ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 10:20:59 pm »



พ่อครับ..

เมื่อผมกลับจากสงคราม โดย ทริสตั้นไม่ยอมกลับมาด้วย
ผมเชื่อว่า เราทั้งคู่ต่างต้องการเยียวยาตัวเองให้หายจากบาดแผลในจิตใจ
ในวิถีของตัวเอง

ผมเลือกที่จะทำตามหัวใจ อย่างมีเกียรติ เมื่อแซมมวลตายไปแล้ว
ผมหวังว่า ผมจะทำหน้าที่ดูแล ซูซานน่าต่อไป
ผมขอเธอรับรักผมต่อหน้าสุสานของน้อง 
เพื่อให้เขารับรู้ว่า ผมไม่ได้ทำอะไรปิดบังต่อเขา 

แต่ผมก็ถูกปฎิเสธ ..   ซูซานน่าไม่มีใจให้ผม
เธอรอคนคนหนึ่ง ที่เธอมอบใจให้ไปแล้ว ตั้งแต่ ก่อนไปสงคราม

ทริสตั้น กลับมา ในที่สุด
ทริสตั้น กลับมา เอาใจรักของผมไป
ผมไม่คิดว่า ทริสตั้น จะดูแล ซูซานน่า ได้
เขามีอารมณ์อ่อนไหวเกินไป  เขาล่องลอยอิสระ ยากที่คนทั่วไปจะหยั่งถึง
วันนี้เขาอาจชอบใจ ลงหลัก ก็เพียงชั่วครู่
วันต่อไป เขาอาจจะลอยล่องไปไหนๆ ตามเสียงในใจของเขาที่เรียกร้อง
และที่สำคัญ ธรรมชาติในด้านมืดของเขาจะตามมาหลอกหลอนเขาในที่สุด

ผมเตือนเขาแล้ว  แล้วเราทั้งสองคนก็หมางใจกันในที่สุด



เมื่อเกมส์แห่งความรักพ่ายแพ้
ผมยอมตัดใจ และถอนตัวออกมา
แต่ผมจะไม่ทำร้ายตัวเองอย่างคนโง่เขลา โง่งม
ผมเลือกที่จะสร้างทางเดินใหม่  สร้างความหวังอันใหม่

พ่อครับ..

ผมว่า เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้แหละ ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้โลกกว้างอย่างแท้จริง
ผมออกเดินทางสู่เมืองใหม่ สร้างเนื้อสร้างตัวจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
จากคนพลัดถิ่นคนหนึ่ง ไปสู่การมีกิจการส่วนตัวของตนเอง
พ่อครับ.. ผมภูมิใจกับตัวเองมาก
ที่สร้างอาณาจักรของตัวเองได้ด้วยสองมือเปล่า

[/CENTER]

หลังจากนั้น เมื่อกิจการผมมั่นคงแล้ว ผมหวังจะทำสิ่งที่ดียิ่งยิ่งขึ้นไป
ผมฝันว่า ผมจะเดินทามอย่างพ่อ เป็นผู้มีเกียรติยศ ชื่อเสียง
และทำให้คนทุกคนเท่าเทียมกัน
ผมหวังว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างกฎเกณฑ์ สร้างสิ่งที่ดีขึ้นในสังคม
ผมคิดว่า เราเปลี่ยนมันได้
เมื่อผมจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้แทนราษฎร
ผมกลับมาหาพ่อ ด้วยใจมุ่งหวังว่าจะได้รับคำชื่นชม และได้รับการสนับสนุนจากพ่อ
แล้วผมก็พบกับ ความผิดหวัง เป็นครั้งที่สอง



พ่อไม่เคยเชื่อว่า ระบบ จะเปลี่ยนแปลงได้
พ่อไม่เคยเชื่อว่า รัฐบาลจะทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงโดยรวม
พ่อดูถูกว่า ผู้คนที่มารายล้อมผม หวังเพียงตักตวงประโยชน์จากผม
พ่อคิดว่า ผมเป็นเพียงเหยื่อ ในทางการเมือง เท่านั้นเอง

ถึงอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังรักและเคารพในตัวพ่อเสมอ
ผมหวังว่า สักวันหนึ่ง ผมจะทำให้พ่อ เปลี่ยนความคิดเสียใหม่
แล้วทำให้พ่อเห็นว่าผมสามารถทำอะไรอะไร ได้มากกว่าที่พ่อคิด

พ่อครับ

วันนั้น นอกจากที่ผมจะผิดหวังเรื่องนี้แล้ว
ผมยังได้รู้ความจริงอีกอย่าง จากซูซานน่า
ทริสตั้น ที่จากไปนั้น เขาส่งจดหมาย ตัดเยื่อใยมาถึงเธอ
ผมรู้สึกเศร้าใจ ที่คนที่ผมรักต้องมาเสียใจเช่นนี้
ผมได้แต่ปลอบใจเธอ  แต่พ่อก็เห็นเจตนาดีผมเป็นร้าย


พ่อโมโหผม และด่าทอผม 
ผมน้อยใจมากที่พ่อไม่เข้าใจผมเลย

ผมรู้ว่าพ่อรักทริสตั้นมากกว่าผม

ที่ผ่านมาผมไม่เคยปริปากเลย แต่ คราวนี้ผมทนไม่ไหวแล้ว
ผมโต้เถียงกับพ่อ และส่งจดหมายจากทริสตั้นให้พ่อดู

ซึ่งผมไม่น่าทำเช่นนั้นเลย




หลายปีผ่านไป
ผมทำหน้าที่ลูกผู้ชาย รับ ซูซานน่ามาดูแล
โดยไม่คิดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วระหว่าง เธอ กับ ทริสตั้น
ผมหวังว่า เรื่องจะดำเนินต่อไปด้วยดี
และผมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ให้กับสังคม

แล้ว ทริสตั้นก็กลับมาอีกครั้ง
ผมหวังว่า ธรรมชาติในด้านมืดของเขาจะทุเลาเบาบางลง
ซึ่งก็คงเป็นเช่นนั้น เขาได้สร้างหลักปักฐานของเขาเองแล้ว
เขาได้แต่งงานกับ อลิซาเบธ ทู  สาวชาวลูกครึ่งอินเดียนแดง
ซึ่งเป็นเหมือนน้องสาวเรา ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ

ผมค่อนข้างจะแปลกใจ
แต่ก็คิดว่า ทริสตั้น เป็นคนปล่อยใจไปตามอารมณ์
เมื่อมีคนรักเขา เขาก็จะรักตอบ เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว



งานแต่งงานของทั้งสอง แม่ก็มาร่วมพิธี และยังมอบชุดเจ้าสาวให้ด้วย
ผมคิดว่าทุกคนน่าจะมีความสุข

แต่ผมก็คิดผิด

ซูซานน่า ไม่ได้มีความสุขเลย
เธออาจจะอยู่กับผม แต่ก็อยู่แต่ร่างกาย ใจเธอยังคงอยู่กับทริสตั้น
หรือบางที เธออาจจะรู้สึกผิดกับคำพูดของตัวเองว่าจะรอ ทริสตั้น ชั่วนิรันดร์
แต่ท้ายสุด เธอก็มาอยู่กับผม   

สิ่งนี้เองที่ผมคิดได้ว่า แม้หลายปีต่อมาเธอก็ตัดใจไม่ได้
และเธอก็ต้องจบชีวิตตัวเอง ด้วยความทุกข์ที่สุมอยู่ในใจของเธอ




หลายปีผ่านไป

ทริสตั้นได้ กลายเป็นคุณพ่อลูกสอง มีชีวิตอย่างสงบสุข กับพ่อที่ปศุสัตว์

พ่อครับ.

เรื่องมันคงจะจบอย่างตามที่ควรจะเป็น
ถ้าไม่ใช่เรื่องกฎเกณฑ์ ที่ผม คิดว่า อยู่เสมอว่า จะสร้างสังคมให้ดีขึ้น



ทริสตั้นกับการค้าเหล้าของเขา

เขาอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องการค้าขายตามปกติ
แต่เมื่อกฎหมายระบุว่า เป็นการค้าขายที่ผิดกฎหมาย
การกระทำเช่นนั้นก็เป็นการฝ่าฝืนกฎระเบียบของสังคม และถือว่ามีความผิด

พ่ออาจจะบอกว่า ไอ้กฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นแบบนี้ เป็นการเอาเปรียบประชาชน
สร้างระเบียบเพื่อประโยชน์เฉพาะ นายทุน พ่อค้า เพียงส่วนเดียวเท่านั้น
ถ้ามองในมุมนั้น ก็อาจมีความจริงอยู่ส่วนหนึ่งนั้นด้วย

แล้วเรื่องก็บานปลาย ใหญ่โต
เพราะผู้ที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์นั้น กลับทำผิดเสียเอง
ทริสตั้นต้องสูญเสีย ภรรยาเขา แล้วเขาก็ต้องโทษตามกฎหมาย

ผมต้องบากหน้าไปหาทริสตั้น เพื่อ ยืนยันในสิ่งที่ผมเชื่อมาเสมอว่า
คนในสังคมต้องเคารพในกติกา  กฎเกณฑ์ทางสังคม
ผมบอกว่า โทษของเขา ต้องขัง 30 วัน

เขาถามผมกลับว่า  คนที่ยิงเมียเขาตาย ต้องโทษอย่างไร ?




ผมก้มหน้าตอบเขาว่า  "ได้รับคำตำหนิ" 


ทริสตั้น ยอมเชื่อผม  ไปถูกคุมขัง ตามกำหนด
โดยที่ผมได้แต่ละอายใจในกฎเกณฑ์ที่ผมเคยเชื่อมั่นว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้..มันยุติธรรมแล้วหรือ  ?

เมื่อ ทริสตั้น ยอมทำตามกฎเกณฑ์ของผมแล้ว
หลังออกจากที่คุมขัง เขาก็ทำตามกฎเกณฑ์ของเขาบ้าง

แล้วผลที่ตามมาก็ไม่สิ้นสุด

เมื่อเขาฆ่าคนไปแล้ว
พวกของคนเหล่านั้นก็ต้องกลับมาแก้แค้น
เมื่อใช้กฎเกณฑ์ เลือดต้องล้างด้วยเลือด
ดังนั้นเมื่อมีคนต่อต่อกัน.จ้องแต่จะล้างแค้นกัน
แล้วจุดจบจะหมดลงเมื่อไหร่



เมื่อคนเหล่านั้นมาด้วยอำนาจของกฎหมาย
จ้องจะมาเข่นฆ่า ทริสตั้น อย่างผิดกฎหมาย

ผมรู้ว่า พ่อจะไม่นิ่งดูดายเป็นอันขาด
ผมไม่แปลกใจเลยที่พ่อจะใช้ปืนยิง เจ้าหน้าที่
เพื่อปกป้องลูกของตัวเอง

ขณะที่พ่อ จะถูกเจ้าหน้าที่ยิง
และทริสตั้นกำลังโดดเข้าขวางทาง ในระยะยิง


พ่อครับ..

