ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Plusz
« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2010, 05:49:57 pm »



รูปโหดได้ใจค่ะ  :42: :42: :42:
แต่ก็ น่าสงสารจังเลย ...  :11: :11: :11:
ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2010, 12:25:01 am »

 :13: อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่มด
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 04:39:17 pm »









โอ มหาบัณฑิต       ผู้บ่มจิตด้วยการฝึก

พึงใฝ่ใจตรองตรึก    เหตุอันล้วนมิควรกิน

เมื่อหมั่นสมาทาน    ปฏิญาณเป็นอาจิณ

ครองใจไร้มลทิน     ครองผ้ากาสาวพัสตร์

เป็นศากยบุตร         เพียรพิสุทธิ์ปฏิบัติ

ตรงต่อข้อบัญญัติ    ไม่ผิดเพี้ยนจากคัมภีร์

แม้ในอนาคต          ผู้โป้ปดมดเท็จมี

ด้วยความคิดบัดสี    ปรารถนาอันลามก

จักเรียบเรียงขึ้นใหม่  ด้วยจิตใจสกปรก

อาจแอบอ้างหยิบยก ฤๅกล่าวหาว่าเรากิน

ตถาคตกำหนดมั่น    แก่ปวงท่านให้รู้สิ้น

กายใจไม่ราคิน        มิถวิลกินเนื้อใคร





โอ มหาบัณฑิต        พึงพินิจแก่จิตใจ
มิเคยบัญญัติไว้        พระสูตรใดแม้นวาจา
ปวงมหาบัณฑิต       พึงพินิจพิจารณา
แม้คนธรรมดา         ฤๅอริยาสงฆ์ทั้งหลาย
มิเคยจักเสริมส่ง       ให้ดำรงซึ่งร่างกาย
ด้วยเลือดเนื้อความตาย อันเป็นเหตุแห่งความทุกข์
ผู้ดีมีปัญญา             ผู้ศรัทธาแสวงสุข
เพียรสืบทอดทุกยุค   ประกาศไปให้ทั่วกัน
จนทราบความทั้งปวง ให้ลุล่วงรู้เท่าทัน
สรรพสัตว์ทั้งหลายนั้น ล้วนคล้ายเป็นเช่นบุตรเรา
ขอท่านจงเลิกละ      มวลมังสะอันหมองเศร้า
กินลงกระไรเล่า        เลือดเนื้อลูกทุกขเวทนา
พระดำรัสบัญญัติไว้   ดั่งธงชัยให้ศรัทธา
ผูกเป็นพระคาถา       สืบทอดมาว่าดังนี้




(ร่ายโบราณ)

โอ มหาบัณฑิต! พระนฤชิตชินวร ตรัสสอนเทศนา
สุรา เนื้อ กระเทียม หอม เป็นสิ่งมอมเมาล้วน
มิบังควรบริโภค ด้วยก่อโรคแลกำหนัด บัญญัติไว้มั่นแล้ว
ดุจดวงแก้วอันวิสุทธิ์ ปวงพุทธศาสนิกชน ผู้มุ่งกุศลพิสิฐ
แลบรรพชิตทั้งหลาย ผู้ครองกายบรบิณฑ์ ระงับสิ้นซึ่งกิเลส
สำรวมจิตเจตนา เว้นมังสาไว้เสมอ เว้นบำเรอด้วยสุรา
เว้นนำพาหัวผักกาด เว้นอาจาดหอมกระเทียม
ทั้งผู้เตรียมผู้ฆ่า ผู้สรรหาเอามาขาย ผู้จับจ่ายเงินซื้อ
ล้วนได้ชื่อว่ากระทำ ก่อกรรมอันอกุศล อมงคลจักชักพา
ครั้นมรณาจมลง ตรงสู่ขุมโรรุวะ นรกอเวจี บัญญัติตามคัมภีร์
หัสติกักสยะ
มหาเมฆะ
นิรวาณางคลี
มาลิกา
ลังกาวตารสูตร

นั้นนา แม้นมุ่งหาหนทางหลุดพ้นกรรม ต้องไม่นำเนื้อมากิน
ไม่ถวิลหาสุราไม่นำพาในสิ่งผิด พึงพิชิตอุปสรรค
เพื่อพิทักษ์วิมุต เพียรพิสุทธิ์ปฏิบัติ
ดังปริยัติอริยสงฆ์ มั่นคงวิมังสาสมัย
มุ่งสู่ชัยชนะแห่งตนนั้นแล
...

