ตอบ

ข้อความโดย: แปดคิว

« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 08:11:11 pm »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

นิทานธรรมะบันเทิง (สำเนียงภาษาอีสาน)
เรื่อง.นกเอี้ยง กับ เจ้าบุญเลิศ

เรื่องก็มีอยู่ว่า มีครอบครัวชาวไร่ชาวนาอยู่ครอบครัวหนึ่ง
ได้เลี้ยงวัว เลี้ยงควายไว้ไถนา ที่ใต้ถุนบ้านชาวนาทั่วไป
แม่ควายตัวหนึ่ง ได้ให้กำเนิดลูกควายน้อยมา 1 ตัวชื่อว่า
เจ้าบุญเลิศ พอบุญเลิศเกิดมาได้ไม่นาน แม่มันก็ตายไป
ส่วนพ่อของมันก็ถูกจับไปขายให้คนมีเงินเอาไปทำอาหาร

เจ้าบุญเลิศ มีเพื่อนสนิทอยู่ตัวหนึ่ง ชื่อ เจ้านกเอี้ยงแสนรู้
เจ้านกเอี้ยง มันชอบบินมาเกาะอยู่ บนหลังควาย เสมอๆ
แล้วก็ชอบถามปัญหาต่างๆกับ เจ้าบุญเลิศ ควายเพื่อนซี่
เสี่ยวเพื่อนยาก ทุกวันในตอนเช้า

วันที่ 1. นกเอี้ยงถามว่า :
บักเสี่ยวบุญเลิศ โตบ่อยากมีเสื้อผ้างามๆใส หลายๆตัวบ่
คนบางคนมีเสื้อผ้าตั้ง 100 ชุด มีรองเท้าตั้ง 100 คู่ โก๋ขนาด

ควายตอบ : บ่อยากมีด๊อก เฮาเป็นควายที่ฉลาด รู้จักคำว่า..
พอเพียงกับตนเอง มีเสื้อผ้าผิวหนัง เพียงชุดเดียวก็พอแล้ว
มันทนแดด ทนฝน ทำไร่ ไถนา คุกขี้โคนเล่นน้ำได้สำบาย
คนที่มั๊กมาก โลภมาก บ่ฮู้จักพอ นั่นละ คือ คนโง่ ไร้สมอง
ชอบอวดว่า ตนเองเก่ง ตนร่ำรวย ซื้อของซ้ำๆกันหลายโพด
เกินความจำเป็น นักปราชญ์บ้านเฮา เลยเรียกว่า พวกบึแฮง

นกเอี้ยงอุทานว่า : แม้เสี่ยวเฮา..มันเป็นควายฉลาดอีหลีเว้ย

วันที่ 2. นกเอี้ยง ถามว่า :
บักบุญเลิศๆ ข่อยขอถามอีกแน โตบ่อยากรวย คือกันกับคนบ่
พู้น..พวกชาวบ้าน เขาพากันเอาเงินทองไปกราบไหว้ ร่างทรง
เจ้าพ่อเจ้าแม่ เจ้าปู่เจ้ายา เจ้าตาเจ้ายาย ขอหวยขอเบอร์กันลึ้มๆ
ร่างทรงเจ้านี่ ก็เก่งคือกันเดะ สูบบุหรี่ได้ทีละตั้ง 10 กว่าม้วน
ป๊าดติโถ ปานว่า สิงห์อมควัน พ้นพิษพวดๆใส่หน้าผู้อื่นเขา

ควายตอบ :โอ้ยข่อยบ่โง่ คือกับคนด๊อก กราบไหว้ร่างทรงโง่ๆ
สูบบุหรี่ทีละ 10 ม้วน สูบมะเร็งเข้าปอดตัวเองให้ตายไวขึ้นคั๊กๆ
ร่างทรงเจ้า โง่ๆจังซี่ ยังมีคนโง่กว่า ไปกราบไปไหว้มันอี๊ก บึ้อบึ
ความจริง คนจะเลิกสูบบุหรี่ ก็แค่เพียงอ้าปาก บุหรี่มันก็ร่วงแล้ว
ถึงข่อยจะเกิดเป็นควาย ก็บ่โง่ไปพึ่งร่างทรงเจ้าโง่ๆอย่างมันดอก

