้แม่ซึ่งเขาไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต
เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหญิงคนหนึ่ง แต่เธอก็ได้พลิกเปลี่ยนเหตุการณ์ให้กลายเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะอันสำคัญมิได้อยู่ที่เธอได้ลูกคนใหม่มาแทนคนเก่าที่จากไป หากได้แก่การกำจัด " ศัตรู " ของเธอ โดยไม่มีใครเป็นฝ่ายสูญเสียแต่อย่างใด ทุกคนเป็นผู้ชนะ ทั้งตัวเธอเอง และชายหนุ่มผู้หลงผิด
ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในเหตุการณ์ครั้งนี้มิได้เกิดจากการแก้แค้น แต่เกิดจากการให้อภัย การให้อภัยนั้นมีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากกำจัดคนชั่วร้ายให้หมดไปโดยปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อแล้ว ยังสามารถฉุดรั้งชีวิตให้พ้นจากความตกต่ำ เข้าสู่หนทางที่ดีงาม มิใช่แค่ชีวิตของฆาตกรผู้หลงผิดเท่านั้น หากรวมถึงชีวิตของหญิงผู้เป็นแม่ด้วย
ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรหากจิตใจถูกเผาลนด้วยความโกรธ หรือหมกมุ่นอยู่กับความเคียดแค้นพยาบาทวันแล้ววันเล่า ทั้งนี้โดยหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่า ความวิบัติของฆาตกรเท่านั้นที่จะทำให้เธอถูก " ปลดปล่อย " จากความทุกข์ทั้งมวล แต่ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง คนที่จะย่ำแย่เป็นคนแรกก็คือตัวเธอนั่นเอง
ไม่มีอะไรที่จะปลดปล่อยเราจากความทุกข์เพราะถูกทำร้ายได้ดีไปกว่าการให้อภัย การให้อภัยจะช่วยให้เราเป็นอิสระจากกรงขังที่เราสร้างขึ้นไว้เอง อันได้แก่กรงขังแห่งความเคียดแค้นพยาบาท ต่อเมื่อสลัดความเคียดแค้นออกไป อิสรภาพจึงจะบังเกิดขึ้น
ถึงที่สุดแล้วชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุดในเหตุการณ์ครั้งนี้
มิได้อยู่ที่การชนะใจฆาตกรผู้หลงผิด หากได้แก่การที่ผู้เป็นแม่สามารถเอาชนะความเคียดแค้นพยาบาทในใจเธอ แล้วให้เมตตากรุณามาแทนที่ ชัยชนะเช่นนี้ต้องอาศัยความกล้า
ความเข้มแข็งและความมั่นคงในจิตใจอย่างมาก
แน่ละ การให้อภัยคนที่ทำร้ายใจเรานั้นเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ง่าย ๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่บ่มเพาะได้ หากสนใจ ไยไม่เริ่มจากการให้อภัยคนที่ชอบนินทาเรา พูดจาไม่ถูกหู หรือไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา ใช้ความรักความจริงใจเข้าหาเขา แล้วดูซิว่าจะได้ผลดีกว่าการแก้แค้นตอบโต้เขาไหม
ขอบพระคุณfw mail from dekdee
ทานอันยิ่งใหญ่ : การให้อภัย
เนื้อความ :
เพื่อนคนหนึ่งของดิฉัน ส่งเรื่องนี้มาให้อ่าน ดิฉันเห็นว่าอาจให้ข้อคิดและเป็นประโยชน์กับบางท่านที่แวะเวียนมาที่ลานธรรมแห่งนี้ จึงขออนุญาตท่านที่เป็นเจ้าของเรื่อง ( ทั้งที่เป็นผู้เล่าและผู้ที่เป็นต้นเรื่องจริงๆ ซึ่งไม่ปรากฏนาม ) นำมาแบ่งปันกับชาวลานธรรม และขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้
หากได้เคยมีการเผยแพร่เรื่องนี้ไปแล้ว ณ ลานธรรมแห่งนี้ ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
------------------------------------
หลายปีก่อนมีคดีหนึ่งเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา วัยรุ่นอายุสิบสี่ยิงเด็กหนุ่มคนหนึ่งถึงแก่ความตายเพียงเพราะต้องการพิสูจน์ตัวเองให้เพื่อน ๆ ในแก๊งเห็น
ทุกนัดที่มีการสืบพยานในศาล แม่ของผู้ตายนั่งฟังการพิจารณาอย่างนิ่งเงียบ หลังจากที่ศาลตัดสินจำคุกวัยรุ่นผู้นั้น แม่ของผู้ตายเดินเข้าไปหาเขา จ้องหน้าและพูดว่า " ฉันจะฆ่าเธอ "
ผ่านไปครึ่งปี หญิงผู้นั้นก็ไปเยี่ยมคนที่ฆ่าลูกชายเธอ
เธอเป็นคนแรกและคนเดียวที่ไปเยี่ยมเขา เพราะเขาเป็นเด็กข้างถนน ไม่มีญาติพี่น้อง ก่อนที่จะจากกัน เธอให้เงินเขาเป็นค่าบุหรี่
แล้วเธอก็เริ่มไปเยี่ยมเขาบ่อยขึ้น แต่ละครั้งก็เอาอาหารและของฝากไปให้ เมื่อใกล้ครบกำหนดจำคุกสามปี หญิงผู้นั้นก็ถามว่าเขาจะทำอะไรเมื่อพ้นโทษ เขาตอบว่าไม่รู้ เธอจึงหางานให้เขาทำในบริษัทของเพื่อน ครั้นถามว่าเขามีที่พักไหม ก็ได้คำตอบว่าไม่มี เธอจึงชวนเขามาพักในบ้านของเธอ บ้านของเด็กที่เขาฆ่ากับมือ
ตลอดแปดเดือนเขาพักบ้านเธอ กินอาหารที่เธอทำ
แล้วเย็นวันหนึ่งเธอก็เรียกเขาไปคุยในห้อง เธอนั่งประจันหน้าเขา นิ่งเงียบพักใหญ่ แล้วพูดขึ้นว่า
" เธอจำได้ไหมตอนที่อยู่ในศาล ฉันพูดว่าจะฆ่าเธอ ?"