 
http://www.oknation.net/blog/96rangjai/2010/06/22/entry-3
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 04:32:01 pm »

กินดีอยู่ดี



(โครงสี่สุภาพ)

กินดีแล้วอยู่ด้วย          ดีเสมอ
หาใช่ที่รสเลอ             ล่อลิ้ม
ฤๅหิวปล่อยใจเผลอ      พิศเพ่ง
มีส้อมช้อนจ่อจิ้ม         บาปเข้า ปากสู

หมูหันไก่ย่างนี้            หนังเกรียม
ปลาทอดราดกระเทียม  กลิ่นฟุ้ง
ลูกวัวอ่อนเชือดเตรียม  ต้มเปื่อย
ลวกฆ่าหอยพล่ากุ้ง      กี่มื้อ จึ่งหนำ

กรรมดีีหนุนส่งให้         เป็นคน
มาเกิดด้วยกุศล           ก่อเกื้อ
บำเพ็ญต่อเติมผล        บุญเลิศ เพียรแล
เว้นอร่อยเลือดเนื้อ       สัตว์แล้ก่อบุญ





(กาพย์ยาณี ๑๑)


พุทธองค์ทรงตรัสสอน   คัดบางตอนจากคัมภีร์
พุทธทาสธรรมเมธี        แปลไว้มีมาบรรยาย
แต่ครั้งลังกาวงศ์          ได้เสริมส่งให้แพร่หลาย
รู้เกิดแก่เจ็บตาย           ที่เวียนว่ายทุกกายตน

เรียนรู้สัจธรรม             ปัญญานำความหลุดพ้น

รู้ละกิเลสปรน              หวังในผลเย็นนิพพาน
ลังกาวตารสูตร            เชิญชาวพุทธฟังคำขาน
เผยแผ่ธรรมทาน          ตื่นเบิกบานสุขนิรันดร์




องค์พระตถาคต        ผู้หมดจดอรหันต์
ตรัสรู้ถ้วนเท่าทัน      ทรงเทศนาว่าดังนี้

โอ มหาบัณฑิต        พึงพินิจเหตุผลมี

นำพามาบ่งชี้           มังสาล้วนไม่ควรกิน
ด้วยวัฏฏสงสาร        เวียนตามกาลมิรู้สิ้น
มวลสัตว์ทุกชีวิน      เกิดแล้วดับตามเวลา
มิมีสัตว์ตนไหน        ซึ่งจักไร้ญาติกา
เคยเป็นพ่อแม่ย่า      ยายปู่ตาลูกพี่น้อง
เพียงสัตว์ตัวเดียวกัน  กรรมผ่านผันตามครรลอง
เสมือนเครือญาติผอง อันเกี่ยวดองอยู่กับเรา
ปวงท่านผู้เจริญ        ควรฤๅเพลินกินเนื้อเขา
ซึ่งอาจร่วมรากเหง้า   ตระกูลเราแต่เก่าก่อน







โอ มหาบัณฑิต       พึงพินิจพิศทวนย้อน
กิเลสห่วงนิวรณ์       ความอร่อยพลอยราคิน
เนื้อโค อูฐ ม้า ลา    เนื้อคน หมา ไม่น่ากิน
ถูกฆ่ามาขายสิ้น      ปดว่าแกะแค่เพราะเงิน
ด้วยเหตุแห่งบาปชี้   เนื้อสัตว์นี้สิควรเมิน
ขอท่านผู้เจริญ        จงละวางทุกมื้อวัน



โอ มหาบัณฑิต       พึงพินิจด้วยจิตมั่น
ที่มาแห่งเนื้อนั้น      คือเลือดและอสุจิ
จึงเป็นสิ่งต้องห้าม   บ่งชี้ตามธรรมดำริ
สงฆ์ครองพิสุทธิ     องค์สาวกผู้บวร
หลุดพ้นจากราคี      ด้วยกิจดีสถาพร
มิตรจิตเอื้ออาทร     สิ้นหวาดกลัวกันและกัน



โอ มหาบัณฑิต       บรรพชิตจิตคงมั่น
ทุกชีวิตรักชีวัน        จึงควรให้อภัยทาน
จงแจ้งประจักษ์แท้   ปวงสัตว์แม้เห็นนายพราน
สะดุ้งกลัวลนลาน     รีบหลบลี้หนีนักกิน
อันว่าสัตว์ประเสริฐ   ผู้เลอเลิศในธรณิน
จักเสื่อมศรีหมดสิ้น   แม้นสัตว์เห็นเป็นอสูร