ส่วนเรื่องหวย เรื่องเบอร์นั่นนะ คนฉลาดเขาบ่ซื้อหวยหลายด๊อก
เพราะบ่ต่างอียั๋งเลย กับคนติดการพนัน พวกชอบเล่นหวยเบอร์
มีแต่ผลเสีย มากกว่าผลได้ โอกาสดวงดีรวยแค่ 1 ใน 62 ล้านคน
พอคนไหนดวงดีถูกหวย ได้เงินล้านมาก็บ่มีความสุขด๊อก เพราะ
คนอื่นเขาก็ฮู้เมิดว่า เจ้าของรวย ดีบ่ดี จะโดนเขาปล้น เขาฆ่าตาย

ดังนั้น พวกที่รวยเป็นมหาเศรษฐีส่วนใหญ่ ก็จึงใช่หลักธรรมะ
คือ อุ อา กะ สะ แปลว่า ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้
พอทำตามหลักธรรมะ“หัวใจเศรษฐี” เขาก็ร่ำรวยมีฐานะมั่นคง
เมื่อพึ่งหลักธรรมะ พึ่งตนเอง เขาก็เป็นคนบ่โง่ อวดร่ำ อวดรวย

นกเอี้ยงอุทานว่า : แมนๆ เสี่ยว..โตเว้าถูกอีหลี คนพวกนี่โง๊โง่

วันที่ 3. นกเอี้ยง ถามว่า :
เสี่ยวๆโตบ่อยากมี มือถือจอสี โก้ๆ ไว้โทรจีบผู้สาวบ่ พู้น..เบิงติละ
ผู้สาวน้อย ยังใส่ชุดนักเรียนแท้ๆนั่งโทรศัพท์คุยผู้บาวเมิดมื้อเมิดคืน
จั๊กซิไปโรงเรียนยามได๋ สงใสอยากมี..ผอ สระอัว “ผัว” ก่อนเรียนจบ

ควายตอบ : ผู้สาวใจแตก โทรคุย ผู้บาวจังซี่ บ่ไหวๆเป็นโง่หลายคักๆ
โง่.ทำลายอนาคตการเรียนเจ้าของ โง่.ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นกุลสตรี
คิดโง่ๆ..ทำตัวเป็นคนเลว เป็นลูกอกตัญญู บ่เชื่อฟังพ่อแม่ ครูอาจารย์
อนาคตก็จะกลายเป็น คนยากลำบาก มีผัวๆก็ปะ ย้อนว่า..มีเมียโง่จังซี่
เมื่อเจ้าของโง่ ทำตัวบ่ดีการเรียนบ่เอา ลูกน้อยที่เกิดมาก็พลอยลำบาก
ยากไปถึงพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ต้องมาซอยกันเลี้ยงหลานให้ลูกโง่ๆอี๊ก

ถ้าข่อยเป็นพ่อเป็นแม่ ผู้สาวน้อยนี่ละก็ ค่อยบ่ซื้อมือถือให้หัวมันด๊อก
เพราะ มันบ่ต่างอียั๋งเลย กับการซื้อผัวให้ลูก ทำให้ลูกสาวเสี่ยงต่อการ
เสียตัว เสียใจ เสียเวลา เสียการเรียน เสียอนาคตที่ดีไปอย่างน่าเสียดาย
สรุปแล้วซื้อมือถือให้ลูกสาวในช่วงวัยรุ่น จึงมีแต่ผลเสียมากกว่าผลได้

ข่อยเกิดมาเป็นควาย จะมีมือถือไปหาซิแตกยั๋ง มันบ่มีความจำเป็นเลย
ย้อนข่อยบ่มีมือ มีแต่ตีน มีแต่เท้า ไว้ยางเดินทางไปมา จั๊กจะเอาอียังถือ

นกเอี้ยงอุทานว่า : เออเฮาก็ลืมไปเสี่ยว..ว่าโตมันเป็นควายฉลาดเอิกๆ

วันที่ 4. นกเอี้ยง ถามว่า :
เสี่ยวๆ โตบ่อยากกินเนื้อสัตว์บ่ มันแซบคือกันเดะ ข่อยก็เคยกินหนอน
มันแซ๊บแซบ หวานมัน ลื่นคอ คื้อกันเดะ โตบ่อยากลอง กินเนื้อดูเบาะ