ที่สุดแล้ว ณ เวลานั้น
ผมไม่สนใจแล้ว  ว่า กฎเกณฑ์ที่สร้างขึ้นจะเป็นเช่นไร
ผู้รู้แต่เพียงอย่างเดียวว่า
เบื้องหน้านั้น คือคนที่ผมรัก

พ่อของผม และน้องชายของผม จะถูกยิง

ผมไม่เคยนึกเสียใจ และเสียดายเลย
ที่ยิงเจ้าหน้าที่คนสุดท้ายล้มลง



ผมยังเชื่อมั่นว่า กฎเกณฑ์ กติกาในสังคม ยังเป็นสิ่งที่ต้องมีอยู่
คนที่เคารพและเชื่อมั่นในแบบแผน ต้องได้รับความคุ้มครอง
และเราต้องปฎิบัติเช่นเดียวกับบุคคลนั้นอย่างเสมอภาคตามกฎระเบียบนั้น

แต่สำหรับคนที่ทำผิด ทำชั่ว แต่กลับอ้างใช้กฎเกณฑ์ กติกา มาบังหน้า
บางที  บางที ผมก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ กฎเกณฑ์ กติกา นั้น กับผู้กระทำผิด

ท้ายสุดนี้

ผมดีใจมากครับ ที่พ่อกอดผมในวันนั้น
หลายปีที่ผ่านมา ที่ ผม พ่อ กับ ทริสตั้น ได้ห่างเหินกันไปนาน
บัดนี้ได้ปรับความเข้าใจ และได้กลับมาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันอีก


บัดนี้ ผมเข้าใจแล้ว

แม้ผม กับ ทริสตั้น จะมีความเชื่อ และวิถีชีวิต แตกต่างกัน
แต่เราก็เป็นพี่น้องกัน สายเลือดเดียวกัน
สำหรับคนที่เรารักแล้ว เรารักเพราะเขาเป็นแบบนั้น
ไม่ใช่รักเพราะต้องการให้เขาเป็นแบบเรา

จะภูผา หรือ สายลม ต่างก็อยู่ในโลกใเดียวกัน

เคารพรักพ่อ อย่างยิ่ง

อัลเฟรด ..ลูกพ่อ




.................................................................................


[/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE]

http://www.oknation.net/blog/724room/2009/06/08/entry-1
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 10:20:29 pm »

Legends of the Fall ; ภูผา และ สายลม
 
 


ถึงผู้พันวิลเลี่ยม . บิดาอันเป็นที่รักยิ่งของลูก
พ่อครับ. 

จดหมายฉบับนี้  ผมตั้งใจเขียนเพื่อระบายความรู้สึกที่มีในใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ตั้งแต่ผมจำความได้ ครอบครัวเราแม้ไม่ได้เพียบพร้อมสมบูรณ์เหมือนใครเขา
แต่ผมก็ภูมิใจที่มี พ่อ เป็นเสาหลักให้พวกเรา 3 พี่น้อง

พ่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เรา
พ่อเป็นผู้พัน เป็นนายทหารที่มีความห้าวหาญ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม
พ่อเชื่อว่า คนทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่ากัน
ดังนั้นพ่อจึงไม่เคยแบ่งแยกความแตกต่างของมนุษย์ด้วยสีผิว และเชื้อชาติ



แต่ เมื่อ ใครๆ และ ระบบที่พ่อเชื่อมั่นกลับไม่คิดแบบเดียวกับพ่อ
พ่อก็ละทิ้งทุกอย่าง ไม่ติดยึดกับลาภยศ ตำแหน่ง ชื่อเสียง ใดๆ
ออกตั้งรกรากยังที่ดินว่างเปล่า พลิกฟื้นที่รกร้างว่างเปล่า ให้เป็น ปศุสัตว์
เลี้ยงชีพครอบครัว ยอมเป็นสามัญชน คนธรรมดา ทั่วไป

และด้วยเหตุนี้กระมัง  จึงทำให้แม่ต้องจำจากพวกเราไป 
ซึ่งพ่อก็ไม่เคยคิดเหนี่ยวรั้ง แม่ไว้ เพราะ พ่อรู้ว่า
วิถีชีวิตของพ่อ และแม่แตกต่างกัน พ่อเข้าใจในจุดนี้
การจากไปของแม่ จึงไม่ได้ทำให้ให้พ่อต้องอนาทร ทุกข์ร้อน หรือกังวลใจ
พ่อและแม่ยังติดต่อกัน ผ่านทางจดหมายอย่างสม่ำเสมอ
ผม กับ แซมมวลต่างหาก ที่ไม่เข้าใจในจุดนั้น
จึงเขียนจดหมายรบเร้าให้แม่กลับมา

