การคบคนหรือความใกล้ชิดกับใคร นิสัยใจคอและพฤติกรรม
ของผู้ที่เราให้ความสนิทสนม มีผลต่อชีวิตเราอย่างยิ่ง…
เพราะมนุษย์มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันมากมายหลายจริต
บางจริตทำให้คนอยู่ใกล้เป็นทุกข์ และเดือดร้อนได้ง่ายๆ เช่น พวกโทสะจริต…ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย
ชอบมองคนอื่นในแง่ร้าย ขืนคบเป็นเพื่อนมีหวังเสียสุขภาพจิตได้ง่าย
เพราะพวกนี้มักเต็มไปด้วยคำพูดเชิงลบ ถ้อยคำเชือดเฉือน น้ำเสียงกระชากวิญญาณ…
เป็นพวก " วจีพิฆาต "มักใช้วาจาเป็นอาวุธ
ถ้าคำพูดเขาไม่ทำร้ายเราให้เจ็บปวด ก็อาจทำร้ายคนอื่นด้วยการให้ร้ายใส่ความนินทาให้เราได้ยิน
ถ้าเราเป็นคนหูเบาก็อาจถูกครอบงำเชื่อตาม…จนกลายเป็นคนมองส่วนดีผู้อื่นไม่เป็น
นอกเหนือจากมโนกรรม (มองโลกทางลบ) วจีกรรม (พูดจาทางลบ) ก็อาจถึงขั้นกายกรรม
ทำร้ายร่างกายให้บาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต…เราอาจกลายเป็นเหยื่อของกายกรรมนั้น
ถ้าไม่ใช่ฐานะโจทย์ ก็อาจเป็นพยาน หรือแม้แต่จำเลยที่ 2 ในฐานะเพื่อนสนิทและอยู่ในเหตุการณ์…
จึงมีคำสอนว่า
"คบคนพาล พาลพาไปหาผิด – คบพวกโทสะจริต ความผิดจะอยู่ชิดกับตัวเรา"
…ประโยคสุดท้ายผมว่าเอง
บางคนเป็นพวกวิตกจริต …ขี้กังวล ฟุ้งซ่าน คิดมากเกินเหตุ เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เอามาคิดจนเป็นเรื่อง
คิดแล้วใจเป็นทุกข์ พลอยทำให้เพื่อนสนิทเป็นทุกข์ไปด้วย
เหลือเวลาคิดสร้างสรรค์น้อยลง เพราะภาวะอ่อนกำลังของศักยภาพทางสมอง
คนสองพวกที่กล่าวมาถ้าห่างๆ ไว้ได้ก็ดี
แต่ถ้าเคยทำบุญร่วมกันมาในอดีตชาติแล้ว กลายเป็นเพื่อนสนิทในชาติปัจจุบัน
ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้ "สร้างกุศล" ในการรับฟัง และถ่ายทอดวิธีคิดทางบวก (Positive thinking)
ให้เขาได้เกิดการพัฒนาตนเอง ชีวิตเขาจะดีขึ้นเพราะคุณ…ถ้าชีวิตคุณไม่แย่ลงก่อนเพราะเขา
เราทุกคนควรเลือกคบคนที่มีพุทธิจริต จิตใจงดงาม พูดแต่สิ่งที่ดี และเป็นผู้ให้มากกว่าคิดเรื่องอยากได้
เขาเหล่านั้นจะไม่คิด ไม่มีคำพูดหรือการกระทำใดๆ ที่จะก่อเกิดทุกข์ในใจเรา
การอยู่ใกล้คนดี ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ผู้หญิงที่มีแฟนดีหรือสามีที่ดี จะสัมผัสความสุขทุกวันคืนคำกล่าวต่างๆ ข้างต้นเป็นสิ่งที่ผมขอพูดเขียนแทนพ่อแม่ทุกคนที่มีความรัก และห่วงใยลูกสาว
และ " ข้อแลกเปลี่ยน" ที่พ่อแม่ต้องการจากลูกคือ อยากให้ลูกสาวทุกคน มุมานะดำเนินชีวิตในทางที่ดีขึ้น
และรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีที่สุด โดยไม่เอาตัวเอง เข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยง
เพราะความหมายของ " ลูกสาว " คือ ผู้หญิงที่คุณพ่อคุณแม่รักมากที่สุดในโลกโดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล
ที่มา
:http://www.elib-online.com/doctors3/mental_daughter01.html-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=11-2009&date=23&group=5&gblog=197 -http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=12-2010&date=01&group=22&gblog=175
ประวัติ วันพ่อแห่งชาติ และ วันพ่อแห่งชาติ ในทั่วโลก
Pics by : Google
อกาลิโกโฮม * สุขใจดอทคอมอนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