ควายตอบ : ข่อยบ่กินเนื้อสัตว์ด๊อก มันผิดศีล เบียดเบียนชีวิตของผู้อื่น
กินหญ้าจังซี่ละดีแล้ว ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ บ่ต้องเกิดมาเป็นควายอีก

นกเอี้ยงอุทานว่า : แม้บักเสี่ยวเฮา..มันทั้งฉลาดทั้งธรรมะธรรมโม..เด้นี่

วันที่ 5. นกเอี้ยง ถามว่า :
เสี่ยวๆ บักบุญเลิศๆ โตบ่อยากลองกินยาเสพติดบ่ เขาว่ากินแล้วตาโต
มีกำลังวังชาเดะ กินแล้วอึดกว่าคนทั่วไป โตบ่อยากกินบ่ คนบางคน
เอายาเสพติดไปขายจนรวยก็มีเดะ โตบ่อยากรวยบ่ หรือว่าจังได๋เสี่ยว

ควายตอบ : ข่อยบ่โง่ไปกินยาเสพติดด๊อก เพราะข่อยเป็น ควายฉลาด
ควายไม่พึ่ง ไม่เสพ ไม่ขาย ยาเสพติด เพราะเป็นสิ่งบ่ดี กับควายเลย
คนก็คื้อกันนะละ กินยาเสพติดเข้าไป มีแต่จะทำให้ร่างกายทรุดโทรม
ถึงวันนี้ทำงานได้นานขึ้นเพราะเสพยา แต่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวาย
ตายก่อนได้ใช้เงิน มีอันตรายต่อคนรอบข้าง เพราะผลข้างเคียงของตัวยา
ทำให้เป็นคนที่ควบคุมสติไม่อยู่ บางคนเสพยามากจนเชือดคอลูกตนเอง
อันตรายจาก ยาเสพติดมีมากมาย คนเสพตาย คนขายติดคุก คนรอบข้าง
เดือดร้อน ถ้าคนไหน ฉลาดกว่า ควาย เขาต้องไม่พึ่ง ไม่เสพ ไม่ขาย
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะรู้อยู่แล้วว่า..เป็นสิ่งไม่มีดีเลยแม้แต่น้อย

นกเอี้ยงอุทานว่า : เย้ๆ.เสี่ยวเฮา.มันเป็นควายฉลาด บ่ติดยาเว้ยสุดยอด

วันที่ 6. นกเอี้ยง ถามว่า :
เสี่ยวๆ โตบ่อยาก จับกลุ่ม เว้านินทาผู้อื่นหลายๆ คือกันกับคนบ่
พู้นเมียทหาร เมียตำรวจ เมียชาวไร่ ชาวนา ครูอาจารย์คื้อกันเมิด
พากันจับกลุ่มนั่งนินทา คนนู้นคนนี่ ว่าเขาเป็นคนบ่ดี จังซันจังซี่

ควายตอบ : บ่อยากด๊อก.. เพราะการจับกลุ่มนินทาผู้อื่นในทางบ่ดี
การเที่ยวไปนินทาผู้อื่นในทางบ่ดี ดีบ่ดีเขาจะมาฆ่าเอา ย้อนปากบ่ดี
บ่เป็นผลดีต่อผู้เว้าเลย เอาเวลาไปทำมาหากิน ดูแลครอบครัวดีกว่า
เอาเวลาที่เสียไปกับการจับผิดคนอื่น ไปเบิงข้อเสียตัวเจ้าของดีกว่า
คนฉลาดเขาจะสอนให้รู้จักตนเอง มากกว่า รู้จักผู้อื่น ถึงจะถูกต้อง

นกเอี้ยงอุทานว่า : แมนๆ เสี่ยว..โตเป็นควายฉลาด มีธรรมะในใจอีหลี

เนื้อเรื่อง เพิ่มเติม :
วิถีชีวิตของควายชื่อ เจ้าบุญเลิศ ควายฉลาด ที่มีธรรมะในใจ
และเพื่อน หรือ เสี่ยว คือ เจ้านกเอี้ยง แสนรู้ ชอบถามปัญหา
ก็เป็นอยู่อย่างนี้เสมอ คือ ทุกวันตอนเช้าถึงเย็น เจ้านกเอี้ยงแสนรู้
จะบินไปเกาะหลังควาย แล้วถามปัญหาต่างๆ ให้เจ้าบุญเลิศตอบ

