ข้อความโดย: Plusz
« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2010, 07:03:05 pm »โอ้ยยย มีแต่ปลา แล้วก็น่าทานมาก; ))))))))))
ขอให้ศรัทธาในความดี ตราบใดที่หัวใจยังมีธรรมะ ธรรมะในใจเราจะส่งเสริมความดีให้คงไว้ซึ่งศรัทธา..
ข่าว:
เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 10:57:58 pm »
โห น่าทานมากครับพี่หนุ่ม ที่บ้านผมมีแต่ปลากระป๋องจะทำทานดีไหมนะตอนนี้ 55+ขอบคุณครับพี่หนุ่ม^^ รักษาสุขภาพครับ
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 09:52:13 pm »ชิมรสหลากอาหาร'เมนูปลา' อร่อยข้าวมันไก่ น้ำซุปหอม
เมื่อครั้งที่ผมได้ไปถ่ายทำรายการโทรทัศน์แทนคุณพ่อที่จังหวัดอุทัยธานี ผมได้ไปทานอาหารหลายต่อหลายแห่งด้วยกัน สัปดาห์นี้ผมอยากจะชวนเพื่อน ๆ ที่มีเวลาว่างแวะไป จ.อุทัยธานี อีกสักครั้งนะครับ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว ไปเที่ยวถนนคนเดินกันที่นี่ยังมีร้านอาหารที่สุดยอดอยู่อีก 2 ร้าน ซึ่งผมกำลังจะพูดถึงครับ
ร้านแรกเป็นร้านเล็ก ๆ ชื่อว่า ร้านครัวคุ้งสำเภา ก่อนที่ผมจะพูดถึงอาหาร ผมต้องเรียนให้เพื่อน ๆ ทราบว่าก่อนที่จะไปร้านนี้ให้โทรฯ ไปถามเขาว่ามีปลาไหม เพราะเขามีปลาเท่าไหร่จะขายเท่านั้น เขาจะไม่ทำอะไรเตรียมไว้ คือสั่งเดี๋ยว นั้นทำเดี๋ยวนั้น วันนั้นได้ปลามา 30 กิโลกรัมก็จะขาย 30 กิโลกรัมแค่นั้น แล้วถ้าถามว่า เมื่อปลาหมดจะไปเอาจากที่ไหน เขาบอกว่า ก็ปิดร้านไงครับ
เมื่อไปถึง เขาเอาทอดมันปลากราย มาให้พวกเราทานก่อน รสชาติอร่อยมากครับ เพราะเมื่อเคี้ยวทอดมันแล้วเหมือนกระเด้งอยู่ในปาก รสชาติก็พอดีครับ ไม่จืดหรือจัดจ้านจนเกินไป ส่วนน้ำจิ้มเป็นน้ำอาจาด ที่ทำเหมือนของไทยโบราณ คือ ไม่ทำให้เหนียว ไม่ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำตาลมากเกินไป ที่ร้านนี้เป็นน้ำจิ้มใส ๆ ใช้ได้เลยครับ และอร่อยมากด้วย
จากนั้นเขาเอา ฉู่ฉี่แห้งปลาเนื้ออ่อน มาให้ทานต่อครับ โดยการนำเอาปลาเนื้ออ่อนมาทอดก่อน เสร็จแล้วค่อยเอาเครื่องแกงฉู่ฉี่มาราด ครับ จากนั้นไม่นานเขาก็ทำมาอีกจานหนึ่งเป็น ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนครับ คือ ใช้ปลาเนื้ออ่อนสด ๆ แล้วเอาไปต้มในเครื่องแกงที่เป็นฉู่ฉี่ ผมอยากบอกว่าอร่อยครับ โดยส่วนตัวของผมคิดว่าอร่อยกว่าฉู่ฉี่แห้งปลาเนื้ออ่อนด้วยซ้ำไป
ต่อมามี ต้มส้มปลาแรด ที่นี่จะใช้ปลาแรดที่มีน้ำหนักตัวละ 2-3 กิโลกรัม ถือว่าตัวใหญ่มากครับ รสชาติใช้ได้ครับ ยังมี ปลาค้าวทอดน้ำปลา มาให้พวกเรากินอีกด้วยครับ กรอบอร่อย รสชาติกำลังดีครับ ไม่เค็มจนเกินไป