โอ มหาบัณฑิต       พึงพินิจคิดเกื้อกูล
สาวกผู้จำรูญ          ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ใด
มีแต่ผู้เหี้ยมโหด      แม้นมิโกรธยังฆ่าได้
ปองรสที่ถูกใจ        จึงปองร้ายไร้เมตตา
โอสัตบุรุษ             แห่งพระพุทธศาสนา
แม้นเลือดเนื้อเจือมา จึงหาควรบริโภค



โอ มหาบัณฑิต       พึงพินิจพิษสรรพโรค
บังเกิดทุกข์เศร้าโศก เนื้อนำไข้มิให้คุณ
เจ็บป่วยทั้งกายจิต    วิปริตคิดหมกมุ่น
ติดกับรสละมุน        เสพศพซากเพียงอยากกิน
โรคพยาธิ์ โรคไส้เดือน ทั้งโรคเรื้อนทุกข์ทั้งสิ้น
รุกรานผลาญชีวิน     ลิ้นอร่อยเพลินพลอยตาย



โอ มหาบัณฑิต        พึงพินิจอย่าดูดาย
สมณภาพถูกทำลาย  เศร้าหมองไปด้วยบาปกรรม
ยังมีผู้บิดเบือน         กล่าวกลบเกลื่อนพุทธธรรม
จึ่งใคร่ได้บอกย้ำ      ให้ละเว้นการเข่นฆ่า
ปวงท่านผู้บำเพ็ญ     จงแลเห็นด้วยปัญญา
เหตุเสื่อมศีลปาณา-  ติบาตนั้นบัญญัติไว้
กลิ่นอันน่ารังเกียจ     แม้ถูกเบียดเบียนเผาไหม้
เนื้อสัตว์เล็กและใหญ่ เหม็นดั่งเช่นเป็นซากผี
เสวยอกุศล กิเลสปรนมิมีดี นรกอเวจี รออยู่ที่สัมปรายภพ



โอ มหาบัณฑิต       ผู้พิจิตรนิราศรพ
มุ่งหวังทางสงบ       ละกิเลสความหม่นหมอง
ดำเนินอย่างจำเริญ   พึงสรรเสริญตามครรลอง
ภักษาอันควรปอง    กำหนดหมายรายการดี
ลูกเดือย นม น้ำตาล ถั่ว ข้าวสาร ข้าวสาลี
ดาษดื่นธัญญามี      พึงบริโภคไร้โรคภัย



โอ มหาบัณฑิต        จงแจ้งจิตวินิจฉัย
เมื่อหนึ่งภูวนัย          ครองเขตแคว้นแสนสุขโข
ทรงมีพระนามว่า       ราชาสิงหะเสทโส
โปรดเสวยม้า ลา โค เสพย์ทั้งมวลถ้วนมังสา
ด้วยแรงแห่งละโมบ   ลิ้มสัตว์ครบเกิดระอา
จึงทรงรับสั่งว่า         ใคร่จะลองกินเนื้อคน
ด้วยจิตวิปริตหนัก      ญาติวงศ์พรรคสุดจักทน
ไพร่ฟ้าประชาชน       ร่วมเนรเทศจากเขตขัณฑ์
เพราะใจไร้เมตตา      เป็นเหตุพาซึ่งโทษทัณฑ์
บาปสร้างต่างตอบพลัน ให้ทุกข์ทนอนาถา



โอ มหาบัณฑิต         พึงพินิจพิจารณา
คุ้นลิ้นชินมังสา        ครั้นหิวมาฆ่าคนไหม
แม้นหากกินไม่คิด      โหดเหี้ยมติดตรึงจิตใจ
คงเป็นเช่นยักษ์ใหญ่   เฝ้าล่าไล่ไร้ปรานี
อำนาจทางฝ่ายต่ำ     ฉุดชักนำสู่วิถี
เกิดใหม่ได้กายมี        เป็นสัตว์ที่ต้องกินเนื้อ
เป็นตะกวด แมว แร้งกา สิงโต หมา จิ้งจอก เสือ
ร่วมวงศ์พงษ์ถาเถือ    ขับไล่ล่าฆ่ากินกัน