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
สองตายายที่เลี้ยงเจ้าบุญเลิศมา ได้พูดคุยกันเรื่องลูกสาวของตนเอง
จะเดินทางกลับมาจากเมืองนอก กับลูกเขยฝรั่ง และหลานตัวน้อย
จึงคิดต้องมีการจัดเตรียมอาหารไว้เลี้ยงต้อนรับ เพราะสองตายาย
เป็นชาวไร่ชาวนา ฐานะทางบ้านยากจน จึงคิดจะจับเจ้าบุญเลิศฆ่า
เพื่อไว้ทำอาหารเลี้ยงต้อนรับการกับมาของลูกสาวและลูกเขยฝรั่ง

ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นเอง เจ้านกเอี้ยงได้บินมาเยี่ยมเจ้าบุญเลิศพอดี
จึงได้ทราบเรื่องทั้งหมดว่า สองตายายจะฆ่าเพื่อนของตนในตอนดึก
วันพรุ่งนี้ เจ้านกเอี้ยงจึงบินไปบอกเจ้าบุญเลิศ แต่เจ้าบุญเลิศลับอยู่
ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น เจ้านกเอี้ยงจึงต้องบินกลับหลังไปก่อน กะว่า
ตอนเช้าตรู่จะต้องรีบบอกเพื่อนของตน ให้เร่งรีบหนีไปให้ได้

วันที่ 7. ตอน.เจ้าบุญเลิศจะถูกฆ่า ในเวลากลางคืน
นกเอี้ยง รีบบินมาบอกข่าวร้าย :
บักเสี่ยวๆ แย่แล้วๆ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เสี่ยว!!

ฮือๆ บักเสี่ยว..โตฮู้บ่ เมื่อวานนี่ ค่อยได้ยินกับหูเลยว่า
สองตายายเพินเว้าว่า จะฆ่าโต ตอนกลางคืน มื้อนี่ละ
เขาจะเอาโตไปฆ่า เลี้ยงอาหารแขก โตบ่ย้านตายบ่
ฟ่าวหนี ตี้ละ เฮาซิบิน บอกทางหนี ให้โตเอ้าฟ้าวไปๆ

ควายตอบ : เฮาบ่หนีด๊อก เสี่ยวเอ้ย เพราะหนีไปก็โดนคนอื่น
เขาฆ่ากิน คื้อเก่านั่นละ ย้อนเฮาบ่แม่นควายเขา เขาก็จะฆ่าเฮา
เอาเนื้อไปขายแลกเงินแน่ๆ สู่เฮายอมตาย แบบควายกตัญญู
ฮู้บุญคุณคน ที่สองตายายเคยเลี้ยงเฮา มาตั้งแต่น้อย บ่ดีกว่าบ่
เฮาควรตอบแทนบุญคุณของสองตายาย ถึงเฮาตายจากไป
อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าเป็น ควายยอดกตัญญู มีบุญกุศลหลาย
ตายไปก็จะได้ขึ้นสวรรค์ บ่ต้องเกิดมาเป็นควายอีกต่อไป

นกเอี้ยง พยายามพูดให้เปลี่ยนใจ :
บ่ได้เด้เสี่ยว โตเป็นเสี่ยวเฮา มาโดนแล้ว เฮาบ่อยากเห็นเสี่ยวตาย

ควายตอบ : เอี้ยงเอ้ย อย่าเสียใจไปเลย ไม่ช้าก็เร็ว บ่โตก็เฮา
สักวันหนึ่งเฮา ก็ต้องตายอยู่แล้ว เพียงแต่เฮา ตายก่อนโตซือๆ
ถ้าโตอยากเจอเฮาอี๊ก ก็เลิกฆ่าสัตว์ เลิกกินหนอน กินแมลงเด้อ
โตซิได้ขึ้นสวรรค์ ไปพ้อกันกับเฮาบนสวรรค์เด้อเสี่ยวเด้อ