ถ้าเพื่อน ๆ สังเกตเมนูอาหารให้ดี จะเห็นว่า เมนูของที่นี่จะเป็นอาหารจำพวกปลาเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยปลาของที่ร้านนี้จะไม่เหม็นคาวเลยสักนิดเดียวนะครับ แสดงว่าเป็นปลาที่สด ส่วนบรรยากาศก็ดีนะครับเย็นสบาย นั่งเพลิน ๆ
ไม่นานนักมี ปลาแรดนึ่งมะนาว มาเสิร์ฟต่อครับ อร่อยครับ นึ่งได้กำลังดี เนื้อปลายังหวานอยู่เลย พูดไปแล้วก็อยากจะกลับไปกินที่นั่นอีก แต่ผมก็ไม่รู้จะมีเวลากลับไปกินอีกเมื่อไหร่ พูดให้น้ำลายไหลเฉย ๆ แต่ว่าถ้าเพื่อน ๆ จะไปที่นั่น อย่าลืมโทรฯ ไปถามก่อนก็จะเป็นการดีนะครับ จะได้ทราบว่าวันนั้นเขามีปลาอะไรบ้าง จะได้ไม่ไปเสียเที่ยวครับ
ส่วนร้านที่สองอยู่ในตัวเมืองเพราะร้านแรกครัวคุ้งสำเภาอยู่นอกเมือง เป็นร้านข้าวมันไก่ ครับ ชื่อว่า ข้าวมันไก่เฮียสุน ความจริงแล้วเฮียสุน ทำมานานแล้ว โดย ข้าวมันไก่ของที่นี่อร่อยครับ หนังกรอบ เนื้อก็นุ่ม เมื่อมาถึงเฮียเจ้าของร้านสับหนังกับเนื้อมาให้พวกเราจานหนึ่ง มีข้าวใส่ถ้วยมาให้ จากนั้นก็เสิร์ฟน้ำจิ้มก็ใส่ถ้วยมาให้ต่างหาก ส่วนพริกเป็นเม็ด ขิง กับพริกที่สับแล้ว ก็เอามาให้ใส่อีกจานหนึ่งมา เผื่อจะเอามาใส่น้ำจิ้มของข้าวมันไก่ของตัวเองเพิ่มเติม
แต่ที่ตกใจ คือ เวลาเขาเอามาเสิร์ฟผมคิดว่าผมได้กินข้าวมันไก่ เนื้อไก่ ข้าวและน้ำจิ้ม และน้ำแกง แต่ที่ไหนได้ ไปกินที่นั่นจะมีน้ำซุปให้ครับ แต่น้ำซุปที่ร้านนี้เอาไปต้มทำให้หอมแล้วสไลด์มะระบาง ๆ ลวกลงไปในน้ำซุปแล้วตัก น้ำซุปกับมะระ เสิร์ฟโรยด้วยพริกไทยด้านบน ทำให้เมื่อตักน้ำซุปเข้าปากแล้วรู้สึกหอมและชื่นใจมากครับ
อีกอย่างหนึ่งที่ประหลาดใจ คือ ที่ร้านจะเอาเครื่องในไก่ที่ไม่ได้ต้มมาผัดกับพริกและใส่น้ำมันหอย ผมชิมแล้วอร่อยมากครับ มีทั้ง ตับ หัวใจ กึ๋น กินกับข้าวร้อน ๆ อร่อยอย่าบอกใครเลยครับ ระหว่างที่นั่งทานข้าวมันไก่อยู่นั้น ร้านเฮียเม้ง ยังส่ง เป็ดย่าง มาให้เรากินอีกด้วยนะครับ
ลักษณะของร้านนี้เป็นแบบสบาย ๆ ครับ มี 2 คูหา ถ้าผมปลดเกษียณผมอยากกลับไปอยู่ที่เมืองอุทัยธานีแห่งนี้เพราะเป็นเมืองที่ สงบวิถีชีวิตสบายง่าย ๆ อาหารอร่อย ผู้คนไม่อวดรวย อวดมี และรักท้องถิ่นของเขากันอย่างเข้มแข็ง
เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสไปเมืองอุทัยธานี ไปเถอะครับ 2 ร้านที่ผมเล่าให้ฟังนี้ ส่วนผมถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแล้วผมจะเขียนมาเล่าให้ฟังใหม่ ที่นี่ทำให้ผมอยากเป็นคนไทยและรักประเทศไทย รวมทั้ง เข้าใจถึงวิถีชีวิตของคนไทยแท้ ๆ เลยครับ.
