๑.๑
พินิจดูเมล็ดข้าวนี้
ผมเชื่อว่าการปฏิวัติสามารถเริ่มต้นจากฟางข้าวเพียงเส้นเดียว ดูเผิน ๆ ฟางข้าวนี้อาจจะดูบอบบางไร้น้ำหนัก และไม่มีความสลักสำคัญอะไร จึงยากที่ใครจะเชื่อว่ามันสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติได้ แต่ผมได้ตระหนักแล้วถึงน้ำหนักและพลังของฟางเส้นนี้ สำหรับผมแล้ว การปฏิวัติดังกล่าวเป็นเรื่องจริงจังมาก
ลองมองดูผืนนาที่ปลูกข้าวไรย์และข้าวบาร์เลย์เหล่านี้ มันให้ผลผลิตถึง ๒๒ บูเชล (๕๙๐.๙ กิโลกรัม) ต่อเนื้อที่ ๑/๔ เอเคอร์ (๐.๖ ไร่) ผมเชื่อว่าผลผลิตดังกล่าวเทียบได้กับผลผลิตสูงสุดในจังหวัดอิไฮมิ และหากปริมาณผลผลิตนี้เท่ากับผลผลิตในจังหวัดอิไฮมิแล้ว ย่อมถือได้ว่าเป็นปริมาณผลผลิตที่สูงที่สุดในประเทศ เพราะที่อิไฮมิถือกันว่าเป็นแหล่งที่มีอัตราผลผลิตข้าวสูงที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และยิ่งกว่านั้นผืนนาเหล่านี้ไม่เคยถูกไถพรวนมาเป็นเวลาถึง ๒๕ ปีแล้ว
เมื่อจะปลูก ผมก็เพียงแต่หว่านเมล็ดข้าวไรย์และข้าวบาร์เลย์ลงในที่นาคนละแปลงในฤดูใบไม้ร่วงในขณะที่ข้าวเจ้ายังไม่ได้เก็บเกี่ยว หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเจ้าเสร็จแล้ว ผมจะนำฟางข้าวมาคลุมให้ทั่วผืนนาที่ถูกเก็บเกี่ยวข้าวไป
การปลูกข้าวเจ้าก็ใช้วิธีการเดียวกัน ธัญพืชฤดูหนาวจะเก็บเกี่ยวได้ประมาณ ๒๐ พฤษภาคม และประมาณ ๒ อาทิตย์ก่อนที่ข้าวจะสุกเต็มที่ ผมก็จะหว่านเมล็ดข้าวเจ้าซ้อนลงในแปลงข้าวไรย์ และข้าวบาร์เลย์ เมื่อการเก็บเกี่ยวธัญพืชฤดูหนาวและการนวดข้าวแล้วเสร็จ ผมจะโปรยฟางข้าวไรย์และข้าวบาร์เลย์ลงคลุมพื้นที่นา
ผมคิดว่าการใช้วิธีปลูกข้าวเจ้าและธัญพืชฤดูหนาวแบบเดียวกัน เป็นวิธีการเฉพาะของการทำเกษตรกรรมชนิดนี้ แต่มีวิธีที่ง่ายกว่านี้ ขณะที่เราเดินตัดไปยังที่นาแปลงถัดไป ผมจะชี้ให้ดูข้าวเจ้าที่หว่านพร้อมกับธัญพืชฤดูหนาวเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว การปลูกพืชหมุนเวียนตลอดทั้งปีในที่นาแปลงนั้น จะเสร็จสิ้นภายในวันขึ้นปีใหม่
คุณจะสังเกตเห็นว่ามีพืชคลุมดินจำพวกถั่ว และวัชพืชงอกอยู่ในที่นาเหล่านี้ด้วย พืชคลุมดินจำพวกถั่วจะถูกหว่านลงไปในระหว่างต้นข้าวในต้นเดือนตุลาคมก่อนการหว่านข้าวไรย์และบาร์เลย์เล็กน้อย ผมไม่ต้องยุ่งยากเกี่ยวกับการหว่านพืชคลุมดินเหล่านี้ เพราะว่ามันสามารถแพร่พันธุ์ได้เองอย่างง่ายดาย
ดังนั้นแบบแผนการปลูกพืชในที่นาจะเป็นเช่นนี้ พืชคลุมดินจำพวกถั่วจะถูกหว่านลงในระหว่างต้นข้าวในตอนต้นเดือนตุลาคม ธัญพืชฤดูหนาวจะถูกหว่านตามลงไปในตอนกลางเดือน พอต้นเดือนพฤศจิกายนข้าวเจ้าก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ หลังจากนั้นข้าวเจ้าสำหรับปีต่อไปก็จะถูกหว่านลงในที่นา และฟางข้าวหลังเก็บเกี่ยวจะถูกนำมาโปรยคลุมที่นาเอาไว้ ข้าวไรย์และบาร์เลย์ที่คุณแลเห็นอยู่นี้ก็เติบโตขึ้นมาด้วยวิธีดังกล่าว
ในการดูแลที่นาขนาด ๑/๔ เอเคอร์ (๐.๖ ไร่) แรงงานคนเพียง ๑ หรือ ๒ คนก็เพียงพอที่จะทำงานทั้งหมด ในการปลูกข้าวเจ้าและธัญพืชฤดูหนาวให้แล้วเสร็จภายในเวลาไม่กี่วัน คงจะไม่มีวิธีเพาะปลูกอื่นใดที่ง่ายยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว
วิธีการนี้มีลักษณะที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับเทคนิคทางเกษตรกรรมแผนใหม่ มันได้โยนความรู้ทางวิทยาศาสตร์และความรู้ในการเพาะปลูกแบบพื้นบ้านทิ้งไปเสียสิ้น วิธีการเพาะปลูกชนิดนี้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องอาศัยปุ๋ยและสารเคมี แต่สามารถให้ปริมาณผลผลิตเท่ากับหรือมากกว่าผลผลิตจากที่นาโดยเฉลี่ยในญี่ปุ่น ซึ่งมีหลักฐานให้เห็นประจักษ์แก่ตา