ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 12:25:44 am »

 :13: อนุโมทนาสาธุครับ ขอบคุณครับพี่สาว
ข้อความโดย: เลดี้เบื๊อก
« เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 09:56:35 pm »

   
มัวร่าเริง..
   
   โกนุ หาโส กิมานนฺโท
   นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ
   อนฺธกาเรน โอนทฺธา
   ปทีปํ น คเวสถ . . . ฯ ๑๔๖ ฯ
   
   จะมัวร่าเริง สนุกสนานกันทำไม
   ในเมื่อโลกกำลังลุกเป็นไฟอยู่เนืองนิตย์
   พวกเธอถูกความมืดมิดปิดบังตา
   ไยไม่แสวงหาแสงสว่างกันเล่า
   
   What this laughter, what this joy
   When the world is ever on fire?
   Shrounded all about by darkness,
   Will you not then look for light?

   จงดูร่าง...
   
   ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ
   อรุกายํ สมุสฺสิตํ
   อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ
   ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ฐิติ . . . ฯ ๑๔๗ ฯ
   
   จงดูร่างกายที่ว่าสวยงามนี้เถิด
   เต็มไปด้วยแผล สร้างขึ้นด้วยกระดูก
   มากด้วยโรค มากด้วยความครุ่นคิดปรารถนา
   หาความยั่งยืนถาวรมิได้
   
   Behold this beautiful body,
   A mass of sores, a bone-gathering,
   Diseased and full of hankerings,
   With no lasting, no persisting.

   ร่างกายนี้...
   
   ปริชิณฺณมิทํ รูปํ
   โรคนิฑฺฒํ ปภงฺคุณํ
   ภิชฺชติ ปูติสนฺเทโห
   มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ . . . ฯ ๑๔๘ ฯ
   
   ร่างกายนี้แก่หง่อมแล้ว เป็นที่อาศัยของโรค
   แตกทำลายง่าย ร่างกายอันเน่าเหม็นนี้
   จักแตกสลายพังภินท์
   เพราะชีวิตสิ้นสุดลงที่ความตาย
   
   Thoroughly worn out is this body,
   A net of deseases and very frail.
   This heap of corruption breaks to pieces.
   For life indeed ends in death.

   กระดูก...
   
   ยานีมานิ อปตฺถานิ
   อลาพูเนว สารเท
   กาโปตกานิ อฏฺฐีนิ
   ตานิ ทิสฺวาน กา รติ . . . ฯ ๑๔๙ ฯ
   
   กระดูกเหล่านี้ มีสีขาวเหมือนสีนกพิราบ
   ไม่เป็นที่ต้องการของใคร ๆ
   ดุจน้ำเต้าในฤดูสารท
   ดูแล้วไม่น่าปรารถนายินดี
   
   As gourds are cast away in autumn,
   So are these dove-hued bones.
   What pleasure is there found
   For one who looks at them?

   อัฐินคร..
   
   อฏฺฐีนํ นครํ กตํ
   มํสโลหิตเลปนํ
   ยตฺถ ชรา จ มจฺจุ จ
   มาโน มกฺโข จ โอหิโต . . . ฯ ๑๕๐ ฯ
   
   ร่างกายนี้เป็น "อัฐินคร" (เมืองกระดูก)
   ฉาบด้วยเนื้อและโลหิต
   เป็นที่สถิตแห่ง ชรา มรณะ
   ความเย่อหยิ่ง และความดูถูกบุญคุณกัน
   
   Of bones is this city made,
   Plastered with flesh and blood.
   Herein dwell decay and death,
   Pride and detraction.

   ราชรถยัง...
   
   ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา
   อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ
   สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ
   สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ . . . ฯ ๑๕๑ ฯ
   
   ราชรถ อันวิจิตรงดงาม ยังเก่าได้
   แม้ร่างกายของเรา ก็ไม่พ้นชราภาพ
   แต่ธรรมของสัตบุรุษหาแก่ไม่
   สัตบุรุษทั้งหลาย ย่อมกล่าวสอนกันเช่นนี้แล
   
   Splendid royal chariots wear away,
   The body too comes to old age.
   But the good's teaching knows not decay.
   Indeed, the good teach the good in this way.