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
----------------------------------------------
เข้าครัวกับหมึกแดง
สลัดปลาซันมะย่างกับมะเขือเทศแดดเดียว
เครื่องปรุง
-น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาวเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
-ใบไทม์สดสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-เมล็ดเฟนเนลคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-พริกขี้หนูแห้งสับละเอียด 1 ช้อนชา
-มะเขือเทศแดดเดียวแช่ในน้ำมันซอยเป็นเส้น 6 ชิ้น
-น้ำส้มเชอร์รี่ 1 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ 1 ช้อนชา
-พริกไทยดำบดสด พอประมาณ
-ปลาซันมะเลาะเอากระดูกออก 300 กรัม
-ผักสลัด(มีผักร็อกเก็ตผสมด้วย) 45 กรัม
วิธีทำ
1. เปิดกระทะย่างให้ร้อน
2. ในชามผสม ใส่น้ำมันมะกอก น้ำมะนาว ใบไทม์สดสับ เมล็ดเฟนเนลคั่ว พริกขี้หนูแห้งสับละเอียด น้ำส้มเชอร์รี่ เกลือ พริกไทยดำบดสด ผสมให้เข้ากัน พักไว้
3. แบ่งส่วนผสมน้ำสลัดที่ได้มาครึ่งหนึ่ง ใช้พู่กันจุ่มลงไปแล้วทาไปบนเนื้อปลาให้ทั่ว (หรือจะนำไปหมักเลยก็ได้)
4. นำปลาที่หมักแล้วไปย่างให้สุกทั้งสองด้าน
5. จัดผักสลัดลงในจาน แล้ววางมะเขือเทศแดดเดียวซอยเป็นเส้นลงรอบ ๆ ผักสลัด วางปลาย่างที่สุกแล้วลงบนผักสลัด แล้วราดด้วยน้ำสลัดที่เหลือ เสิร์ฟทันที
ความรู้คู่ครัว
-เมล็ดเฟนเนลคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
เมล็ดเฟนเนลหรือยี่หร่าฝรั่ง มีลักษณะคล้ายข้าวเปลือกที่มีกลิ่นหอม ประโยชน์นิยมนำเมล็ดมาเป็นส่วนประกอบในการทำไส้กรอกอิตาเลียนเพื่อเพิ่มความ หอม.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=107596
เมื่อครั้งที่ผมได้ไปถ่ายทำรายการโทรทัศน์แทนคุณพ่อที่จังหวัดอุทัยธานี ผมได้ไปทานอาหารหลายต่อหลายแห่งด้วยกัน สัปดาห์นี้ผมอยากจะชวนเพื่อน ๆ ที่มีเวลาว่างแวะไป จ.อุทัยธานี อีกสักครั้งนะครับ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว ไปเที่ยวถนนคนเดินกันที่นี่ยังมีร้านอาหารที่สุดยอดอยู่อีก 2 ร้าน ซึ่งผมกำลังจะพูดถึงครับ
ร้านแรกเป็นร้านเล็ก ๆ ชื่อว่า ร้านครัวคุ้งสำเภา ก่อนที่ผมจะพูดถึงอาหาร ผมต้องเรียนให้เพื่อน ๆ ทราบว่าก่อนที่จะไปร้านนี้ให้โทรฯ ไปถามเขาว่ามีปลาไหม เพราะเขามีปลาเท่าไหร่จะขายเท่านั้น เขาจะไม่ทำอะไรเตรียมไว้ คือสั่งเดี๋ยว นั้นทำเดี๋ยวนั้น วันนั้นได้ปลามา 30 กิโลกรัมก็จะขาย 30 กิโลกรัมแค่นั้น แล้วถ้าถามว่า เมื่อปลาหมดจะไปเอาจากที่ไหน เขาบอกว่า ก็ปิดร้านไงครับ
