ปรากฏการณ์อัศจรรย์ในพระประสูติกาล ด้วยอำนาจบุญที่ทำมาดีแล้ว เมื่อจุติลงสู่ครรภ์พระมารดา ลักษณะของท่านก็ไม่เหมือนคนทั่วไป ทรงลักษณะที่สมบูรณ์ที่สุด แข็งแรงที่สุด และได้สัดส่วนที่ดีที่สุดด้วย และในวาระพระประสูติกาล ก็ได้มีปรากฏการณ์เป็นที่อัศจรรย์เกิดขึ้นอีกหลายประการ เช่น
ประการที่ 1ด้วยลักษณะมหาบุรุษที่สมบูรณ์แข็งแรง ศูนย์ถ่วงของร่างกายจึงดีเหลือเกิน ขณะที่พระองค์อยู่ในครรภ์พระมารดา แทนที่จะนอนคุดคู้ ขด เหมือนลูกแมว ลูกหมู พระวรกายของพระองค์กลับนั่งสมาธิอยู่ในครรภ์พระมารดาครบ 10 เดือน จึงประสูติออกมา เวลาคลอดก็ไม่เมือนคนทั่วไป ซึ่งเอาหัวออก ทำให้แม่ต้องนอนคลอดแต่เมื่อพระพุทธเจ้าประสูตินั้น ไม่ทรงทำลำบากให้พระมารดาเลย พระมารดายืนคลอด พอพระองค์ยืดขา หลุดจากพระครรภ์มารดาก็ทรงยืนได้ทันทีพอยืนก็ก้าวไปได้เลย เจ็ดก้าว และยังพูดได้ด้วย คำพูดที่ท่านเปล่งออกมาทันทีที่ประสูติ เรียกว่า อาสภิวาจา คือวาจา หรือ คำพูดที่ประกาศถึงความเป็นผู้มีความสามารถสูงสุดในโลก พระองค์ตรัสว่า "เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐสุดแห่งโลก
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ ย่อมไม่มี"
[/COLOR]
เป็นหลักฐานได้ว่า ผู้มีบุญบารมีแก่กล้านั้นเมื่อประสูติก็สามารถพูดได้เลย ประการที่ 2 เมื่อพระองค์ประสูตินั้น เทวดาทั้งหลายต่างพากันมารอรับและดูแลอารักขา คนอื่น ๆ มองไม่เห็นมีแต่พระมารดาเท่านั้นที่เห็นชัดว่า มีเทวดาเข้ามารับ เทวดาเหล่านี้ คือเทวดาที่ไปอัญเชิญพระองค์มาประสูตินั่นเองเพราะฉะนั้นเมื่อเชิญลงมาแล้วก็เลยตามมาดูแลอารักขาด้วย เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติ เท้ายังไม่ถึงดิน ก็มีเทพบุตรทั้ง 4 มารองรับ พระองค์ท่านไว้ แล้วทูลกับพระมารดาว่า"พระแม่เจ้าจงพอพระทัยเถิด บุตรอันมีศักดาใหญ่ของพระแม่เจ้าเกิดแล้ว"
ยิ่งกว่านั้น เวลาพระองค์ประสูติ พระวรกายของพระองค์ยังสะอาดหมดจด ไม่เปื้อนด้วยเลือด เมือกหนองอย่างคนธรรมดา นับเป็นผู้สะอาดหมดจด เหมือนอย่างเอาแก้วมณีวางบนผ้าเนื้อเกลี้ยงแก้วนั้นไม่เปื้อนผ้า และผ้าก็ไม่เปื้อนแก้วอย่างนั้น ประการที่ 3 เมื่อประสูติแล้วปรากฏว่ามีท่อน้ำธารน้ำอุ่น เกิดขึ้นกลางอากาศให้ได้สรงทีเดียว ถามว่าเกิดจากบุญอะไร ตอบว่า บุญที่ท่านไม่เคยหวงน้ำดื่มน้ำใช้ข้ามภพข้ามชาติมานั่นแหละ ถึงคราวประสูติ บุญก็ตามมา มีน้ำตกกลางอากาศหลั่งไหลเป็นน้ำฝน ที่เหมาะแก่ทารก เป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์อย่างยิ่ง ประการที่ 4 ทันทีที่ประสูติก็เกิดแสงสว่างเจิดจ้า สว่างชนิดที่เรียกว่า แม้นรกที่มืดมิดก็ยังสว่าง ด้วยรัศมีที่เกิดจากการประสูติ ยิ่งกว่านั้นแผ่นดินก็ยังไหวด้วย สำหรับพวกเรา ถึงไม่ได้เท่าผงธุลีของพระองค์ แต่ว่าเมื่อเกิดมาแล้วได้เป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงพร้อมต่อการปฏิบัติธรรม และมีเครื่องอำนวยความสะดวกเพื่อการปฏิบัติธรรมให้พร้อม ก็นับว่าเป็นการดีไม่น้อยอยู่แล้ว สำหรับการสร้างบารมีต่อไปภายหน้า ผู้ที่สะสมบุญบารมีอย่างเต็มที่ เช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เวลาเกิดนอกจากจะมีปรากฏการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นดังนี้แล้ว ยังมีลักษณะพระวรกายที่สมบูรณ์งามสง่าเป็นเลิศ ซึ่งเรียกว่า "ลักษณะมหาบุรุษ" อีกด้วย ลักษณะมหาบุรุษ พวกเราเคยสังเกตไหมว่า นักกีฬาที่ร่างกายแข็งแรงนั้นเกิดจากฝึกซ้อม ซ้อมวิ่งบ้าง ซ้อมยกลูกน้ำหนักบ้างรวมทั้งการฝึกท่าบริหารต่าง ๆ เมื่อซ้อมมาก ๆ สุขภาพร่างกายสมบูรณ์และแข็งแรง การฝึกออกกำลังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้ฉันใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในขณะที่บำเพ็ญบารมีอยู่ ท่านก็พากเพียรฝึกซ้อมเป็นประจำแต่การฝึกซ้อมออกกำลังของท่าน ไม่ใช่การซ้อมยกตุ้มน้ำหนัก แต่เป็นการยกมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ ทรงยกใจของพระองค์ให้พ้นจากกิเลสและยกใจคนทั้งหลายให้พ้นจากความทุกข์ ยกใจคนทั้งหลายให้พอใจในการทำความดี ทรงบริหารจิตใจของพระองค์เช่นนั้น ข้ามภพ ข้ามชาติ อันยาวนาน บุญบารมีจากการที่ยกใจมนุษย์ ให้พ้นบาปพ้นจากกิเลสนี้เอง จึงทำให้ท่านได้ลักษณะมหาบุรุษ คือลักษณะที่สมบูรณ์ที่สุดที่มนุษยชาติ จะพึงมีพึงเป็นได้ และเป็นลักษณะที่เหมาะแก่การทำความดีทุกรูปแบบ รูปร่างลักษณะของเรานี้ ความจริงพิการทั้งนั้น แต่พวกเราคุ้นกับสิ่งที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงเคยชิน หน้าเรา จมูกเราปากเรา มีแต่ความพิการ บางคนก็เห็นชัดมาก บางคนชัดน้อย เช่นมือของเรา นิ้วก้อยเล็กนิดเดียว คิดว่าน่ารักจริง ๆแล้ว นั่นแหละ นิ้วง่อย บางคนว่าสวยจนขนาดนางงามงานวัด หรือมิสยูนิเวอร์สเชียวนะ แต่พอไปเทียบกับรูปร่างมาตรฐานแล้ว ง่อยกันทั้งนั้น พิการทั้งนั้นแหละ รู้ได้อย่างไรว่า ง่อยพิการ ค่อย ๆ ฝึกไป เมื่อเห็นพระธรรมกายภายในตัวแล้ว เอาตัวของเราไปเทียบ จึงจะเห็นว่าตัวเรานี่แหละ พิการ ลักษณะมหาบุรุษมีอยู่ 32 ประการ คือ 1. มีพื้นเท้าสม่ำเสมอ2. ฝ่าเท้ามีลายจักร มีซี่กำข้างละพัน พร้อมทั้งกงและดุม3. มีส้นเท้ายาว4. มีนิ้วมือและนิ้วเท้าเรียวยาว5. มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนละมุน6. มีลายฝ่ามือฝ่าเท้าดุจตาข่าย7. มีข้อเท้าอยู่สูง8. มีแข้งดุจแข้งเนื้อทราย9. แม้ยืนไม่ย่อตัวก็สามารถแตะเข่าได้ด้วยมือทั้งสองข้าง10. มีองคชาติตั้งอยู่ในฝัก11. มีสีกายดุจทอง คือผิวหนังดุจทอง12. มีผิวหนังละเอียด13. มีขนขุมละเส้น เส้นหนึ่งอยู่ขุมหนึ่ง14. มีปลายขนช้อนขึ้น มีสีดุจดอกอัญชัญ ขึ้นเวียนขวา15. มีกายตรงดุจพรหม16. มีเนื้อนูนหนาในที่ 7 แห่ง17. มีกายข้างหน้าดุจราชสีห์18. มีหลังเต็มบริบูรณ์ไม่เป็นร่อง19. มีทรวดทรงดุจต้นไทร คือ กายกับวาจา เท่ากัน20. มีคอกลมเกลี้ยง21. มีประสาทรับรสอันเลิศ22. มีคางดุจคางราชสีห์23. มีฟัน 40 ซี่ บริบูรณ์24. มีฟันเรียบเสมอ25. มีฟันสนิทชิดกัน26. มีเขี้ยวสีขาวงาม27. มีลิ้นใหญ่และยาว28. มีเสียงดุจเสียงพรหม คือ เสียงไพเราะมาก29. มีนัยน์ตาดำสนิท เหมือนสีนิล30. มีตาบริสุทธิ์ดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด31. มีอุณาโลมที่หว่างคิ้ว ขาวอ่อนเหมือนสำลี32. มีศรีษะรับกับกรอบหน้า รายละเอียดหลวงพ่อเทศน์ไว้แล้วในเรื่องลักษณะมหาบุรุษ ไปหาอ่านเอาก็แล้วกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประสูติมาพร้อมกับได้ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการครบถ้วน ในสมัยพุทธกาลมีบางคนได้ลักษณะมหาบุรุษเหมือนกัน แต่ได้มาคนละอย่างสองอย่างเท่านั้น