นกเอี้ยง พูดว่า:
ฮือๆตามใจเสี่ยว เฮาขอสัญญาว่าต่อไปนี้ เฮาซิบ่ฆ่าสัตว์อีก
จะได้มีบุญกุศลหลายๆ ไปพ้อเสี่ยวบนสวรรค์เด้อเสี่ยวเด้อ

ควายตอบ : คิดได้ดังนั้นก็ดีแล้วละ เอี้ยงเอ้ย หลังจากเฮาตายไปแล้ว
โตอย่าได้ ร้องไห้เด้อ เฮาอยากเห็นโตยิ้ม และหัวเราะอย่างมีความสุข
เพราะรู้ว่าเสี่ยวอย่างเฮา กำลังจะขึ้นสวรรค์ บ่ได้ตกนรก เด้อเสี่ยวเด้อ
เฮาจะได้หมดหวงว่า เมื่อเฮาตายจากโตไปแล้วจะบ่ทำให้โตเป็นทุกข์
ทำซำนี่ให้เฮาได้บ่เสี่ยว

นกเอี้ยง จึงพูดว่า:
ได้เลยเสี่ยว เฮาขอสัญญาว่า เฮาซิบ่ร้องไห้ เฮาจะยิ้ม และหัวเราะ
ด้วยความดีใจ ที่เห็นเสี่ยวเฮาได้ขึ้นสวรรค์ อย่างมีความสุขแล้ว

ควายตอบ : ดีแล้วละ เอี้ยงเอ้ย

เนื้อเรื่อง เพิ่มเติม :
แล้วตอนกลางคืน วันเดียวกันนั้นเอง เจ้าบุญเลิศก็ถูกฆ่าตาย
เพื่อนำมาทำเป็นอาหารเลี้ยงลูกเขยฝรั่ง ที่เดินมาจากแดนไกล

ส่วนเจ้านกเอี้ยง ก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนเจ้าบุญเลิศว่า
จะไม่ฆ่าสัตว์อีก ทำบุญกุศลมากๆ เพื่อไปหาเพื่อนบนสวรรค์

พอลูกเขยฝรั่ง นั่งเครื่องบินมาถึงเมืองไทย แล้วเดินทางมาที่
บ้านของสองตายาย ตายายได้พบลูก พบหลานตน ก็ดีใจมาก
แต่ฝรั่งไม่ชอบกิน เพราะแค่เห็นสีของเนื้อควาย ก็ไม่เอาแล้ว

สองตาจึงนำอาหารที่ทำจากเนื้อควายสดๆร้อนๆไปถวายพระ
ที่วัดใกล้บ้าน เมื่อพระฉันท์เสร็จ ก็สวดมนต์ให้พรกับญาติโยม
ทำให้ ดวงวิญญาณของ เจ้าบุญเลิศ ได้อานิสงค์จากการสละ
เลือดเนื้อของตน ถวายให้เป็นอาหาร พระภิกษุ สามเณร ด้วย

เจ้าบุญเลิศ ทำบุญเอาไว้มาก จึงได้ขึ้นไปอยู่บนสรวงสวรรค์
ท่านเทพเง๊กเซียนฮ้องเต้ และเหล่าเทพเทวดาทั้งหลาย จึงแต่ง
ตั้งให้เจ้าบุญเลิศเป็น เทพบุตรเทวดา เฝ้าประตูทางเข้าสวรรค์
ซึ่งเนื้อตัวร่างกายของ เทพบุตรเทวดาบุญเลิศ กลายเป็น“สีทอง”
เพราะได้อานิสงค์จากการสละเลือดเนื้อของตนเอง
ถวายให้เป็นอาหารแก่พระภิกษุ สามเณร

ส่วนเจ้านกเอี้ยง ได้ทำตามคำหมั่นสัญญา ที่ให้ไว้กับเจ้าบุญเลิศ
จึงชอบทำบุญกุศล ช่วยเหลือผู้คน มีอยู่วันหนึ่งเจ้านกเอี้ยงพบ
เด็กนักเรียนตัวน้อย ทำถุงเงินเหรียญบาท ตกลงมาจากรถเมล์
เจ้านกเอี้ยงจึงบินไปคาบถุงเงินนั้น แล้วบินเอาไปคืนให้เด็ก

แต่เพราะนกเอี้ยงแก่ชรามากแล้ว จึงเหนื่อยมาก ขาดใจตายไป
เพราะได้ทำบุญกุศลมาก พอตายแล้วจึงได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์