" จำได้ครับ "
" ฉันไม่ต้องการเห็นคนที่ฆ่าลูกฉันยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
ฉันต้องการให้เขาตาย เพราะเหตุนี้แหละฉันจึงไปเยี่ยมเธอและเอาของไปให้ เพราะเหตุนี้แหละฉันจึงหางานให้เธอและให้เธออยู่บ้านฉัน " ถึงตรงนี้ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แล้วแม่ของผู้ตายก็พูดต่อไปว่า
" ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเธอ ตอนนี้เจ้าวัยรุ่นคนนั้นก็จากไปแล้ว ฉันจะถามเธอล่ะทีนี้ว่า ลูกของฉันจากไปแล้ว เจ้าฆาตกรก็จากไปแล้วเช่นกัน เธอยังจะอยู่ที่นี่อีกหรือเปล่า ฉันอยากรับเธอเป็นลูกหากเธอไม่ว่าอะไร "
ในที่สุดเธอได้กลายเป็นแม่ของคนที่ฆ่าลูกเธอ ส่วนฆาตกรผู้หลงผิดก็ได้แม่ซึ่งเขาไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต
เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหญิงคนหนึ่ง แต่เธอก็ได้พลิกเปลี่ยนเหตุการณ์ให้กลายเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะอันสำคัญมิได้อยู่ที่เธอได้ลูกคนใหม่มาแทนคนเก่าที่จากไป หากได้แก่การกำจัด " ศัตรู " ของเธอ โดยไม่มีใครเป็นฝ่ายสูญเสียแต่อย่างใด ทุกคนเป็นผู้ชนะ ทั้งตัวเธอเอง และชายหนุ่มผู้หลงผิด
ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในเหตุการณ์ครั้งนี้มิได้เกิดจากการแก้แค้น แต่เกิดจากการให้อภัย การให้อภัยนั้นมีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากกำจัดคนชั่วร้ายให้หมดไปโดยปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อแล้ว ยังสามารถฉุดรั้งชีวิตให้พ้นจากความตกต่ำ เข้าสู่หนทางที่ดีงาม มิใช่แค่ชีวิตของฆาตกรผู้หลงผิดเท่านั้น หากรวมถึงชีวิตของหญิงผู้เป็นแม่ด้วย
ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรหากจิตใจถูกเผาลนด้วยความโกรธ หรือหมกมุ่นอยู่กับความเคียดแค้นพยาบาทวันแล้ววันเล่า ทั้งนี้โดยหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่า ความวิบัติของฆาตกรเท่านั้นที่จะทำให้เธอถูก " ปลดปล่อย " จากความทุกข์ทั้งมวล แต่ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง คนที่จะย่ำแย่เป็นคนแรกก็คือตัวเธอนั่นเอง
ไม่มีอะไรที่จะปลดปล่อยเราจากความทุกข์เพราะถูกทำร้ายได้ดีไปกว่าการให้อภัย การให้อภัยจะช่วยให้เราเป็นอิสระจากกรงขังที่เราสร้างขึ้นไว้เอง อันได้แก่กรงขังแห่งความเคียดแค้นพยาบาท ต่อเมื่อสลัดความเคียดแค้นออกไป อิสรภาพจึงจะบังเกิดขึ้น
ถึงที่สุดแล้วชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุดในเหตุการณ์ครั้งนี้
มิได้อยู่ที่การชนะใจฆาตกรผู้หลงผิด หากได้แก่การที่ผู้เป็นแม่สามารถเอาชนะความเคียดแค้นพยาบาทในใจเธอ แล้วให้เมตตากรุณามาแทนที่ ชัยชนะเช่นนี้ต้องอาศัยความกล้า
ความเข้มแข็งและความมั่นคงในจิตใจอย่างมาก
แน่ละ การให้อภัยคนที่ทำร้ายใจเรานั้นเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ง่าย ๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่บ่มเพาะได้ หากสนใจ ไยไม่เริ่มจากการให้อภัยคนที่ชอบนินทาเรา พูดจาไม่ถูกหู หรือไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา ใช้ความรักความจริงใจเข้าหาเขา แล้วดูซิว่าจะได้ผลดีกว่าการแก้แค้นตอบโต้เขาไหม
ขอบพระคุณfw mail from dekdee