ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2010, 01:20:38 am »
อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับผม^^ขอให้ศรัทธาในความดี ตราบใดที่หัวใจยังมีธรรมะ ธรรมะในใจเราจะส่งเสริมความดีให้คงไว้ซึ่งศรัทธา..
ข่าว:
เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับผม^^ข้อความโดย: เลดี้เบื๊อก
« เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 08:19:34 pm »ท่านอาจารย์บุญเพ็ง กัปปโก แห่งวัดป่าวิเวกธรรม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ท่านกล่าวถึงหลวงปู่ตื้อว่า
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม เป็นอาจารย์ของอาตมาที่อาตมาเคารพมากที่สุด ท่านเป็นนักเทศน์โผงผาง ใครมีกิเลสจะพากันรังเกียจท่าน ถ้าผู้มีปัญญาพ้นสนิมกิเลสบ้างไม่มากมายเพียงน้อยนิด พอฟังได้เข้าใจ จะชื่นชมกับความกล้าของท่าน
ที่อำเภอแม่ริม ตอนนั้นพระอาจารย์อ่อนก็ได้ถามขึ้นว่า
"ท่านตื้อถ้าไม่รักษาศีล ไม่เจริญสมาธิ ไม่บำเพ็ญปัญญา จะไปนิพพานได้ไหม ตอบหน่อย พระดังอย่างหลวงปู่ "มงคลหมา" ก็เคยเทศน์มาแล้ว
ท่านตอบว่า "มีจะเป็นอะไรไป ไม่รักษาศีล ก็ให้รักษาซิ่น (ผ้าถุง สตรี)
ไม่เจริญสมาธิก็ให้รักษาช่องเข้า
ไม่เจริญาภาวนาบำเพ็ญเพียรปัญญาก็ให้รักษาช่องขี้เท่านั้นแหละ"
หลวงปู่อ่อนก็ว่า "โอ ท่านตื้อนี่พูดหยาบคายเหลือเกิน"
ไม่หยาบคายหรอกหลวงพ่อ
"ผมจะอธิบายให้ฟังนะ คือ
1. ก็ธรรมดา ร่างกายสังขารเรานี้ ถ้าเป็นผู้ชายผู้หญิง เครื่องนุ่งเครื่องห่มก็ต้องรักษาให้สะอาด สังขารร่างกายก็เปรียบเสมือนผ้าซิ่น ต้องรักษาให้สะอาดอย่าให้มัวหมอง
2. ไม่บำเพ็ญสมาธิ ให้รักษาช่องเข้า ก็อะไรเล่าก็กิเลส มันเข้าทางไหนมันเข้าช่องตา ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ลิ้น กาย และใจ ใช่ไหม "
ช่องเหล่านี้เราต้องรักษาไว้อย่าให้กิเลสมันเข้า มันจึงจะเกิดความสะอาดบริสุทธิ์ " จริงไหม"
3. ไม่บำเพ็ญปัญญา ให้รักษาช่องขี้ ก็ขี้ทุกข์ ขี้ยาก ขี้ลำบาก ขี้คร้าน ขี้เกียจขี้คุก ขี้ตะราง ขี้อิจฉาริษยา ชี้โกรธ ขี้หึง ไล่มันออกให้หมด อย่าให้มันเข้ามารังควานซีเท่านี้ทำได้บ่"
นั่นความจริงท่านไม่เจตนาพูดคำหยาบอะไรท่านพูดความจริง บางคน
ไม่เข้าใจก็เพราะยังไม่เคยฟังเรื่องจริงๆ ของนักเทศน์อย่างหลวงพ่อตื้อ นี่แหล่ะ ธรรมะ
มิใช่จะสอนคนให้โง่ ให้หลับฟุบคาพื้น ฟังแล้วอย่าให้ง่วง เราไม่ใช่พระอภัยมณีนี่จึงเป่าปี่ให้คนหลับทั่วเมือง นี่ต้องอย่างนี้
http://agaligohome.fix.gs/index.php?topic=1509.0
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม เป็นอาจารย์ของอาตมาที่อาตมาเคารพมากที่สุด ท่านเป็นนักเทศน์โผงผาง ใครมีกิเลสจะพากันรังเกียจท่าน ถ้าผู้มีปัญญาพ้นสนิมกิเลสบ้างไม่มากมายเพียงน้อยนิด พอฟังได้เข้าใจ จะชื่นชมกับความกล้าของท่าน
ที่อำเภอแม่ริม ตอนนั้นพระอาจารย์อ่อนก็ได้ถามขึ้นว่า
"ท่านตื้อถ้าไม่รักษาศีล ไม่เจริญสมาธิ ไม่บำเพ็ญปัญญา จะไปนิพพานได้ไหม ตอบหน่อย พระดังอย่างหลวงปู่ "มงคลหมา" ก็เคยเทศน์มาแล้ว
ท่านตอบว่า "มีจะเป็นอะไรไป ไม่รักษาศีล ก็ให้รักษาซิ่น (ผ้าถุง สตรี)
ไม่เจริญสมาธิก็ให้รักษาช่องเข้า
ไม่เจริญาภาวนาบำเพ็ญเพียรปัญญาก็ให้รักษาช่องขี้เท่านั้นแหละ"
หลวงปู่อ่อนก็ว่า "โอ ท่านตื้อนี่พูดหยาบคายเหลือเกิน"
ไม่หยาบคายหรอกหลวงพ่อ
"ผมจะอธิบายให้ฟังนะ คือ
1. ก็ธรรมดา ร่างกายสังขารเรานี้ ถ้าเป็นผู้ชายผู้หญิง เครื่องนุ่งเครื่องห่มก็ต้องรักษาให้สะอาด สังขารร่างกายก็เปรียบเสมือนผ้าซิ่น ต้องรักษาให้สะอาดอย่าให้มัวหมอง
2. ไม่บำเพ็ญสมาธิ ให้รักษาช่องเข้า ก็อะไรเล่าก็กิเลส มันเข้าทางไหนมันเข้าช่องตา ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ลิ้น กาย และใจ ใช่ไหม "
ช่องเหล่านี้เราต้องรักษาไว้อย่าให้กิเลสมันเข้า มันจึงจะเกิดความสะอาดบริสุทธิ์ " จริงไหม"
3. ไม่บำเพ็ญปัญญา ให้รักษาช่องขี้ ก็ขี้ทุกข์ ขี้ยาก ขี้ลำบาก ขี้คร้าน ขี้เกียจขี้คุก ขี้ตะราง ขี้อิจฉาริษยา ชี้โกรธ ขี้หึง ไล่มันออกให้หมด อย่าให้มันเข้ามารังควานซีเท่านี้ทำได้บ่"
นั่นความจริงท่านไม่เจตนาพูดคำหยาบอะไรท่านพูดความจริง บางคน
ไม่เข้าใจก็เพราะยังไม่เคยฟังเรื่องจริงๆ ของนักเทศน์อย่างหลวงพ่อตื้อ นี่แหล่ะ ธรรมะ
มิใช่จะสอนคนให้โง่ ให้หลับฟุบคาพื้น ฟังแล้วอย่าให้ง่วง เราไม่ใช่พระอภัยมณีนี่จึงเป่าปี่ให้คนหลับทั่วเมือง นี่ต้องอย่างนี้
http://agaligohome.fix.gs/index.php?topic=1509.0