พอมาถึงประตูทางเข้าสวรรค์ ได้พบกับ เทพบุตรเทวดาบุญเลิศ
เทพบุตรเทวดาบุญเลิศ มีญาณวิเศษทำให้รู้ว่า ผู้ที่ขึ้นสวรรค์มา
คือ เจ้านกเอี้ยง เสี่ยวเพื่อนรักตอนอยู่บนโลกมนุษย์ จึงดีใจมาก
ร้องตระโกนทักทายด้วยความคิดถึงเพื่อน ว่า.. เสี่ยวๆ มาทางนี้

นกเอี้ยง ได้ยินดังนั้นก็แปลกใจ ตระโกนถามไปว่า โตเป็นไผ
บังอาจมาเรียกเฮาว่า เสี่ยว ชื่อนี่เฮา ให้สงวนไว้ให้พูดได้เฉพาะ
เพื่อนรัก ของเฮาเท่านั้น มันเป็นควายฉลาดที่สุด ชื่อ เจ้าบุญเลิศ

เทพบุตรเทวดาบุญเลิศ ได้ยินดังนั้น จึงหัวเราะอย่างมีความสุข
แล้วตระโกนบอกไปอีกว่า.. เจ้านกเอี้ยง..จำข่อยบ่ได้ติ๊..ข่อยไง
เจ้าบุญเลิศ เฮาทำแต่คุณความดี ทำบุญกุศลไว้หลายจึงได้เป็นถึง
เทพบุตรเทวดาบุญเลิศ มีหน้าที่เฝ้าประตูทางเข้าบนสรวงสวรรค์

นกเอี้ยงได้รู้ดังนั้น ก็ดีใจมาก รีบไปหาเพื่อนรักของตนเองทันที
ท่านเทพเง๊กเซียนฮ้องเต้ และเหล่าเทพเทวดาทั้งหลาย เห็นดังนั้น
จึงแต่งตั้งให้ เจ้านกเอี้ยง ให้เป็น เทพบุตรเทวดานกเอี้ยง มีหน้าที่
เฝ้าประตูทางเข้าสวรรค์ เป็นเพื่อนกันกับ เทพบุตรเทวดาบุญเลิศ

ซึ่งเนื้อตัวร่างกายของ เทพบุตรเทวดานกเอี้ยง กลายเป็น“สีเงิน”
เพราะได้อานิสงค์จากการสละชีวิตตนเอง เพื่อนำถุงเงินไปคืน
ให้กับเด็กนักเรียนตัวน้อย จนถึงแก่ความตาย

ตั้งแต่นั้นมา เทพบุตรเทวดาบุญเลิศ ที่มีร่างกาย เป็น “สีทอง”
และเทพบุตรเทวดานกเอี้ยง ที่มีร่างกายเป็น“สีเงิน” จึงมีหน้าที่
เฝ้าประตูสรวงสวรรค์จวบจนทุกวันนี้
... จบ...

นิทานธรรมะบันเทิง เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“คนดี มีค่ามากกว่า เงินทอง เกิดเป็นคนควรหมั่นทำความดี”
ข้อคิดจากนิทานเรื่องนี้
“ ควายไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ซื้อหวย ไม่เล่นการพนัน
ควายกตัญญูรู้บุญคุณคน ควายไม่อวดร่ำอวดรวย ดูถูกคนอื่น
ควายไม่โง่ มาเสียเวลา จับกลุ่มนั่งนินทาชาวบ้านในทางไม่ดี
ควายฉลาดไม่โง่ ไปพึ่งร่างทรงเจ้าปลอม หลอกลวงชาวบ้าน
ควายไม่พึ่ง ไม่เสพ ไม่ขาย ยาเสพติด เพราะเป็นสิ่งไม่ดีเลย
ดังนั้น เกิดเป็นคนอย่าโง่กว่าควาย ”

ด้วยความปรารถนาดีจาก.. พระมานะ จิรวฒฺฑโน “คิดดี ทำดี”
http://www.DHAMMATOON.com
http://www.dhammathai.org/dhammastory/view.php?No=249

ข่าว:

ตอบ

สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน

ข้อความโดย: lek

ข้อความโดย: แปดคิว