ต่างจาก ทริสตั้น เขาไม่เคยพูดเรื่องจากไปของแม่เลย

พ่อเป็นดังภูเขา ตั้งตระหง่านตรง ยึดมั่นในศรัทธา และวิถีแนวคิดของพ่อ
พวกเรา 3 พี่น้องเคารพ และเทิดทูน พ่อเหนือใคร
พวกเราหวังว่า สักวันหนึ่ง เมื่อเราโตขึ้น เราเป็นให้ได้ดังที่พ่อเป็น


พ่อครับ..ผมเชื่อว่า เรา 3 พี่น้อง รักใคร่กัน และตายแทนกันได้
แต่เรา 3 คน แม้จะเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ผม อยากเป็นดังภูผา หนักแน่น มั่นคง ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ แบบแผน
ต่างกับ ทริสตั้น ซึ่งเป็นดัง สายลมอิสระ ที่ล่องลอย ยากที่คะเนได้

[/COLOR][/SIZE]
[/COLOR][/SIZE]

บางที อาจเป็นเพราะวิถีชีวิตของเขา เป็นดังธรรมชาติ อันแท้จริง
บวกกับความเชื่อบางอย่างที่ถูกซึมซับจาก วันแสต๊บ  ชาวอินเดียนแดง
ผู้ปลูกฝัง วิถีชีวิต แบบนักรบชนเผ่าพื้นเมืองให้แก่เขา

"Every Warrior Hopes a good death will find him"



พ่อครับ ..

ผมไม่เข้าใจใน ความเชื่อแบบนั้น ที่ ทริสตั้น เฝ้าค้นหาอยู่

ผมเชื่อว่า ชีวิตมีแบบแผน มีระเบียบ กฎเกณฑ์บางอย่าง ที่เราสามารถ สร้างได้
ชีวิต แม้มี อิสระ  แต่ก็ต้องมีหน้าที่ ควบคู่ ความรับผิด ด้วย

ผมกับ ทริสตั้น แม้เราจะต่างกันในแนวคิด และความเชื่อ
แต่ผมก็คิดอยู่เสมอว่า เราพี่น้อง จะอยู่ร่วมกันได้ด้วยดี



จนถึงวันหนึ่ง ที่แซมมวล พาคู่หมั้นของเขามา
ผมรู้ได้ทันทีว่า ทั้งผมและทริสตั้นต่างก็ตกหลุมรัก ซูซานน่า ด้วยกันทั้งคู่

ผมเชื่อว่า เราทั้งคู่ต้องหักห้ามใจไว้ กับเรื่องที่ไม่สมควรเช่นนี้

แต่ผมก็คิดผิด 

ทริสตั้น กลับ ปล่อยใจให้หวั่นไหวไป กับ ความอ่อนไหวของอารมณ์
ซึ่งผมคิดว่า มันเป็นสิ่งที่ผิด ทั้งๆที่ ซูซานน่า เป็นคู่หมั้นของน้องชายเรา
สิ่งนี้ มันเป็นรอยร้าวแรกระหว่าง ผม กับ ทริสตั้น

[/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE]
[/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE]

ผม กับ แซมมวล คิดตรงกันที่จะเข้าร่วมรบในสงคราม
สงครามแห่งเกียรติยศ ของเหล่าทหารหาญ  และศักดิ์ศรีของชายชาญ
ผมคิดว่า พ่อจะเห็นดีเห็นชอบไปกับเรา และส่งเสริมสนับสนุนพวกเรา