เมื่อไปถึง เขาเอาทอดมันปลากราย มาให้พวกเราทานก่อน รสชาติอร่อยมากครับ เพราะเมื่อเคี้ยวทอดมันแล้วเหมือนกระเด้งอยู่ในปาก รสชาติก็พอดีครับ ไม่จืดหรือจัดจ้านจนเกินไป ส่วนน้ำจิ้มเป็นน้ำอาจาด ที่ทำเหมือนของไทยโบราณ คือ ไม่ทำให้เหนียว ไม่ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำตาลมากเกินไป ที่ร้านนี้เป็นน้ำจิ้มใส ๆ ใช้ได้เลยครับ และอร่อยมากด้วย
จากนั้นเขาเอา ฉู่ฉี่แห้งปลาเนื้ออ่อน มาให้ทานต่อครับ โดยการนำเอาปลาเนื้ออ่อนมาทอดก่อน เสร็จแล้วค่อยเอาเครื่องแกงฉู่ฉี่มาราด ครับ จากนั้นไม่นานเขาก็ทำมาอีกจานหนึ่งเป็น ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนครับ คือ ใช้ปลาเนื้ออ่อนสด ๆ แล้วเอาไปต้มในเครื่องแกงที่เป็นฉู่ฉี่ ผมอยากบอกว่าอร่อยครับ โดยส่วนตัวของผมคิดว่าอร่อยกว่าฉู่ฉี่แห้งปลาเนื้ออ่อนด้วยซ้ำไป
ต่อมามี ต้มส้มปลาแรด ที่นี่จะใช้ปลาแรดที่มีน้ำหนักตัวละ 2-3 กิโลกรัม ถือว่าตัวใหญ่มากครับ รสชาติใช้ได้ครับ ยังมี ปลาค้าวทอดน้ำปลา มาให้พวกเรากินอีกด้วยครับ กรอบอร่อย รสชาติกำลังดีครับ ไม่เค็มจนเกินไป
ถ้าเพื่อน ๆ สังเกตเมนูอาหารให้ดี จะเห็นว่า เมนูของที่นี่จะเป็นอาหารจำพวกปลาเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยปลาของที่ร้านนี้จะไม่เหม็นคาวเลยสักนิดเดียวนะครับ แสดงว่าเป็นปลาที่สด ส่วนบรรยากาศก็ดีนะครับเย็นสบาย นั่งเพลิน ๆ
ไม่นานนักมี ปลาแรดนึ่งมะนาว มาเสิร์ฟต่อครับ อร่อยครับ นึ่งได้กำลังดี เนื้อปลายังหวานอยู่เลย พูดไปแล้วก็อยากจะกลับไปกินที่นั่นอีก แต่ผมก็ไม่รู้จะมีเวลากลับไปกินอีกเมื่อไหร่ พูดให้น้ำลายไหลเฉย ๆ แต่ว่าถ้าเพื่อน ๆ จะไปที่นั่น อย่าลืมโทรฯ ไปถามก่อนก็จะเป็นการดีนะครับ จะได้ทราบว่าวันนั้นเขามีปลาอะไรบ้าง จะได้ไม่ไปเสียเที่ยวครับ
ส่วนร้านที่สองอยู่ในตัวเมืองเพราะร้านแรกครัวคุ้งสำเภาอยู่นอกเมือง เป็นร้านข้าวมันไก่ ครับ ชื่อว่า ข้าวมันไก่เฮียสุน ความจริงแล้วเฮียสุน ทำมานานแล้ว โดย ข้าวมันไก่ของที่นี่อร่อยครับ หนังกรอบ เนื้อก็นุ่ม เมื่อมาถึงเฮียเจ้าของร้านสับหนังกับเนื้อมาให้พวกเราจานหนึ่ง มีข้าวใส่ถ้วยมาให้ จากนั้นก็เสิร์ฟน้ำจิ้มก็ใส่ถ้วยมาให้ต่างหาก ส่วนพริกเป็นเม็ด ขิง กับพริกที่สับแล้ว ก็เอามาให้ใส่อีกจานหนึ่งมา เผื่อจะเอามาใส่น้ำจิ้มของข้าวมันไก่ของตัวเองเพิ่มเติม
แต่ที่ตกใจ คือ เวลาเขาเอามาเสิร์ฟผมคิดว่าผมได้กินข้าวมันไก่ เนื้อไก่ ข้าวและน้ำจิ้ม และน้ำแกง แต่ที่ไหนได้ ไปกินที่นั่นจะมีน้ำซุปให้ครับ แต่น้ำซุปที่ร้านนี้เอาไปต้มทำให้หอมแล้วสไลด์มะระบาง ๆ ลวกลงไปในน้ำซุปแล้วตัก น้ำซุปกับมะระ เสิร์ฟโรยด้วยพริกไทยด้านบน ทำให้เมื่อตักน้ำซุปเข้าปากแล้วรู้สึกหอมและชื่นใจมากครับ
