ปุจฉา จะระงับอารมณ์อย่างไร กราบนมัสการองค์หลวงปู่ครับ ผมได้อ่านหนังสือเรื่อง
"ชนะอารมณ์" แล้วสะดุดกับประโยคที่องค์หลวงปู่ได้เขียนไว้ว่า (สรุปโดยความเข้าใจ)
ปัญหาต่างๆ ชาวบ้านก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้จักระงับอารมณ์ ซึ่งผมก็อยากทราบว่าเราจะระงับอารมณ์อย่างไร บางทีการระงับอารมณ์ในบางเรื่องนั้นทำได้ยาก เช่น เรื่องที่เราเสียใจมากๆ การที่เราทำงานอย่างอื่นเพื่อไม่ให้นึกถึงหรือทำตัวร่าเริงสนุกสนาน แต่มันกลับกลายเป็นว่าเราหลอกตัวเอง ทั้งๆ ที่เรามีความทุกข์อย่างนั้นเหรอครับ เมื่อเราอยู่คนเดียวผมจะฟุ้งซ่านในเรื่องเดิม แล้วภาพเก่าๆ นั้นจะย้อนมาทำร้ายผมอีก ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนจะตัดปัญหานั้นๆ ได้ไม่นาน แต่คราวนี้ผมว่ายิ่งตัดมันเท่าไร มันก็ยิ่งทำร้ายตัวผมหนักขึ้นทุกวัน จนขนาดผมเสียสติคิดโง่ๆ ทำร้ายตัวเอง
ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นมา เราจะตัดความทุกข์ตัวนี้อย่างไรดี แล้วความทุกข์ตัวนี้มันเกิดขึ้นมาพร้อมกับความบาปกรรมของผมที่ไม่รู้จักยั้งคิดปล่อยให้มันไปตามอารมณ์ของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่อาจคืนย้อนมาได้ มันเป็นอดีต ผมทราบดี
แต่ว่าอดีตตัวนี้มันติดแน่นจนผมไม่สามารถตัดมันได้ทั้งที่พยายามทำให้รู้ว่านี่คือปัจจุบันเราต้องทำให้ดีที่สุด ผมว่าผมได้ตัดมันแล้ว พยายามไม่นึกถึงแล้ว มองว่ามันผ่านมาแล้วนะ มันต้องไม่ใส่ใจนะ ทั้งๆ ที่มีคนที่รักเรามาก พ่อ แม่เรา แต่เรากลับมาทำร้ายตัวเอง ผมขอความกรุณาขอคำปรึกษาครับ กราบขอบพระคุณองค์หลวงปู่ด้วยครับ
วิสัชนา ดูท่าคุณจะเป็นโรคย้ำทำย้ำคิดอ่อนๆ ฉันแนะนำว่าสิ่งที่คุณควรทำ ก็คือหากิจกรรมที่เสริมสร้างความสงบของอารมณ์ มาทำให้มากขึ้น เช่น รดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า แล้วก็ปล่อยนก ปล่อยปลา ไหว้พระ สวดมนต์ ฟังธรรม รักษาศีล บริจาคทาน ใส่บาตร ทำบุญ เจริญภาวนา และอย่าลืมแผ่เมตตา กิจกรรมเหล่านี้มันจะช่วยดึงคุณขึ้นมาจากหุบเหวแห่งความคิดซ้ำซาก
ปุจฉา กุศโลบายให้โดยไม่หวังผล กราบนมัสการหลวงปู่ครับ การให้โดยปราศจากความต้องการจะได้สิ่งตอบแทน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือเปล่าครับ เพราะที่ผ่านมาผมพยายามที่จะปฏิบัติเช่นนั้น และทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เนื่องจากผมยังเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ในบางครั้งผมก็รู้สึกว่า อยากได้ผลตอบแทนของการให้ที่ได้กระทำไว้บ้าง ผมควรจะทำอย่างไรที่จะยึดมั่นในการปฏิบัติที่จะให้หรือเสียสละโดยไม่หวังผลใดๆ เลย ซึ่งหากจะหวังก็คงมีแค่อยากให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์จะต้องใช้กุศโลบายอย่างไรครับ
วิสัชนา การให้แล้วต้องการผลตอบแทนนานๆ ทีมิใช่ต้องการถี่ๆ เช่นนี้ถือว่าเป็นน้ำจิ้มของหัวใจแรงบันดาลใจ ที่ปรารถนาจะให้ในโอกาสต่อๆ ไป แต่ก็ต้องระวังจะบังเกิดความละโมบ โลภ อยากได้ไม่รู้จบตามมา มันจะกลาย พันธุ์เป็นการให้ที่ไม่สุจริต และถ้าเป็นเช่นนี้สู้ไม่ให้เสียเลยจะดีกว่า จะได้ไม่พอกพูนความชั่ว
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9480000011273