โอ มหาบัณฑิต          พึงพินิจคิดรู้ทัน
เพียงเพื่อรสเนื้อนั้น     ถึงฆ่าฟันบั่นชีพชนม์
ด้วยเหตุแห่งละโมบ    หลงและโลภในใจตน
ก่อกรรมทำอกุศล       แม้่สัตว์เชื่องที่ไร้ภัย
เพียงแค่เห็นแก่กิน      หลงรสกลิ่นชินพิสมัย
ดิรัจฉานวิสัย             สิงสู่ในใต้สำนึก
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 04:27:42 pm »

กินอะไร...ได้ไปสวรรค์
 

 

กวีวจนะ...กินอะไรได้ไปสวรรค์ โดยคุณพรลพัชร นรารัตน์วันชัย เป็นผู้ร้อยกรองบทประพันธ์จากหนังสือลังกาวตารสูตรที่พระพุทธทาสได้แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยไว้ พระสูตรบทนี้กล่าวได้ว่าเป็นบทสำคัญยิ่งบทหนึ่งที่จะสอนให้คนเรานั้นเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และสูงส่งกว่าสัตว์เดรัจฉานทั่วไป มนุษย์นั้นเป็นสัตว์ประเสริฐคือมีจิตที่เมตตาไม่เบียดเบียนสัตว์ แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ได้ทำลายเมล็ดพันธุ์แห่งเมตตาที่มีอยู่ในตัวเรามาแต่ดั้งเดิมเสียสิ้น ฉะนั้นแล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนี้กรรมยิ่งมายิ่งมาก ยิ่งนับวันการทำลายล้างและการเข่นฆ่าด้วยกันในมนุษย์ และการถูกลงโทษโดยธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
 
 
มหัศจรรย์วันเปลี่ยน
 
โดย พรลพัขร นรารัตน์วันชัย
 
 
 


 
 

ผู้เขียนเคยเป็นนักชิมตัวย ...เคยคิดเอาเองว่าความสุขในการกินนี่ล่ะที่เป็นเลิศนัก ...ไม่มีใครหรือเจ้าหนี้หน้าไหนมายื้อแย่งยึดทวงความสุขกับรสอร่อยที่ได้รับไว้แล้วนั้นไปจากเราได้ ...
จนถึงวันที่มีโอกาสได้อ่าน ลังกาวตารสูตร ซึ่งแปลโดยท่านพุทธทาสภิกขุ ที่กล่าวถึงบาปและผลเสียจากการกินเนื้อสัตว์ ...แม้ท่านจะแปลไว้ได้เพียงบางส่วนของพระคัมภีร์ แต่เมื่อพิจารณาแล้วจึงรู้ว่า ทั้งความคิดและการกระทำของตัวผู้เขียนที่ผ่านมานั้นเป็นความผิดมหันต์ต่อเพื่อนร่วมโลก...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อที่ว่าสัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของคนนั้น ช่างไร้เหตุผลและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ
...
 
ขอขอบพระคุณ คุณอุดมรัก เอี่ยมสะอาด ผู้บริหารร้านหนังสือเอกอนันต์ ที่กรุณาส่งพระสูตรอันทรงคุณค่ามาให้อ่าน ...พร้อมทั้งมอบความไว้วางใจให้ประพันธ์บทร้อยกรองถ่ายทอดพระธรรมคำสอนนั้น ในรูปแบบของกวีวัจนะ ...นับตั้งแต่ บุพการีกวีพจน์, กระจกส่องกรรมลำนำเมธีจนถึง กวีวัจนะกินอะไรได้ไปสวรรค์ เล่มนี้...
 
ซึ่งผู้เขียนใคร่จะเล่าถึงความลำบากใจจากการทำงานครั้งล่าสุดนี้ จนเกือบจะถอดใจ ...จึงได้ปรึกษากับคุณดัชนี อิงคุทานนท์ ทีมงานคนสำคัญของเอกอนันต์ ว่าคงจะเขียนไม่ได้ เพราะรู้สึกเหมือนหลอกลวงผู้อ่าน เนื่องจากตัวผู้เขียนเองก็ยังอร่อยกับการกินเนื้อสัตว์อยู่ จิตใจยังไม่เข้มแข็งพอที่จะละเว้นได้แม้จะรู้อยู่บ้างว่าไม่บังควรอย่างไร ...
ด้วยกำลังใจจากคุณดัชนีว่าให้ลองพยายามดูก่อนแม้จะยังปฏิบัติไม่ได้ แต่ก็สามารถถ่ายทอดความรู้สู่ผู้อ่านได้ ด้วยจิตอันปรารถนาดี ประการที่สำคัญเนื่องจากปีพ.ศ. ๒๕๔๙ นี้เป็นวโรกาสมหามงคลที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี จึงมุ่งหวังจะสร้างงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่อจะเป็นอีกหนึ่งในหกสิบสามล้านความดี ถวายเป็นพระราชกุศล ในฐานะข้าแผ่นดินผู้เขียนจึงได้ยึดมั่นปณิธานนี้เริ่มงานใหม่อีกครั้ง
เมื่อได้ศึกษาคำสอนในพระสูตรนี้โดยละเอียด เพื่อถอดความหมายมาประพันธ์บทร้อยกรอง ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกไม่ค่อยอร่อยกับชิ้นเนื้อเหมือนเคย
จนในที่สุดก็กินไม่ลงเสียแล้ว ....
 