แต่พ่อก็ไม่คิดเช่นนั้น

พ่อคิดว่า รัฐบาล ทำสงครามไปก็เพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนเพียงส่วนเดียว
เหมือนกับที่ทำกับพวกอินเดียนแดง เพื่อให้คนผิวขาวส่วนหนึ่งได้พื้นที่ของชนพื้นเมืองไป

[/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE]
[/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE]

แซมมวล กับ ผม ขัดคำสั่งพ่อ ซึ่งนั่นก็คงเป็นครั้งแรกที่ เรา ทำให้พ่อผิดหวัง
ทริสตั้น แม้ไม่สนใจในการรบ หรือสงครามอะไรเลย
ก็ร่วมเดินทางไปรบในสงครามนี้เช่นกัน

ผมรู้ว่า ทริสตั้น เป็นห่วง และรัก น้องมาก


แต่บางที การที่เขาเลือกที่จะไปด้วย
นอกจาก ที่เขาต้องการจะปกป้อง แซมมวล แล้ว
ในส่วนลึกของจิตใจ เขาอาจจะรู้สึกผิดในอารมณ์ที่เขาได้อ่อนไหว ไปกับซูซานน่า ก็ได้

พ่อครับ..

ถึงอย่างไรก็ตาม ผมก็นับถือในความห่วงใยของทริสตั้น ที่มีต่อ แซมมวล
เขายอมมาอยู่ร่วมรบกับแซมมวล
และเฝ้าระวังเขามิให้ห่างคลาดสายตา แม้จะอยู่กันคนละหน่วยก็ตาม
ต่างกับผม ที่ต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา
ผมคิดว่า หน้าที่ ต้องมาก่อน เรื่องส่วนตัวมาทีหลัง

แล้วผมกับ ทริสตั้น ต่างก็พลาดในสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ..



แซมมวล ถูก ข้าศึก ยิงตายในสนามรบ

เราทั้งคู่ต่างเสียใจ ในการตายของน้อง 
ผม เลือกที่จะไม่โทษใคร ยอมรับในโชคชะตา
และคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เราต่างทำดีที่สุดแล้วในการปกป้องน้อง

แต่ ทริสตั้น ไม่คิดอย่างเดียวกับผม
วิญญาณสัตว์ป่า ของเขา ถูกปลุก ขึ้นมาอีกครั้ง
เขาอาฆาต เขาเคียดแค้น  เขาก่นด่า กรีดร้อง
โทษทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
...แม้กระทั่งตัวของเขาเอง

เขาจะไม่มีวันให้อภัยแก่ตัวเองได้เลยในชีวิตนี้




ผมคิดว่า เขาต้องสะทือนใจ เป็นที่สุด

นอกจากที่จะต้องเห็นน้องของตัวเองถูกยิงต่อหน้าต่อตา
ต้องเห็นน้องชายตัวเองตายในอ้อมอกโดยที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้
แล้วเขายัง ต้องเป็นคนลงมือ ผ่าอก กรีดเนื้อ เอาหัวใจ คนที่เขารักยิ่ง
เพื่อ ปลดปล่อยวิญญาณ ให้เป็นอิสระ ตามความเชื่อของเขา



ผมเชื่อว่า ด้วยเหตุนี้ เขา จะไม่เหมือนเดิม เขาจะไม่เป็น ทริสตั้นคนเก่า
ธรรมชาติในด้านมืด ได้ กลืนกินเขาสู่ห้วงเหว แห่งความโดดเดี่ยว แล้ว

พ่อครับ .
พ่ออาจจะคิดว่าผมเสียใจน้อยกว่าที่ควร   
ซึ่งพ่ออาจจะคิดว่าผมรักน้องน้อยกว่า ทริสตั้น

