ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 01:29:14 pm »
ขอบคุณครับน้องฝนขอให้ศรัทธาในความดี ตราบใดที่หัวใจยังมีธรรมะ ธรรมะในใจเราจะส่งเสริมความดีให้คงไว้ซึ่งศรัทธา..
ข่าว:
เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
ขอบคุณครับน้องฝนข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 01:08:52 pm »
อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ น้องเรน....
ข้อความโดย: rain....
« เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 07:19:25 pm » โทรศัพท์ภาวนา
อย่าดูถูกถ้อยคำ
ถ้าถ้อยคำนั้นเป็นวาจาอันอ่อนโยน
จะช่วยให้เราเกิดความเข้าใจ
ให้เราได้เกิดความรักตัวเองและเพื่อนมนุษย์
ถ้อยคำอาจไปได้เป็นพันๆกิโลเมตร
ขอให้ถ้อยคำของข้า
สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน
โดยให้คนได้รักกันด้วย
......
...........
................
โทรศัพท์ช่วยให้ติดต่อกันได้สะดวก
ช่วยให้เราไม่ต้องเดินทางไปหากัน
นับเป็นการลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย
แต่แล้วโทรศัพท์ก็ก่อความรำคาญให้ได้มาก
ตอนเสียงดังขึ้นนั้นออกจะเป็นการรบกวนอยู่
แต่แล้วเราก็ต้องยอมรับสภาพแห่งเสียงอันนั้น
ถ้าเราไม่ระวัง
การพูดโทรศัพท์อาจเพ้อเจ้อจนหมดเวลาและเงินตราไปได้มาก
บ่อยครั้งเราพูดในสิ่งที่ไร้สาระ
เวลาเราจ่ายค่าโทรศัพท์
บางครั้งถึงตกใจว่าทำไมถึงแพงนัก
เวลาโทรศัพท์ดังขึ้น
โสตประสาทของเรารับกระแสคลื่นเสียงบ่อยครั้งด้วยความวิตก
.....ใครโทรฯมานะ ข่าวดีหรือข่าวร้าย ......
เรามักอดไม่ได้ที่ต้องรับโทรศัพท์
จนเรากลายเป็นทาสของเครื่อง
บางครั้งเราโกรธคนที่โทรฯมา
เราจะตอบไปด้วยเสียงอันไม่น่าพิศมัย
ฉะนั้น
เวลาได้ยินเสียงโทรศัพท์
ควรนั่งอยู่กับที่
ตั้งสติ .......
หายใจเข้า ........
พลางสวดในใจว่า
ขณะหายใจเข้า
ขอให้ร่างกายเราสงบ
ขณะหายใจออก
ขอให้เรายิ้ม......
เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
ก็ควรตั้งสติและหายใจพลางสวดในใจพลางเช่นนี้อีก
มาถึงตอนนี้ อาการยิ้มของเราจะดีขึ้นกว่าก่อนแล้ว.......
ครั้นโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม
ก็ควรตั้งสติไว้และหายใจดังเดิม
.......แล้วลุกขึ้นช้าๆ ไปรับโทรศัพท์
ทั้งนี้แสดงว่าเราไม่ได้เป็นทาสของเทคโนโลยี
........เราเป็นไทในตัวของเราเอง.......
เราจับโทรศัพท์อย่างมีสติและรู้ตัวอยู่ด้วยว่า
เรากำลังยิ้ม
ไม่ใช่เพื่อตนเองเท่านั้น
หากยิ้มให้กับคนที่โทรฯมาถึงเราด้วย
ถ้าเราโกรธ หรือรำคาญ
อีกคนเขาจะได้รับกระแสเชิงลบอันนั้นจากเรา
ถ้าเรายิ้ม
คนโทรฯมาจะได้รับผลดีตอบแทนด้วยอย่างแน่นอน
จะเขียนบทสวดข้างต้นนี้ไว้ที่เครื่องโทรศัพท์ก็ได้
ก่อนใช้โทรศัพท์
พอจับเครื่อง
ควรหายใจเข้าออกอย่างละสองครั้ง
แต่ละครั้งว่าตามบทสวดข้างบนนี้ทีละวรรค
แล้วจึงหมุนหมายเลข
พอเสียงเรียกดังขึ้น
ควรทำใจไว้ว่าเพื่อนของเราอีกด้านหนึ่งก็จะยังไม่รับโทรศัพท์
หากเขากำลังหายใจเข้าออกอย่างมีสติพลางยิ้มพลาง
จนโทรศัพท์ดังขึ้นถึงสามครั้งก่อน
เขาจึงจะรับโทรศัพท์
เราอย่าร้อนใจ
หากขณะรอ
ควรหายใจเข้าออกพลาง
สวดมนต์ไปในใจพลางว่า
ขณะหายใจเข้า
ขอให้ร่างกายเราสงบ
ขณะหายใจออก
ขอให้เรายิ้ม
ยิ่งถ้าผู้รับโทรศัพท์อีกฝ่าย
เรียนวิธีการเช่นนี้มาด้วยแล้ว
ต่างก็หายใจอย่างมีสติ
ต่างก็ยิ้มให้กันและกัน
นับว่าน่ารักน่าเอ็นดูนัก
การกระทำเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการภาวนา (ปฏิบัติธรรม)
ไม่จำเป็นต้องเข้าไปทำในห้องพระก็ได้
คนเราภาวนา (ปฏิบัติธรรม) ได้ในสำนักงาน ในบ้านเรือน ทุกแห่งหน
การภาวนา (ปฏิบัติธรรม) กับโทรศัพท์
ช่วยลดความเครียด ช่วยลดความวิตกกังวล
อย่าดูถูกถ้อยคำ
ถ้าถ้อยคำนั้นเป็นวาจาอันอ่อนโยน
จะช่วยให้เราเกิดความเข้าใจ
ให้เราได้เกิดความรักตัวเองและเพื่อนมนุษย์
ถ้อยคำเช่นนี้ มีค่าดังแก้วมณี
งดงามดังดอกไม้
และถ้อยคำดังกล่าวช่วยให้คนมีความสุขด้วย
บทภาวนาที่ใช้กับโทรศัพท์เช่นนี้
ถือได้ว่าเป็นการช่วยเราเพื่อให้เกิดวาจาอันอ่อนโยน
ทั้งช่วยลดค่าโทรศัพท์ให้ย่อมเยาเบาราคาลงได้
----------------------------
เรียบเรียงปรับคำบางคำ ท่านสามารถหาอ่านเรื่องเดิมได้จาก
"ปัจจุบันเป็นเวลาอันประเสริฐสุด" โดย ติช นัท ฮันท์ ส.ศิวรักษ์ แปล
ขอบคุณโพสจาก http://www.carefor.org/content/view/448/153/