   คนโง่แก่...
   
   อปฺปสฺสุตายํ ปุริโส
   พลิวทฺโทว ชีรติ
   มํสานิ ตสฺส วฐฺฒนฺติ
   ปญฺญา ตสฺส น วฐฺฒติ . . . ฯ ๑๕๒ ฯ
   
   คนโง่แก่เปล่า
   เหมือนโคถึก
   มากแต่เนื้อหนังมังสา
   แต่ปัญญาหาเพิ่มขึ้นไม่
   
   Just as the ox grows old,
   So ages he of little learning,
   His flesh increases,
   His wisdom is waning.

   เมื่อไม่พบ...
   
   อเนกชาติสํสารํ
   สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ
   คหการํ คเวสนฺโต
   ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ . . . ฯ ๑๕๓ ฯ
   
   เมื่อไม่พบนายช่างผู้สร้างเรือน
   เราได้เวียนว่ายตายเกิด
   ในสงสารนับชาติไม่ถ้วน
   การเกิดแล้วเกิดอีกเป็นทุกข์
   
   Through many a birth
   I wandered in Samsara,
   Seeking but not finding the Housebuilder,
   Painful is birth ever again and again.

   นายช่าง...
   
   คหการก ทิฏฺโฐสิ
   ปุน เคหํ น กาหสิ
   สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา
   คหกูฏํ วิสงฺขตํ
   วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ
   ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา . . . ฯ ๑๕๔ ฯ
   
   นายช่างเอย บัดนี้เราพบท่านแล้ว
   ท่านจะสร้างเรือนไม่ได้อีก
   จันทัน อกไก่ เราทำลายหมดแล้ว
   จิตของเราบรรลุนิพพาน
   หมดความทะยานอยากแล้ว
   
   O Housebuilder, you have been seen,
   You shall not build the house again.
   Your rafters have been broken,
   Your ridge-pole demolished too.
   My mind has now attained the Unconditioned,
   And reached the end of all craving.

   ในวัยหนุ่ม..
   
   อจริตฺวา พฺรหฺมจริยํ
   อลทฺธา โยพฺพเน ธนํ
   ชิณฺณโกญฺจาว ฌายนฺติ
   ขีณมจฺเฉว ปลฺลเล . . . ฯ ๑๕๕ ฯ
   
   เมื่อยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว
   ไม่ทำตัวให้ดีและไม่หาทรัพย์ไว้
   พอถึงวัยแก่เฒ่า พวกเขาย่อมนั่งซบเซา
   เหมือนนกกะเรียนแก่
   จับเจ่าอยู่ริมสระที่ไร้ปลา
   
   Having led neither a good life,
   Nor acquired riches while young,
   They lie about like broken bows,
   Sighing about the past.

   ถึงวัยแก่..

   อจริตฺวา พฺรหฺมจริยํ
   อลทฺธา โยพฺพเน ธนํ
   ชิณฺณโกญฺจาว ฌายนฺติ
   ขีณมจฺเฉว ปลฺลเล . . . ฯ ๑๕๖ ฯ

   เมื่อยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว
   ไม่ทำตัวให้ดีและไม่หาทรัพย์ไว้
   พอถึงวัยแก่เฒ่า พวกเขาย่อมนั่งซบเซา
   เหมือนนกกะเรียนแก่
   จับเจ่าอยู่ริมสระที่ไร้ปลา

   Having led neither a good life,
   Nor acquired riches while young,
   They lie about like broken bows,
   Sighing about the past.

   http://board.srthinth.info/DhammaPhatha11.html
   http://agaligohome.fix.gs/index.php?topic=2204.0