เปล่าเลย ..  ผมรักน้อง ในวิถีของผม 
การตีอก ชกหัว  เคียดแค้น ชิงชัง ไม่ได้ให้ผลดีแก่ใครเลย
สิ่งที่เกิดขึ้น ก็เกิดไปแล้ว ทำอย่างไร แซมมวลก็ไม่สามารถฟื้น กลับมาได้อีก
ผมเชื่อว่า ผมเสียใจต่อการตายของแซมมวล  ไม่น้อยกว่า ทริสตั้น เลย
แต่ผม สามารถ เลือก วิถีชีวิต ของตนเอง ให้ดีขึ้นได้
ผมต้องก้าวต่อไป ผมจะไม่ยึดติดกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว
ผมจะไม่ยอมให้ สิ่งที่พลาดไปแล้วมาฉุดรั้งให้ตัวเองต้องจมดิ่งสู่ความมืดมน

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: ตุลาคม 28, 2010, 07:14:34 pm »

 :45: ขอบคุณครับพี่มด
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 28, 2010, 09:57:30 am »




Legend Of The Fall เป็นหนังดราม่าที่มีความเข้มข้นอยู่ในทุกอณู นำเสนอมุมมอง ความรู้สึกนึกคิด การใช้ชีวิตของผู้ชายต่างวัย 4 คน ที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ท่ามกลางธรรมชาติและสงคราม มีความขัดแย้ง มีความไม่เข้าใจ ฉากที่สวยงามของหนังส่วนมากอยู่ในขุนเขา ป่าไม้ร่มรื่น และสายน้ำที่ไหลไปสุดสายตา สร้างบรรยากาศอบอุ่นอยู่ในที เหมือนจะบอกให้ผู้ชมทราบว่าทุกชีวิตย่อมมีทางเดินของตัวเอง ทุกการกระทำย่อมมีเหตุผลเป็นส่วนประกอบเสมอ สุดท้ายหนังก็ได้บอกเราว่า สายเลือดที่เข้มข้น และความรักที่มีต่อกันย่อมแปรเปลี่ยนเป็นความเข้าใจในที่สุด

อารมณ์ของหนังเรื่องนี้ ทำให้คิดไปถึงเรื่อง A River Runs Through It ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของผู้ชายตระกูลเดียวกัน แต่ดูเหมือน Legend Of The Fall จะมีโปรดักชั่นที่ใหญ่ และมีรายละเอียดที่ดูลึกซึ้งกว่า อีกทั้งมีธีมที่ไพเราะสอดคล้องกับหนังในแต่ละช่วง การจัดแสงทำได้ดี จนได้รับรางวัล Oscar - Best Cinematography ในปี 1994

Brad Pitt แสดงได้อย่างมีเสน่ห์ โดดเด่นและมีพลัง เนื่องจากบทที่ได้รับส่งให้เป็นอย่างมาก และหนังเรื่องนี้ทำให้เราลืมภาพ Anthony Hopkins ในบทบาทที่น่ากลัว สยดสยองของ hannibal ออกไปจนหมด เหลือเพียงภาพของชายที่เข้าใจในความเป็นไปของผู้คนที่อยู่รอบตัว และภาพของชายที่รักลูกอย่างสุดใจแม้จะไม่เอ่ยปากออกมา Hopkins สอบผ่านกับบทนี้เช่นกัน

กับ 133 นาที ที่ได้ชม นับได้ว่าสร้างความประทับใจให้ไม่น้อยไปกว่าหนังดราม่าเรื่องไหนๆเลยทีเดียวค่ะ ลองเลือกหามาชมกัน และอาจจะได้ค้นพบกับ...รักแท้ที่ไม่ต้องการสักข้อแม้...ก็เป็นได้

หนังเรื่องนี้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 3 สาขา และรับรางวัลมา 1 สาขา ดังนี้
Best Art Direction Lilly Kilvert  Dorree Cooper  Nominated
Best Cinematography John Toll  Win
Best Sound Dave Campbell  Nominated

http://www.ok-dvd.com/catalog.php?idp=1675

The Legends of the Fall Trailer