อีกอย่างหนึ่งที่ประหลาดใจ คือ ที่ร้านจะเอาเครื่องในไก่ที่ไม่ได้ต้มมาผัดกับพริกและใส่น้ำมันหอย ผมชิมแล้วอร่อยมากครับ มีทั้ง ตับ หัวใจ กึ๋น กินกับข้าวร้อน ๆ อร่อยอย่าบอกใครเลยครับ ระหว่างที่นั่งทานข้าวมันไก่อยู่นั้น ร้านเฮียเม้ง ยังส่ง เป็ดย่าง มาให้เรากินอีกด้วยนะครับ
ลักษณะของร้านนี้เป็นแบบสบาย ๆ ครับ มี 2 คูหา ถ้าผมปลดเกษียณผมอยากกลับไปอยู่ที่เมืองอุทัยธานีแห่งนี้เพราะเป็นเมืองที่ สงบวิถีชีวิตสบายง่าย ๆ อาหารอร่อย ผู้คนไม่อวดรวย อวดมี และรักท้องถิ่นของเขากันอย่างเข้มแข็ง
เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสไปเมืองอุทัยธานี ไปเถอะครับ 2 ร้านที่ผมเล่าให้ฟังนี้ ส่วนผมถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแล้วผมจะเขียนมาเล่าให้ฟังใหม่ ที่นี่ทำให้ผมอยากเป็นคนไทยและรักประเทศไทย รวมทั้ง เข้าใจถึงวิถีชีวิตของคนไทยแท้ ๆ เลยครับ.
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
----------------------------------------------
เข้าครัวกับหมึกแดง
สลัดปลาซันมะย่างกับมะเขือเทศแดดเดียว
เครื่องปรุง
-น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาวเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
-ใบไทม์สดสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-เมล็ดเฟนเนลคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-พริกขี้หนูแห้งสับละเอียด 1 ช้อนชา
-มะเขือเทศแดดเดียวแช่ในน้ำมันซอยเป็นเส้น 6 ชิ้น
-น้ำส้มเชอร์รี่ 1 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ 1 ช้อนชา
-พริกไทยดำบดสด พอประมาณ
-ปลาซันมะเลาะเอากระดูกออก 300 กรัม
-ผักสลัด(มีผักร็อกเก็ตผสมด้วย) 45 กรัม
วิธีทำ
1. เปิดกระทะย่างให้ร้อน
2. ในชามผสม ใส่น้ำมันมะกอก น้ำมะนาว ใบไทม์สดสับ เมล็ดเฟนเนลคั่ว พริกขี้หนูแห้งสับละเอียด น้ำส้มเชอร์รี่ เกลือ พริกไทยดำบดสด ผสมให้เข้ากัน พักไว้
3. แบ่งส่วนผสมน้ำสลัดที่ได้มาครึ่งหนึ่ง ใช้พู่กันจุ่มลงไปแล้วทาไปบนเนื้อปลาให้ทั่ว (หรือจะนำไปหมักเลยก็ได้)
4. นำปลาที่หมักแล้วไปย่างให้สุกทั้งสองด้าน
5. จัดผักสลัดลงในจาน แล้ววางมะเขือเทศแดดเดียวซอยเป็นเส้นลงรอบ ๆ ผักสลัด วางปลาย่างที่สุกแล้วลงบนผักสลัด แล้วราดด้วยน้ำสลัดที่เหลือ เสิร์ฟทันที
ความรู้คู่ครัว
-เมล็ดเฟนเนลคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
เมล็ดเฟนเนลหรือยี่หร่าฝรั่ง มีลักษณะคล้ายข้าวเปลือกที่มีกลิ่นหอม ประโยชน์นิยมนำเมล็ดมาเป็นส่วนประกอบในการทำไส้กรอกอิตาเลียนเพื่อเพิ่มความ หอม.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=107596