เมื่อหลายปีก่อนผู้เขียนเคยเลิกกินเนื้อวัวจากการขอร้องของคุณแม่ ด้วยความอาลัยในรสชาดเป็นอย่างยิ่งจึงเลี่ยงไปกินเนื้อสัตว์อื่นๆแทน ...
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนที่เคย กลับมีความรู้สึกไม่ต้องการบริโภคเนื้อทุกชนิด โดยไม่เหลือความอาวรณ์ใดๆอีกเลย เมื่อร่วมโต๊ะอาหารกับผู้อื่น แม้จะมีของเคยโปรดปรานมาตั้งยั่วยวนก็พิจารณาแล้วถามใจตัวเองว่าอยากกินหรึอไม่ ได้คำตอบว่าไม่อยากกินเพราะเห็นชิ้นเนื้อที่เบื้องหน้านั้นเสมือนหนึ่งซากศพของญาติหรือเพื่อนดังคำสอนในพระคัมภีร์ และรู้สึกอิ่มบุญ ที่ได้รับทันทีเมื่อกันพื้นที่ในกายตนเป็นเขตอภัยทาน เสมอว่าได้ปลดปล่อยปวงสัตว์ทั้งหลายจากปากนี้ ...
นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้เขียนจากคนเห็นแก่กินคนหนึ่งที่เคยยอมให้ความยึดติดกับรสชาดนั้น เป็นเหตุทำให้ไม่สามารถรักษาศีลปาณาติบาตไว้ได้โดยบริสุทธิ์ บัดนี้ได้รู้แจ้งแล้วว่าการกินโดยขาดความสำรวมระวังอาจเป็นการเบียดเบียนชีวิตเลือดเนื้อผู้อื่น ซึ่งเป็นบาปอย่างยิ่ง
อริยสงฆ์หลายท่านได้ระบุไว้ว่า "ผู้ใดอ่านพระสูตรนี้จบถึงสิบรอบแล้ว จิตใจยังไม่อ่อนลงบุคคลนั้น ชาติหน้าๆ ไม่มีหวังที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว ย่อมตกลงในเดียรัจฉานภูมิหรือนรกภูมิเป็นแน่"
 

 
หวังว่ากวีวัจนะเผยแผ่ธรรมะเล่มนี้จะยังประโยชน์แก่เพื่อนร่วมโลกทั้งหลายให้ได้อยู่ร่วมกันโดยสันติสุข หากมีความผิดพลาดประการใดผู้เขียนกราบขออภัยและน้อมรับผิดไว้ด้วยตนเองทั้งสิ้น ส่วนกุศลผลบุญใดอันได้จากธรรมทานนี้ ผู้เขียนขออุทิศคืนแด่เจ้าหนี้ ซึ่งได้แก่ชีวิตทั้งหลายที่ผู้เขียนเคยเบียดเบียน ด้วยความเขลาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ขอให้มงคลแห่งกุศลนี้จงมีแก่บุพการีและผู้มีพระคุณทุกท่าน ท้ายที่สุดนี้ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงปกแผ่อำนาจ บารมี อันพิสุทธิ์ไพศาลอภิบาลทุกท่าน ให้มีความสุขความเจริญรุ่งเรืองมีพลานามัยสมบูรณ์ทั้งใจกายตลอดไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามหัศจรรย์อันเกิดขึ้นแล้วกับผู้เขียนนี้ จะบังเกิดกับท่านที่ได้อ่านจบ โดยไม่ต้องครบถึงสิบรอบ
พรลพัชร นรารัตน์วันชัย