ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 11:52:21 pm »
ขอบคุณครับพี่มดขอให้ศรัทธาในความดี ตราบใดที่หัวใจยังมีธรรมะ ธรรมะในใจเราจะส่งเสริมความดีให้คงไว้ซึ่งศรัทธา..
ข่าว:
เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
ขอบคุณครับพี่มดข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 10:31:34 am »
by way of the green line bus
ภาษาไทย ตั้งชื่อ ให้ว่า ครอบครัวสติบวม ผมเรียก รอยัลออฟเทนเดนบวม ไปนั่น
หนังนี่ ไม่ได้ตลกแบบ คาเฟ่ เอาฮา เอามัน เพียว เพียว อย่างเดียวเลย ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เลย
มัน ตลก ตามชื่อ กระทู้ นั่นแหละ
เอาความเพี้ยน ความบ้า ความแปลก ความหม่น ความตลกลึก ตลกร้าย มาสอนคน
มีหลาย ๆ อย่างที่ คนกำกับจงใจแฝง แง่คิด เออ ปีหน้า ผมจะกลับไปดูอีก รอบกระมัง
มิติ การดูหนัง ผมยกระดับแล้ว ล่ะ เปลี่ยนไปแล้ว แบบว่า
ดูหนัง ดูเรา ดูโลก ดูใจ ดูธรรม ดู แล้ว จะเห็น
พอผมเห็น แล้ว จะบอก บอก บอก บอก ออกไป ให้ โลกได้ยิน
หนังเรื่อง นี้ คือ หนังในดวงใจ ของผมอีกเรื่อง เลย ดูหลายรอบ
ประทับใจ แชะ ค้างไว้ในใจ หลายฉาก
แช๊ะ แช๊ะ และ แช่ไว้ มานานปีแล้ว นะ
เออ มีหลาย แง่มุม ในหนัง
แต่ ที่แน่ ผมชอบ ฉากตอน นางเอก ลงรถเมล์ จังเลย ล่ะ ภาพสโลว์ ๆๆๆๆ มากับเพลง ย้อนยุค ดูดีจริง ๆ
ชอบบบบบบบบบบ มาก แต่ไม่รู้ จะสื่อ ออกไป ด้วยคำว่าอะไร
มันมากว่าถ้อยคำ เออ จากประสบการณ์ ครั้งหนึ่ง
เลย ผมอยู่ บนรถเมล์ แล้ว เห็น ใครก็ไม่รู้ เดินมา จากโรงอาหาร ผมมองผ่านหน้าต่าง
โอ้วววว ภาพ สโลว์ จนหยุดผม เป็น นาที วินาที แห่ง นิรันกาล ก็ว่าได้
ดูเอาเอง ฉอต นี้ ผมชอบมาก
สักวัน ผมจะบอก ออกไป ผมแค่ แนะนำ นะ น่าดู น่าดู และ น่าดูมั่ก ๆๆๆๆ
แถม มิวสิก ที่พอ จะหามาได้
Royal Tenenbaums Music Video
The Royal Tenenbaums.avi
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 10:06:42 am »
เอาภาพไปดู ก่อน นะ โทนนี้แหละ
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 09:54:10 am »
The Royal Tenenbaums
กำกับ: เวส อันเดอร์สัน
นำแสดง: ยีน แฮ้คแมน, แองเจลิก้า ฮุสตัน, เบน สติลเลอร์, กวินเน็ธ พัลโทรว์, ลุค วิลสัน, โอเวน วิลสัน, แดนนี่ โกลเวอร์, บิล เมอร์เร่ย์, คูมาร์ พาลลาน่า
ภาพยนตร์ตลกร้ายเรื่องใหม่ของ เวส อันเดอร์สัน ผู้กำกับที่หายไปนานหลังจาก “Rushmore” งานชิ้นล่าสุดของเขา “The Royal Tenenbaums” เป็นเรื่องราวของครอบครัว ทีเนนบอม ที่แสนจะวุ่นวายและเต็มไปด้วยปัญหาเรื้อรัง เพียงเพราะผู้นำครอบครัวที่ไม่เอาไหนเพียงคนเดียว เรื่องมันเกิดเมื่อ รอยัล (ยีน แฮ้คแมน) พ่อและสามีที่ไม่ได้เรื่องราวต้องการจะกลับเข้าไปในบ้านที่เขาละทิ้งมา 17 ปีเพราะหมดตัวไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรมอีกต่อไป เขาวางอุบายเพื่อเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยการแกล้งทำเป็นป่วยและกำลังจะตาย นอกจาก พาโกด้า (คูมาร์ พาลลาน่า) คนรับใช้แสนซื่อสัตย์ที่มีส่วนรู้เห็นในอุบายครั้งนี้แล้ว ทุกคนในครอบครัวไม่มีใครต้อนรับเขา ด้วยแผลที่รอยัล สร้างไว้ให้กับทุกคนนั้นช่างร้ายเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการบอกเลิก เอเธล (แองเจลิก้า ฮุสตัน) ภรรยาผู้เยือกเย็นที่ต้องรับภาระของครอบครัวเพียงคนเดียว หรือจะเป็นการฝากรอยแผลไว้ที่มือของ แชส (เบน สติลเลอร์) เพื่อทำให้เขาระลึกอยู่เสมอว่า “พ่อไม่รัก” อีกทั้งยังเหยียบย่ำความฝัน-บั่นทอนกำลังใจของ มาร์ก็อธ (กวินเน็ธ พัลโทรว์) ลูกสาวบุญธรรมเสียไม่มีชิ้นดี นอกจากนี้ ริชี่ (ลุค วิลสัน) ลูกชายคนเล็กยังละทิ้งอาชีพนักเทนนิสดาวรุ่งเพียงเพราะการแข่งขันครั้งสำคัญ เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นเขาก็ไม่กลับบ้านอีกเลย งานของรอยัล นั้นไม่ง่ายเลยเมื่อ แชส ที่กลายมาเป็นพ่อหม้ายลูก 2 และนายธนาคารผู้ระแวดระวังนั้นแสดงตัวต่อต้านอย่างเต็มที่ คนอื่นๆ ก็เหลือทน มีเพียง ริชี่ เท่านั้นที่ยินดีให้พ่ออยู่เพราะเขาเองก็กลับบ้านเพราะพ่อเช่นเดียวกัน หนำซ้ำ เอเธล ยังเตรียมจะแต่งงานใหม่กับ เฮนรี่ เชอร์แมน (แดนนี่ โกลเวอร์) นักบัญชีผู้มีในสิ่งที่รอยัลไม่มี จากหวังเพียงที่พักอาศัย สุดท้าย รอยัล ก็สำนึกในสิ่งที่ก่อเอาไว้ เขาพยายามชดใช้และชดเชยความรู้สึกให้กับทุกๆ คน (แม้บางอย่างจะเยียวยาไม่หายก็ตาม) ด้วยวิธีการในแบบที่เป็นของเขา “The Royal Tenenbaums” จึงเป็นหนังที่เน้นย้ำถึงคำว่า “ครอบครัว” ที่ยังไงก็ตัดไม่ตายขายไม่ขาดไม่ว่าจะเลวร้ายต่อกันแค่ไหน นอกจากนี้อารมณ์ขันแบบเลวๆ ระคนความขมขื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ เวส อันเดอร์สัน นั้นก็แสดงพิษสงของมันได้อย่างชัดเจนผ่านบุคลิกประหลาดแสนเพี้ยน ของตัวละครทุกตัว ที่เขาและ โอเว่น วิลสัน (รับบท อีไล แคช เพื่อนบ้านที่อยากเป็นคนในครอบครัว “ทีเนนบอม”) ร่วมกันเขียนขึ้น ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นทีเด็ดและเสน่ห์อันร้ายเหลือของหนังเรื่องนี้ ตอนจบของ “The Royal Tenenbaums” จึงเป็นอะไรที่อบอุ่น, ประทับใจ และเป็นไปตามครรลองของมัน ซึ่งหากเป็นหนังตามสูตรสำเร็จเราคงได้เห็นตอนจบที่เสแสร้งมากกว่านี้ หากเราหานิยามให้ “The Royal Tenenbaums” ก็คงประมาณว่า ตลกเจ็บ, อุบาทว์, ซับซ้อน, ลึกซึ้ง และต้องไม่ลืมคำว่า “อบอุ่น” ต่อท้ายไปด้วย เพราะครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งอย่างที่โปรยในใบปิดหนังเอาไว้ว่า “Family isn’t a word…it’s a sentence”
http://www.blogazineplay.com/scene/?p=37
The Royal Tenenbaums (2001) HQ trailer